เมื่อใจมันเรียกร้องให้เคทเดินทางไปเติมพลังงานให้กับชีวิต หลังตรากตรำทำงานอย่างหนักมาเกือบทั้งปี เข้าข้างตัวเองเหมือนเดิม คือว่า เอิ่ม เพิ่งกลับมาจากล่าแสงเหนือเมื่อสิ้นเดือนมีนา 2017 ป่าวคะคุณพี่ขา ผู้ช่วยสาวสวยได้ฟังคำเปรยแค่นั้นถึงกลับรีบสวนย้อนมาทันที 555 เออ ใช่ แต่ยังงัยก็อยากไปอ่า
เมื่อคิดได้ คือต้องรีบทำ สรุปคุณเคทก็ได้จัดทริปพิเศษขึ้นอีกครั้ง โดยตั้งชื่อเกร๋ไกร๋ว่า ทริปตามล่าหาแสงเหนือรัสเซีย ตอน New Year Aurora Greeting เดินทาง 30 ธ.ค. 2017-7 ม.ค.2018 ซึ่งเคทได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าครั้งนี้เราเน้นไปพักในสถานที่ชมแสงเหนือที่สวยงามกว่าใคร เพื่อนอนรอชมแสงเหนือได้เลยล้วนๆ นั่นก็หมายความว่าพวกเราจะไม่ต้องออกล่า แค่มุดออกมาจากที่นอน หรือจะนอนชมแสงอยู่ในเตียงอย่างอบอุ่น มันจะสุขแค่ไหนน้อ นั่นคือภาพในความฝันตอนที่เคทวางแผนการเดินทางนั่นเอง ในที่สุดก็สรุปสถานที่ที่เราจะไปนอนชมแสงเหนือได้ดังนี้
1. Aurora Village เต้นท์ชมแสงเหนือที่เคทได้ช่วยเสนอตั้งชื่อนี้ ที่นี้ถือเป็น landmark แห่งใหม่ที่ทาง Mr. Oleg แห่ง Visit Murmansk เจ้าของบริษัททัวร์ที่ดีและใหญ่ที่สุดในมูร์มันส์กลงทุนสร้างด้วยตัวเอง หลังจากที่วางแผนมานานกว่า 3 ปี ในพื้นที่ location ที่พิเศษสุดสำหรับการชมแสงเหนือสวยกว่าใคร เรียกว่าเป็น manmade area ที่เลือกสรรมาด้วยประสบการณ์ล่าแสงนับครั้งไม่ถ้วนของทีมงานเค้าเอง ซึ่งเคทได้รับเชิญให้ไปรีวิวให้เห็นทุกมุมค่ะ
https://auroravillage.info/
2. Russkaya Laplandia กระท่อมริมทะเลสาบ Lovozero อันสวยงาม และเลื่องชื่อในเรื่องจุดชมแสงเหนือที่น่าหลงไหลและสวยงามอลังการมากที่สุดแห่งหนึ่งของมูร์มันส์ก
https://www.tury.ru/hotel/id/97073-russkaya-laplandiya-tourist-base-lovozero-selo-russia#photos
เมื่อสรุปแผนการเดินทางเรียบร้อย พวกเราผู้ร่วมทริปทั้ง 24 คนก็เตรียมตัวแบบพร้อมยิ่งกว่าพร้อมเรื่องกันหนาวไว้อย่างดี เพราะก่อนไปดูพยากรณ์แล้วว่าจะไปเจอ -30 องศาเซลเซียสกันเลยจร้า บรื้อออออออ . หนาวววววววว สยองงงงงงงงงงงงงง
เคทขอข้ามการไปเที่ยวเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและมอสโกไปเพราะเดี๋ยวจะยาวไปนะจ้ะ หลังจากรอ . ร้อ . รอ .ก็มาถึงวันออกเดินทางค่ะ
ข้ามมาถึง 1 มกราคม 2561 เราก็มาถึงเมืองมูร์มันส์ก หัวเมืองใหญ่ทางเหนือของรัสเซียที่มีภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และความเป็นอยู่คล้ายยุโรป มากๆเนื่องจากอยู่ติดกับฟินแลนด์และนอร์เวย์แค่ขับรถไปสักชั่วโมงเองไงล่ะ
