🇰🇷
ไม่เคยไปเกาหลีแล้วเบื่อสักครั้ง แถมยังตื่นเต้นทุกครั้ง
อีกตังหาก ครั้งนี้มาในธีมของ Hidden Place in Seoul
รวบรวมสถานที่แปลกใหม่ของทั้งพิพิธภัณฑ์, แหล่ง-
ช้อปปิ้งที่พูดเลยว่ากวาดสายตาไม่หวาดไม่ไหว ทำเอา
กระเป๋าแฟบไปตั้งแต่วันสองวันแรก หรือSelected shop
สารพัดของเก๋ที่เน้นงานดีไซน์ตั้งแต่gadget สุดแนว
กล้องฟิล์มที่สาวกคนรักกล้องต้องกรี้ดสลบ ไปยันของ
แต่งบ้านที่อยากจะกวาดกลับบ้านให้หมดแบบที่ไม่แคร์
น้ำหนักกระเป๋า แถมยังมีแหล่งของกินสไตล์คนเกาหลี
ตามรอยซีรี่ย์ที่เค้าเรียกว่า โพจังมาจา(Pojangmacha)
มาให้ไปเติมพลัง ยืนกินข้างทางกันแบบอินๆ ที่สำคัญ
คือคุ้ม อร่อย ฟิน ไม่ต้องเยอะแยะเพราะครั้งนี้อยากเน้น
ให้กินถูกเก็บเงินไปช้อปปิ้งแทน อ้ะ!แต่ก็ไม่วายพาไป
สแนปภาพที่มิวเซี่ยมนะ คนรักงานอาร์ตอย่างพวกเรา
จะพลาดเรื่องนี้ก็กระไรอยู่ เอาใจเหล่าฮิปสเตอร์สุดๆ
เพราะครั้งนี้พาไปที่แปลกใหม่มาก พานั่งรถไฟออกไป
จากตัวเมือง 40 นาที พาไปเสพย์งานอาร์ตท่ามกลาง
ธรรมชาติ ใช้เวลาทั้งวันเต็มๆ ไม่ต้องห่วงนะเรายังคง
ชวนไปหาที่ที่ถ่ายรูปสนุกๆด้วยกันเหมือนเดิม พูดเลยว่า..
ทริปนี้ครบมากเหมาะสำหรับคนมีเวลาน้อยแต่อยากเที่ยว!
เก็บให้ครบ เที่ยวให้คุ้ม และถ้าจะคุ้มไปมากกว่านี้ก็ต้อง
อย่าลืมบินไปโซลกับแอร์เอเชีย มีเที่ยวบิน 3 เที่ยว/วัน
เลือกเลยอยากได้เวลาไหน แถมบินตรงไปอีก! สบ๊ายย

ปล. ภาพด้านในมีเรื่องของ การเตรียมตัวผ่าน ตม. ด้วยนะ

/////////////////////////////////////////////////////////

Hidden attractions in SEOUL.

/Museum
1. Anyang Art Park (안양예술공원)
2. Leeum Samsung Museum of Art (삼성미술관 리움)
3. PKM Gallery (갤러리)

/Food
Pojangmacha (포장마차)
-Hongdae
-Hyehwa - DaeHangNo University Street
-Myeongdong

/Shopping
1. Express Bus Terminal Underground Shopping center (고속터미널)
2. Samcheongdong-gil street (삼청동길)

/Selected Shop
1. Millimeter Milligram -MMMG Design Store (밀리미터밀리그람)
2. Queenmama Market (퀸 마마 마켓)

Anyang Art Park (안양예술공원)
‘รัก Art Park ที่นี่จัง’

ก่อนอื่นขอแนะนำให้เผื่อเวลา 1 วันเต็มๆ เพื่อมาเดินชมสวนศิลปะที่ 80% คือการแสดงผลงานผ่านสถาปัตยกรรมหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างที่เราจะแชร์ภาพให้ดูต่อไปนี้ มีจุดถ่ายรูปเยอะมากๆ คือเดินเล่นกันได้ยาวๆ เหมือนอาณาจักรของศิลปะให้เราเดินแวะแล้วก็แชะภาพไปตามจุดต่างๆ จนลืมไปเลยว่าเดินไกล5555 ทำเราเพลินไปกับ Hidden Place ในโซลมากๆเลยทริปนี้

