ปัจจุบันอายุ 20 แล้ว จบปวส.สาขาการตลาด แต่ไม่ได้ความรุ้จากที่เรียนเท่าไหร่เลยค่ะ 😂😂
เราเข้าสังคมไม่เก่งเลยค่ะ เป็นคนพุดน้อย หัวช้า ไม่สามารถทำงานที่มีความยุ่งยากมากๆได้ และที่สำคัญคือมีความอดทนทางด้านจิตใจต่ำมากๆ และทนแรงกดดันไม่ค่อยได้ พอจะมีงานที่เพื่อนร่วมงานน้อย ไม่ยุ่งยาก แนะนำบ้างมั้ยคะ เช่นให้ไปขายของแทนตามตลาด หรือขายของออนไลน์ดี ควรเริ่มต้นยังไง หรือเราควรจะแก้ปัญหานี้ยังไงดีคะ??
ปล.ของานที่หยุดวันอาทิตย์นะคะ เรียนต่อป.ตรีอยู่ค่ะ
รายละเอียดด้านล่างไม่ต้องอ่านก็ได้ค่ะ หลักๆคือสาเหตุที่ออก ส่วนใหญ่เพราะเพื่อนร่วมงาน และความคิดด้านลบของเราเองค่ะ
เราเคยทำงานมา 5 อย่างค่ะ
1.งานโรงแรม ทำตอนอายุ 16 ทางวิทยาลัยส่งไปค่ะ (ตอนปวช.2 เราเรียนการโรงแรม) ก้อจะมีเพื่อนไปด้วย จนมีโอกาศได้ติดต่อกับโรงแรมที่นึง ย่านรัชดา เค้าจะให้เราหาเพื่อนไปอีก 4-5 คนเพื่อไปช่วยพนักงานประจำของเค้า เราทำได้หมดไม่ว่าจะแบกหาม ยกของหนักแค่ไหน หรือต้องยืนติดต่อกันนานแค่ไหนก้อทำได้ แต่ปัญหาคือ เวลาเราหาเพื่อนได้ตามจำนวนที่เค้าขอ และเราไปคอนเฟิมกับเค้าเรียบร้อย พอถึงวันทำงานเพื่อนมักจะไม่มาตามที่ตกลงกัน จนบ่อยๆเค้า เราก้อโดนหัวหน้าเรียกไปคุย เพราะบางทีงานใหญ่ พอคนไม่พอ พนักงานของเค้าก้อต้องเหนื่อยเพิ่ม เราจึงขอโทษและขอไม่มาทำอีก เพราะไม่ทีความสามารถพอที่จะจัดการเรื่องนี้ได้ เค้าก้อเข้าใจและไม่ได้ว่าอะไรค่ะ
2.งานเซเว่น เค้าให้เราทำพาทไทม์เพราะต้องหยุดวันอาทิตย์เนื่องจากติดเรียน ค่าแรงตอนนั้นเค้าให้ชม.ละ 35 บาท แต่ให้เราแทบจะทำน่าที่แทนพนักงานประจำของเค้าเลย ทั้งเช็ดกระจก ล้างถังขยะ ขัดซอกกระเบื้อง ลื้อของออกจากชั้นแล้วทำความสะอาด ในขณะที่พนักงานของเค้าแค่ยืนเครื่อง กับส่วนข้างนอกที่ต้องจัดของซึ่งน่าที่นั้นเราก้อทำโดยไม่บ่นอะไรค่ะ แต่ปัญหาคือ มีช่วงนึงทางร้านโดนคอมเพลนเรื่องลืมคิดโปร 1แถม 1 ให้ เปิดกล้องดู ก้เห็นว่านู๋เป็นคนคิดเงินให้ลูกค้าคนนี้ เจ้าของร้านเลยให้นู๋ตามไปขอโทษลูกค้ารายนี้ เค้าเป็นผู้ปกครองของนร. รร.