สวัสดีค่ะ เพื่อนๆพันทิป ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ
เราชื่อ Nancy น้ำหนัก 155 กิโล
อันนี้เป็นกระทู้รีวิวกระทู้แรกของเรานะคะ ถ้าเขียนงงไทำอะไรไม่ถูกก็ขออภัยด้วยนะคะ
เราจะพาเพื่อนๆ ออกไปเที่ยวฉบับคนอ้วนอย่างเรากัน เอาจริงๆ ถ้าคนอ้วนอย่างเราลุยได้ เพื่อนๆ สมช. ก็คงไม่ค้องกลัวแล้วมั้ง ?? พร้อมแล้วก็ป่ะ ไปเที่ยว”อินเดีย”กัน
เตรียมตัว
ทริปนี้ของเรามีทั้งหมด 4 คน(รวมตัวเรา) น้องชายเราอายุต่ำกว่า 15ปี และเป็นทริปแรก การนั่งเครื่องครั้งแรกของเค้า อีกสองคนเป็นน้องสาวและเพื่อนนาง ผู้ซึ่งตะลุยด้วยกันมาหลายทริป จะได้ไม่กังวลว่าการเที่ยวของเรานั้นจะถูกจริตหรือเปล่า เพราะไปด้วยกันมาหลายที่
สิ่งแรกที่เราต้องเตรียมไปคือ
1.Passport สำหรับเราสามคน ไม่ค้องห่วงเที่ยวบ่อบ เที่ยวเก่ง มีอยู่แล้วไม่ต้องเตรียมอะไร แต่สำหรับน้องชายเรานั้น ต้องไปทำใหม่ เพราะไม่เรยมี อายุน้อยกว่า15ปีสิ่งที่ต้องเตรียมไปคล่าวๆคือ
1.1 พ่อ-แม่(เอาไปทั้งสองคน)
1.2ใบเกิด และ บัตรประชาชน
1.3 เงินค่าทำประมาณ1000
รอประมาณ3-5 วัน พาสก็จะถูกส่งมาที่บ้าน ได้พาสปอตเรียบร้อยแล้วเราก็ไปกันต่อเลยจ้าาา
2. Visa วิธีการขอก็ขอไม่อยาก ค้นเอาในพันทิปนี่แหละเจอแน่นอน เราขอข้ามส่วนนี้ไปนะคะ E-Visa ขอได้เร็วมากกก ขอคืนนี้ พรุ่งนี้สายๆได้ แต่ว่าถ้าช่วงไหนเค้าฮิตไปก็อาจจะนานหน่อย ค่าใช่จ่ายตีกลมๆ 3,000 ไทยบาทหักผ่านบัตรเคดิตไป
3. ตั๋วเครื่องบิน เราจอง Jetairways ไป-กลับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หนึ่งอาทิตย์ก่อนบิน ตั๋วขากลับโดนยกเลิก สุดท้ายก็ได้กลับป้าเอื้องไม่งั้นไม่ได้กลับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้4. เรื่องการเดินทางระหว่าทริป เราติดต่อ Ranthamboretourcab ไว้ให้เค้าดูแลตลอดการเดินทาง
แอบหวั่นใจเล็กๆ เพราะก่อนเดินทางสัก 2 อาทิตย์มีคนเอามาลงพันทิป หลังจากคุยกับคุณSinghบอกเค้าถึงข้อกังวลใจก็คิดว่า เอาวะ ลองดูสักตั้ง
สุดท้ายก็ได้บิน!!!
มาถึงที่สนามบินปรากฏว่า “คนขับรถไปรับผิดสนามบิน” เราอยู่ Delhi คนขับไปรับที่ Jaipur หลังจากคุยกันไปสักพัก คุณSingh ก็ให้รถอีกคันที่อยู่ใกล้เคียงมารับ
มื้อแรกที่อินเดียเรากิน KFC ที่สนามบิน (ระหว่ารอรถมารับ) รสชาติดี และคิดว่ามีเคเอฟซี เรารอดแล้วแน่ๆ !!(KFC ก็คือ KFC แหละเนอะ
)
หลังจากที่คนขับรถมารับเราก็ไปที่โรงแรม Smyle Inn (จองผ่าน Agoda ไว้)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โรงแรม ไม่มี ที่จอดรถด้านหน้า อยู่ในตรอกซอยเล็กๆ เดินเข้าไป 200เมตรโดยประมาณ เราเลยต้องเดินตัวเปล่าเข้าไปก่อน ที่พีคสุดคือ ต้นซอยเป็นห้องน้ำ !!