*การเดินทาง
Subway : Gwanak Station Exit 2 แล้วมาขึ้นรถบัสสาย 5624, 5625, 5626, 5530 หรือ 5713 หรือจะเรียกแท็กซี่เข้าไปเลยก็ได้ ค่าแท็กซี่ประมาณ 3,800 วอน ถ้าไป 2 คนก็ตกคนละ 50 กว่าบาท คุ้มกว่าน้า
Address : 240-18 Seoksu-dong, Manan-gu, Anyang, Gyeonggi-do, Seoul Korea.

Open 24 Hours

หลังจากนั้นก็เดินลอดอุโมงค์มาเรื่อยๆก็จะเจอกับลานกว้างที่เป็นที่นั่ง หรือทางเดินมีลักษณะเป็นคลื่น สลับสับหว่างไม่เท่ากัน เป็นจุดไฮไลท์ที่อยู่ในสุดของ Anyang Art Park เป็นที่ที่เหล่าฮิปสเตอร์ทั้งหลายไม่พลาดที่จะต้องได้มาสแนปภาพเท่ๆกัน

ลืมบอกว่าครั้งนี้จองมากับ Thai AirAsia X เช่นเดิมเพราะเซฟเงินในกระเป๋าได้ดีมาก5555555 พร้อมเลือกที่นั่งแบบ Hot Seat เพราะว่าบินข้ามคืน ได้ยืดแข้งยืดขาหน่อยเพิ่มความสบายขึ้นอีกเลเวลนึง โอเคเลยแหล่ะ zZZ

หลังจากได้งีบไป 3-4 ชั่วโมง ตื่นมาก็หิวพอดี ได้เวลาอาหารมาเสิร์ฟแล้ว โชคดีหน่อยที่เอะใจทันกดสั่งอาหารออนไลน์ไว้เผื่อหิว และแล้วก็หิวจริงๆด้วย555555

อีกเหตุผลนึงที่ถูกใจคือเค้ามีเที่ยวบินมากถึง 3 เที่ยวบิน/วัน คนทำงานประจำอย่างพวกเรานั้นก็จะเลือกบินกลางคืน เพราะจะได้ไม่ต้องลางานในวันนั้นๆ มีเวลาเคลียงานสบายๆ ที่สำคัญก็ยังคงเป็นราคาที่น้องเลิฟเหมือนเดิม บินคุ้ม บินประหยัดต้องยกให้เค้าแหล่ะ ❤✈

กังวลใจเรื่องตม.จัง ทำไงดี?

ครั้งนี้พิเศษหน่อยเพราะเราอยากจะมาแชร์ปัญหาที่หลายคนกังวลใจ เป็นคำถามที่เจอบ่อยมากก..เราก็เลยจัดข้อสรุป 4 ข้อมาให้ทุกคนได้เตรียมตัวกัน

1. หลักฐานต้องครบ
✓พาสปอร์ต : สำหรับคนที่เพิ่งทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ เนื่องจากเล่มเก่าใกล้จะหมดอายุ ก็ให้พกเล่มเดิมไปด้วยเพื่อเป็นการยืนยันว่าเราเคยเดินทางนะ ในกรณีถ้าเค้าสงสัยว่าทำไมพาสปอร์ตโล่งๆ

✓ใบตรวจคนเข้าเมือง หรือใบตม. : เขียนให้ครบถ้วน เพราะนี่คือใบที่บอกจุดประสงค์ในการเดินทางของเรา ยืนยันวันเวลาที่เราจะพำนักอยู่ในประเทศเค้า ข้อมูลที่พัก สามารถขอใบตม.ได้จากแอร์โฮสเตสตอนอยู่บนเครื่องบินได้เลย หรือบางทีเค้าก็จะเดินแจกนะ

✓หลักฐานการจองโรงแรม : จริงๆแล้วเดี๋ยวนี้โชว์อีเมล์Booking ในโทรศัพท์กันเลย ง่ายมาก แต่ถ้าเกิดอยากให้ชัวร์ๆก็ปริ๊นใบจองรร.ออกมาเพื่อความชัดเจนยิ่งขึ้น ก็ไม่ติด