นึงที่อยุ่ข้างๆเซเว่นค่ะ แต่พอได้คุยกันถึงรุ้ว่าเค้าไม่ได้คอมเพลนนู๋ แต่คอมเพลนพี่ที่อยุ่ข้างหลังนู๋ โดยเค้าบอกว่า ดูก้อรุ้ว่าน้องมาใหม่ เห็นหันไปถามพี่ข้างหลังเค้าก้อมาจิ้มให้ละหันมาชักสีหน้าใส่ เค้าไม่รับคำขอโทษจากนู๋ เพราะนู๋ไม่ผิด แต่ให้พี่คนนั้นมาขอโทษ แต่เค้าไม่ยอมมาขอโทษ เจ้าของร้านเลยบอกว่า ให้นู๋ไปคุกเข่าต่อหน้าเค้า บีบน้ำตาแล้วขอให้เค้ายกเลิกคอมเพลน ไม่งั้นจะโดนไล่ออก นู๋รู้สึกว่ามันไม่แฟร์เลย วันต่อมาเลยไม่มาทำงานเลยค่ะ
3.เป็นงานขายโดนัทในห้างค่ะ ทั้งร้านมี 5 คน รวมผจก.แล้ว แต่ละคนเพิ่งมาสมัครใหม่ จึงเพิ่งรุ้จักกัน และเข้ากันได้ดี แต่มีเรื่องเข้าใจผิดกันตอนจัดโปรโมชั้น ตอนที่นู๋เอาเงินลงไปฝากกับธนาคารแห่งนึง พี่พนง.เค้าก้อบอกว่า "นู๋ พี่อยากกินโดนัท แต่ต้องนั่งทำงานไปถึงทีไรโดนัทก้อหมดทุกที วันนี้วันสุดท้ายแล้ว เก็บไว้ให้พี่สักชุดได้มั้ย เลิกงานแล้วเด๋วพี่ไปเอา" นู๋ก้อเห็นว่าเราต้องไปๆมาๆกับที่นี่ บางทีเค้าก้อลัดคิวให้เพราะฝากเงินแค่แปปเดียว เลยลองไปขอผจก. เค้าก้อบอกว่าได้ จะเก็บไว้ให้ แต่ต้องให้เค้ามาเอาเลยเพราะท่าลูกค้าคนอื่นมาเห็นจะดูไม่ดี นู๋ก้อลงกลับไปบอกพี่เค้า พี่เค้าก้อให้เงินมาละบอกว่า เพื่อนพี่พักอยู่ เด๋วให้เพื่อนพี่ไปเอา นู๋ก่อขึ้นมาเอาเงินให้ผจก. พอเค้าคิดเงินเส็จเค้าก้อถามว่าไหนล่ะ ลูกค้าอยุ่ไหน นู๋เลยบอกว่าพี่เค้ายังทำงานอยุ่ พุดไม่ทันจบเค้าก้อว่านู๋ ว่าทำแบบนี้ไม่ได้นะ คนอื่นเห็นจะบอกเค้าว่ายังไง เด๋วคงต้องพิจรณาให้เราออกละ เท่านั้นแหละ นู๋ร้องไห้เลย เพราะพี่เค้าไม่ฟังนู๋เลย มันรู้สึกสะเทือนใจว่าเราทำผิดอะไรถึงต้องพิจรณาให้ออก และเพื่อนจองพี่คนนั้นก้อมาเอาของ ผจก.ก้อได้แต่ทำน่างงๆและร้องอ่าว แล้วเค้าก้อหันมาบอกนู๋ว่า เด๋วเราต้องคุยกัน นู๋ก้อวิ่งไปร้องไห้ในห้องน้ำละวันต่อมานู๋ก้อไม่ไปทำงานเลย เพราะมันรุ้สึกเสียความรุ้สึกไปแล้ว
