ริวิวครับ..รีวิว Honda CB300F ล็อตแรกปี 2014
** ใช้เอง วิจารณ์เอง ละก็..ด่าตัวเอง..เอง ครับ **
รถวิ่งใช้งานพ้นระยะ 90,000 กม. เรียบร้อยครับ
- รับรถมามือสองเมื่อ 25 มี.ค.58 ตอนระยะใช้งาน 6,5xx กม. (เจ้าของเดิม ถอยป้ายแดงเมื่อ 11ต.ค.57) เจ้าของเดิมใช้งานไม่ช้ำ ไม่แต่งอะไร รถสภาพเดิมๆ แต่ตอนนี้สภาพรถเปลี่ยนไปนิดหน่อย

- ตอนออกรถมา..https://ppantip.com/topic/33441955
- ตอนปรับเปลี่ยนรถเล็กๆน้อยๆ..https://ppantip.com/topic/34052203
- ทำไฟเลี้ยวเล่น..https://ppantip.com/topic/35025211
- ท้ายดำโฉม 2016 + สติ๊กเกอร์โฉม 2017

- รับรถมาโอนที่ขนส่งจังหวัดสุพรรณฯ เรียบร้อย..ขี่จากสุพรรณฯ มาเพชรบุรีเลยจ้า แล้วก็เป็นครั้งแรกที่ขี่รถคลัทช์มือในรอบ 15 ปี 
- บางจังหวะเข้าเกียร์..มีลืมกำคลัทช์อยู่ราวๆ 2 อาทิตย์..555
- ด้วยความที่ไม่ได้ขี่รถเครื่องน้ำหนักเยอะมาหลายปีมากๆ..ล้มแปะไป 3 รอบ (กำเบรกหน้าแรงตอนจังหวะเลี้ยวแฮนด์ 2รอบ จอดรถขาตั้งกางไม่สุด1รอบ)
- การบำรุงรักษา ช่วงระยะประกัน 30,000 กม.แรก เข้าศูนย์บริการวิงเซ็นเตอร์ตลอด ใช้น้ำมันเครื่องศูนย์ป๋องขาวฝาน้ำเงิน ระยะการเปลี่ยนถ่ายทุกๆ 2,500 กม. และเปลี่ยนกรองทุก 5,000 กม.
น้ำมันเครื่องศูนย์(0.8ลิตร)ขวดละ100 บาท 2 ขวด
กรองน้ำมันเครื่องอันละ 100 บาท
ปะเก็นฝาปิดกรองน้ำมันเครื่องอันละ 40 บาท
แหวนน็อตถ่ายฯ อันละ 15-20 บาท
ค่าแรง 50 บาท
เปลี่ยนนน้ำมันเครื่องศูนย์จ่าย..500 มีทอนด้วยครับ
- จนถึงระยะ 25,000 กม. เริ่มใช้น้ำมันเครื่องนอกศูนย์ เกรด xxW-40 เปลี่ยนยี่ห้อมาเรื่อยๆ ไม่มีปัญหาใด ครับ แล้วก็ไม่มีอาการน้ำมันเครื่องซึมที่รูระบายเลย...
- ไปเที่ยวไกลครั้งแรก..https://ppantip.com/topic/34248815
- ขี่กลับ 2 บ้าน
- ขี่ไปทำงาน

- เที่ยวก๊อกๆแก๊กๆ
- ไปไหว้พระธาตุผาซ่อนแก้ว
- ทริปแอ่วเหนือ..https://ppantip.com/topic/36039205
- ตอนระยะ 50,000 กม. เข้าศูนย์ เช็คใหญ่เปลี่ยน..โซ่ สเตอร์ ยางกันกระชาก หัวเทียน ตัวดันโซ่ราวลิ้น..แต่ดันไม่ได้ตั้งวาล์ว มาตั้งอีกทีตอนจะ 70.000 กม.
- เปลี่ยนลูกปืนคอ

- จนกระทั้ง..ระยะใช้งาน 62,xxx กม. มีน้ำมันเครื่องซึมที่รูระบาย ก็ไม่รู้ว่าซีลปั๊มน้ำออกอาการพอดี หรือเป็นเพราะน้ำมันเครื่องที่เปลี่ยนมาใหม่(กาหอย)..ที่ผมรุ้สึกเองว่าเวลาเครื่องร้อนๆ เกียร์มันแข้งแข็งกว่าน้ำมันเครื่องยี่ห้ออื่น ผมเลยแก้ปัญหาโดยการต่อท่อไว้ น้ำมันเครื่องที่ออกมาไม่หยดลงพื้น เวลาเครื่องเย็น..น้ำมันเครื่องในท่อนี้ถูกดูดกลับเข้าไปในเครื่องด้วยแฮะ

- มัดไฟไหม้ตอนใกล้ๆ 70,000 กม. อาจจะเพราะช่วงนั้นชอบเปิดไฟสูงขี่ทางไกลตลอดเวลา หมดไป 2,000 บาท รวมเปลี่ยนน้ำมันเครื่องศูนย์

