[CR] Mt. Rinjani trekking รินจานีใครไม่ไหวแผ่นดินไหว



สวัสดีค่า

กระทู้แรก ประเดิมล็อคอินใหม่ เพราะลืมรหัสล็อคอินเก่าแถมลืมอีเมลที่เคยใช้สมัครไปอีก

กระทู้นี้ขอแชร์ประสบการณ์การไปเดิน Trekking ที่ราชินีแห่งลอมบอก ที่เกาะลอมบอก ประเทศอินโดนีเซีย

รีวิวนี้เดิมตั้งใจจะมาเขียน ตั้งแต่กลับมา แต่ยุ่งกับงานจนผลัดมาเรื่อยๆ
ปะกอบกับรินจานีก็ปิดเพราะแผ่นดิวไหว จนผ่านไปจะครบปีแล้ว
ความทรงจำก็เริ่มเลืองลาง รูปก็เริ่มหายไปบ้างอะไรบ้าง

วันนี้เราเห็นเอเจ้นที่เราใช้บริการโพสต์ว่ารินจานีอาจจะกลับมาเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวอีกครั้งเร็วๆ นี้
แต่ขึ้นไปตรงรอบๆ ปล่อง ไม่ได้ขึ้น Summit กับลงไปที่ทะเลสาป เลยตั้งใจใช้วันหยุดสงกราน์เขียนให้จบ
เผื่อมีใครสนใจไปเดินที่รินจานีเร็วๆ นี้

เราไปช่วงวันหยุดยาว 27 - 29 กรกฎาคมปีที่แล้ว เป็นช่วงที่คนไทยไปเยอะมาก บรรยากาศสนุกสนานเหมือนเดินป่าอยู่เมืองไทย
ซึ่งช่วงนั้นเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ครั้งแรกในรอบหลาย 10 ปีของตรงนั้น ซึ่งคนไทยไปติดอยู่ที่ทะเลสาปเยอะมาก
และรินจานีก็ปิดให้เดินตั้งแต่นั้น สงสารชาวบ้านแถวนั้นที่ต้องขาดรายได้ เพราะเกือบทุกครอบครัวดำรงชีพด้วยการท่องเที่ยวรินจานีทั้งนั้น
ทั้งเปิดบริษัท เป็นไกด์ ลูกหาบ เปิดร้านอาหาร ภาวนาให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมเร็ววัน เราเองก็อยากกลับไปแก้มือ เพื่อพิชิตยอดให้ได้

การเตรียมตัวไปรินจานี

สายการบิน
ตอนนี้ยังไม่มี่เที่ยวบินตรงจากกรุงเทพไปถึงลอมบอกนะคะ
จะสามารถบินไปเปลี่ยนเครื่อง อย่าง Air Asia ที่กัวลาลัมเปอร์, Lion Air ที่จาการ์ตา หรือบินไปบาหลีแล้วต่อเครื่องไปเกาะลอมบอกได้ค่ะ

ส่วนเราจะไปเที่ยวบาหลีต่อ ราคาตั๋วเครื่องบินช่วงเทศกาลก็แพงสุด ๆ 
เลยซื้อตั๋วไปกลับ กทม - บาหลี ละต่อเครื่องไปลอมบอกอีก 1 ตุ้บ

เราเลือกบิน Singapore Airline เพราะรวมราคานี่นั่น ถูกกว่าสายอื่น แต่ข้อเสียคือ เสียเวลาเดินทางไปเป็นวัน
แต่ Singapore Airline เขามีไฟลท์อื่น ที่บินออกจากกรุงเทพช่วงกลางคืน มาถึงบาหลีตอนเช้าก็มีนะคะ แต่วันเราไม่อำนวย

แล้วตอนเช้าต่อ Lion Air ไปลอมบอกค่ะ จากบาหลีไปลอมบอก ใช้เวลาบินแค่ 25 นาทีเองค่ะ แปปเดียวมากๆ
หรือถ้าใครสนใจสั่งเรือ Ferry จากบาหลีไปลอมบอกก็ได้ค่ะ ใช้เวลาตั้งแต่ออกจากบ้านถึงเท่าเรืออีกฝั่ง เบาๆ แค่11 ชั่วโมงเอง
ช่วงที่เราคลื่นสูงเรือเร็วมาบาหลีงดวิ่ง และแผ่นดินไหวคนเลยบินออกจากลอมบอกเยอะ ตั๋วเครื่องบินเต็ม
เราเลยได้นั่งเรือเฟอร์รี่จากลอมบอกกลับบาหลี ทรมาณสุดๆ  เดี๊ยวเราจะมารีวิวในรีวิวหน้าค่ะ