4.คนตรวจกระเป๋าบนรถไฟฟ้าสายสีม่วงค่ะ ตอนนั้นยังไม่ได้ทำประจำต้องไปๆมาๆตามสถานีในแต่ละวัน (แล้วแต่หัวหน้าจะจัดว่าให้ไปที่ไหน) แต่ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก้อจะได้ยินสถานีนึง ว่าถึงพนง.อีกสถานีนึง ว่าไม่ดี ไม่ชอบคนนั้นคนนี้ นู๋ก้อได้แต่ยิ้ม แล้วพยักหน้าตาม ซึ่งนู๋ไม่ชอบการนินทากันแบบนี้เท่าไหร่ แต่ที่ต้องทนสุดๆเลย คือคำดูถูกของผู้โดยสารในแต่ละวัน ที่ไม่ยอมให้ตรวจสัมภาระ ทั้ง ไม่มีปัญญาทำงานอื่นหรอ หางานได้ทำได้แค่นี้หรอ ฯลฯ บวกกับการที่เราเข้ากับคัยไม่ได้เพราะคุยกับเค้าไม่รุ้เรื่อง จนเกิดความน้อยใจว่า ทำไมเราต้องมาทำงานแบบนี่ ทั้งที่เราก้อมีโอกาศหางานที่ดีกว่านี้ได้ เลยออกค่ะ
5.ที่สุสท้ายละค่ะ เป็นงานแพ็คซิมมือถือ ซึ้งนู๋เป็นคนทำอะไรช้าค่ะ ลิมิตอยุ่ที่ 1,900 แต่นู๋ทำได้ 1,500 (ค่อยๆเพิ่มจำนวนนะคะ) ทุกครั้งจะเหลือโต๊ะนู๋โต๊ะสุดท้ายที่ทำไม่เสร็จ มำให้คนอื่นต้องมาช่วยนู๋ จนนู๋บังเอิญไปได้ยินเพื่อนร่วมงานเค้าคุยกันทำนองว่านู๋เป็นตัวถ่วงคนอื่น ได้งานเท่ากันแต่ทำคนอื่นต้องมาเหนื่อยเพิ่ม เลยตัดสินใจขอย้ายแผนก ก็ไม่มีแผนกไหนว่าง จึงต้องลาออกค่ะ
มีอีกที่นึงคือทำพิซซ่าค่ะ แต่รายละเอียดในร้านที่ต้องทำมีเยอะมาก จนทำให้เกิดการผิดพลาดในงานได้บ่อยๆ เค้าไม่ว่าอะไร แต่นู๋ไม่สบายใจเวลาโดนมองแบบ "คนนี้อีกละ" ทำได้ไม่ถึงอาทิตย์ ออกเลยค่ะ 😭😭😭
ช่วยด้วยค่ะ!! เข้าสังคมไม่เก่ง หัวช้า ความอดทนต่ำ แต่อยากทำงานค่ะ
เราเข้าสังคมไม่เก่งเลยค่ะ เป็นคนพุดน้อย หัวช้า ไม่สามารถทำงานที่มีความยุ่งยากมากๆได้ และที่สำคัญคือมีความอดทนทางด้านจิตใจต่ำมากๆ และทนแรงกดดันไม่ค่อยได้ พอจะมีงานที่เพื่อนร่วมงานน้อย ไม่ยุ่งยาก แนะนำบ้างมั้ยคะ เช่นให้ไปขายของแทนตามตลาด หรือขายของออนไลน์ดี ควรเริ่มต้นยังไง หรือเราควรจะแก้ปัญหานี้ยังไงดีคะ??
