ชีวิตครอบครัวที่ตกลงเป็นเพื่อน

เรากับสามีแต่งงาน มีลูกสาว 1คน อยู่ด้วยกันมา 3ปี เกือบ4ปี เมื่อไม่นานมานี้(2เดือนที่แล้ว) เรากับสามีเปิดอกคุยกันว่าหมดรักกันแล้ว สาเหตุเพราะเราชอบบังคับและกดดันเค้ามากเกินไป ส่วนเราก็คิดว่าเค้ากินเหล้าเก่ง กลับบ้านดึก หายไปทั้งคืน ไม่รับผิดชอบ และเป็นโรคซึมเศร้าจากการดื่มเหล้าคนเดียวที่บ้านทุกวัน เริ่มจินตนาการว่ามีแต่คนไม่ชอบและไม่มีความสุขในชีวิต สำหรับเราผู้ชายไม่ใช่แค่ไม่นอกใจและหาเงินเข้าบ้านได้ เราต่างก็อดทนกันและกันมาตลอดเพราะอยากให้ลูกมีครอบครัวที่อบอุ่นตามแบบฉบับที่สังคมกำหนดไว้ แต่เมื่อเรามานั่งคุยกัน เค้าก็ยอมรับว่าความรักมันตายไปนานแล้ว เค้ารู้สึกขาดอิสระที่จะอยู่กับเรา เราเป็นคนbossy ยิ่งถ้าตอนไหนเราหาเงินเข้าบ้านได้มากกว่า เค้าจะไม่อยากมองหน้าเราเลย เราทะเลาะกันต่อหน้าลูกบ่อยครั้ง เราทั้งคู่เลยตกลงกันว่าจะอยู่ด้วยกันแบบเพื่อน ช่วยกันเลี้ยงลูกตามสมควร ยังไม่หย่ากันเพราะไม่อยากให้ลูกมีปัญหา ไม่มีเพศสัมพันธ์กันเพราะไม่เกิดอารมณ์กันมาพักใหญ่แล้ว ในขณะเดียวกันก็ให้อิสระกันทั้งคู่ คือใครอยากจะมีใครก็มีได้ แต่มีข้อแม้คือจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ญาติผู้ใหญ่รู้ เพราะเค้าค่อนข้างหัวโบราณและกลัวลูกมีปัญหาจากสายตาที่ทุกคนมองแล้วตัดสินว่าพ่อแม่เลิกกันต้องมีปัญหา

เราบอกเพื่อนเราไม่กี่คน หลังจากนั้น หนึ่งในเพื่อนที่เราบอกเป็นคนต่างชาติ ก็เริ่มคุยแบบมากกว่าเพื่อนกับเรามากขึ้น เราก็คุยเพราะชอบเค้าเหมือนกัน ในขณะที่สามี(ในทะเบียนสมรส) ก็เล่นทินเดอร์ที่เคยแอบดาวน์โหลดไว้ก่อนหน้านี้เพื่อหาสาว เค้านัดเดทผู้หญิงประเทศอินโดนีเชีย อายุประมาณ30 ไปทานข้าวและก็ไปต่อคอนโดผู้หญิง พอกลับบ้านมาเค้าเล่าให้เราฟังทุกอย่าง ทุกรายละเอียด เราเองก็ยินดีกับเค้าแล้วเล่าเรื่องของเราให้ฟังด้วยเหมือนกันว่าคุยอะไรกันบ้าง ความสัมพันธ์ระหว่างเราและสามีเริ่มดีกว่าเดิมเหมือนเป็นเพื่อนซี้ที่คุยกันได้ทุกเรื่อง ลูกก็รู้สึกได้ว่าพ่อแม่มีความสุขกันมากขึ้น เค้ายังคงหาผู้หญิงคุยเพื่อมีอะไรด้วยต่อ ส่วนเราก็คุยกับฝรั่งคนเดียว เพราะเราชอบสร้างความสัมพันธ์ในแบบที่สามารถเป็นไปได้ในระยะยาวมากกว่า เรานอนกับลูกทุกคืนเลี้ยงลูกเป็นหลัก ส่วนสามีหาเงินเข้าบ้าน เพราะเราออกจากงานแล้ว