ขอเล่าก่อนว่า พยากรณ์ค่าแสงเหนือที่เคทดูมา คืนวันที่ 1 มกราคม 2561 วันเริ่มต้นของปีมีค่าแรงถึง KP5 แค่นั้นก็ทำให้พวกเราทุกคนหัวใจพองตัวเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังที่จะได้นอนชมแสงเหนือในเต้นท์นอนเหมือนที่ฝันไว้ พร้อมเก็บภาพแสงเหนือแรกของปีมาฝากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ อีกทั้งเมื่อคืนสุดท้ายของปี ได้รับทราบข่าวจาก Mr. Oleg-Visit Murmansk ว่าที่ Aurora Village แสงเหนือเต็มท้องฟ้า งดงามมากมายตามรูปนี้ค่ะ
ดังนั้นตั้งแต่ขึ้นเครื่องบินจากเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก เคทไม่กล้าแม้แต่หลับตา เพราะกลัวว่าจะพลาดชมแสงเหนือจากฟากฟ้า 555 บ้าเห่อมากๆ จนลืมคิดไปว่าแค่ทุ่มนึงไม่สามารถเห็นแสงเหนือได้ มานึกได้ตอนลงเครื่องแล้วอ่ะสิ
ค่าพยากรณ์แสงเหนือ ถ้าค่า KP ยิ่งสูง หมายถึงความแรงของแสงเหนือยิ่งมากค่ะ
ในที่สุดเคทก็ไม่เห็นแสงเหนือใดๆจากบนฟ้าฟากค่ะ แหมอุตส่าห์นั่งจ้องมองแทบแย่ 555
และแล้วเครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบินมูร์มันส์กค่ะ สนามบินเล็กๆที่ฝั่งขาเข้ามีแต่สายพานรับกระเป๋า และไกด์ได้รับอนุญาตให้เดินเข้ามารับลูกทัวร์ได้ แล้วถ้าเรามัวแต่ไปเข้าห้องน้ำชักช้า เจ้าหน้าที่สนามบินจะมาไล่ค่ะ ขอบอกว่าเค้าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยแม้แต่น้อยนิดนะคะ คณะของเราไปกันตั้ง 24 คนรอเข้าห้องน้ำที่มีอยู่น้อยนิดก็เสียเวลาเป็นชั่วโมง เที่ยวนี้โดนดุเลยค่ะ ฝากด้วยค่ะก่อนลงจากเครื่องเข้าห้องน้ำให้เสร็จเลยจะดีที่สุดค่ะ สนามบินขาเข้าเค้าเล็กมากจริงๆค่ะ
จากนั้นเราจะไปเยือน Aurora Village ที่พักแห่งใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อให้พวกเราได้ไปเฝ้าคอยการมาเยือนของแสงเหนือ (aurora) ได้กันทั้งคืน ไร้ข้อจำกัดใดๆเหมือนที่ผ่านๆมา นอกจากนั้นจะพาพวกเราไปจัดปาร์ตี้ต้อนรับปีใหม่ (New Year Party) ในสถานที่ส่วนตัวที่สุดพิเศษ ให้เราทำกิจกรรมสนุกๆร่วมกันได้ทั้งวันทั้งคืน แถมรอชมอัศจรรย์แสงเหนือที่พาดผ่านมุมใดมุมหนึ่งของบ้าน ซึ่งติดกับทะเลสาบธรรมชาติ ภาพที่เราได้ชมงดงามเหนือคำบรรยายใดๆ แต่ตอนนี้คือเวลา 20.00 น ของช่วงเวลาของ "Polar night" คือกลางวันจะสว่างแค่ 2-3 ชั่วโมงค่ะ ทำให้ทางที่เราจะไป Aurora Village มีสภาพมืดมากๆ
รถบัสที่มารับและบริการพวกเราตลอดทริปนี้ค่ะ สะดวก สบายค่ะ
