ชีวิตประหลาดจากโลก อาจรอดชีวิตบนอวกาศได้นานกว่าที่คิด

กระทู้สนทนา

อวกาศ ดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ชีววิทยา ดาวเคราะห์ (Planet)

สิ่งมีชีวิตจากโลกที่ติดขึ้นไปกับสถานีอวกาศนานาชาติ รอดชีวิตในอวกาศมาถึง 533 วันเข้าไปแล้ว ภายใต้สุญญากาศรังสีอุลตร้าไวโอเล็ท แอมอุณหภูมิสุดขั้วของห้วงอวกาศ คุณรู้มั้ยว่านี่มันแปลว่าอะไร มันแปลว่าเป็นไปได้ที่จะมีชีวิตอยู่บนต่างโลกอย่างดาวอังคารนะสิคุณครับ ในบรรดาดาวเคราะห์ทุกดวงในระบบสุริยะจักรวาลดาวอังคารนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นมิตรกับสิ่งมีชีวิตที่สุด แต่การจะอยู่บนนั้นก็ยังต้องรับนะ ว่ามันเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากอยู่ดี ฝุ่นผง สารเคมี แรงโน้มถ่วงและออกซิเจนที่ต่ำกว่าโลก รวมถึงความเย็นจัดที่ -63 ถึง -123 องศาเซลเซียส รวมถึงการทำลายล้างของพายุฝุ่นที่รุนแรง ทั้งหมดนี้มันทำให้ดาวอังคารถูกฝังกลบอยู่ใต้ความมืด กระนั้นเหล่านักวิทยาศาสตร์ ก็ยังไม่ละความพยายาม ที่จะค้นหาชีวิตที่สามารถรอดได้ในห้วงอวกาศอันที่จริงมีการค้นพบมาก่อนหน้านี้แล้วในปี 2551 ว่า หมีน้ำ หรือ water bear ผู้โด่งดัง สามารถรอดชีวิตในอวกาศมาได้ถึง 68% หากได้รับการปกป้องจากแสงอาทิตย์ในอวกาศ

และที่สำคัญก็คือผลงานที่ทำออกมาได้ของเจ้าหมีน้ำคือมันไม่ใช่แค่รอดชีวิต แถมยังออกลูกออกหลานมาเพิ่มอีกด้วย เรียกว่าเป็นสุดยอดการค้นพบภายในปี 2551 ทีเดียว ซึ่งการค้นพบนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่มีสิ่งมีชีวิตที่เป็นสัตว์ สามารถรอดชีวิตมาได้ในสภาวะใต้รังสีคอสมิค โดยการค้นพบนี้จะบุให้ว่าหมีน้ำนั้นเป็นสัตว์ที่มีเกราะป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ เรายังไม้ค้นพบชีวิตบนดาวอังคาร แต่ว่าเรามีหนทางในการที่เราจะทำการตรวจสอบอยู่จำนวนหนึ่งด้วยการตรวจสอบทะเลทรายอะทาคามาที่แห้งแล้วที่สุดในโลก และอีกสถานที่หนึ่งคือสถานีอวกาศ iss ศูนย์วิจัยทางอวกาศของเยอรมัน ได้ทำการทดลอง โดยใช้งานแบคทีเรีย สาหร่าย ไลเคนส์ และเห็ดราให้เผชิญกับสภาวะใกล้เคียงดาวอังคาร บนสถานีอวกาศแห่งนี้ เรารู้ว่าในทางทฤษฏีนั้น
บนดาวอังคารมีปัจจัยและทรัพยากรหลายอย่าง ที่มันจะทำให้มีชีวิตอยู่บนนั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นแร่ธาตุสำคัญอย่างคาร์บอน ไนโตรเจน ไฮโดรเจน ออกซิเจน ซัลเฟอร์ ฟอสฟอรัส น้ำที่อยู่ในรูปน้ำแข็ง หรือแม่แต่น้ำที่อยู่ในรูปของเหลว โดยมีการค้นพบทะเลสาบใต้ดินบนดาวอังคารที่อยู่ลึกถึง 1.5 ไมล์ และแผ่กว้างถึง 20 ไมล์ ทะเลสาบแห่งนี้มันผสมไปด้วย โซเดียม แม็กนีเซียม และแคลเซียม ซึ่งมันอาจกลายเป็นซูปเหลวที่จะเป็นแห่งกำเนิดชีวิตบนโลกเองก็มีการค้นพบสิ่งมีชีวิตริดรอดชีวิตอยู่ภายใต้ชั้นน้ำแข็ง หรือแม้แต่แบคทีเรียที่รอดชีวิตอยู่ภายใต้แหล่งน้ำแข็งเองจึงนับว่าเป็นไปได้จริง และมีความคุ้มค่า

