สวัสดีครับ พบกับผมอีกแล้วหลังจากทริปนครศรีธรรมราช ก็ยังไม่มีทีท่าจะได้ออกทริปอีก อยู่บ้านเฉยๆไม่รู้จะทำอะไร

ผมเลยจะพาเพื่อนๆไปพบกับบรรยากาศทางรถไฟสายเหนือในช่วงฤดูฝนกันเมื่อปี 2 ปีที่ผ่านตอนสมัยที่มีรถไฟฟรีเพื่อประชาชน ว่าจะเป็นยังไง

เพื่อเอาไว้เป็นแนวทางการเดินทางของสายลุย สายเเบคเเพคกันคับผม ไปดูกันเลย

            วันที่ 12 สิงหาคม 2560 สถานีรถไฟกรุงเทพ

                          ว้าาาาา เกือบมาขึ้นรถไม่ทัน ดีนะ วันนี้รถไฟล่าช้า แต่เราไม่ซีเรียสอยู่แล้ว ขอให้ทันรถไฟก็พอ หุหุ เราไปขึ้นรถกันดีกว่า

รถจอดอยู่ชานชาลาที่ 10  ในวันนี้ เราเลือกขบวนรถเร็วที่ 109 กรุงเทพ - เชียงใหม่ เที่ยวเวลา 13.45 น.

ขบวนนี้เป็นรถไฟฟรีจากภาษีประชาชนด้วยนะครับผม ฟรีเฉพาะชั้น 3 นะ นั่งชั้น 2 นอนชั้น 2 ไม่มีนะครับผม

ซึ่งปัจจุบันราคารถเร็วชั้น 3 ราคา 231 บาท คับ

วิธีการรับตั๋วฟรีก็ง๊ายง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
1.เดินไปที่ช่องจำหน่ายตั๋ว
2.บอกขบวนรถ....บอกปลายทางที่จะลง....
3.ยื่นบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรที่รัฐบาลออกให้กับเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋ว
4.รับตั๋วรถไฟ และเก็บบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรที่รัฐบาลออกให้ ไว้กับตัว
5.เดินออกมา ละไปขึ้นรถที่ชานชาลา หาหมายเลขที่นั่งที่ระบุไว้ใจตั๋ว เป็นอันสิ้นสุด
เป็นไงล่ะ เพียงแค่ 5 ขั้นตอน เราก็สามารถนั่งรถไฟฟรีได้แล้ววว แต่เดี๋ยวก่อนน้า รถไฟฟรีตอนนี้เค้ากำลังจะยกเลิกในเดือนตุลานี้แล้วนี่นา

ต้องรีบๆไปใช้บริการกันเร็วๆเลยนะครับผม

โม้อยู่นาน รถก็ออกแล้ว หุหุ วันนี้ช้าไปชั่วโมงกว่ารถก็ค่อยๆวิ่งไป จนมาถึงที่สถานีรถไฟชุมทางซื่อ
#ปล.สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ เป็นสถานีชุมทางที่แยกระหว่าง สายใต้ กับ สายเหนือ และ สายตะวันออกเฉียงเหนือ ออกจากกัน ครับ

ปู๊นๆ กระฉึกกระฉัก 
นั่งกินลมชมวิวยามบ่ายไปเพลินๆ เราก็มาถึง สถานีรถไฟอยุธยากันแล้วครับผม

ออกจากอยุธยาไป รถก็จะมาจอดที่ สถานีที่มีของกินชื่อดังอย่าง ไอติมกะทิสด ของสถานีรถไฟชุมทางบ้านภาชี ที่ไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก

ราคาก็ทู๊กถูก แค่ 5 บาท เอง เป็นถ้วยเล็กๆ ซึ่งปัจจุบันก็ไม่มีขายแล้วคับ

ออกจากสถานีรถไฟชุมทางบ้านภาชี รถของเราก็เข้าทางเยื้องซ้าย เพื่อเข้าสู่ทางรถไฟสายเหนืออย่างเต็มรูปแบบ
#ปล.สถานีรถไฟชุมทางบ้านภาชี เป็นสถานีชุมทาง ที่แยกระหว่าง สายเหนือ และ สายตะวันออกเฉียงเหนือ ออกจากกัน