จริงๆคือ ช่องสองช่อง ให้หนุ่มๆเข้าไปสลับกันฉี่ กลิ่นฮึบมากกก ขมคอเลย
เนื่องจากเป็นที่แรกที่เราเจอ แล้วคนในทริปเราก็เป็นผู้หญิงส่วนใหญ่ มองหน้ากันตาปริบๆเลยว่ายังไงดีว้าาา รอดไม๊เนี้ย แต่พอเดินเข้าไปในโรงแรม เจ้าของโรงแรม(คิดว่าใช้นะ) ใจดีให้ความช่วยเหลือโทรติดต่อกับคนขับส่งลูกน้องออกไปรับ และบอกว่ามีปัญหาอะไรให้แจ้งเค้าทันทีนะ ก็ค่อยสบายใจไปหนึ่งเปราะ
หลังจากเช็คอินเสร็จ เราก็ออกไปที่ Jama Masjid
ไปถ่ายรูปสักหน่อยก่อนพระอาทิตย์ตก
Jama Masjid
ค่าเข้า : ไม่เสีย (ถ้าเอากล้องเข้า (มือถือก็โดนจ้า) 300INR หรือ 500INR /ชิ้น จำไม่ได้ อิอิ)
ข้างในจะมีคนที่จะมารอ ประกอบศาสนกิจ
หนุ่มๆน้อยใหญ่ จะมาขอเราถ่ายรูป ถ้าเราอนุญาติให้1คนถ่ายเค้าจะมาต่อคิวถ่ายเรา เราก็ถ่ายๆไปก็ได้เบื่อก็ขอตัวเดินหนีออกมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เท่าที่สอบถาม เค้าว่ากันว่า อินเดียเป็นประเทศใหญ่ มีช่องว่างทางฐานะค่อนข้างกว้าง คนที่จะมาขอถ่ายรูปส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ฐานะไม่ค่อยดี ไม่สามารถเดินทางออกไปนอกประเทศได้เค้าจึงขอเราถ่ายรูป ไปโพสใา Facebookบ้าง Instagram บ้างเพื่ออวดเพื่อน แค่นั้นไม่ได้คิดร้ายอะไร
หลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จ เราก็ขอให้คนขับรถพาไปทานอาหารและกลับที่พัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้าเราไม่มีที่ไป แล้วให้คนขับพาไป อาจจะเจอที่ๆค่อนข้างแพง แต่รสชาติกับบรรยากาศก็ต้องยกให้ พี่ๆคนขับรถอาจจะได้ค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆจากอาหารที่เรากินจ้าา
มาๆต่อกันเร๊วว!!!
วันที่ 2
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เช้านี้รถมารับสายไปหนึ่งชั่วโมง
พี่คนขับรถบอกว่ารถเสีย
แต่ระหว่างรอก็เดินเล่น ไปเจอร้านขายส่าหรี พอเข้าไป เค้าจะเชิญให้เรานั่ง แล้วตัวเค้าจะขึ้นไปอยู่บนชั้น เอาผ้าออกมาคลี่ เอาชามาเสริฟ สรุปแล้วก็ตกลงปรงใจซื้อ 1 ชุด วัดตัวตัด กันเลยทีเดียว สนนราคาแล้ว 3,000รูปี (ประมาณ1,500ไทยบาท) ทีนี้เราก็มีชุดไปถ่ายรูปที่ทัชมาฮาลแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หลังจากวัดตัวและจ่ายตังค์แล้วทางร้านบอกว่าจะส่งชุดไปให้ที่โรงแรม เราจะได้ไม่ต้องลำบากมารับสินค้าเอง ในใจก็ตุ๊มๆต่อมๆเหมือนกัน ถ้าเค้าไม่มาส่งให้หรือว่าไม่ได้ไซส์ตามที่คุยไว้คือตายไปเลย เพราะว่าคืนนี้เราต้องย้ายเมืองและร้านก็ปิดประมาณ 3 ทุ่ม เราคงกลับมารับชุดเองไม่ทันแน่ๆเพราะคิวเที่ยวคือยาวววมากกกก
ออกจากร้านส่าหรี คนขับรถก็มารับไปที่
Qutub Minar
ที่ซื้อตั๋วยาวมากกกกกก.(ฝั่งอินเดีย) แต่ฝั่งชาวต่างชาตินั้น ไม่มีคน
ค่าเข้า
คนอินเดีย 40รูปี
ชาวต่างชาติปกติ อยู่ที่ 600รูปี
คนไทยยื่นซื้อตั๋วพร้อมพาสปอต์ไทย เหลือ 40รูปีเท่ากับชาวอินเดียเลยจ้าา ประหยัดไปเยอะเลยแถมไม่ค้องต่อคิวนานด้วยยย!!!