ที่เราจะลงทุนไปกับการค้นหา ชีวิตบนดาวเคราะห์สีแดงเพลิงดวงนี้ จากนั้นเราก็จัดการเอาสิ่งมีชีวิตที่เป็นหมูทดลอง ใส่ลงในส่วนผสม ที่เป็นเช่นเดียวกับพึ้นผิวของดาวอังคาร ตัวอย่างนับร้อยๆ ตัวอย่าง ได้ถูกเราเอามาใช้งาน ในกระบวนการอันนี้ และมันได้ถูกเอาออกไปนอกยาน ใส่ใว้ใน อุปกรณ์จัดเก็บที่เหมาะสม จากนั้นเราก็จัดการทิ้งมันใว้ในอวกาศ 18 เดือนตั้งแต่ 2014 ถึง 2016 จากนั้นนำกลับมาบนโลกเพื่อวิเคราะห์และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมานั้นถือว่าคุ้มค่า เพราะสิ่งมีชีวิตบางตัว และโมเลกุลชีวภาพบางกลุ่มมีความทนทาน และปรับตัวได้ดีอย่างเหลือเชื่อ กับสภาวะบนอวกาศ เอาชนะแรงกดดันบนนั้นได้และเดินทางกลับมาโลก ในฐานะสิ่งมีชีวิตที่เป็นผู้ชนะ สิ่งมีชีวิตที่เป็นผู้รอดชีวิตจากอวกาศ หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากอีเวนท์นี้ก็คือ อาร์เคีย จุลชีพหลายเซลล์ที่ดำรงเผ่าพันธ์อยู่บนโลกไม่ต่ำกว่า 3.5 พันล้านปี อาร์เคียพบได้ทั่วไปในน้ำทะเล และอยู่รอดบนโลกได้ แม้แต่ในแดนหนาวของแอนตาร์ติกาโดยตัวอย่างทดลองอาร์เคียของเราก็เอามาจากเผ่าพันธ์ทนทานสายทนอากาศหนาวนี้เอง พวกเขารอดชีวิตมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นบนอวกาศมาได้และสามารถตรวจจับได้ด้วยเครื่องมือของเรา สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวและจุลชีพเหล่านี้อาจคล้ายชีวิตบนดาวอังคาร สิ่งมีชีวิตที่รอดชีวิตมาจากสภาวะสุดขั้วบนโลกไม่ว่าจะเป็นอาร์คติก แอนตาร์กติกา เทือกเขาแอลฟ์ ทุ่งหญ้าสเต็ปป์ในสเปน และดินแดนที่เยือกแข็งอย่างสมบูรณ์ เหล่าสิ่งมีชีวิตที่สามารถรอดชีวิตอยู่ในสภาวะสุดขั้วเช่นนั้นจะมีนามที่นักวิทยาศาสตร์เรียกขาน ว่า เอ็กซ์ตรีมเทอร์โมไฟล์ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถรอดชีวิตมาได้ ในสภาวะสุดขั้วของอุณหภูมิ พวกมัน
อาจเป็นสิ่งมีชีวิต ที่รอดชีวิตอยู่บนยูโรปา และ เอนเซลาดัส เช่นเดียวกับแนวคิดที่ว่าเหล่าชีวิตในอวกาศ อาจมีแหล่งกำเนิดเช่นเดียวกับบนโลกคือ
ชีวิตเริ่มต้นขึ้นมาจากใต้ทะเล ชีวิตเริ่มต้นมาจากส่วนผสมทางเคมี ปรากฏการ์ณพลังงานที่เกิดขึ้นในแกนโลก อาจทำให้กำเนิดแบคทีเดียที่ย่อยน้ำตาลเป็นอาหาร และรวมถึงแบคทีเรียที่กินน้ำตาล ซึ่งอาจกลายเป็นอาหารให้กับสิ่งมีชีวิตอื่น และทำการให้กำเนิดชีวิตที่ใหญ่กว่า เช่นกุ้งบางชนิดที่หากินอยู่ใกล้ภูเขาไฟใต้ทะเลในโลกของเรา ซึ่งบนดาวยูโรปา และเอนเซลาดัส ก็มีการค้นพบปรากฏการณ์เช่นนี้เช่นกัน ไม่แน่ชีวิตในอวกาศอาจมีมากกว่าที่คิด