โค้งยาวๆ กับริ้วขบวนแค่ 9 คัน สั้นๆ น่ารักๆ ตะมุตะมิ หุหุ 

นั่งไปเรื่อย พระอาทิตย์ก็เริ่มจะตกละ เราก็มาถึงสถานีรถไฟลพบุรี เมืองลิงจ๋อ 

เมื่อรถออกจากสถานีรถไฟลพบุรีไปแล้ว เราจะเจอกับวิวสวยๆ กับภาพ พระปรางค์สามยอด กับแสงแดดยามเย็น เป็นภาพที่สวยเหลือเกิน

เสน่ห์ของการนั่งรถไฟ ที่จะมีเรื่องวิวทิวทัศน์ ที่สวยงามแล้ว ยังมีการ หลีกขบวนรถอีกด้วยนะ บางคนอาจมองว่าน่าเบื่อ น่าเบื่อตรงไหนล่ะ หุหุ 
ขบวนรถเร็ว 109 กรุงเทพ - เชียงใหม่ หลีก ขบวนรถเร็วที่ 102 เชียงใหม่ - กรุงเทพ ที่สถานีรถไฟโคกกระเทียม

วิ่งฉิวไปเลยยยยยยยยยยยย

ที่สถานีรถไฟบ้านหมี่ ก็มีคนหลีกให้เราด้วยนะครับผม
ขบวนรถท้องถิ่นที่ 402 พิษณุโลก - ลพบุรี หลีก ขบวนรถเร็วที่ 109 กรุงเทพ - เชียงใหม่ ที่สถานีรถไฟบ้านหมี่

เริ่มดึก อากาศก็เริ่มเย็น เวลา 4 ทุ่มกว่าๆ เราก็มาถึงสถานีรถไฟพิษณุโลกแล้วครับผม

ชักจะเริ่มง่วงละสิ งั้นผมขอตัวนอนเลยดีกว่า ลาไปกับภาพ สถานีรถไฟหนองตม ต.วงฆ้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก บ้านย่าผมเองแหละ หุหุ

ตื่นมาตอนไหนไม่รู้ 55 เราก็มาถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ ละค้าบ อากาศยามเช้าก็จะเย็นๆหน่อย

อาบน้ำ แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปรับตั๋วฟรี ออกผจญภัยกันต่อ

สำหรับรถที่เราเดินทางกันคือ ขบวนรถเร็วที่ 102 เชียงใหม่ - กรุงเทพ ก็อีรถที่นั่งมานั่นแหละ หุหุ เราจะทางไปสถานีรถไฟขุนตานกันครับ

รถจอดอบู่ชานชาลาที่ 3 ไปขึ้นรถกันเลยดีกว่า ราคาปัจจุบัน  45 บาท คับ

ใครว่ารถไฟไม่มีคนชอบขึ้น ดูภาพนี้สิ คนนั่งเต็มเลย ไม่ว่าจะมีพาหนะทางคมนาคม หลายๆแบบ

รถไฟ ก็ยังคงเป็นการเดินทางที่คนเชียงใหม่เค้าเลือกกันนะครับ

รถออกจากเชียงใหม่มา 06.37 น. ช้า 7 นาที รถของเราก็โดนกักหลีกเลย ที่สถานีรถไฟข้าวซอยอร่อย ลำพูน นั่นเอง

สักพัก รถที่เรารอคอยก็มา ขบวนรถด่วนพิเศษ อุตราวิถี ที่ 9 กรุงเทพ - เชียงใหม่ ครับผม

ออกจากลำพูนมา เราก็จะเจอวิวยามเช้า ภูเขา หมู่บ้าน วัด สวยๆเยอะมากกก ละเราก็จะเจอ 1 ในหลายๆที่ ของทางรถไฟสายเหนือครับ

สะพานขาวทาชมภูนั่นเอง

ผ่านสะพานขาวมา เราก็เริ่มเข้าสู่ทางลาดชันขึ้นสู่ดอยขุนตานครับผม

เห็นสัญญาณแบบนี้แล้ว เเสดงว่า อีกไม่ช้า เราก็จะถึงสถานีรถไฟขุนตานกันแล้ววว เร็วจริงๆ