✓หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบิน : ทั้งเที่ยวไปและกลับ เพื่อเป็นการยืนยันว่าเราจะอยู่ในระยะเวลาที่แจ้งมาจริงๆ เป็นการการันตีว่าเรามาท่องเที่ยวเท่านั้นน้า กลับบ้านแน่ๆจ้าาา

✓บัตรประจำตัวต่างๆ : นอกจากพาสปอร์ตที่สามารถยืนยันตัวตนของเราได้แล้ว บัตรประชาชน และใบขับขี่ก็สำคัญ เพื่อเป็นการยืนยันว่าเราคือคนสัญชาติไหน มาจากประเทศอะไร เตรียมติดตัวกันไว้ให้พร้อม กันไว้ก่อนจะดีที่สุด

✓เอกสารเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล (ถ้ามี) : กรณีถ้าใครไปเปลี่ยนชื่อมา ควรอย่างยิ่งในการพกมาด้วย ถ้าเกิดเค้าเห็นว่าชื่อในพาสปอร์ตไม่ตรงกับใบจองต่างๆ ก็อาจจะเป็นปัญหาได้ เดี่ยวจะยาวเอา

✓แพลนการเดินทาง (ถ้ามี) : เผื่อว่าบางคนเตรียมตัวมาอย่างดี ก็ยิ่งดีใหญ่เลย หลักฐานยิ่งเยอะยิ่งดีเค้าจะได้รู้ว่าเรามาเที่ยวจริงๆน้า ไม่ได้หนีมาทำมิดีมิร้ายยย

2. เตรียมคำตอบพื้นฐานไปก่อน
ฝึกสกิลภาษาอังกฤษกันไปสักนิด ดูคร่าวๆว่าคำถามพื้นฐานที่มักจะเจอกันบ่อยๆ กรณีถ้าโดนถามจะมีคำถามแบบไหนบ้างเช่น...
มาจากประเทศอะไร?
มาทำอะไรที่เกาหลี?
มาอยู่กี่วัน?
มากับใคร?
โรงแรมชื่ออะไร?
ทำงานอะไรอยู่?
แลกเงินมาเท่าไหร่?
เคยมาเกาหลีมาก่อนไหม?

หายใจเข้าลึกๆ ตอบไปตามความจริง บางทีเค้าแค่เช็คนิดๆหน่อยๆเท่านั้นแหล่ะ ไม่มีอะไรต้องกังวลเลย

3. แต่งตัวให้ดูมีภูมิฐาน
ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าให้เตรียมแต่งองค์ทรงเครื่องกันไปเว่อวังนะ แต่แค่ให้ดูสุภาพเรียบร้อย เรียบง่าย ดูมีกาลเทศะ ไม่ใส่รองเท้าแตะ สำหรับสาวๆก็แต่งหน้าพอประมาณ อย่าแต่งให้หน้าไม่ตรงปกเกินก็พอ 55555555555 เดี๋ยวเจ้าหน้าที่เค้าเอะใจขึ้นมาว่าหน้าเราไม่เหมือนในพาสปอร์ตเด้อออออ

4. บุคลิกภาพสำคัญนะ
พอถึงตาเราปุ๊ป! สิ่งสำคัญคือนิ่งเข้าไว้ สบตากับเจ้าหน้าที่ปกติ ยิ้มแย้มแจ่มใส ห้ามใส่แว่นตากันแดดเด็ดขาด! ถ้าเค้าถามก็ให้ตอบคำถามอย่างฉะฉาน มีความมั่นใจ ไม่ต้องตื่นเต้น ทำตัวสบายๆเสมือนเวลาเพื่อนชวนคุยงี้

ง่ายๆเลยถ้าทุกอย่างครบก็จบ สบายใจได้ไม่ต้องกังวลใดๆน้า ✌

ที่พัก

และนี่ก็คือห้องพักของเราในทริปนี้มีชื่อว่า OK House. จองผ่าน Airbnb ฮ่าา ตกคืนละประมาณ 1,700 บาท ห่างจากรถไฟฟ้าสถานี Hongik University (ทางออก 6) เพียง 3 นาทีเท่านั้น! ห้องสะอาดสะอ้านมากๆ มีของใช้ครบครัน มีห้องน้ำในตัวแต่อาจจะเล็กนิดนึง แต่โดยรวมอยู่กัน 2 คนสบ๊ายยยย

