!!..ขนส่งฯเร่งสอบด่วน! ร้องแท็กซี่สุวรรณภูมิฟันค่าโดยสารต่างชาติ 6 พัน..แล้วแบบนี้ใครจะกล้ามาลงทุน!!



ปัญหาเรื่องการใช้บริการรถแท็กซี่ในเมืองไทยยังคงเป็นปัญหาซ้ำซาก และยังคงมีผู้ร้องเรียนปัญหาในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับสมาชิกเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Krit Karnchanabatr หรือเฟซบุ๊กของ นายกฤษฏ์ กาญจนบัตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์แลค (ไทย-เยอรมัน) จำกัด ได้ออกมาโพสต์ข้อความร้องเรียนว่า พบโชเฟอร์แท็กซี่สุวรรณภูมิคิดค่าโดยสารประธานบริษัทฯ ชาวต่างชาติ จากสนามบินสุวรรณภูมิ ถึง โรงแรมดับเบิ้ลยู สาทร ในราคาเหมา 6,000 บาท โดยไม่กดมิเตอร์ ก่อนที่จะมีการเจรจาและโชเฟอร์คืนเงินมาให้ 5,400 บาท ระบุว่า

เรื่องดีๆ มีไว้แบ่งปัน
ตอน ประธานบ.Swiss ถูกแท็กซี่ฟันค่าแท็กซี่ 6,000 บาท จากสนามบินสุวรรณภูมิ-W hotel สาทร

วันนี้ President มาจาก Swisszerland ถึงสุวรรณภูมิ ก่อนเวลานัดหมายหลายชั่วโมง จึงแนะนำให้เรียกแท็กซี่ที่สนามบิน เนื่องจาก 2 ท่านมาเมืองไทยครั้งแรก และขึ้นรถ Taxi เขียวเหลือง ทะเบียน มฉ936 จากสนามบินสุวรรณภูมิ ถึงโรงแรม W สาทร เวลา 11.51 am. และแจ้งเรียกค่าโดยสาร 6,000 บาท (หกพันบาท) โดยไม่กดมิเตอร์

คนต่างชาติไม่อยากมีเรื่องจึงจ่ายเงิน และไปแจ้งโรงแรมพอดีเราไปถึงพอดี เขาบ่นกับเราว่า Up Set มาก เคยมีคนเตือนแล้วแต่ไม่คิดจะเกิดกับตนเอง ผมถามถึง กท.รถ แต่ตอบไม่ได้ จึงขอให้โรงแรมดูกล้อง CCTV

ผมเริ่มโทรไปแจ้งตำรวจท่องเที่ยว 1155 หวังว่าจะมาดูแลแขกต่างชาติ แต่บอกมาไม่ได้ ให้ไปแจ้ง สน.ท้องที่เอง ผมเลยแจ้งที่ จส.100 และสนามบินสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ให้แจ้งที่ 1584 กว่าจะแจ้งได้ ก็ปาไปกว่าครึ่งชั่วโมง

ส่วนภรรยาพยายามติดต่อโรงแรม ให้ช่วยเจ้าหน้าที่โรงแรมดับเบิ้ลยู ต่างหดหู่กับการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่แท็กซี่ไทยทำเอาขายขี้หน้า

ความรู้สึกตอนนั้น โกรธมาก เหมือนโดนฝรั่งตบหน้า เขาได้แต่บ่นว่าไม่น่าทำกับเขาเช่นนี้ เขาจะกลับไปบอกเพื่อนๆ ที่ สวิสต์เซอร์แลนด์

เราคนไทยอายแทน มันฉีกหน้าความเป็นสยามเมืองยิ้มมากๆ หน่วยงานเดียวที่ดีสุดคือเอกชน คือตัวแทนโรงแรม รีบให้เจ้าหน้าที่ W สุวรรณภูมิ ไปดู โชคดีโรงแรมลงไปเล่นเองที่ บริเวณจุดจอดรถแท็กซี่ และเจอรถแท็กซี่คันดังกล่าว จึงรีบเข้าไปคุย และคงขู่ว่าจะแจ้งความเอาถึงที่สุด ฝ่ายโรงแรมโทรมาสอบถามว่า แขกจ่ายเงินไปเท่าไหร่ ตอบ 6,000 บาท โชเฟอร์จึงคืนเงินให้ 5,400 บาท