ถึงสถานีรถไฟขุนตานแล้วววว พลาดไม่ได้ กับการได้เห็นรถไฟกำลังจะเข้าอุโมงค์ 

ท่านใดจะมาเที่ยวขุนตาน ดูตารางเวลารถที่นี่ได้เลย นะครับผม

มาขุนตาน เราก็ต้องมาถ่าย อุโมงต์ขุนตาน อุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทยสิครับผม 

ปล.ตอนนี้มีคนทำลายสถิติแล้วนั่นก็คือ อุโมงค์พระพุทธฉาย 2 คับ

ถ้าถ่ายรูปกันอิ่มอกอิ่มใจแล้ว เราจะพาเพื่อนๆขึ้นไปอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาลกัน

ทางค่อนข้างจะรก จะเเฉะ แล้วก็ชันๆหน่อย ระมัดระวังกันด้วยนะครับ

เดินมาสุดเราก็จะเจอกับถนนเส้นนึง เดินขึ้นไปอีกนะครับ ยังไม่ถึงนะ เริ่มจะเหนื่อยละ หุหุ

เย้ๆๆๆๆ ในที่สุดเราก็มาถึง อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาลกันแล้วครับผม หายเหนื่อยเลย

สำหรับค่าเข้าอุทยานนั้น มีดังนี้ครับ
ผู้ใหญ่ 20 บาท
เด็ก/นักศึกษา 10 บาท
ค่าสถานที่กางเต้นท์ 30 บาท 
ถูกใช่มั้ยล่ะ 
สำหรับคนที่เอารถส่วนตัวมา
รถจักรยานยนต์ 20 บาท
รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท
รถยนต์ 6 ล้อ 100 บาท 
#อย่าลืมมาเที่ยวกันนะครับผม

จุดกลางเต้นท์ ลานกว้างๆ ลมเย็นๆ นอนดูดาวได้เลย

จากตรงนี้ เราก็สามารถเห็นวิวต่างๆได้ ภูเขาลูกใหญ่ๆ ป่าทึบๆ ทำให้รู้สึกสดชื่นเลย ธรรมชาติล้วนๆ

เพียงท่านเดินข้ามฝั่งถนน ท่านก็สามารถไปอีกจังหวัดนึงได้ ราวกับปาฏิหารย์

เพราะอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล เป็นรอยต่อระหว่างจังหวัด ลำปาง กับ ลำพูน ครับผม

#จงตอบคำถาม
คิดว่าภาพนี้คืออะไร
1.ลำธารเล็กๆ
2.น้ำตกธรรทชาติขนาดย่อมๆ
3.น้ำตกเทียม
4.ลำธารเทียม
#ได้คำตอบก็เม้นเลยนะครับไม่มีรางวัลให้สนุกๆกัน

กลับมารอรถไฟที่สถานีกันเถอะ เวลาของเราน้อย เพราะเรายังมีอีกหลายที่ ที่เราต้องไปผจญภัยกัน

ถ้ามีเวลาเยอะๆ เราจะพาเพื่อนไปชมจุดยุทธศาสตร์ทั้ง 4 จุดกัน
สำหรับขบวนรถเที่ยวต่อไปที่เราจะเดินทางไปสถานที่ต่อไปคือ

ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางนั่งปรับอากาศ 8 เชียงใหม่ - กรุงเทพ

เราจะเดินทางไปที่สถานีรถไฟบ้านปิน ซึ่งจะเป็นราคาอัตราพิเศษของขบวนนี้ครับ ขุนตาน - บ้านปิน 100 บาท/คน ถูกมั้ยล่ะ ได้แอร์เย็นๆด้วย

คนก็เยอะ แอร์ก็เย็น นอนสบายเลย บรรยากาศน่านอนจริงๆ หุหุ

นั่งรถเพลินๆ เราก็มาถึงสถานีรถไฟบ้านปิน อ.ลอง จ.แพร่ กันแล้วครับผม บ๊าย บาย ขบวน 8 ก่อน