พวกเราก็ดำเนินมาถึงจุดหมายสุดท้ายของทริปนี้แล้วค่ะนั่นก็คือโซลนั่นเองค่า
เมืองหลวงที่มีเสน่ห์แห่งหนึ่งในโลก โซลไม่เคยหลับไหลค่ะ ไปกี่ครั้งก็ฟีลลิ่งดีทุกครั้งเลย
ทริปนี้เกิดขึ้นมาเนื่องจากทำงานแล้วเครียดมาก ร่างกายต้องการ การเที่ยว 555 เลยไปมันเลย 10 วันจ้า เก็บเงินมานานเพื่อสิ่งนี้ ก็ขอใช้สักหน่อยเนอะ ตอนแรกก็จะมีเพื่อนไปด้วยแหละ แต่สุดท้ายล่ม จึงเกิดความคิดว่า เที่ยวก็เดียวก็ได้จะไปรอใครทำไม ทริปไปเกาหลีคนเดียวจึงเกิดขึ้นค่ะ ไปหลายๆเมืองในเกาหลีด้วย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่รองลงมาจากโซลทั้งหมดเลย
เมืองที่จะไปก็มี ทั้งหมด 3 เมือง 2 เกาะ ด้วยกันค่ะ (จะมาอัพเดตเรื่อยๆนะ)
ปูซาน (Oct 31 – Nov 4)
http://fxxkbeauty.com/vlog-17-busan/
คยองจู (Nov 3) *เพื่อนขับรถพาไป
https://fxxkbeauty.com/vlog-18-gyeong-ju/
เชจู (Nov 4 – Nov 7)
http://fxxkbeauty.com/vlog-19-jeju/
อูโด (Nov 6)
http://fxxkbeauty.com/vlog-20-udo/
โซล (Nov 7 – Nov 11)
http://fxxkbeauty.com/vlog-21-seoul/
รีวิวเที่ยวเกาหลี 12 วัน 11 คืน
งบประมาณ
ค่ากิน,ค่าช้อป 25,000.-
ค่าตั๋ว (รวมระหว่างเมือง (ไปกลับ กรุงเทพ โซล, โซล-ปูซาน, ปูซาน-เชจู, เชจู-โซล) ประมาณ 12,500
ค่า Airbnb 11 คืน ประมาณ 15,000.-
ค่าแท๊กซี่ทัวร์ส่วนตัวในเกาะเชจู 1 วัน 4,800.-
ค่า sim2fly 399.-
ฝนทำ Map ใน google Pin สถานที่ต่างๆ เอาไว้ดูตอนไปที่นู่นนะคะ
https://goo.gl/maps/EVYgMnuPaU6vwkYQ6
(มีสถานที่ที่นอกเหนือจากที่ได้ไปมาด้วยเพราะแพลนเผื่อๆไว้ค่ะ)
แชร์เอาไว้ให้เผื่อใครอยากลองวางแผนเที่ยวบ้าง
Seoul
ที่โซลฝนไม่ได้ถ่ายรูปเยอะนะคะ กล้องเมมใกล้เต็ม 555 ก็เลยเซฟไว้ถ่ายวีดีโอ ถ้าอยากดูให้ได้อรรถรส แนะนำดูวีดีโอจ้า
Day 1
หลังจากบินมาจากเชจู ฝนก็บินมาถึงโซลตอนบ่ายๆ ค่ะ
หลังจากวางของที่ AirBNB เสร็จแล้วฝนก็ออกเดินทางไปที่
Amore Pacific Museum of Art (APMA) ที่มีจัดแสดงนิทรรศการของ Barbara Kruger
เธอเป็น artist ที่ทำปกนิตยาสารให้กับหลายๆเล่มที่ New York ค่ะ
ผลงานส่วนใหญ่จะเป็น style collage และการเลือกใช้รูปขาวดำ ตัดกับ text สีๆ และ การใช้ typography
จุดถัดไปก็คือ คาเฟ่ชื่อว่า C-Through
เจอร้านนี้ใน instagram กาแฟลายการ์ตูน และ starynight นอกจากนี้บาริสต้าก็หล่อมากๆ อีกด้วย! แบบกรี๊ดแม่ ต้องไปให้ได้ แล้วปะ!?