เราเดินทางไปประมาณ 40 นาทีได้ค่ะ ในรถมีหลายๆคนขอให้คนขับ Audrey เปิดหน้าต่างหรือเปิดแอร์ เพราะรู้สึกว่าร้อนกับเสื้อผ้าที่ใส่กันมาหนาและหลายชั้น แต่ได้รับคำแนะนำว่า อย่าทำเช่นนั้น ให้ร่างกายค่อยๆปรับตัวดีกว่า สักพักจะเย็นขึ้นเอง 555 งงเด้ๆๆ คนไทยร้อนกว่าคนท้องถิ่นนะจ้ะ ร่างกายมนุษย์นี้น่าอัศจรรย์ไหมล่ะคะ คนเมืองร้อนแต่ปรับตัวอยุ่ในสภาพอากาศหนาวเย็นได้เองค่า เล็กๆน้อยๆแต่ก็หวังว่าเป็นประโยชน์กันนะคะ
และแล้วรถบัสของพวกเราก็ถึงปากทางเข้าไปสู่ Aurora Village ซึ่งรถใหญ่เข้าไปไม่ได้ ทาง Oleg ต้องเตรียมรถขน 3 คัน ขนคนก่อน แล้วขนของไปให้ค่ะ เมื่อพวกเรามาถึงที่พักแล้ว ต้องตะลึงกับความสวยงามของเต้นท์แต่ละหลังที่ตั้งตระหง่าน แล้วมีด้านนึงใสจนเห็นออกไปข้างนอกได้จริงๆ มันใหญ่กว่าที่เราคิดมากค่ะ ในเต้นท์ถูกจัดอย่างพิถีพิถัน มีการทำพื้นที่เป็นชั้นลอยไว้นอนได้อีก 2 คนทำให้ไม่รู้สึกคับแคบสำหรับการพัก 4 คนค่ะ ในเต้นท์เรื่องเครื่องทำความร้อนอาจจะยังไม่เรียบร้อยดีนัก แต่ก็มีการเตรียมเตาผิงแบบ moveable มาช่วยให้เราอบอุ่นได้ แต่เนื่องจากอากาศหนาวมาก -10 จึงทำให้คนไทยขี้ร้อนอย่างพวกเรา ต้องใส่เสื้อกันหนาวเพิ่มกันเลยค่ะ 555
เต้นท์พักทั้งหมดมี 6 หลังนะคะ พักได้หลังละ 4 ท่าน ดังนั้น คืนนี้กลุ่มของเราเหมาทั้งหมดค่า 555 มีคนอยากมาเที่ยวพักมากมาย ต้องจองก่อนล่วงหน้ายาวๆนะคะ ขอบอกไว้เลยจร้า ตอนที่พวกเราไป คือ เค้าเพิ่งสร้างเต้นท์หลังที่ 6 เสร็จพร้อมให้เข้าพักได้ตอน 5 โมงเย็นนะจ้ะ พวกเรามาถึง 20.00 น. เรียกว่าเปิดริบบิ้นกันเลยค่ะ
Oleg เองก็ตื่นเต้นมากๆเลยนะคะ เค้าน่ารักมากๆมาต้อนรับพวกเรา 24 คนกับภรรยาและลูกสาว นอกเหนือจากมีการเปิดแชมเปญต้อนรับบนรถบัสแล้วยังมีบาร์บีคิว แถมลูกสาวเดินมาช่วยเสิร์ฟให้พวกเราด้วยค่ะ บาร์บีคิวมีทั้งเนื้อปลา เนื้อหมู เนื้อไก่เลยค่ะ มีเพื่อนที่เป็นมังสวิรัตทานไข่ได้ ทางภรรยา Oleg ต้มไข่ เอาสลัดมาให้ทานด้วยค่ะ เยี่ยมจริงๆเลยค่ะ
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ Mr. Oleg และครอบครัวที่น่ารักค่ะ
เคทถ่ายรูปที่ระลึกกับ Mr. Oleg และ ผู้ดูแลที่พักแห่งนี้ค่ะ
จุดบริการบาร์บีคิวค่ะ
ด้านในที่เป้็นชั้นลอยสำหรับนอนพักผ่อนได้อีก 2 ท่านค่ะ
สิ่งนึงที่อยากชื่นชมและขอบคุณทาง Mr. Oleg มากๆเลยก็คือ ตลอดมาเค้าตั้งใจมากๆที่จะเชิญให้เคทได้ไปเยี่ยมชม รีวิว Aurora Village ซึ่งเค้าได้เริ่มโครงการมาแล้วกว่า 3 ปี และไม่เคยมีใครเชื่อว่าเค้าจะทำได้ค่ะ เนื่องจากข้อจำกัดทุกๆอย่างของรัสเซียที่ไม่อนุญาตให้ก่อสร้างได้ง่าย ครั้งนึงได้ฟังทัศนคติของไกด์ชาวรัสเซียอีกท่านนึง เมื่อตอน