ในเวลา03.30น.ของวันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา ทางผู้สื่อข่าวของสำนักพิมพ์คลื่นเต่า
.......ได้รับแจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปิ่นเกล้าได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ได้พบกับนักท่องเที่ยวสาวสวยชาวจีนยืนงงงันใต้แสงไฟเสาไฟฟ้าหน้าโรงแรมชื่อดังย่านปิ่นเกล้า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปิ่นเกล้าได้รุดไปถึงที่เกิดเหตุ
ได้พบกับนักท่องเที่ยวสาวสวยชาวจีน ที่ได้ทราบชื่อต่อมาว่า
คือน.ส.เหยินปิงหยวน (นามสมมุติ) อายุ14ปี ยืนงงงันหมุนไปมาอย่างกะลูกข่าง
หลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบถามน.ส.เหยินปิงหยวนจึงได้ความว่า
“ตนเองได้มาเที่ยวร้านเหล้าชื่อโซเดมากลมกับเพื่อนชาวจีนด้วยกัน หลังจากนั่งเด่นเป็นสง่าแต่ไม่มีผู้เข้ามาจีบได้ซักพักจนร้านปิด ตนกับเพื่อนชาวจีนจึงแยกย้ายกันกลับอย่างเสียดาย โดยเพื่อนชาวจีนของตนเองนั้นพักอยู่อีกโรงแรมนึง ในระแวกใกล้เคียง
หลังจากตนเองโบกแท็กซี่ไป38คัน ก็ได้มาคันนึง เดินทางมาถึงหน้าโรงแรมที่ตนเองพักอยู่ แต่ไม่ถึงโรงแรมดี คนขับแท็กซี่ก็ได้ไล่ตนเองลงจากรถ ก่อนถึงโรงแรม” น.ส.เหยินปิงหยวน กล่าวอย่างมีอารมณ์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามอย่างสงสัยว่าทำไมคนขับแท็กซี่ถึงได้ไล่ลงทั้งที่ยังไม่ถึงโรงแรม จะเป็นการโกงค่าโดยสารด้วยใช่รึมั้ย แต่ทางน.ส.เหยินปิงหยวนได้ให้คำตอบว่า”อันนั้นตนเองคิดว่าไม่ใช่แน่ๆ เพราะทางคนขับแท็กซี่ไม่ได้เรียกเก็บเงินตนเองซักบาท
เหตุผลที่ทางคนขับแท็กซี่บอกคือ ระหว่างทางตั้งแต่รับตนเองขึ้นรถมา คนขับแท็กซี่รู้สึกเหมือนว่ามีวิญญาณเร่ร่อนสิงอยู่ในรถ เลยคิดว่าให้ตนเองลงรถจะดีกว่าแค่นั้น” ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามอีกว่าเหตุการณ์หลังจากลงรถแท็กซี่แล้วเกิดอะไรขึ้น ทางน.ส.เหยินปิงหยวนได้อธิบายว่า
”หลังจากตนเองลงจากแท็กซี่ก็เดินเท้ามายังโรงแรมที่พัก แต่ระหว่างทางที่เดินนั้น มืดมาก ระหว่างที่ตนเองเดินผ่านมุมมืดก่อนถึงโรงแรม ได้มีชายหนุ่มรูปร่างสันทัดวิ่งกระโจนพรวดเข้ามาจะกระชากกระเป๋าหลุยที่สะพายอยู่ ตนเองได้พยายามมองหน้าหนุ่มคนนั้นให้ชัดๆ เพื่อจะได้เป็นข้อมูลหากแจ้งความ ครั้นพอตนเองมองหน้าชายผู้นั้นแบบจังๆ ชายผู้นั้นกลับทิ้งกระเป๋าหลุยอย่างไม่ใยดี วิ่งหนีตนเองไปซะงั้น ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุผลใด ที่ทำให้ผู้ชายคนที่ตั้งใจจะมากระชากกระเป๋าหลุยถึงได้วิ่งหนีตนเองไปดื้อๆ หรืออาจจะเป็นพราะพระดังที่ตนเองนำมาบูชาอย่างแน่นอน”
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำพยานบุคคลในที่เกิดเหตุ
ซึ่งพยานบุคคลทุกคนได้ให้การว่า อาจเป็นเพราะแสงเงาของไฟจากเสาไฟฟ้าในที่เกิดเหตุมากระทบใบหน้าของน.ส.เหยินปิงหยวนแล้วทำให้โจรวิ่งราวตกใจจนวิ่งหนีไปก็เป็นได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ปักใจเชื่อแต่อย่างใด
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังยืนยันว่า หลังจากไปทำการอาบน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์มาแล้ว
จะรีบรุดไปฟังคำให้การของน.ส.เหยินปิงหยวนอย่างไม่หวั่นอีกครั้งแน่นอน โดยข่าวคืบหน้าไปยังไง ทางสำนักพิมพ์คลื่นเต่า จะนำมาให้ทราบกันอีกที
https://www.facebook.com/turtelwavenews/photos/a.616366192123004/618885265204430/?type=3&theater