Credit: leekangbin91
ตัวกาแฟก็จะเป็นกาแฟเย็นที่ด้านบนตรงที่ตกแต่ง คือครีมที่ผสมสีผสมอาหารให้เป็นสีต่างๆ
ตัวกาแฟลาเต้อาร์ต เลือกความหวานไม่ได้นะคะ ก็จะค่อนข้างหวานนิดๆ
หลังจากหมดวันก็ไปเดินดูของต่อที่ฮงแด และกินอาหารเล็กน้อยจึงกลับที่พักค่ะ
Day 2
ที่เกาหลีก็เป็นฤดูใบไม้ร่วง แล้วข้างทางปลูกต้นแปะก๊วยไว้เยอะมากกกก เหลืองไปทั่วเลย สวยจัง
วันนี้จุดหมายส่วนใหญ่ก็จะเป็น museum ต่างๆค่ะ
จุดหมายแรกของวันที่ไปก็คือ Leeum samsung museum of art
จะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มี 4 ชั้น แต่ละชั้นก็จะมีตีมที่แตกต่างกันออกไป
แต่ส่วนใหญ่จะมี พวก Korean Traditional Art เยอะ พวกเครื่องศิลาดล (Celadon Ceramic)
ไม่ต้องกังวลว่าจะเบื่อนะคะ เพราะถ้าจ่ายเงินเพิ่มอีกนิดหน่อย จะมีมือถือพร้อมหูฟังมาให้ แล้วเมื่อเราไปยืนที่จุดไหน ก็จะมีคำบรรยายพูดให้
เหมือนมีไกด์ส่วนตัว ถ้าใครมีเวลาและสนใจก็แนะนำให้ไปกันค่ะ
จากนั้นในแผนคือไป picnik แต่แล้วมันปิด!! เศร้ามากก ไม่ทำการบ้านให้ดีพอ
เสียเวลาไปนิดหน่อย ทำให้จุดหมายต่อไปของเราก็คือที่ Seosomun Shrine History Museum
อันนี้ไปคือถ่ายรูปล้วนๆ เพราะเสียเวลาอ้อมไป picnik มา ก็เลยไม่ได้ดูสถานที่โดยรวมให้ดี ไว้จะไปแก้ตัวอีกรอบ 555
ต่อไปก็อยากไป Seong Su ที่เปรียบเสมือน brooklyn ของโซล เพราะการที่มีสถานีรถไฟฟ้าอยู่บนดิน ทำให้บรรยากาศคล้ายๆกัน
เดินไปก็พบกว่า Seong Su เคยเป็นย่านที่มีโรงงานทำรองเท้าแพร่หลาย แต่ตอนนี้ก็เริ่มเลือนหายไป ส่วนใหญ่ก็จะเป็นร้านฮิปๆ แหละ มี Street Art ให้เห็นประปราย
แต่ประเด็นที่เราอยากมาแถวนี้เพราะอยากมากินร้านคาเฟ่ชื่อดัง Onion ค่ะ 5555 ขนมน่ากินหลายอย่างมากกกกก เลือกไม่ถูกจริงๆ!