เอเจ้นนำเที่ยว
ที่รินจานีมีเอเจ้นนำเที่ยวเยอะมากค่ะ เราอ่านรีวิวใน Tripadvisors แล้วก็ลองคุยไป 4-5 เจ้า
มีตั้งแต่ราคาทริป 3 วัน 2 คืน 3,000 บาท ยัน 10,000 บาท
ซึ่งแน่นอนการบริการ อาหาร ก็จะแตกต่างกันไป เจ้าที่แพงหน่อยจะมีจะมีเก้าอี้นั่งบนเขาให้
หรือถ้าเราไม่จองไปก่อน เราสามารถไปเดินหาที่หมู่บ้าน Senaru ที่ตั้งของบริษัททัวร์ทั้งหลายได้เลยค่ะ
เราสามารถไปจอยกับกลุ่มอื่นได้ด้วยค่ะ ยิ่งไปเยอะยิ่งได้ราคาถูก

ส่วนเราตอนแรกตัดสินใจใช้เจ้านึง ราคาประมาณ 245 USD ต่อคน แต่เขาตอบอีเมลกับ whatapps เราช้ามากค่ะ
บางที 2 อาทิตย์ยังไม่ตอบเลย ใกล้จะไปแล้ว ยังนัดแนะอะไรไม่ได้ จนต้องถอดใจหาเจ้าใหม่กระทันหัน
เราลองดูรีวีวในพันทิปกับ Tripadvisors มีคนรีวิว yannick trekker อยู่บ้าง
เลยลองอีเมลไปคุยกับเขาดู ซึ่ง yannick ให้ราคาต่อหัวประมาณ 150 USD
ราคาโอเค รีวิวพอใช้ สามารถติดต่อผ่านทาง whatapps ได้ตลอด เราเลยเลือก  yannick trekker
ราคา 150 USD นี้จะรวมรถรับส่งไปกลับสนามบินหรือท่าเรือต่างๆ มีไกด์ 2 คน
ลูกหาบ 6 คน แบกของส่วนรวม พวกเตนท์  ถุงนอน แผ่นรองนอน อาหารจะทำให้เราทุกมื้อ
ถ้าใครจะจ้างลูกหาบแบกของส่วนตัวเพิ่มก็ต้องจ่ายอีก 20 USD แบกให้เราได้ได้ประมาณ 20 กก. ไปกันหลายคนก็แชร์ๆ กัน

แผนการเดิน
ที่รินจานีจะมีแผนให้เลือกหลายแบบ ทั้งเดิน 2 วัน 1 คืน / 3 วัน 2 คืน / 4 วัน 3 คืน ยันอยู่เป็นอาทิตย์ก็มี
เราเลือกแผน 3 วัน 2 คืน เพราะเพื่อนในกลุ่มต้องรีบกลับ ถ้าคนที่เลือก 4 วัน 3 คืนจะได้นอนที่ริมทะเลสาป 1 คืน
ต่อไปหากรินจานีเปิดให้เดินได้หมด เราแนะนำว่าใครมีเวลาเหลือให้เดิน 4 วัน 3 คืน จะเดินสบายกว่าและไม่ต้องรีบเดินมาก
นอกจากวันที่จะเดินแล้ว ก็จะมีให้เลือกขึ้นจาก 2 ฝั่ง คือฝั่ง Sembalun กับ ฝั่ง Senaru

ฝั่งSembalun
ทางฝั่งนี้จะเป็นทุ่งหญ้า ช่วงตั้งแต่จุดเริ่มเดิมไป Pos 1 กับ Pos 2 ทางไม่ชันมาก มีเนินพอให้เดินเหนื่อยเล็กน้อย
ข้อเสียคือ แดดจะร้อนมากกกกกกกกกกก ไม่มีต้นไม้ให้หลบ และฝุ่นเยอะมาก คนแพ้ฝุ่นนี่แย่เลย 
หลังจาก Pos2 ไป Pos3 ถึง Pos 4 ยันจุดตั้งแคมป์จะเป็นทางขึ้นเขาอย่างเดียว เหนื่อยเอาเรื่องๆ เลย
ฝั่งนี้จะขึ้น Summit ตั้งแต่คืนแรก

ใครอยากประหยัดพลังงาน ฝั่งนี้จะมีมอเตอร์ไซด์รับจ้างให้บริการ
ตั้งแต่จุดเริ่มเดิม ขี่พาไปถึง Pos 2 ได้เลยนะ ราคาประมาณ 500 บาท 