Mr. Oleg มาประเทศไทย แล้วมาเปิด surprise เรื่องนี้ผ่านการไลฟ์สดผ่านเฟสบุคกลุ่มทริปตามล่าหาแสงเหนือรัสเซียของเคทว่าเค้าจะสร้างเต้นท์ที่จะสามารถนอนชมแสงเหนือไว้ ณ จุดชมแสงเหนือที่สวยมากๆ ติดทะเลสาบ ทางไปเทอริเบอก้า ซึ่งหลังจากนั้นมีแต่คนถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่พักแห่งนี้ ตอนนั้นเดือนสิงหาคม 2017 นะคะ คงมีคนไทยจำนวนมากไปถามถึงที่พักแห่งนี้กับไกด์รัสเซียอีกท่านนึง เคทยังจำได้ดีที่เค้าเขียนตอบไว้ในเพจค่ะ สรุปได้ว่าถ้ามีใครสามารถที่จะสร้างที่พักแห่งใหม่แบบนี้ ที่เมืองนี้ของรัสเซียได้ก็เป็นอะไรที่วิเศษมาก แต่เค้าไม่คิดว่าจะเป็นไปได้เลย เพราะการก่อสร้าง ยิ่งการขนส่งวัสดุต่างๆจากต่างประเทศเข้ามาเพื่อก่อสร้างนั้นเป็นสิ่งต้องห้าม
ต้องชื่นชม Mr. Oleg มากๆเลยนะคะที่ทำมันขึ้นมาได้จริงๆ เคทยังจำได้ว่า Oleg ถามว่าจะตั้งชื่ออะไรดี เคทเองนี่แหละเสนอชื่อ Aurora Village 555 จึงเป็นที่มาที่เรามีสัญญิง สัญญาใจกันว่า เค้าจะเชิญเคทมารีวิว พล่ามเยอะเลยค่ะ แต่เป็นการลงทุนที่น่าให้กำลังใจมากๆจริงๆค่ะ ตอนที่เราไปถึง อะไรๆก็ยังไม่สมบูรณ์แบบนะคะ แต่ด้วยความเอาใจใส่ ความตั้งใจของ Oleg ที่มารับถึงสนามบิน มาส่ง เทียวมาเทียวไปมาดูพวกเราหลายครั้งเลยค่ะคืนนั้น สั่งลูกน้องให้เติมฟืน เติมไฟ เตรียมบาร์บีคิว แถมมีไวน์ไว้ให้พวกเรา เต้นท์ละ 1 ขวด เพื่อเป็นอภินันทนาการ ขอบอกว่ารสชาดดีมากๆด้วยค่ะ
ถ้าเจอในซุปเปอร์มาร์เก็ตจะรีบซื้อไว้ทันที สัญญาค่ะ 555
เคทเองก็ค่อนข้างตื่นเต้นมากๆ เพราะใจอยากได้ภาพแสงเหนือในวิว Aurora village จริงๆ แต่โชคร้าย หิมะตก ฟ้าปิด เคทเดินไปเดินมาไม่หลับไม่นอนจนตี 2 เลยค่ะ ในที่สุดก็ต้องขอยอมแพ้ไปพักร่างจนเช้า
พอเช้ามาสะดุ้งตื่น ออกไปข้างนอก โอโห!! สุด amazing สวยงามมากๆเลยค่ะ เพราะเมื่อคืนที่มาถึงก็มืดมากๆเราไม่เห็นเลยว่ารอบข้างมีอะไรบ้าง
ทะเลสาบอยู่ติดกับที่พักเราเลย แถมด้วยบรรยากาศป่าทุนดรา ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ เห็นเป็นสีขาว สลับดำ เป็นความสวยงามทางธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์เหลือเกิน
เสียดายไม่ได้ถ่ายบรรยากาศรอบๆมาให้ชม เพราะเราต้องเดินทางต่อไปยัง หมู่บ้านโลโวซีโร่ เพื่อเดินทางเข้าไปสู่ที่พักกลางทะเลสาบโลโวซีโร่ เพื่อไปรอชมแสงเหนือในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวซามี ชาวเผ่าโบราณแห่งเดียวที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ภายใต้สภาวะแวดล้อมที่เลวร้ายได้เพียงเผ่าเดียวของโลกนั่นเอง ไปกันค่ะ ติดตามตอน 2 กดลิงค์