ขอบคุณ คุณสมคิด เจ้าหน้าที่โรงแรมดับเบิ้ลยู ขอบคุณทีมงานหน้าฟรอนท์ทุกคน และหวังว่าเหตุการณ์ นี้จะต้องไม่เกิดกับแขกนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ

ขอฝากไปยังกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา สนามบินสุวรรณภูมิ สมาคมคนขับรถแท็กซี่ ขออย่าได้แสดงความเป็นโจร นักต้มตุ๋น หากินกับนักท่องเที่ยวอีกเลย ฝ่ายหนึ่งเร่งสร้างให้ต่างชาติมาไทย ส่วนคนไทยแท้ๆ จ้องจะฟันแขกต่างชาติเขา ระวังกรรมจะตามทัน

ตอนเย็นไปส่งแขกที่โณงแรมและได้รับเงินคืน เขาดีใจมากและไม่ติดใจ และผมจึงมอบเงินรางวัล 1 พันบาทเป็นน้ำใจ สำหรับคุณสมคิดที่เสียเวลา โทรขอบคุณเขา อย่างน้อยก็รักษาหน้าประเทศไทยไปได้อีก 1 เคส

เหนื่อยใจกับคนไทยในคราบโจร



ขณะที่ชาวเน็ตได้แห่แชร์เรื่องราวนี้กว่า 4 พันครั้ง พร้อมกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์รถแท็กซี่ที่ทำให้เสียภาพลักษณ์ของประเทศไทย และโชเฟอร์แท็กซี่คนนี้ควรได้รับบทลงโทษ

ล่าสุดสายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามไปยัง กองตรวจการขนส่ง กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยในเบื้องต้นว่า จากเรื่องดังกล่าว ทางกรมการขนส่งฯ กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ และกำลังเร่งติดตามตัวคนขับรถแท็กซี่มาสอบสวนข้อเท็จจริง หากได้ความคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้ทราบต่อไป

Cr.thairath
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ไปดูก่อนว่าพวกแทกซี่สนามบินใครคุม ที่พวกนี้อยู่ได้เพราะคนคุมมันมีอิทธิพล เคยคิดไหมปัญหาแท๊กซี่มีมานานมากและรุนแรง แต่ไม่มีใครกล้าหือ กลับกัน มีคนในรัฐบาลกลับอนุมัติขึ้นค่าแท๊กซี่ให้พวกเหล่านี้ น่าจะคนกลุ่มนี้แหละที่มีอิทธิพล ถึงเวลารึยังที่หาวิธีจัดการกับปัญหา ส่วนตัวไม่พยายามใช้บริการกับแท๊กซี่มานานแล้ว แต่ใช้ระบบขนส่งอื่นๆที่เป็นทางเลือก
ความคิดเห็นที่ 18
เบื่อแท็กซี่สนามบิน. เคยขึ้นไป แล้วมันบ่นต่อหน้าว่า "โชคร้ายเหลือเกิน ได้แต่ลูกค้าคนไทย"

ถ้ามาเองตัวคนเดียว จะยอมเดินลากไปขึ้นแท็กซี่ข้างนอก.
ไม่ต้องจ่ายเพิ่มค่าธรรมเนียมบ้าบอสำหรับแท็กซี่สนามบินนั่น
จ่ายเพิ่มก็ไม่เห็นความแตกต่างตรงไหน มีแต่สันดานละโมบโลภมากทั้งนั้น.
การยึดใบขับขี่ไอ้เจ้านั่น ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น มันก็แค่แอบๆมาขับอีกใครจะเห็น.
แน่จริง ห้ามรถทะเบียนที่มันขับเข้ามาในสนามบินด้วยสิ. ถ้าห้ามรถ ก็จะไม่มีใครให้มันเช่ามาขับอีก. แค่ห้ามเจ้าตัว ไม่มีเถ้าแก่รถแท็กซี่ที่ไหนสนใจหรอก. ห้ามไปถึงรถที่ขับ พวกตัวใหญ่ๆมันถึงจะกลัวด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่