ฝั่ง Senaru
ทางขึ้นอยู่ตรงหมู่บ้านที่เราพักเลย ระหว่างทางไม่จะร้อนมากเพราะจะมีต้นใม้ร่มเย็นไปตลอดทาง แทบไม่เจอแดดเลย
ข้อเสียคือ ทางจะเป็นแบบเดินขึ้นเขาอย่างเดียว ตั้งแต่จุดเริ่มต้น แทบไม่เจอทางราบเลย เพราะงั้นน่าจะเหนื่อยกว่าอีกฝั่งมากๆ 
ฝั่งนี้จะขึ้น Summit ในคืนที่ 2

นักท่องเที่ยวส่วนมากเลยเลือกขึ้นฝั่ง Sembalun เพราะเดินง่ายกว่าในวันแรก

สภาพอากาศ
อ้างอิงจากช่วงที่เราไปนะคะ เดือนกรกฏาคม ที่เขาว่าเป็นฤดูร้อนและเป็นฤดูท่องเที่ยวของรินจานี จะไม่ค่อยมีเจอฝนตก
ระหว่างเดิน จะเจอหลายสภาพอากาศมาก ช่วงแรกจะเจอแดดร้อนมาก
 หลัง Pos2 จะเดินในหมอก มีละอองฝนโปรยๆ เดินพ้นเมฆขึ้นไปจะเจอแดดอีก

ช่วงใกล้ที่กางเตนท์อากาศจะเริ่มเย็นลง และพอมืด อากาศจะหนาวมาก
ตอนเดินขึ้น Summit อากาศหนาวและลมแรงมาก หนาวแบบบางจุดทนไม่ไหว ต้องไปหลบหลังโขดหิน
เดินไปสักพักจะร้อนเหงื่อออก จะถอดเสื้อก็หนาว แต่งตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
วันที่ 2 และ 3 ก็จะวนไปอยู่อย่างนี้ เสื้อผ้าก็เดี๊ยวใส่เข้าเดี๊ยวถอดออก

อาหาร
อาหารที่ลูกหาบทำให้ ตอนเช้าทุกวันคือ แพนเค้กกล้วยดิบ เบื่อไปเลยทีเดียว จนเช้าวันสุดท้ายต้องขอเปลี่ยนเป็นมาม่าผัด
กลางวันวันแรกเป็น ข้าว ผัดผัก ไก่ทอด วันที่ 2 เราตกลงกับไกด์ว่าไม่ต้องทำ เพราะถ้าหยุดกินจะเดินไม่ทัน
มื้อเย็นวันแรกเป็นแกงกับข้าว รสชาติคล้ายๆ น้ำยากะทิบ้านเราใส่ไข่ต้ม เย็นวันที่ 2 เป็นข้าวผัดไกับไข่เจียว
ในกระเป๋าที่ไกด์จะแบกน้ำเปล่า + Pocari กับขนมขบเคี้ยวให้เราด้วย
ถ้าเลือกบริษัทที่ค่าทัวร์แพงกว่านี้ เขาจะมีลิสต์มาเลยว่าแค่ละมื้อเป็นเมนูอะไร 3 วันอาหารจะไม่ซ้ำเลยและมีของว่างให้อีก 
เราเอาน้ำพริกกระปุกเล็กๆ ไปเผื่อ ช่วยได้เยอะเลย

เสื้อผ้าและอุปกรณ์เดินเขา
เสื้อผ้ากันหนาวแล้วแต่ใครขี้หนาวมาก หนาวน้อย หลักๆ ก็ Base layer , Fleece , Jacket , เสื้อกันลม
ถ้าใครเสื้อไม่กันน้ำ เอาเสื้อกันฝนไปเผื่อด้วยค่ะ 

นอกจากเสื้อผ้ากันหนาว ที่สำคัญก็พวกรองเท้า trekking กับไม้เท้าและไฟฉายคาดหัว
รองเท้า trekking ถ้าเป็นแบบหุ้มข้อจะดีมาก จะช่วยป้องกันขาพลิก และช่วยป้องกันการเดินเตะหิน
เลือกแบบที่ใส่สบายและทดลองใส่เดินก่อนไป จะได้ไม่ไปกัดที่นู่น
รองเท้าผ้าใบก็ไช้เดินได้นะคะ เอาเชือกไปเผื่อด้วย เพราะเห็นหลายคนมีปัญหาพื้นรองเท้าหลุด  