Day 3
ตอนเช้าไป Onion อีกสาขามาด้วยค่ะ คือสาขา An Guk เป็นสาขาที่สถาปัตยกรรมเป็นแบบ Hanok หรือหลังคาแบบเก่าๆของเกาหลี
เพราะเนื่องจาก area ที่คาเฟ่ตั้งอยู่ มันคือแถวๆ พระราชวังและหมู่บ้าน Bokcheon Hanok ที่เค้าอนุรักษ์ตึกแบบเก่าไว้นั้นเอง
ต่อไปคิดว่าจะได้เข้าไปพระราชวังคยองบกกุงใส่ชุดฮันบกสวยๆ ถ่ายรูปค่ะ
เมื่อไปถึงจึงพบกว่ามันปิดเพราะมีการประท้วง… อีกและ… ไปที่ไหน ที่ไหนก็ปิด!! 5555
เลยได้รูปกับผู้ชุมนุมหน้ากำแพงวังมาแทน 5555
Day 4
ตื่นเช้ามาเหมือนมีเพื่อนแชร์ในเฟสบุคว่าถ้ามาเกาหลีช่วงหน้าใบไม้เปลี่ยนสีแล้วไม่ได้ไปแถวถ็อกซูกุงก็เหมือนมาไม่ถึงเลยลองไปดูสักหน่อย
สวยม๊ากกกก คือในรูปไม่สวยเท่าตาเห็นจริงๆ พูดได้เท่านี้ ฝนไปทันช่วงเค้าเปลี่ยนกะทหารพอดีด้วย ได้ดูอยู่ประมาณ 20 นาที
เนื่องจากวางแผนว่าจะเป็นวันที่ชอปปิ้งของกลับบ้าน จุดหมายต่อไปเลยว่าจะไป Myeong Dong และ Hongdae ค่ะ
เพื่อนพามากินร้าย Myeongdong Gyo Cha เป็นร้านที่ได้ michellin star ของโซล อร่อยจริงๆค่ะ ชอบมันดูอ่ะ มันดีจย์
หลังจากชอปปิ้งเสร็จก็แวะพักทานไอศกรีมที่ bistopping แถวๆ sinsa ก่อนไปช้อปต่อที่ฮงแด
ไอติมนั่ลล้าคคคคคเน้อะะะะะะ
วันรุ่งขึ้นก็กลับบ้าน หมดแล้วจ้าทริปเที่ยวเกาหลีเมื่อปี 2019 ตัดเสร็จสักที!!
ไว้พบกันใหม่เมื่อมีอารมณ์ถ่ายคลิปค่ะ 5555555
♡ กด subscribe สำหรับวีดีโอต่อๆไป
http://bit.ly/fxxkbeautysubbie
♡ กดติดตามบน INSTAGRAM
https://instagram.com/fxxkbeauty
♡ กดไลค์บน FACEBOOK
https://www.facebook.com/fxxkbeauty
Vlog #21: โซโล่ใน Seoul เสพย์งานศิลป์ กินไม่หยุด และ คาเฟ่ฮอปที่บาริสต้างานดีมว๊ากกก!
พวกเราก็ดำเนินมาถึงจุดหมายสุดท้ายของทริปนี้แล้วค่ะนั่นก็คือโซลนั่นเองค่า
เมืองหลวงที่มีเสน่ห์แห่งหนึ่งในโลก โซลไม่เคยหลับไหลค่ะ ไปกี่ครั้งก็ฟีลลิ่งดีทุกครั้งเลย
ทริปนี้เกิดขึ้นมาเนื่องจากทำงานแล้วเครียดมาก ร่างกายต้องการ การเที่ยว 555 เลยไปมันเลย 10 วันจ้า เก็บเงินมานานเพื่อสิ่งนี้ ก็ขอใช้สักหน่อยเนอะ ตอนแรกก็จะมีเพื่อนไปด้วยแหละ แต่สุดท้ายล่ม จึงเกิดความคิดว่า เที่ยวก็เดียวก็ได้จะไปรอใครทำไม ทริปไปเกาหลีคนเดียวจึงเกิดขึ้นค่ะ ไปหลายๆเมืองในเกาหลีด้วย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่รองลงมาจากโซลทั้งหมดเลย
เมืองที่จะไปก็มี ทั้งหมด 3 เมือง 2 เกาะ ด้วยกันค่ะ (จะมาอัพเดตเรื่อยๆนะ)
ปูซาน (Oct 31 – Nov 4) http://fxxkbeauty.com/vlog-17-busan/
คยองจู (Nov 3) *เพื่อนขับรถพาไป https://fxxkbeauty.com/vlog-18-gyeong-ju/
เชจู (Nov 4 – Nov 7) http://fxxkbeauty.com/vlog-19-jeju/
อูโด (Nov 6) http://fxxkbeauty.com/vlog-20-udo/
โซล (Nov 7 – Nov 11) http://fxxkbeauty.com/vlog-21-seoul/
รีวิวเที่ยวเกาหลี 12 วัน 11 คืน
งบประมาณ
ค่ากิน,ค่าช้อป 25,000.-
ค่าตั๋ว (รวมระหว่างเมือง (ไปกลับ กรุงเทพ โซล, โซล-ปูซาน, ปูซาน-เชจู, เชจู-โซล) ประมาณ 12,500
