เรื่องมีอยู่ว่า ผมได้คุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง โดยผมเป็นฝ่ายเริ่มทักไปจีบ ความสัมพันธ์ของเราเกิดขึ้นไวมาก คุยได้อาทิตย์เดียวก็นัดกันไปกินข้าวแล้ว
แล้วความสัมพันธ์เราก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่มีอยู่ปัญหาเดียวคือ ผมเป็นคนคิดมาก มากๆ ซึ่งฝ่ายหญิงนั้นก็จริงจังกับผมระดับนึง เธอบอกกับผมว่าเธอโอเคและรู้สึกดีกับผม เพราะอยู่ด้วยแล้วสบายใจ แต่ติดเรื่องเดียวก็คือผมชอบคิดมาก แต่ว่าเธอยังไม่ได้จริงจังถึงขั้นเป็นแฟน เพราะเหตุผลหลักๆ ก็คือเธอยังไม่พร้อมจะคบใครเพราะช่วงนี้เธอต้องรีบทำโปรเจคจบเธอกลัวว่าเธอจะไม่มีเวลาให้ ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ช่วงหลังๆโปรเจคเริ่มหนักขึ้น เราสองคนคุยกัน และมาเจอกันน้อยลงมาก
ด้วยการที่ตอนนั้นผมรู้สึกกับเธอมากแล้ว บวกกับการที่ผมเป็นคนคิดมากแบบสุดขั้ว จนผมทนไม่ไหวไป ระบายใส่เธอ (ในจุดนี้ผมยอมรับว่าตอนนั้นผมคิดมากจนไม่มีสติและรู้สึกผิดมาก) ผมโทรไปหาเธอแล้วก็คุยว่า ทำไมช่วงนี้ เราสองคนถึงแผ่วๆ ลง ทำไมเธอถึงอ่านไม่ตอบ จนทำให้เกิดทะเลาะกันขึ้นมา (แต่ผมไม่ได้พูดด้วยการตะคอกนะครับ) จนทำให้เธอพูดกับผมตรงๆว่า เขาไม่มีเวลาจริงๆ เพราะเขาต้องรีบปั่นงานให้เสร็จเขากลัวจะเรียนไม่จบ แต่ผมกลับไม่เข้าใจเขา แล้วก็เอาอารมของตัวเองไประบายใส่เขา ซึ่งเขาก็เครียดกับงานมากอยู่แล้ว ทำให้เขาเครียดมากไปอีก
จนท้ายที่สุด เธอก็ขอว่าให้ผมกับเธอลองน้อยๆกันลงดูดีมั้ย เพราะว่าความรู้สึกที่มีตอนนี้ ผมมีมากกว่าเธอ มากเกินไปจนทำให้เธอรู้สึกอีดอัด
หลังจากตอนนั้นการคุยของเราสองคนก็แผ่วลงยิ่งกว่าเดิม ไม่มีเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว มันทำให้ผมเริ่มกลับมานั่งคิดกับตัวเอง ว่าผมเป็นคนคุยที่แย่มากๆ
ที่ผ่านมาผมคิดว่าผมแคร์เขามากๆ แต่การกระทำที่ผมทำลงไปนั้น ทำให้ผมรู้ว่าผมแคร์ตัวเองมากกว่า ผมไม่เข้าใจเขาแล้วยังเอาอารมณ์ตัวเองไปปลดปล่อยใส่เขา เพื่อให้ตัวเองสบายใจ มันทำให้ผมคิดได้ขึ้นเรื่อยๆ และ ณ จุดๆนั้น ผมไม่อยากเสียเขาไปเลยครับ ผมเลยตั้งใจกับตัวเองว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกอย่าง จะเข้าใจเขาให้มากขึ้น จะคิดให้น้อยลง จะเลิกทำตัวแย่ๆ เพื่อให้กลับมาเหมือนเดิม
แต่แล้ว ทุกอย่างมันก็ดูเหมือนมาถึงทางตัน ผมรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอึดอัดของเธอเวลาที่คุยกับผม มันทำให้ผมต้องถามเธอตรงๆ ว่า แกยังอยากคุยกับเราต่อมั้ย จนผมได้คำตอบจากเธอมา ว่า จาก 1 เดือนที่เราทดลองคุยกันมันทำให้เห็นว่า เราสองคนคงไปด้วยกันไม่ได้ เพราะผมเป็นคนที่คิดมากแล้วเธอก็เป็นคนแบบเดียวกับผม นอกจากเธอจะเครียดกับงานแล้ว แต่เธอก็ต้องมาคิดมากกับอารมณ์ของผมด้วย มันทำให้เธออึดอัดมากๆ เธอต้องการคนที่เข้าใจและยอมรับในตัวเธอ ไม่ใช่ต้องการคนที่มาทำให้คิดมากขึ้นไปอีก... ผมฟังแล้วจุกมากครับ แล้วก็รู้สึกสมน้ำหน้าตัวเองว่าที่ผ่านมา ทำแย่ๆกับเธอไว้เยอะ
ผมขอโอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้ายและรับปากว่าจะเข้าใจให้มากขึ้นและจะคิดมากให้น้อยลง แต่เหมือนว่าเธอจะฝังใจไปเรียบร้อยแล้ว เวลาที่คุยกับผมทุกวันนี้ไม่สบายใจเหมือนแต่ก่อน เพราะกลัวว่าจะพูดอะไรให้ผมคิดมากอีก ซึ่งณ จุดนั้น ผมยอมรับผิด และผมก็ไม่อยากยื้อเธอต่อไปเพราะ First Impression ที่เธอมีให้ผม มันไม่ได้แล้ว.... เราสองคนบอกลากันด้วยความเข้าใจ มันทำให้ผมเข้าใจเธอยิ่งขึ้นไปอีก ในสิ่งที่ผมเคยคิดมากแต่ก่อนว่าจริงๆแล้วมันไม่มีอะไรเลย เป็นแค่ผมที่คิดไปเองทั้งหมด ผมเสียดายและเสียใจมากครับ คนเรามักจะมารู้ตัวในวันที่มันสายไปแล้วจริงๆ
แต่แล้ว วันถัดมา เธอทักผมมาใหม่ และบอกว่า ถ้าเธอให้โอกาสผมอีกรอบนึง ผมจะทำอะไรบ้าง ผมไม่รอช้าครับ ผมพูดด้วยความตั้งใจและจริงใจว่าผมจะเปลี่ยนตัวเอง จะเข้าใจเธอให้มากๆ จะคิดให้น้อยลง แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงให้โอกาสผม ผมจึงถามเธอไป เธอเลยบอกผมว่า เขารู้สึกแย่มากๆ ที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่ผมทุ่มเทให้เธอมากๆ แต่เธอกลับมาทำผมเสียใจ แต่จะให้เธอลืมทุกอย่างมันก็ทำไม่ได้อยู่ดี เธออยากหาทางออกที่ทำให้เธอและผมสบายใจมากกว่านี้ ซึ่งผมยอมทำได้ทุกอย่างจริงๆครับ จนเธอพูดขึ้นมาว่า ลองคุยเป็นเพื่อนกันไปก่อนมั้ย เพราะเธอชอบความสัมพันธ์แบบเป็นเพื่อนไปก่อนแล้วค่อยพัฒนา มากกว่าทักมาจีบ ผมดีใจมากนะที่เธอให้โอกาสผมอีกรอบ ผมรับโอกาสนั้นแต่ผมก็อยากรู้ว่า ที่เธอทำนั้นเพื่อให้เธอสบายใจ เพื่อให้ผมสบายใจ แต่จริงๆแล้ว ถ้าผมเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จริงๆ มันจะค่อยๆเปลี่ยนความรู้สึกเธอได้หรือปล่าว
ผมไม่มีประสบการณ์ในจุดนี้เลยครับ ผมอยากถามความคิดเห็นเพื่อนๆว่ารักครั้งนี้มันจะไปรอดมั้ยครับ
การที่เราทำคนๆหนึ่งเสียความรู้สึกและฝังใจไปแล้ว จะสามารถเปลี่ยนความรู้สึกของเค้าได้มั้ยครับ
ด้วยการที่ตอนนั้นผมรู้สึกกับเธอมากแล้ว บวกกับการที่ผมเป็นคนคิดมากแบบสุดขั้ว จนผมทนไม่ไหวไป ระบายใส่เธอ (ในจุดนี้ผมยอมรับว่าตอนนั้นผมคิดมากจนไม่มีสติและรู้สึกผิดมาก) ผมโทรไปหาเธอแล้วก็คุยว่า ทำไมช่วงนี้ เราสองคนถึงแผ่วๆ ลง ทำไมเธอถึงอ่านไม่ตอบ จนทำให้เกิดทะเลาะกันขึ้นมา (แต่ผมไม่ได้พูดด้วยการตะคอกนะครับ) จนทำให้เธอพูดกับผมตรงๆว่า เขาไม่มีเวลาจริงๆ เพราะเขาต้องรีบปั่นงานให้เสร็จเขากลัวจะเรียนไม่จบ แต่ผมกลับไม่เข้าใจเขา แล้วก็เอาอารมของตัวเองไประบายใส่เขา ซึ่งเขาก็เครียดกับงานมากอยู่แล้ว ทำให้เขาเครียดมากไปอีก
จนท้ายที่สุด เธอก็ขอว่าให้ผมกับเธอลองน้อยๆกันลงดูดีมั้ย เพราะว่าความรู้สึกที่มีตอนนี้ ผมมีมากกว่าเธอ มากเกินไปจนทำให้เธอรู้สึกอีดอัด
หลังจากตอนนั้นการคุยของเราสองคนก็แผ่วลงยิ่งกว่าเดิม ไม่มีเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว มันทำให้ผมเริ่มกลับมานั่งคิดกับตัวเอง ว่าผมเป็นคนคุยที่แย่มากๆ