https://ppantip.com/topic/38764076
[CR] ผจญภัยแสงเหนือรัสเซีย แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ตอน 1
เมื่อคิดได้ คือต้องรีบทำ สรุปคุณเคทก็ได้จัดทริปพิเศษขึ้นอีกครั้ง โดยตั้งชื่อเกร๋ไกร๋ว่า ทริปตามล่าหาแสงเหนือรัสเซีย ตอน New Year Aurora Greeting เดินทาง 30 ธ.ค. 2017-7 ม.ค.2018 ซึ่งเคทได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าครั้งนี้เราเน้นไปพักในสถานที่ชมแสงเหนือที่สวยงามกว่าใคร เพื่อนอนรอชมแสงเหนือได้เลยล้วนๆ นั่นก็หมายความว่าพวกเราจะไม่ต้องออกล่า แค่มุดออกมาจากที่นอน หรือจะนอนชมแสงอยู่ในเตียงอย่างอบอุ่น มันจะสุขแค่ไหนน้อ นั่นคือภาพในความฝันตอนที่เคทวางแผนการเดินทางนั่นเอง ในที่สุดก็สรุปสถานที่ที่เราจะไปนอนชมแสงเหนือได้ดังนี้
1. Aurora Village เต้นท์ชมแสงเหนือที่เคทได้ช่วยเสนอตั้งชื่อนี้ ที่นี้ถือเป็น landmark แห่งใหม่ที่ทาง Mr. Oleg แห่ง Visit Murmansk เจ้าของบริษัททัวร์ที่ดีและใหญ่ที่สุดในมูร์มันส์กลงทุนสร้างด้วยตัวเอง หลังจากที่วางแผนมานานกว่า 3 ปี ในพื้นที่ location ที่พิเศษสุดสำหรับการชมแสงเหนือสวยกว่าใคร เรียกว่าเป็น manmade area ที่เลือกสรรมาด้วยประสบการณ์ล่าแสงนับครั้งไม่ถ้วนของทีมงานเค้าเอง ซึ่งเคทได้รับเชิญให้ไปรีวิวให้เห็นทุกมุมค่ะ https://auroravillage.info/
2. Russkaya Laplandia กระท่อมริมทะเลสาบ Lovozero อันสวยงาม และเลื่องชื่อในเรื่องจุดชมแสงเหนือที่น่าหลงไหลและสวยงามอลังการมากที่สุดแห่งหนึ่งของมูร์มันส์ก https://www.tury.ru/hotel/id/97073-russkaya-laplandiya-tourist-base-lovozero-selo-russia#photos
เมื่อสรุปแผนการเดินทางเรียบร้อย พวกเราผู้ร่วมทริปทั้ง 24 คนก็เตรียมตัวแบบพร้อมยิ่งกว่าพร้อมเรื่องกันหนาวไว้อย่างดี เพราะก่อนไปดูพยากรณ์แล้วว่าจะไปเจอ -30 องศาเซลเซียสกันเลยจร้า บรื้อออออออ . หนาวววววววว สยองงงงงงงงงงงงงง
เคทขอข้ามการไปเที่ยวเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและมอสโกไปเพราะเดี๋ยวจะยาวไปนะจ้ะ หลังจากรอ . ร้อ . รอ .ก็มาถึงวันออกเดินทางค่ะ
ข้ามมาถึง 1 มกราคม 2561 เราก็มาถึงเมืองมูร์มันส์ก หัวเมืองใหญ่ทางเหนือของรัสเซียที่มีภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และความเป็นอยู่คล้ายยุโรป มากๆเนื่องจากอยู่ติดกับฟินแลนด์และนอร์เวย์แค่ขับรถไปสักชั่วโมงเองไงล่ะ