ค่า Airbnb 11 คืน ประมาณ 15,000.-
ค่าแท๊กซี่ทัวร์ส่วนตัวในเกาะเชจู 1 วัน 4,800.-
ค่า sim2fly 399.-
ฝนทำ Map ใน google Pin สถานที่ต่างๆ เอาไว้ดูตอนไปที่นู่นนะคะ
https://goo.gl/maps/EVYgMnuPaU6vwkYQ6
(มีสถานที่ที่นอกเหนือจากที่ได้ไปมาด้วยเพราะแพลนเผื่อๆไว้ค่ะ)
แชร์เอาไว้ให้เผื่อใครอยากลองวางแผนเที่ยวบ้าง
Seoul
ที่โซลฝนไม่ได้ถ่ายรูปเยอะนะคะ กล้องเมมใกล้เต็ม 555 ก็เลยเซฟไว้ถ่ายวีดีโอ ถ้าอยากดูให้ได้อรรถรส แนะนำดูวีดีโอจ้า
Day 1
หลังจากบินมาจากเชจู ฝนก็บินมาถึงโซลตอนบ่ายๆ ค่ะ
หลังจากวางของที่ AirBNB เสร็จแล้วฝนก็ออกเดินทางไปที่
Amore Pacific Museum of Art (APMA) ที่มีจัดแสดงนิทรรศการของ Barbara Kruger
เธอเป็น artist ที่ทำปกนิตยาสารให้กับหลายๆเล่มที่ New York ค่ะ
ผลงานส่วนใหญ่จะเป็น style collage และการเลือกใช้รูปขาวดำ ตัดกับ text สีๆ และ การใช้ typography
จุดถัดไปก็คือ คาเฟ่ชื่อว่า C-Through
เจอร้านนี้ใน instagram กาแฟลายการ์ตูน และ starynight นอกจากนี้บาริสต้าก็หล่อมากๆ อีกด้วย! แบบกรี๊ดแม่ ต้องไปให้ได้ แล้วปะ!?
Credit: leekangbin91
ตัวกาแฟก็จะเป็นกาแฟเย็นที่ด้านบนตรงที่ตกแต่ง คือครีมที่ผสมสีผสมอาหารให้เป็นสีต่างๆ
ตัวกาแฟลาเต้อาร์ต เลือกความหวานไม่ได้นะคะ ก็จะค่อนข้างหวานนิดๆ
หลังจากหมดวันก็ไปเดินดูของต่อที่ฮงแด และกินอาหารเล็กน้อยจึงกลับที่พักค่ะ
Day 2
ที่เกาหลีก็เป็นฤดูใบไม้ร่วง แล้วข้างทางปลูกต้นแปะก๊วยไว้เยอะมากกกก เหลืองไปทั่วเลย สวยจัง
วันนี้จุดหมายส่วนใหญ่ก็จะเป็น museum ต่างๆค่ะ
จุดหมายแรกของวันที่ไปก็คือ Leeum samsung museum of art
จะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มี 4 ชั้น แต่ละชั้นก็จะมีตีมที่แตกต่างกันออกไป
แต่ส่วนใหญ่จะมี พวก Korean Traditional Art เยอะ พวกเครื่องศิลาดล (Celadon Ceramic)
ไม่ต้องกังวลว่าจะเบื่อนะคะ เพราะถ้าจ่ายเงินเพิ่มอีกนิดหน่อย จะมีมือถือพร้อมหูฟังมาให้ แล้วเมื่อเราไปยืนที่จุดไหน ก็จะมีคำบรรยายพูดให้
เหมือนมีไกด์ส่วนตัว ถ้าใครมีเวลาและสนใจก็แนะนำให้ไปกันค่ะ
จากนั้นในแผนคือไป picnik แต่แล้วมันปิด!! เศร้ามากก ไม่ทำการบ้านให้ดีพอ
เสียเวลาไปนิดหน่อย ทำให้จุดหมายต่อไปของเราก็คือที่ Seosomun Shrine History Museum
อันนี้ไปคือถ่ายรูปล้วนๆ เพราะเสียเวลาอ้อมไป picnik มา ก็เลยไม่ได้ดูสถานที่โดยรวมให้ดี ไว้จะไปแก้ตัวอีกรอบ 555
ต่อไปก็อยากไป Seong Su ที่เปรียบเสมือน brooklyn ของโซล เพราะการที่มีสถานีรถไฟฟ้าอยู่บนดิน ทำให้บรรยากาศคล้ายๆกัน
เดินไปก็พบกว่า Seong Su เคยเป็นย่านที่มีโรงงานทำรองเท้าแพร่หลาย แต่ตอนนี้ก็เริ่มเลือนหายไป ส่วนใหญ่ก็จะเป็นร้านฮิปๆ แหละ มี Street Art ให้เห็นประปราย
แต่ประเด็นที่เราอยากมาแถวนี้เพราะอยากมากินร้านคาเฟ่ชื่อดัง Onion ค่ะ 5555 ขนมน่ากินหลายอย่างมากกกกก เลือกไม่ถูกจริงๆ!