อีกอย่างถ้าใครมี Gaiter กันหิน ก็เอาไปด้วยค่ะ ไว้กันหินเข้ารองเท้า ตอนเดินขึ้น Summit
ไม่มีก็ไม่เป็นไรนะคะ กลุ่มเราก็ไม่มีใครมี คนที่ถึงยอดก็ถึงได้โดยไม่ได้ใช้ค่ะ

ไม้เท้า ถ้าไม่ได้ซื้อไป ที่นู่นมีให้เช่าคู่ละ 5 USD ช่วย support ตอนเดินขึ้นลงได้ดีมาก
ไฟฉายคาดหัวอย่าลืมเด็ดขาด เพราะต้องเอาไว้ใช้ตอนขึ้นยอด

ห้องน้ำบนเขา
ผู้หญิงจะลำบากหน่อย ห้องน้ำจะมีที่ Pos 2 จุดสุดท้าย หลังจากนั้นก็ต้องข้างทาง แต่คนเดินตลอดเวลา ไม่มีที่ให้หยุดพักเลย
ตรงที่กางเตนท์ แต่ละทัวร์จะขุดหลุมแล้วมีผ้าบังให้เรา  ถ่ายเบาพอไหว ถ่ายหนักเกรงใจเพื่อนที่จะเข้าต่อ
เอาทิชชู่เปียกไปเผื่อใช้เช็ดกับเอาไว้เช็ดตัวแทนการอาบน้ำค่ะ ใช้แล้วช่วยกันเก็บใส่ขยะมาทิ้งข้างล่างก็ได้ค่ะ ข้างบนขยะเยอะมาก 

การเตรียมตัวก่อนไป
เราออกกำลังกายโดย วิ่งอาทิตย์ละ 3 - 4 วัน วันละ 5 กิโลกับ Squat วันละ 100 ไป  ก่อนไป ซัก 2 เดือน
ช่วยได้เยอะเรื่องความแข็งแรงของขากับต้นขา ซึ่งโชคดีมากที่ไม่มีปัญหาเรื่องเจ็บต้นขาหรือน่องระเบิดเลย ถ้าเจ็บปวดขึ้นมาคงเดินต่อแทบไม่ไหว

ยังจำตอนไปเดินเขาแรกๆ แล้วเตรียมตัวไม่ไปพอ  ตื่นมาน่องระเบิดกับปวดขาไปหมด เดินต่อแทบไม่ได้ 

นอกจากเรื่องความแข็งแรงแล้ว เราเจอปัญหาเรื่องฝุ่นเยอะ ฝุ่นที่รินจานีคือตลบอบอวนมากๆ 
จนเราหายใจไม่ออก หายใจไม่ทัน ต้องเดินไปหยุดพักไปบ่อยๆ

รายละเอียดค่าใช้จ่าย เราสรุปถึงแค่รินจานีนะคะ เผื่อใครอยากมาแค่รินจานี
ตัวอย่างแยกของเรากับเพื่อน

ของเรา
ตั๋วเครื่องบิน Singapore Airline ไปกลับ กทม - สิงคโปร์ - บาหลี ประมาณ 8,900 บาท
ตั๋วเครื่องบิน Lion Air ขาไป บาหลี - ลอมบอก 750 บาท
ตั๋วเรือเฟอร์รี่ลอมบอก - บาหลี 450 บาท
ค่าทริปรินจานี 4,800 บาท
รวมประมาณ 14,900 บาท

ของเพื่อนที่มาแค่เดินรินจานี 4 วันนะคะ
ตั๋วเครื่องบินไป Lion Air กทม - จาร์กาตาร์ - ลอมบอก ประมาณ 8,000 บาท
ค่าทริปรินจานี 4,800 บาท
รวมประมาณ 12,800 บาท

จริงๆ ราคาจะถูกกว่านี้ ถ้ากดตั๋วเครื่องบินได้ถูกกว่านี้ แต่พวกเราเดินทางช่วงวันหยุดยาว ราคาเลยแพงมากๆ 
เรากดดูช่วงเวลาเดินทางอื่นราคาไปกลับ กทม- ลอมบอก ของ Air Asia หรือ Lion Air จะอยู่ที่ประมาณ 5,000 - 6,000 บาทค่ะ

ทริปนี้ถ่ายรูปน้อย เพราเหนื่อยจนต้องเก็บกล้องที่ห้อยคอหนักๆ แล้วตั้งใจเดิน

วีดีโอการเดินทริปนี้ค่ะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ 


ชื่อสินค้า:   Mt. Rinjani trekking
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่