ขอเล่าก่อนว่า พยากรณ์ค่าแสงเหนือที่เคทดูมา คืนวันที่ 1 มกราคม 2561 วันเริ่มต้นของปีมีค่าแรงถึง KP5 แค่นั้นก็ทำให้พวกเราทุกคนหัวใจพองตัวเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังที่จะได้นอนชมแสงเหนือในเต้นท์นอนเหมือนที่ฝันไว้ พร้อมเก็บภาพแสงเหนือแรกของปีมาฝากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ อีกทั้งเมื่อคืนสุดท้ายของปี ได้รับทราบข่าวจาก Mr. Oleg-Visit Murmansk ว่าที่ Aurora Village แสงเหนือเต็มท้องฟ้า งดงามมากมายตามรูปนี้ค่ะ
ดังนั้นตั้งแต่ขึ้นเครื่องบินจากเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก เคทไม่กล้าแม้แต่หลับตา เพราะกลัวว่าจะพลาดชมแสงเหนือจากฟากฟ้า 555 บ้าเห่อมากๆ จนลืมคิดไปว่าแค่ทุ่มนึงไม่สามารถเห็นแสงเหนือได้ มานึกได้ตอนลงเครื่องแล้วอ่ะสิ
ค่าพยากรณ์แสงเหนือ ถ้าค่า KP ยิ่งสูง หมายถึงความแรงของแสงเหนือยิ่งมากค่ะ
ในที่สุดเคทก็ไม่เห็นแสงเหนือใดๆจากบนฟ้าฟากค่ะ แหมอุตส่าห์นั่งจ้องมองแทบแย่ 555
และแล้วเครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบินมูร์มันส์กค่ะ สนามบินเล็กๆที่ฝั่งขาเข้ามีแต่สายพานรับกระเป๋า และไกด์ได้รับอนุญาตให้เดินเข้ามารับลูกทัวร์ได้ แล้วถ้าเรามัวแต่ไปเข้าห้องน้ำชักช้า เจ้าหน้าที่สนามบินจะมาไล่ค่ะ ขอบอกว่าเค้าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยแม้แต่น้อยนิดนะคะ คณะของเราไปกันตั้ง 24 คนรอเข้าห้องน้ำที่มีอยู่น้อยนิดก็เสียเวลาเป็นชั่วโมง เที่ยวนี้โดนดุเลยค่ะ ฝากด้วยค่ะก่อนลงจากเครื่องเข้าห้องน้ำให้เสร็จเลยจะดีที่สุดค่ะ สนามบินขาเข้าเค้าเล็กมากจริงๆค่ะ
จากนั้นเราจะไปเยือน Aurora Village ที่พักแห่งใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อให้พวกเราได้ไปเฝ้าคอยการมาเยือนของแสงเหนือ (aurora) ได้กันทั้งคืน ไร้ข้อจำกัดใดๆเหมือนที่ผ่านๆมา นอกจากนั้นจะพาพวกเราไปจัดปาร์ตี้ต้อนรับปีใหม่ (New Year Party) ในสถานที่ส่วนตัวที่สุดพิเศษ ให้เราทำกิจกรรมสนุกๆร่วมกันได้ทั้งวันทั้งคืน แถมรอชมอัศจรรย์แสงเหนือที่พาดผ่านมุมใดมุมหนึ่งของบ้าน ซึ่งติดกับทะเลสาบธรรมชาติ ภาพที่เราได้ชมงดงามเหนือคำบรรยายใดๆ แต่ตอนนี้คือเวลา 20.00 น ของช่วงเวลาของ "Polar night" คือกลางวันจะสว่างแค่ 2-3 ชั่วโมงค่ะ ทำให้ทางที่เราจะไป Aurora Village มีสภาพมืดมากๆ
รถบัสที่มารับและบริการพวกเราตลอดทริปนี้ค่ะ สะดวก สบายค่ะ
เราเดินทางไปประมาณ 40 นาทีได้ค่ะ ในรถมีหลายๆคนขอให้คนขับ Audrey เปิดหน้าต่างหรือเปิดแอร์ เพราะรู้สึกว่าร้อนกับเสื้อผ้าที่ใส่กันมาหนาและหลายชั้น แต่ได้รับคำแนะนำว่า อย่าทำเช่นนั้น ให้ร่างกายค่อยๆปรับตัวดีกว่า สักพักจะเย็นขึ้นเอง 555 งงเด้ๆๆ คนไทยร้อนกว่าคนท้องถิ่นนะจ้ะ ร่างกายมนุษย์นี้น่าอัศจรรย์ไหมล่ะคะ คนเมืองร้อนแต่ปรับตัวอยุ่ในสภาพอากาศหนาวเย็นได้เองค่า เล็กๆน้อยๆแต่ก็หวังว่าเป็นประโยชน์กันนะคะ