Day 3
ตอนเช้าไป Onion อีกสาขามาด้วยค่ะ คือสาขา An Guk เป็นสาขาที่สถาปัตยกรรมเป็นแบบ Hanok หรือหลังคาแบบเก่าๆของเกาหลี
เพราะเนื่องจาก area ที่คาเฟ่ตั้งอยู่ มันคือแถวๆ พระราชวังและหมู่บ้าน Bokcheon Hanok ที่เค้าอนุรักษ์ตึกแบบเก่าไว้นั้นเอง
ต่อไปคิดว่าจะได้เข้าไปพระราชวังคยองบกกุงใส่ชุดฮันบกสวยๆ ถ่ายรูปค่ะ
เมื่อไปถึงจึงพบกว่ามันปิดเพราะมีการประท้วง… อีกและ… ไปที่ไหน ที่ไหนก็ปิด!! 5555
เลยได้รูปกับผู้ชุมนุมหน้ากำแพงวังมาแทน 5555
Day 4
ตื่นเช้ามาเหมือนมีเพื่อนแชร์ในเฟสบุคว่าถ้ามาเกาหลีช่วงหน้าใบไม้เปลี่ยนสีแล้วไม่ได้ไปแถวถ็อกซูกุงก็เหมือนมาไม่ถึงเลยลองไปดูสักหน่อย
สวยม๊ากกกก คือในรูปไม่สวยเท่าตาเห็นจริงๆ พูดได้เท่านี้ ฝนไปทันช่วงเค้าเปลี่ยนกะทหารพอดีด้วย ได้ดูอยู่ประมาณ 20 นาที
เนื่องจากวางแผนว่าจะเป็นวันที่ชอปปิ้งของกลับบ้าน จุดหมายต่อไปเลยว่าจะไป Myeong Dong และ Hongdae ค่ะ
เพื่อนพามากินร้าย Myeongdong Gyo Cha เป็นร้านที่ได้ michellin star ของโซล อร่อยจริงๆค่ะ ชอบมันดูอ่ะ มันดีจย์
หลังจากชอปปิ้งเสร็จก็แวะพักทานไอศกรีมที่ bistopping แถวๆ sinsa ก่อนไปช้อปต่อที่ฮงแด
ไอติมนั่ลล้าคคคคคเน้อะะะะะะ
วันรุ่งขึ้นก็กลับบ้าน หมดแล้วจ้าทริปเที่ยวเกาหลีเมื่อปี 2019 ตัดเสร็จสักที!!
ไว้พบกันใหม่เมื่อมีอารมณ์ถ่ายคลิปค่ะ 5555555
♡ กด subscribe สำหรับวีดีโอต่อๆไป http://bit.ly/fxxkbeautysubbie
♡ กดติดตามบน INSTAGRAM https://instagram.com/fxxkbeauty
♡ กดไลค์บน FACEBOOK https://www.facebook.com/fxxkbeauty