ปล.ของานที่หยุดวันอาทิตย์นะคะ เรียนต่อป.ตรีอยู่ค่ะ
รายละเอียดด้านล่างไม่ต้องอ่านก็ได้ค่ะ หลักๆคือสาเหตุที่ออก ส่วนใหญ่เพราะเพื่อนร่วมงาน และความคิดด้านลบของเราเองค่ะ
เราเคยทำงานมา 5 อย่างค่ะ
1.งานโรงแรม ทำตอนอายุ 16 ทางวิทยาลัยส่งไปค่ะ (ตอนปวช.2 เราเรียนการโรงแรม) ก้อจะมีเพื่อนไปด้วย จนมีโอกาศได้ติดต่อกับโรงแรมที่นึง ย่านรัชดา เค้าจะให้เราหาเพื่อนไปอีก 4-5 คนเพื่อไปช่วยพนักงานประจำของเค้า เราทำได้หมดไม่ว่าจะแบกหาม ยกของหนักแค่ไหน หรือต้องยืนติดต่อกันนานแค่ไหนก้อทำได้ แต่ปัญหาคือ เวลาเราหาเพื่อนได้ตามจำนวนที่เค้าขอ และเราไปคอนเฟิมกับเค้าเรียบร้อย พอถึงวันทำงานเพื่อนมักจะไม่มาตามที่ตกลงกัน จนบ่อยๆเค้า เราก้อโดนหัวหน้าเรียกไปคุย เพราะบางทีงานใหญ่ พอคนไม่พอ พนักงานของเค้าก้อต้องเหนื่อยเพิ่ม เราจึงขอโทษและขอไม่มาทำอีก เพราะไม่ทีความสามารถพอที่จะจัดการเรื่องนี้ได้ เค้าก้อเข้าใจและไม่ได้ว่าอะไรค่ะ
2.งานเซเว่น เค้าให้เราทำพาทไทม์เพราะต้องหยุดวันอาทิตย์เนื่องจากติดเรียน ค่าแรงตอนนั้นเค้าให้ชม.ละ 35 บาท แต่ให้เราแทบจะทำน่าที่แทนพนักงานประจำของเค้าเลย ทั้งเช็ดกระจก ล้างถังขยะ ขัดซอกกระเบื้อง ลื้อของออกจากชั้นแล้วทำความสะอาด ในขณะที่พนักงานของเค้าแค่ยืนเครื่อง กับส่วนข้างนอกที่ต้องจัดของซึ่งน่าที่นั้นเราก้อทำโดยไม่บ่นอะไรค่ะ แต่ปัญหาคือ มีช่วงนึงทางร้านโดนคอมเพลนเรื่องลืมคิดโปร 1แถม 1 ให้ เปิดกล้องดู ก้เห็นว่านู๋เป็นคนคิดเงินให้ลูกค้าคนนี้ เจ้าของร้านเลยให้นู๋ตามไปขอโทษลูกค้ารายนี้ เค้าเป็นผู้ปกครองของนร. รร.นึงที่อยุ่ข้างๆเซเว่นค่ะ แต่พอได้คุยกันถึงรุ้ว่าเค้าไม่ได้คอมเพลนนู๋ แต่คอมเพลนพี่ที่อยุ่ข้างหลังนู๋ โดยเค้าบอกว่า ดูก้อรุ้ว่าน้องมาใหม่ เห็นหันไปถามพี่ข้างหลังเค้าก้อมาจิ้มให้ละหันมาชักสีหน้าใส่ เค้าไม่รับคำขอโทษจากนู๋ เพราะนู๋ไม่ผิด แต่ให้พี่คนนั้นมาขอโทษ แต่เค้าไม่ยอมมาขอโทษ เจ้าของร้านเลยบอกว่า ให้นู๋ไปคุกเข่าต่อหน้าเค้า บีบน้ำตาแล้วขอให้เค้ายกเลิกคอมเพลน ไม่งั้นจะโดนไล่ออก นู๋รู้สึกว่ามันไม่แฟร์เลย วันต่อมาเลยไม่มาทำงานเลยค่ะ