ข้างในเป็นสถาปัตยกรรมหินดินแดง เก่าๆ สวยมากกก เหมาะแก่การเข้าไปถ่ายรูป
India Gate
ค่าเข้าชม : ฟรี!!!
สถานที่อารมณ์ประมาณ อนุสาวรีย์บ้านเรา สร้างเพื่อเชิดชูเกียติทหารอินเดียที่เสียชีวิต
เข้าไปเยี่ยมชม ถ่ายรูปเฉยๆไม่มีอะไรมาก
จุดนี้จะมีช่างถ่ายภาพมาถามเราว่าอยากจะให้เค้าถ่ายรูปให้ไหมจำนวนมาก ถ้าเรามาหลายๆคนก็ปฎิเสธไป แบบเข้มแข็งเค้าก็จะเลิกยุ่งกับเราไปเอง
Lotus temple
ที่นี้ก็เป็นศาสนสถานอีกที่นะคะ มีคอนเซ็ปสุดคูล คือเป็นวัดที่อนุญาติให้ทุกศาสนาเข้าไปนั่งเงียบๆ อธิฐานกับพระเจ้าของตัวเองโดยไม่จำกัดศาสนา โดยห้องประชุม ไม่อนุญาติให้เสียงดัง ไม่อนุญาติให้ถ่ายรูป ห้องประชุมเป็นห้องประชุมสูงๆ เย็นๆ เข้าไปแล้วทำให้จิตใจสงบ ใครว่างๆก็เข้ามานั่งเล่นได้นะคะ
กลับห้องพักไปอาบน้ำงีบกันสักหน่อย นัดกับพี่คนขับรถไว้ตอน เที่ยงคืน เพื่อที่จะไปทัชมาฮาลแต่เช้า
ถึงเวลาพี่คนขับรถก็มารับตรงตามเวลา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขณะที่พี่เค้าขับเราแอบหวั่นใจ เพราะว่าเค้าก็ทุลักทุเลกับเรามาทั้งวันกลัวแกจะง่วง แอบเอาศอกสะกิดแกไปสองสามที แต่ว่าแกไม่ได้หลับในนะ เราคิดไปเองแกแค่หรี่ตาลงเพราะรถคันหลังเปิดไฟสูงมาแยงตาแก อิอิ
วันที่3
วันนี้เป็นวันของ ”ทัชมาฮาล” 1 ใน7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกและถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลก อีกด้วย
ค่าเข้าชม
สำหรับชาวต่างชาติ : 1100รูปี
แสดงพาสปอต์ไทย เข้าทุกส่วน : 540รูปี
*เด็กอายุต่ำกว่า 15ปี เข้าฟรี!!!!!!!!*
ไปแต่เช้าเข้าคิวตอน 6.00
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก่อนจะถึงที่ขายตั๋ว จะมีไกท์มาชวนคุย ถามโน้นนี่นั้นเยอะแยะ ใจแข็งเข้าไว้ค่ะ อย่างไปคุย เดินให้ถึงที่ขายตั๋วเข้าคิวให้ได้ก่อนค่อยคุยกับคนที่มาเข้าคิวด้วยกัน
จะได้รับน้ำ1กับถุงเท้า 1คู่ ได้แล้วก็เดินออกมาแล้วไปลุยกันได้เลยย
ทางเข้า
ทัชมาฮาลแบบเต็มๆ
ถ่ายคู่กับ Taj Mahal สักหน่อยอุตส่าห์ซื้อส่าหรีมา