นักท่องเที่ยวสาวจีนรอดหายนะเพราะพระเครื่องไทย
ในเวลา03.30น.ของวันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา ทางผู้สื่อข่าวของสำนักพิมพ์คลื่นเต่า
.......ได้รับแจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปิ่นเกล้าได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ได้พบกับนักท่องเที่ยวสาวสวยชาวจีนยืนงงงันใต้แสงไฟเสาไฟฟ้าหน้าโรงแรมชื่อดังย่านปิ่นเกล้า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปิ่นเกล้าได้รุดไปถึงที่เกิดเหตุ
ได้พบกับนักท่องเที่ยวสาวสวยชาวจีน ที่ได้ทราบชื่อต่อมาว่า
คือน.ส.เหยินปิงหยวน (นามสมมุติ) อายุ14ปี ยืนงงงันหมุนไปมาอย่างกะลูกข่าง
หลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบถามน.ส.เหยินปิงหยวนจึงได้ความว่า
“ตนเองได้มาเที่ยวร้านเหล้าชื่อโซเดมากลมกับเพื่อนชาวจีนด้วยกัน หลังจากนั่งเด่นเป็นสง่าแต่ไม่มีผู้เข้ามาจีบได้ซักพักจนร้านปิด ตนกับเพื่อนชาวจีนจึงแยกย้ายกันกลับอย่างเสียดาย โดยเพื่อนชาวจีนของตนเองนั้นพักอยู่อีกโรงแรมนึง ในระแวกใกล้เคียง
หลังจากตนเองโบกแท็กซี่ไป38คัน ก็ได้มาคันนึง เดินทางมาถึงหน้าโรงแรมที่ตนเองพักอยู่ แต่ไม่ถึงโรงแรมดี คนขับแท็กซี่ก็ได้ไล่ตนเองลงจากรถ ก่อนถึงโรงแรม” น.ส.เหยินปิงหยวน กล่าวอย่างมีอารมณ์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามอย่างสงสัยว่าทำไมคนขับแท็กซี่ถึงได้ไล่ลงทั้งที่ยังไม่ถึงโรงแรม จะเป็นการโกงค่าโดยสารด้วยใช่รึมั้ย แต่ทางน.ส.เหยินปิงหยวนได้ให้คำตอบว่า”อันนั้นตนเองคิดว่าไม่ใช่แน่ๆ เพราะทางคนขับแท็กซี่ไม่ได้เรียกเก็บเงินตนเองซักบาท
เหตุผลที่ทางคนขับแท็กซี่บอกคือ ระหว่างทางตั้งแต่รับตนเองขึ้นรถมา คนขับแท็กซี่รู้สึกเหมือนว่ามีวิญญาณเร่ร่อนสิงอยู่ในรถ เลยคิดว่าให้ตนเองลงรถจะดีกว่าแค่นั้น” ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามอีกว่าเหตุการณ์หลังจากลงรถแท็กซี่แล้วเกิดอะไรขึ้น ทางน.ส.เหยินปิงหยวนได้อธิบายว่า
”หลังจากตนเองลงจากแท็กซี่ก็เดินเท้ามายังโรงแรมที่พัก แต่ระหว่างทางที่เดินนั้น มืดมาก ระหว่างที่ตนเองเดินผ่านมุมมืดก่อนถึงโรงแรม ได้มีชายหนุ่มรูปร่างสันทัดวิ่งกระโจนพรวดเข้ามาจะกระชากกระเป๋าหลุยที่สะพายอยู่ ตนเองได้พยายามมองหน้าหนุ่มคนนั้นให้ชัดๆ เพื่อจะได้เป็นข้อมูลหากแจ้งความ ครั้นพอตนเองมองหน้าชายผู้นั้นแบบจังๆ ชายผู้นั้นกลับทิ้งกระเป๋าหลุยอย่างไม่ใยดี วิ่งหนีตนเองไปซะงั้น ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุผลใด ที่ทำให้ผู้ชายคนที่ตั้งใจจะมากระชากกระเป๋าหลุยถึงได้วิ่งหนีตนเองไปดื้อๆ หรืออาจจะเป็นพราะพระดังที่ตนเองนำมาบูชาอย่างแน่นอน”
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำพยานบุคคลในที่เกิดเหตุ
ซึ่งพยานบุคคลทุกคนได้ให้การว่า อาจเป็นเพราะแสงเงาของไฟจากเสาไฟฟ้าในที่เกิดเหตุมากระทบใบหน้าของน.ส.เหยินปิงหยวนแล้วทำให้โจรวิ่งราวตกใจจนวิ่งหนีไปก็เป็นได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ปักใจเชื่อแต่อย่างใด
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังยืนยันว่า หลังจากไปทำการอาบน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์มาแล้ว
จะรีบรุดไปฟังคำให้การของน.ส.เหยินปิงหยวนอย่างไม่หวั่นอีกครั้งแน่นอน โดยข่าวคืบหน้าไปยังไง ทางสำนักพิมพ์คลื่นเต่า จะนำมาให้ทราบกันอีกที
https://www.facebook.com/turtelwavenews/photos/a.616366192123004/618885265204430/?type=3&theater