และแล้วรถบัสของพวกเราก็ถึงปากทางเข้าไปสู่ Aurora Village ซึ่งรถใหญ่เข้าไปไม่ได้ ทาง Oleg ต้องเตรียมรถขน 3 คัน ขนคนก่อน แล้วขนของไปให้ค่ะ เมื่อพวกเรามาถึงที่พักแล้ว ต้องตะลึงกับความสวยงามของเต้นท์แต่ละหลังที่ตั้งตระหง่าน แล้วมีด้านนึงใสจนเห็นออกไปข้างนอกได้จริงๆ มันใหญ่กว่าที่เราคิดมากค่ะ ในเต้นท์ถูกจัดอย่างพิถีพิถัน มีการทำพื้นที่เป็นชั้นลอยไว้นอนได้อีก 2 คนทำให้ไม่รู้สึกคับแคบสำหรับการพัก 4 คนค่ะ ในเต้นท์เรื่องเครื่องทำความร้อนอาจจะยังไม่เรียบร้อยดีนัก แต่ก็มีการเตรียมเตาผิงแบบ moveable มาช่วยให้เราอบอุ่นได้ แต่เนื่องจากอากาศหนาวมาก -10 จึงทำให้คนไทยขี้ร้อนอย่างพวกเรา ต้องใส่เสื้อกันหนาวเพิ่มกันเลยค่ะ 555
เต้นท์พักทั้งหมดมี 6 หลังนะคะ พักได้หลังละ 4 ท่าน ดังนั้น คืนนี้กลุ่มของเราเหมาทั้งหมดค่า 555 มีคนอยากมาเที่ยวพักมากมาย ต้องจองก่อนล่วงหน้ายาวๆนะคะ ขอบอกไว้เลยจร้า ตอนที่พวกเราไป คือ เค้าเพิ่งสร้างเต้นท์หลังที่ 6 เสร็จพร้อมให้เข้าพักได้ตอน 5 โมงเย็นนะจ้ะ พวกเรามาถึง 20.00 น. เรียกว่าเปิดริบบิ้นกันเลยค่ะ
Oleg เองก็ตื่นเต้นมากๆเลยนะคะ เค้าน่ารักมากๆมาต้อนรับพวกเรา 24 คนกับภรรยาและลูกสาว นอกเหนือจากมีการเปิดแชมเปญต้อนรับบนรถบัสแล้วยังมีบาร์บีคิว แถมลูกสาวเดินมาช่วยเสิร์ฟให้พวกเราด้วยค่ะ บาร์บีคิวมีทั้งเนื้อปลา เนื้อหมู เนื้อไก่เลยค่ะ มีเพื่อนที่เป็นมังสวิรัตทานไข่ได้ ทางภรรยา Oleg ต้มไข่ เอาสลัดมาให้ทานด้วยค่ะ เยี่ยมจริงๆเลยค่ะ
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ Mr. Oleg และครอบครัวที่น่ารักค่ะ
เคทถ่ายรูปที่ระลึกกับ Mr. Oleg และ ผู้ดูแลที่พักแห่งนี้ค่ะ
จุดบริการบาร์บีคิวค่ะ
ด้านในที่เป้็นชั้นลอยสำหรับนอนพักผ่อนได้อีก 2 ท่านค่ะ
สิ่งนึงที่อยากชื่นชมและขอบคุณทาง Mr. Oleg มากๆเลยก็คือ ตลอดมาเค้าตั้งใจมากๆที่จะเชิญให้เคทได้ไปเยี่ยมชม รีวิว Aurora Village ซึ่งเค้าได้เริ่มโครงการมาแล้วกว่า 3 ปี และไม่เคยมีใครเชื่อว่าเค้าจะทำได้ค่ะ เนื่องจากข้อจำกัดทุกๆอย่างของรัสเซียที่ไม่อนุญาตให้ก่อสร้างได้ง่าย ครั้งนึงได้ฟังทัศนคติของไกด์ชาวรัสเซียอีกท่านนึง เมื่อตอน Mr. Oleg มาประเทศไทย แล้วมาเปิด surprise เรื่องนี้ผ่านการไลฟ์สดผ่านเฟสบุคกลุ่มทริปตามล่าหาแสงเหนือรัสเซียของเคทว่าเค้าจะสร้างเต้นท์ที่จะสามารถนอนชมแสงเหนือไว้ ณ จุดชมแสงเหนือที่สวยมากๆ ติดทะเลสาบ ทางไปเทอริเบอก้า ซึ่งหลังจากนั้นมีแต่คนถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่พักแห่งนี้ ตอนนั้นเดือนสิงหาคม 2017 นะคะ คงมีคนไทยจำนวนมากไปถามถึงที่พักแห่งนี้กับไกด์รัสเซียอีกท่านนึง เคทยังจำได้ดีที่เค้าเขียนตอบไว้ในเพจค่ะ สรุปได้ว่าถ้ามีใครสามารถที่จะสร้างที่พักแห่งใหม่แบบนี้ ที่เมืองนี้ของรัสเซียได้ก็เป็นอะไรที่วิเศษมาก แต่เค้าไม่คิดว่าจะเป็นไปได้เลย เพราะการก่อสร้าง ยิ่งการขนส่งวัสดุต่างๆจากต่างประเทศเข้ามาเพื่อก่อสร้างนั้นเป็นสิ่งต้องห้าม
ต้องชื่นชม Mr. Oleg มากๆเลยนะคะที่ทำมันขึ้นมาได้จริงๆ เคทยังจำได้ว่า Oleg ถามว่าจะตั้งชื่ออะไรดี เคทเองนี่แหละเสนอชื่อ Aurora Village 555 จึงเป็นที่มาที่เรามีสัญญิง สัญญาใจกันว่า เค้าจะเชิญเคทมารีวิว พล่ามเยอะเลยค่ะ แต่เป็นการลงทุนที่น่าให้กำลังใจมากๆจริงๆค่ะ ตอนที่เราไปถึง อะไรๆก็ยังไม่สมบูรณ์แบบนะคะ แต่ด้วยความเอาใจใส่ ความตั้งใจของ Oleg ที่มารับถึงสนามบิน มาส่ง เทียวมาเทียวไปมาดูพวกเราหลายครั้งเลยค่ะคืนนั้น สั่งลูกน้องให้เติมฟืน เติมไฟ เตรียมบาร์บีคิว แถมมีไวน์ไว้ให้พวกเรา เต้นท์ละ 1 ขวด เพื่อเป็นอภินันทนาการ ขอบอกว่ารสชาดดีมากๆด้วยค่ะ
ถ้าเจอในซุปเปอร์มาร์เก็ตจะรีบซื้อไว้ทันที สัญญาค่ะ 555
เคทเองก็ค่อนข้างตื่นเต้นมากๆ เพราะใจอยากได้ภาพแสงเหนือในวิว Aurora village จริงๆ แต่โชคร้าย หิมะตก ฟ้าปิด เคทเดินไปเดินมาไม่หลับไม่นอนจนตี 2 เลยค่ะ ในที่สุดก็ต้องขอยอมแพ้ไปพักร่างจนเช้า
พอเช้ามาสะดุ้งตื่น ออกไปข้างนอก โอโห!! สุด amazing สวยงามมากๆเลยค่ะ เพราะเมื่อคืนที่มาถึงก็มืดมากๆเราไม่เห็นเลยว่ารอบข้างมีอะไรบ้าง
ทะเลสาบอยู่ติดกับที่พักเราเลย แถมด้วยบรรยากาศป่าทุนดรา ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ เห็นเป็นสีขาว สลับดำ เป็นความสวยงามทางธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์เหลือเกิน
เสียดายไม่ได้ถ่ายบรรยากาศรอบๆมาให้ชม เพราะเราต้องเดินทางต่อไปยัง หมู่บ้านโลโวซีโร่ เพื่อเดินทางเข้าไปสู่ที่พักกลางทะเลสาบโลโวซีโร่ เพื่อไปรอชมแสงเหนือในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวซามี ชาวเผ่าโบราณแห่งเดียวที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ภายใต้สภาวะแวดล้อมที่เลวร้ายได้เพียงเผ่าเดียวของโลกนั่นเอง ไปกันค่ะ ติดตามตอน 2 กดลิงค์ https://ppantip.com/topic/38764076
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น