ไม่ขอสปอย์ข้างในนะคะ อยากให้คนที่จะไปไปตื่นเต้นด้วยตัวเอง แต่สวยคุ้มค่าจริงๆ ใจจริงวันนี้อยากมีรูปหลังทัชมาฮาลถ่ายบนเรืองแบบคนอื่นเค้าบ้าง แต่!! เนื่องจากวันนี้เป็นวันเทศกาลโฮลี่ พี่คนขับเรือแกไปเที่ยวกันหมด เรือเพียบเลย แต่!! ไม่มีคนพาย เลย อด
อย่างที่บอกนะคะ วันที่เราไปเป็นวัน Holi festival ชาวอินเดียจะเอาสีมาสาดกันเหมือนเป็นการอวยพรกันในเทศกาลสงกรานต์ของไทย
และเนื่องจาก Agra เป็นเมืองเล็กๆ เทศกาลเลยไม่ค่อยครึกครื่น มีคนออกมาเล่นกันประปราย พอให้ได้เปื้อนกันบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สีผงๆไม่น่ากลัวค่ะ ล้างออก แต่อย่าได้ไปยุ่งกับสีผสมน้ำ สองสามวันกว่าจะออก บางคนหน้าเขียวเป็นเดอะฮักไปหลายวันเลย 😁😁
วันนี้เราได้ทริกเล็กๆในการซื้อของไม่ให้โดนหลอกมาบอก เนื่องจากประชากรเยอะ และเพื่อความเท่าเทียมสินค้าของอินเดียส่วนใหญ่จะมีราคาบอก สิ่งที่เราต้องทำคือ หามันให้เจอจ้าาา
ถ้าเป็นพวกน้ำอัดลมก็จะอยู่ที่คอขวดซะส่วนใหญ่ ถ้าเป็นของมีแพ็คก็จะอยู่บนแพ็คเลยจ้าา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตัวอย่าง อันนี้ราคา 45รูปี ถ้าเค้าขายราคาเท่านี้ก็คือราคาปรกติค่ะ
เช้าวันถัดมา นัดคนขับรถมาเวลา9.00น. รอบนี้พี่คนขับรถมารอก่อนถึงเวลานัด มาถึงก็ยกขอขึ้นรถให้ วันนี้เราจะย้ายเมืองไปที่ “Jaipur” หรือที่พี่ไทยเราเรียกว่า “ชัยปุระ” แต่ก่อนย้ายเมืองจะไปแวะชม “Agra fort” แล้วระหว่างทางจะไปแวะถ่ายรูปที่“Stepwell” สักหน่อย อธิบายให้พี่คนขับรถเสร็จสรรพ ก็ไปลุยกันเลยค่ะ ที่ Agra fort
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ “ อัคราฟรอส หรือ ป้อมเมือง อัครา นอกจากเป็นป้อมแล้วยังเป็นสถานที่พระโอรส “ออรังเซฟ” พระโอรสของ “จักพรรดิ์ชาห์ชะฮัน” กษัตรย์ผู้สร้าง “ทัชมาฮาล ได้ถูกจับให้สละราชสมบัติและคุมขังไว้ ณ. ป้อมอัคราแห่งนี้ ตามตำนานเล่าว่าพระองค์เสด็จสวรรคตบนหอคอยแปดเหลี่ยมที่มีระเบียงทำจากหินอ่อน โดยใช้เวลาทั้งหมดไปกับการนั่งเฝ้ามองทัชมาฮาล “สุสานของพระมเหสีอันเป็นที่รักของพระองค์