ที่ผ่านมาผมคิดว่าผมแคร์เขามากๆ แต่การกระทำที่ผมทำลงไปนั้น ทำให้ผมรู้ว่าผมแคร์ตัวเองมากกว่า ผมไม่เข้าใจเขาแล้วยังเอาอารมณ์ตัวเองไปปลดปล่อยใส่เขา เพื่อให้ตัวเองสบายใจ มันทำให้ผมคิดได้ขึ้นเรื่อยๆ และ ณ จุดๆนั้น ผมไม่อยากเสียเขาไปเลยครับ ผมเลยตั้งใจกับตัวเองว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกอย่าง จะเข้าใจเขาให้มากขึ้น จะคิดให้น้อยลง จะเลิกทำตัวแย่ๆ เพื่อให้กลับมาเหมือนเดิม
แต่แล้ว ทุกอย่างมันก็ดูเหมือนมาถึงทางตัน ผมรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอึดอัดของเธอเวลาที่คุยกับผม มันทำให้ผมต้องถามเธอตรงๆ ว่า แกยังอยากคุยกับเราต่อมั้ย จนผมได้คำตอบจากเธอมา ว่า จาก 1 เดือนที่เราทดลองคุยกันมันทำให้เห็นว่า เราสองคนคงไปด้วยกันไม่ได้ เพราะผมเป็นคนที่คิดมากแล้วเธอก็เป็นคนแบบเดียวกับผม นอกจากเธอจะเครียดกับงานแล้ว แต่เธอก็ต้องมาคิดมากกับอารมณ์ของผมด้วย มันทำให้เธออึดอัดมากๆ เธอต้องการคนที่เข้าใจและยอมรับในตัวเธอ ไม่ใช่ต้องการคนที่มาทำให้คิดมากขึ้นไปอีก... ผมฟังแล้วจุกมากครับ แล้วก็รู้สึกสมน้ำหน้าตัวเองว่าที่ผ่านมา ทำแย่ๆกับเธอไว้เยอะ
ผมขอโอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้ายและรับปากว่าจะเข้าใจให้มากขึ้นและจะคิดมากให้น้อยลง แต่เหมือนว่าเธอจะฝังใจไปเรียบร้อยแล้ว เวลาที่คุยกับผมทุกวันนี้ไม่สบายใจเหมือนแต่ก่อน เพราะกลัวว่าจะพูดอะไรให้ผมคิดมากอีก ซึ่งณ จุดนั้น ผมยอมรับผิด และผมก็ไม่อยากยื้อเธอต่อไปเพราะ First Impression ที่เธอมีให้ผม มันไม่ได้แล้ว.... เราสองคนบอกลากันด้วยความเข้าใจ มันทำให้ผมเข้าใจเธอยิ่งขึ้นไปอีก ในสิ่งที่ผมเคยคิดมากแต่ก่อนว่าจริงๆแล้วมันไม่มีอะไรเลย เป็นแค่ผมที่คิดไปเองทั้งหมด ผมเสียดายและเสียใจมากครับ คนเรามักจะมารู้ตัวในวันที่มันสายไปแล้วจริงๆ
แต่แล้ว วันถัดมา เธอทักผมมาใหม่ และบอกว่า ถ้าเธอให้โอกาสผมอีกรอบนึง ผมจะทำอะไรบ้าง ผมไม่รอช้าครับ ผมพูดด้วยความตั้งใจและจริงใจว่าผมจะเปลี่ยนตัวเอง จะเข้าใจเธอให้มากๆ จะคิดให้น้อยลง แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงให้โอกาสผม ผมจึงถามเธอไป เธอเลยบอกผมว่า เขารู้สึกแย่มากๆ ที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่ผมทุ่มเทให้เธอมากๆ แต่เธอกลับมาทำผมเสียใจ แต่จะให้เธอลืมทุกอย่างมันก็ทำไม่ได้อยู่ดี เธออยากหาทางออกที่ทำให้เธอและผมสบายใจมากกว่านี้ ซึ่งผมยอมทำได้ทุกอย่างจริงๆครับ จนเธอพูดขึ้นมาว่า ลองคุยเป็นเพื่อนกันไปก่อนมั้ย เพราะเธอชอบความสัมพันธ์แบบเป็นเพื่อนไปก่อนแล้วค่อยพัฒนา มากกว่าทักมาจีบ ผมดีใจมากนะที่เธอให้โอกาสผมอีกรอบ ผมรับโอกาสนั้นแต่ผมก็อยากรู้ว่า ที่เธอทำนั้นเพื่อให้เธอสบายใจ เพื่อให้ผมสบายใจ แต่จริงๆแล้ว ถ้าผมเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จริงๆ มันจะค่อยๆเปลี่ยนความรู้สึกเธอได้หรือปล่าว
ผมไม่มีประสบการณ์ในจุดนี้เลยครับ ผมอยากถามความคิดเห็นเพื่อนๆว่ารักครั้งนี้มันจะไปรอดมั้ยครับ