- เวลาผ่านไปล่วงเลยมาถึงระยะ 72,000กว่า กม. ที่ผ่านมา..ผมก็ไม่ได้เคลมฝาเคลมเพลาข้อเหวี่ยงอะไรกับเขา..เพราะคิดเอาเองว่า..ถ้าน้ำมันเครื่องไม่ขาดไม่หายเครื่องก็ไม่พัง..จนกระทั่งงานเข้าจนได้..แบริ่งเพลาข้อเหวี่ยงละลาย..เรียบร้อยจ้าาาาาาา..(เพราะเอ็งมันรั้น)
- อาการนี้เกิดขึ้นได้ ทั้งๆที่ น้ำมันเครื่องไม่ได้หายไม่ได้ยุบ น้ำหล่อเย็นอยู่ครบ เครื่องไม่ได้ร้อนหรือฮีท..เนื่องจากคุณภาพขอองชิ้นส่วนที่ประกอบมาจากโรงงาน ซึ่ง เอพี ฮอนด้า ก็เรียกรถเข้าไปเคลมแบบไม่มีค่าใช้จ่ายได้ตลอดระยะประกัน ซึ่งกรณีผมเลยระยะประกันมาเยอะมากจึงไม่เข้าเงื่อนไขการเคลม
- เคสค่าซ่อม เปลี่ยน..ลูก, แหวน, ชุดก้านสูบเพลาข้อเหวี่ยง(ที่แก้ปัญหาแล้ว), ปะเก็นเครื่องทั้งหมด, ซีลปั๊มน้ำทั้ง2อัน, น้ำมันเครื่องศูนย์, กรองน้ำมันเครื่อง และรวมค่ายกรถมาศูนย์ จบที่ 10,050 บาท แล้วผมก็ใช้มันมาจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ xxW-50 ครับ
- อัตราการกินเชื้อเพลิง ถ้าขี่นอกเมืองความเร็วคงที่ 100-110 กม./ชม. มี 30 กม./ลิตร ให้เห็นแน่นอนครับ ถ้าแช่ความเร็วเดินทางราว 130-145 จะอยู่ราวๆ 26 กม./ลิตร
- ความเร็วสูงสุดแบบไม่หมอบ ไม่เกิน 165 กม./ชม. (ถ้าขี่ตามลมอาจไหลไป 170 ครับ)
- เปลี่ยนน้ำมันโช้คตอน 78,000 กม. เพราะย้วยทนไม่ไหว มีอาการแฮนด์ชกเวลาทางไม่เรียบความเร็วสูง เบ็ดเสร็จ 1,700 บาท

- ยาง..ขนาดเดิมโรงงาน(หน้า-หลัง 110/70-17-140/70-17)ทุกครั้งที่เปลี่ยนยางคู่ใหม่ (กะว่ารอบ100,000 กม. จะใส่หลังสัก150 )
ยางใช้มาแล้ว 3 ชุดครับ
1. ยางติดรถ IRC RX-01 ระยะใช้งาน 15,000 กม. ลื่นตอนลุยฝน  บิดแล้ววืดล้อฟรีท้ายปัด
2. ยาง Dunlop GT601 คู่ละ 5,400 คุณภาพสไตล์เมดอินเจแปน ทน หนึบ ไม่กลัวน้ำ มาลื่นช่วงลุยน้ำฝนตอนใช้มาเกือบ 45.000 กม. โคตะระคุ้ม

3. ยาง Duro HF918 คู่ละ 2,500 คุณภาพตามราคา ดีอย่างเดียวคือถูก

- แบตเตอรี่ เปลี่ยน 3 ลูก(รวมของติดรถ)
ลูกที่ 2 เปลี่ยนเพราะรู้สึกว่าอาการเบาดับ เวลาขี่ในเมือง พัดลมทำงานด้วยเหมือนไฟไม่พอ
ลูกที่ 3 เปลี่ยนเพราะมันสตาร์ทติดบ้างไม่ติดบ้าง แต่ที่แท้เกิดจาก สายไฟสวิทช์ไฟเกียร์ว่าง ตรงแคร้งเครื่องด้านซ้าย ใกล้ขาเปลี่ยนเกียร์..หลวม

บทสรุป
มันตอบโจทย์ที่ผมตั้งไว้..ในเรื่องการหันมาใช้งานรถเครื่องแทนรถยนต์
1. ประหยัดน้ำมันกว่ารถยนต์
2. ค่าดูแล ซ่อมบำรุง ทั้งตามระยะทาง และซ่อมหนัก ถูกกว่ารถยนต์
3. หาอะไหล่ง่าย มีศูนย์บริการทุกจังหวัด
4. มีความคล่องตัว ทั้งในเมือง นอกเมือง
5. เบาะหลังเป็นมิตรกับคนซ้อน
6. ถังน้ำมันใหญ่พอที่จะเดินทางไม่น้อยกว่า 200 กม. ต่อการเติม 1 ครัง (ที่ความเร็วเดินทาง)
7. ทำความเร็วได้พอๆกับรถยนต์ที่ผมใช้ (Opel Corsa 1.4 ) ความเร็วสูงุสุด 160-165 กม./ชม. ผมสามารถใช้ความเร็วเดินทาง(ถนนโล่ง) 120-140 กม./ชม. ได้แบบไม่ต้องโมฯเครื่องโมฯรถ..คือ..ไม่ได้ต้องการเอามาแข่งกับใคร

** ผม...ยังนึกไม่ออกว่า จะมีรุ่นไหนมาแทน CBR/CB 300 Series ที่ผมใช้งานอยู่ได้(อย่างน้อยก็ในช่วงเวลานี้) และคิดว่ามันคือรถที่คุ้มค่ากับราคาค่าตัวและสมรรถนะของมัน ครอบคลุมการใช้งาน และสามารถเป็นรถที่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ทุกๆวัน ครับ

สุดท้ายขอบคุณทุกท่าน..ที่เข้ามาอ่านครับ..

** ขออภัย ชื่อสินค้า CB300F ปี 2014 นะครับ..