ด้านหน้าจะมีพ่อค้ามาขายของเยอะแยะ โดยเฉพาะ “ลูกสโนว์บอลที่ด้านในเป็นทัชมาฮาล” โดยราคาตั้งต้นอาจจะสูงถึงลูกละ 800รูปี แต่ถ้าเราทำเป็นไม่สนใจราคาจะลดลงมาเรื่อยๆ จนราคาสุดท้ายที่ซื้อมาคือ 2 อัน 150รูปี “ใช่ค่ะ ตาไม่ฝาด 150รูปีจริงๆ
ทางเข้าสุดอลังการงานสร้าง
สถาปัตยกรรม ที่ทำมาจากหินอ่อน สวยเนียบจริงๆ
สามารถมองเห็น “ทัชมาฮาลได้จริงนะคะ ช่างเป็นจักรพรรดิ์ที่โรแมนติกสุดๆไปเลย”
“อินเดีย” ไม่ไปไม่รู้ ?? Review เที่ยวอินเดีย ฉบับคนอ้วน ที่ขี้เกียจเดิน เหมือนง่าย และกลัวลำบาก 😁
เราชื่อ Nancy น้ำหนัก 155 กิโล
อันนี้เป็นกระทู้รีวิวกระทู้แรกของเรานะคะ ถ้าเขียนงงไทำอะไรไม่ถูกก็ขออภัยด้วยนะคะ
เราจะพาเพื่อนๆ ออกไปเที่ยวฉบับคนอ้วนอย่างเรากัน เอาจริงๆ ถ้าคนอ้วนอย่างเราลุยได้ เพื่อนๆ สมช. ก็คงไม่ค้องกลัวแล้วมั้ง ?? พร้อมแล้วก็ป่ะ ไปเที่ยว”อินเดีย”กัน
เตรียมตัว
ทริปนี้ของเรามีทั้งหมด 4 คน(รวมตัวเรา) น้องชายเราอายุต่ำกว่า 15ปี และเป็นทริปแรก การนั่งเครื่องครั้งแรกของเค้า อีกสองคนเป็นน้องสาวและเพื่อนนาง ผู้ซึ่งตะลุยด้วยกันมาหลายทริป จะได้ไม่กังวลว่าการเที่ยวของเรานั้นจะถูกจริตหรือเปล่า เพราะไปด้วยกันมาหลายที่
สิ่งแรกที่เราต้องเตรียมไปคือ
1.Passport สำหรับเราสามคน ไม่ค้องห่วงเที่ยวบ่อบ เที่ยวเก่ง มีอยู่แล้วไม่ต้องเตรียมอะไร แต่สำหรับน้องชายเรานั้น ต้องไปทำใหม่ เพราะไม่เรยมี อายุน้อยกว่า15ปีสิ่งที่ต้องเตรียมไปคล่าวๆคือ
1.1 พ่อ-แม่(เอาไปทั้งสองคน)
1.2ใบเกิด และ บัตรประชาชน
1.3 เงินค่าทำประมาณ1000
รอประมาณ3-5 วัน พาสก็จะถูกส่งมาที่บ้าน ได้พาสปอตเรียบร้อยแล้วเราก็ไปกันต่อเลยจ้าาา
2. Visa วิธีการขอก็ขอไม่อยาก ค้นเอาในพันทิปนี่แหละเจอแน่นอน เราขอข้ามส่วนนี้ไปนะคะ E-Visa ขอได้เร็วมากกก ขอคืนนี้ พรุ่งนี้สายๆได้ แต่ว่าถ้าช่วงไหนเค้าฮิตไปก็อาจจะนานหน่อย ค่าใช่จ่ายตีกลมๆ 3,000 ไทยบาทหักผ่านบัตรเคดิตไป
3. ตั๋วเครื่องบิน เราจอง Jetairways ไป-กลับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุดท้ายก็ได้บิน!!!