หลังจากนั้นครอบครัวเราย้ายมาอยู่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ สามีไปเจอกับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวชาวรัสเซียหน้าตาสวย มีลูกชายอายุขวบครึ่ง เค้าเป็นคนนิสัยดี เอาใจดูแลเก่ง เค้าจะสลับเลี้ยงลูกกับสามีเก่าเค้าคนละ2วัน วันที่ไม่มีลูกสามี(ในทะเบียน)และสาวรัสเซียก็ไปดินเนอร์กัน บางครั้งสามีก็ไม่กลับบ้าน เราก็ไม่เคยว่า เค้าบอกเราว่าผู้หญิงคนนี้ใช่มาก เป็นจิตรกร เค้าตกลงหลุมรักคนๆนี้จริงๆ เราเข้าใจและยินดีกับเค้า เพราะความสัมพันธ์ของเรากับฝรั่งก็คืบหน้า เค้าบอกเราว่าจะตามมาอยู่สวิส และหางานทำที่นี่ เราเริ่มมีไอเดียจะลองย้ายมาอยู่อพาร์ตเมนต์ด้วยกัน เราอยากอยู่เมืองเดียวกับที่สามีอยู่ลูกจะได้เจอทั้งพ่อและแม่พอๆกันแล้วค่อยๆปรับตัว แบบที่ผู้หญิงรัสเซียสลับกับสามีเค้าคือคนละ2วัน ส่วนตัวเราคิดว่าเร็วไป เราเลยคุยกับสามีว่าถ้าอยู่กับเราจันทร์-พฤหัส แล้วอยู่กับสามี ศุกร์-อาทิตย์ ดีมั้ย เพราะเค้าเองจะได้ทำงานได้เต็มที่ด้วย (สามีทำอาชีพสถาปนิกค่ะ ได้เงินเดือนดี พร้อมที่อยู่ฟรี) หลังจากนั้นเราไม่แน่ใจว่าเค้าคิดอะไร เค้าเริ่มกลับมาหวงเรา เหมือนยังรักเราอยู่ ไม่อยากให้เราคุยกับใครแล้ว เค้าเริ่มขอหย่าเราทั้งๆที่เคยตกลงกันไว้ว่าจะไม่หย่ากันเพื่อลูก เค้าเราสูบกัญชาและดื่มเหล้าหนักขึ้น เค้าอยากเอาชนะเพราะเค้ารู้ว่าเราอยากอยู่ที่นี่ ถ้าถือวีซ่าติดตามสามีก็ได้อยู่แบบปีต่อปี เค้าเริ่มหาเหตุมาทะเลาะแบบไม่มีเหตุผลว่าเราทำผิดต่อเค้านู่นนี่นั่น เราเองก็บอกว่าตกลงกันแบบนี้ไม่ใช่หรอแล้วมาไม่โอเคอะไรตอนนี้ ทั้งๆที่คุยกันแบบเปิดอกด้วยดีมาตลอด เราขอให้คนที่เราคุยด้วยช่วย ในกรณีถ้าเค้าหย่ากับเราจริงๆ ขอให้เค้าจดทะเบียนกับเราเพื่อให้เราได้ถือวีซ่าEU จะทำให้มาอยู่สวิสได้ง่ายขึ้น และลูกก็ได้เรียนที่นี่ด้วย เค้ายินดีเพราะเค้ารักเรา พอเราบอกสามีไปแบบนั้น เค้าโกรธมาก เหมือนหมาหวงก้างทั้งๆที่ตัวเองก็มีคนอื่นแล้ว บอกรักลูกไม่อยากให้เลิกกัน (แต่ขอเราหย่า) เริ่มอ้างลูกว่าสงสารลูก ทั้งๆที่เค้าไม่ได้ดูแลเท่าไหร่เลย เค้าเริ่มไปพูดกับคนรอบข้างว่าเรามีคนอื่น เรานอกใจเค้า เค้าทนไม่ไหว รู้สึกเหมือนเสียศักดิ์ศรี แล้วคนที่เค้าเล่าให้ฟังเค้าไม่บอกว่าเราตกลงเลิกกันมาก่อนแล้ว เค้าเริ่มขู่เราว่าถ้ายังอยากเจอลูกต้องตกลงหย่าตามเงื่อนไขของเค้า ซึ่งเราไม่โอเคกับเงื่อนไขนั้น เค้าบอกว่าถ้าเรายังอยากเจอลูกก็ควรพาลูกหนีไปเลย เราตกใจมากที่เรื่องมันบานปลายมาได้ขนาดนี้ สุดท้ายเราบอกว่าเรายอมได้นะ เค้าบอกว่าทุกอย่างจะอยู่ในศาล คือเรื่องนี้เราไม่อยากให้จบกันแบบที่ใช้กฎหมายมาสู้กัน เพราะมันไม่ดีกับลูกเลย แต่เราก็ต้องปกป้องตัวเองโดยการถ่ายรูปหลักฐานทุกอย่างเอาไว้แล้วส่งเข้าอีเมลตัวเอง คือถ้าวันนึงเค้าฟ้องเราขึ้นมาเราก็ยังมีทางสู้ และเราไม่เคยไปมีอะไรกับคนอื่น ในขณะที่เค้ามีแล้ว เราแคปหน้าจอที่เค้าบอกรักกัน และนัดไปหากันที่คอนโดผู้หญิง ถ้าเค้าบอกทุกอย่างจะอยู่ในศาล เราก็มีในศาลเหมือนกัน แต่ใจลึกๆเราไม่อยากทำ อยากให้ตกลงกันได้ ยังไงเค้าก็เป็นพ่อของลูกเรา และก็เคยผ่านอะไรมาด้วยกันหลายอย่าง

เราเลือกประเทศนี้เพราะสิ่งแวดล้อมดี การศึกษาดี สังคมสงบและปลอดภัย พ่อแม่เด็กที่นี่ก็เลิกกันเยอะ แต่เด็กก็โตมาได้แบบปกติ ไม่มีการตัดสินจากสังคม พ่อแม่หาวิธีการและทางออกให้ลูกบอบช้ำน้อยที่สุดได้ 

สุดท้ายขอบคุณที่อ่านเรื่องของเรามาถึงตรงนี้ ตอนนี้เรานอนกับลูก2คน และเค้านอนอยู่คอนโดผู้หญิงรัสเซียคนนั้น ขอให้ทุกคนโชคดีมีความสุขค่ะ แล้วจะเข้ามาอัพเดทให้ฟังเรื่อยๆว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่