3.เป็นงานขายโดนัทในห้างค่ะ ทั้งร้านมี 5 คน รวมผจก.แล้ว แต่ละคนเพิ่งมาสมัครใหม่ จึงเพิ่งรุ้จักกัน และเข้ากันได้ดี แต่มีเรื่องเข้าใจผิดกันตอนจัดโปรโมชั้น ตอนที่นู๋เอาเงินลงไปฝากกับธนาคารแห่งนึง พี่พนง.เค้าก้อบอกว่า "นู๋ พี่อยากกินโดนัท แต่ต้องนั่งทำงานไปถึงทีไรโดนัทก้อหมดทุกที วันนี้วันสุดท้ายแล้ว เก็บไว้ให้พี่สักชุดได้มั้ย เลิกงานแล้วเด๋วพี่ไปเอา" นู๋ก้อเห็นว่าเราต้องไปๆมาๆกับที่นี่ บางทีเค้าก้อลัดคิวให้เพราะฝากเงินแค่แปปเดียว เลยลองไปขอผจก. เค้าก้อบอกว่าได้ จะเก็บไว้ให้ แต่ต้องให้เค้ามาเอาเลยเพราะท่าลูกค้าคนอื่นมาเห็นจะดูไม่ดี นู๋ก้อลงกลับไปบอกพี่เค้า พี่เค้าก้อให้เงินมาละบอกว่า เพื่อนพี่พักอยู่ เด๋วให้เพื่อนพี่ไปเอา นู๋ก่อขึ้นมาเอาเงินให้ผจก. พอเค้าคิดเงินเส็จเค้าก้อถามว่าไหนล่ะ ลูกค้าอยุ่ไหน นู๋เลยบอกว่าพี่เค้ายังทำงานอยุ่ พุดไม่ทันจบเค้าก้อว่านู๋ ว่าทำแบบนี้ไม่ได้นะ คนอื่นเห็นจะบอกเค้าว่ายังไง เด๋วคงต้องพิจรณาให้เราออกละ เท่านั้นแหละ นู๋ร้องไห้เลย เพราะพี่เค้าไม่ฟังนู๋เลย มันรู้สึกสะเทือนใจว่าเราทำผิดอะไรถึงต้องพิจรณาให้ออก และเพื่อนจองพี่คนนั้นก้อมาเอาของ ผจก.ก้อได้แต่ทำน่างงๆและร้องอ่าว แล้วเค้าก้อหันมาบอกนู๋ว่า เด๋วเราต้องคุยกัน นู๋ก้อวิ่งไปร้องไห้ในห้องน้ำละวันต่อมานู๋ก้อไม่ไปทำงานเลย เพราะมันรุ้สึกเสียความรุ้สึกไปแล้ว
4.คนตรวจกระเป๋าบนรถไฟฟ้าสายสีม่วงค่ะ ตอนนั้นยังไม่ได้ทำประจำต้องไปๆมาๆตามสถานีในแต่ละวัน (แล้วแต่หัวหน้าจะจัดว่าให้ไปที่ไหน) แต่ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก้อจะได้ยินสถานีนึง ว่าถึงพนง.อีกสถานีนึง ว่าไม่ดี ไม่ชอบคนนั้นคนนี้ นู๋ก้อได้แต่ยิ้ม แล้วพยักหน้าตาม ซึ่งนู๋ไม่ชอบการนินทากันแบบนี้เท่าไหร่ แต่ที่ต้องทนสุดๆเลย คือคำดูถูกของผู้โดยสารในแต่ละวัน ที่ไม่ยอมให้ตรวจสัมภาระ ทั้ง ไม่มีปัญญาทำงานอื่นหรอ หางานได้ทำได้แค่นี้หรอ ฯลฯ บวกกับการที่เราเข้ากับคัยไม่ได้เพราะคุยกับเค้าไม่รุ้เรื่อง จนเกิดความน้อยใจว่า ทำไมเราต้องมาทำงานแบบนี่ ทั้งที่เราก้อมีโอกาศหางานที่ดีกว่านี้ได้ เลยออกค่ะ
5.ที่สุสท้ายละค่ะ เป็นงานแพ็คซิมมือถือ ซึ้งนู๋เป็นคนทำอะไรช้าค่ะ ลิมิตอยุ่ที่ 1,900 แต่นู๋ทำได้ 1,500 (ค่อยๆเพิ่มจำนวนนะคะ) ทุกครั้งจะเหลือโต๊ะนู๋โต๊ะสุดท้ายที่ทำไม่เสร็จ มำให้คนอื่นต้องมาช่วยนู๋ จนนู๋บังเอิญไปได้ยินเพื่อนร่วมงานเค้าคุยกันทำนองว่านู๋เป็นตัวถ่วงคนอื่น ได้งานเท่ากันแต่ทำคนอื่นต้องมาเหนื่อยเพิ่ม เลยตัดสินใจขอย้ายแผนก ก็ไม่มีแผนกไหนว่าง จึงต้องลาออกค่ะ
มีอีกที่นึงคือทำพิซซ่าค่ะ แต่รายละเอียดในร้านที่ต้องทำมีเยอะมาก จนทำให้เกิดการผิดพลาดในงานได้บ่อยๆ เค้าไม่ว่าอะไร แต่นู๋ไม่สบายใจเวลาโดนมองแบบ "คนนี้อีกละ" ทำได้ไม่ถึงอาทิตย์ ออกเลยค่ะ 😭😭😭