มาถึงที่สนามบินปรากฏว่า “คนขับรถไปรับผิดสนามบิน” เราอยู่ Delhi คนขับไปรับที่ Jaipur หลังจากคุยกันไปสักพัก คุณSingh ก็ให้รถอีกคันที่อยู่ใกล้เคียงมารับ
มื้อแรกที่อินเดียเรากิน KFC ที่สนามบิน (ระหว่ารอรถมารับ) รสชาติดี และคิดว่ามีเคเอฟซี เรารอดแล้วแน่ๆ !!(KFC ก็คือ KFC แหละเนอะ)
หลังจากที่คนขับรถมารับเราก็ไปที่โรงแรม Smyle Inn (จองผ่าน Agoda ไว้)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เนื่องจากเป็นที่แรกที่เราเจอ แล้วคนในทริปเราก็เป็นผู้หญิงส่วนใหญ่ มองหน้ากันตาปริบๆเลยว่ายังไงดีว้าาา รอดไม๊เนี้ย แต่พอเดินเข้าไปในโรงแรม เจ้าของโรงแรม(คิดว่าใช้นะ) ใจดีให้ความช่วยเหลือโทรติดต่อกับคนขับส่งลูกน้องออกไปรับ และบอกว่ามีปัญหาอะไรให้แจ้งเค้าทันทีนะ ก็ค่อยสบายใจไปหนึ่งเปราะ
หลังจากเช็คอินเสร็จ เราก็ออกไปที่ Jama Masjid
ไปถ่ายรูปสักหน่อยก่อนพระอาทิตย์ตก
Jama Masjid
ค่าเข้า : ไม่เสีย (ถ้าเอากล้องเข้า (มือถือก็โดนจ้า) 300INR หรือ 500INR /ชิ้น จำไม่ได้ อิอิ)
ข้างในจะมีคนที่จะมารอ ประกอบศาสนกิจ
หนุ่มๆน้อยใหญ่ จะมาขอเราถ่ายรูป ถ้าเราอนุญาติให้1คนถ่ายเค้าจะมาต่อคิวถ่ายเรา เราก็ถ่ายๆไปก็ได้เบื่อก็ขอตัวเดินหนีออกมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จ เราก็ขอให้คนขับรถพาไปทานอาหารและกลับที่พัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาๆต่อกันเร๊วว!!!
วันที่ 2
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ระหว่างรอก็เดินเล่น ไปเจอร้านขายส่าหรี พอเข้าไป เค้าจะเชิญให้เรานั่ง แล้วตัวเค้าจะขึ้นไปอยู่บนชั้น เอาผ้าออกมาคลี่ เอาชามาเสริฟ สรุปแล้วก็ตกลงปรงใจซื้อ 1 ชุด วัดตัวตัด กันเลยทีเดียว สนนราคาแล้ว 3,000รูปี (ประมาณ1,500ไทยบาท) ทีนี้เราก็มีชุดไปถ่ายรูปที่ทัชมาฮาลแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ออกจากร้านส่าหรี คนขับรถก็มารับไปที่
Qutub Minar
ที่ซื้อตั๋วยาวมากกกกกก.(ฝั่งอินเดีย) แต่ฝั่งชาวต่างชาตินั้น ไม่มีคน
ค่าเข้า
คนอินเดีย 40รูปี
ชาวต่างชาติปกติ อยู่ที่ 600รูปี
คนไทยยื่นซื้อตั๋วพร้อมพาสปอต์ไทย เหลือ 40รูปีเท่ากับชาวอินเดียเลยจ้าา ประหยัดไปเยอะเลยแถมไม่ค้องต่อคิวนานด้วยยย!!!
ข้างในเป็นสถาปัตยกรรมหินดินแดง เก่าๆ สวยมากกก เหมาะแก่การเข้าไปถ่ายรูป
India Gate
ค่าเข้าชม : ฟรี!!!
สถานที่อารมณ์ประมาณ อนุสาวรีย์บ้านเรา สร้างเพื่อเชิดชูเกียติทหารอินเดียที่เสียชีวิต
เข้าไปเยี่ยมชม ถ่ายรูปเฉยๆไม่มีอะไรมาก
จุดนี้จะมีช่างถ่ายภาพมาถามเราว่าอยากจะให้เค้าถ่ายรูปให้ไหมจำนวนมาก ถ้าเรามาหลายๆคนก็ปฎิเสธไป แบบเข้มแข็งเค้าก็จะเลิกยุ่งกับเราไปเอง
Lotus temple
ที่นี้ก็เป็นศาสนสถานอีกที่นะคะ มีคอนเซ็ปสุดคูล คือเป็นวัดที่อนุญาติให้ทุกศาสนาเข้าไปนั่งเงียบๆ อธิฐานกับพระเจ้าของตัวเองโดยไม่จำกัดศาสนา โดยห้องประชุม ไม่อนุญาติให้เสียงดัง ไม่อนุญาติให้ถ่ายรูป ห้องประชุมเป็นห้องประชุมสูงๆ เย็นๆ เข้าไปแล้วทำให้จิตใจสงบ ใครว่างๆก็เข้ามานั่งเล่นได้นะคะ