ซิม

สำหรับซิมเนตที่ใช้ไปเกาหลีในครั้งนี้เราเลือก Travel SIM Asia ของ TRUEMOVE H | 6 GB | 8 DAYS | 399 THB สรุปรวมๆที่ถูกใจหลังจากลองใช้แล้วคือ..
✓เปิดMap หาที่เที่ยวแบบลื่นปรื้ดดดด
✓เสิร์ชหาสถานีรถไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว
✓อัพโซเชี่ยวได้แบบเรียลทามทันใจสุดๆ
เอ้อคุ้มดีแฮะ เนตเร็วดีด้วย ไม่สะดุดเลย ทำทุกอย่างได้อย่างสบายๆ ใครที่หาซิมใช้ที่ต่างประเทศอยู่ ลองเก็บไว้เป็นทางเลือกดูน้า

Subway Routing ของสถานที่ทั้งหมดที่เราไปมา เราสรุปสถานีรถไฟให้ในภาพนี้แล้ว ตัวช่วยที่จะทำให้เพื่อนๆแพลนทริปง่ายขึ้น

Leeum Samsung Museum of Art (삼성미술관 리움)

ใครที่มีศิลปะในหัวใจไปทริปไหนก็ต้องแวะมิวเซี่ยม เสพย์งานอาร์ตหน่อย ที่นี่ก็คงตอบโจทย์เหล่าอาร์ตติสไม่น้อย เป็นอีก 1 สถานที่จัดงานแสดงศิลปะในโซลที่อยากให้มา ด้านในมี 2 ส่วนด้วยกันได้แก่

01. Traditional มีการนำศิลปะของเกาหลียุคก่อนมาจัดแสดงเช่น เครื่องปั้นดินเผา ถ้วยชามเซรามิก, การเพ้นท์ลวดลายจากพู่กัน หรือภาพวาดต่างๆ คนชอบเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์หน่อยอาจจะชอบ

02. Modern and Contemporary art เป็นศิลปะแบบผสมผสานของเกาหลีและต่างชาติ ภายใต้คอนเสป “Beyond Space” ออกแนวล้ำสมัยขึ้น

Opening Hours : 10.30 am.-6.00 pm.
(Closed on Monday)
ค่าเข้า : 10,000 won = 300 THB
FB : https://web.facebook.com/leeumofficial
IG : leeum_official
Address : Leeum, Samsung Museum of Art 60-16 Itaewon-ro 55-gil, Yongsan-gu, Seoul, Korea 140-893
TEL : 02-2014-6901
Subway : Hangangjin Station (Subway Line 6) Exit 1
พิกัด : 37.538136, 126.998580

ส่วนที่เป็นไฮไลท์ก่อนออกจากโซนโมเดิร์นหนีไม่พ้น Gravity Stairs ทางเดินลงบันไดที่ถูกห้อมล้อมด้วยกระจกและหลอดไฟที่ถูกดัดเป็นวงกลม เป็นห้องสีเหลืองที่เหมือนมีพลังงานบางอย่างห้อมล้อมเราไว้อยู่ ออกแบบโดย Olafur Eliasson ศิลปินชาวไอซ์แลนด์ ถ่ายรูปเพลินกันเลยทีเดียว!

ส่วนที่ชอบและใช้เวลาอยู่นานที่สุดคือด้านนอกของพิพิธภัณฑ์ จะมีงานประติมากรรมที่มีชื่อว่า Tall Tree and the Eye และ Sky Mirror

Tall Tree and the Eye คือเจ้าลูกกลมๆสีเงินๆที่เรียงรายชูขึ้นฟ้าสะท้อนกับบรรยากาศรอบๆ เป็นผลงานของ Anish Kapoor (อนิช คาพัวร์) ศิลปินชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดีย

(เล่าต่อในคอมเม้นท์ )

v
v
v
v