กลับห้องพักไปอาบน้ำงีบกันสักหน่อย นัดกับพี่คนขับรถไว้ตอน เที่ยงคืน เพื่อที่จะไปทัชมาฮาลแต่เช้า
ถึงเวลาพี่คนขับรถก็มารับตรงตามเวลา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันที่3
วันนี้เป็นวันของ ”ทัชมาฮาล” 1 ใน7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกและถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลก อีกด้วย
ค่าเข้าชม
สำหรับชาวต่างชาติ : 1100รูปี
แสดงพาสปอต์ไทย เข้าทุกส่วน : 540รูปี
*เด็กอายุต่ำกว่า 15ปี เข้าฟรี!!!!!!!!*
ไปแต่เช้าเข้าคิวตอน 6.00
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จะได้รับน้ำ1กับถุงเท้า 1คู่ ได้แล้วก็เดินออกมาแล้วไปลุยกันได้เลยย
ทางเข้า
ทัชมาฮาลแบบเต็มๆ
ถ่ายคู่กับ Taj Mahal สักหน่อยอุตส่าห์ซื้อส่าหรีมา
ไม่ขอสปอย์ข้างในนะคะ อยากให้คนที่จะไปไปตื่นเต้นด้วยตัวเอง แต่สวยคุ้มค่าจริงๆ ใจจริงวันนี้อยากมีรูปหลังทัชมาฮาลถ่ายบนเรืองแบบคนอื่นเค้าบ้าง แต่!! เนื่องจากวันนี้เป็นวันเทศกาลโฮลี่ พี่คนขับเรือแกไปเที่ยวกันหมด เรือเพียบเลย แต่!! ไม่มีคนพาย เลย อด
อย่างที่บอกนะคะ วันที่เราไปเป็นวัน Holi festival ชาวอินเดียจะเอาสีมาสาดกันเหมือนเป็นการอวยพรกันในเทศกาลสงกรานต์ของไทย
และเนื่องจาก Agra เป็นเมืองเล็กๆ เทศกาลเลยไม่ค่อยครึกครื่น มีคนออกมาเล่นกันประปราย พอให้ได้เปื้อนกันบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันนี้เราได้ทริกเล็กๆในการซื้อของไม่ให้โดนหลอกมาบอก เนื่องจากประชากรเยอะ และเพื่อความเท่าเทียมสินค้าของอินเดียส่วนใหญ่จะมีราคาบอก สิ่งที่เราต้องทำคือ หามันให้เจอจ้าาา
ถ้าเป็นพวกน้ำอัดลมก็จะอยู่ที่คอขวดซะส่วนใหญ่ ถ้าเป็นของมีแพ็คก็จะอยู่บนแพ็คเลยจ้าา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เช้าวันถัดมา นัดคนขับรถมาเวลา9.00น. รอบนี้พี่คนขับรถมารอก่อนถึงเวลานัด มาถึงก็ยกขอขึ้นรถให้ วันนี้เราจะย้ายเมืองไปที่ “Jaipur” หรือที่พี่ไทยเราเรียกว่า “ชัยปุระ” แต่ก่อนย้ายเมืองจะไปแวะชม “Agra fort” แล้วระหว่างทางจะไปแวะถ่ายรูปที่“Stepwell” สักหน่อย อธิบายให้พี่คนขับรถเสร็จสรรพ ก็ไปลุยกันเลยค่ะ ที่ Agra fort
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ด้านหน้าจะมีพ่อค้ามาขายของเยอะแยะ โดยเฉพาะ “ลูกสโนว์บอลที่ด้านในเป็นทัชมาฮาล” โดยราคาตั้งต้นอาจจะสูงถึงลูกละ 800รูปี แต่ถ้าเราทำเป็นไม่สนใจราคาจะลดลงมาเรื่อยๆ จนราคาสุดท้ายที่ซื้อมาคือ 2 อัน 150รูปี “ใช่ค่ะ ตาไม่ฝาด 150รูปีจริงๆ
ทางเข้าสุดอลังการงานสร้าง
สถาปัตยกรรม ที่ทำมาจากหินอ่อน สวยเนียบจริงๆ
สามารถมองเห็น “ทัชมาฮาลได้จริงนะคะ ช่างเป็นจักรพรรดิ์ที่โรแมนติกสุดๆไปเลย”