WORK AND HOLIDAY VISA – AUSTRALIA :: แชร์ประสบการณ์การเป็นตัวสำรองของโครงการ Work and Holiday ออสเตรเลีย ปี 2018

*
**
***

Good morning สำหรับคนที่เข้ามาอ่านตอนเข้า
Good afternoon สำหรับคนที่เข้ามาอ่านตอนบ่าย
และ Good evening สำหรับคนที่เข้ามาอ่านตอนเย็นครับ

จริงๆ นี่อาจจะเป็นกระทู้แก้บนหรือเปล่าไม่แน่ใจ ฮ่าๆ เพราะจริงๆ แล้ว จขกท แค่ภาวนาให้วีซ่าผ่าน แล้วจะมาเขียนกระทู้เล่าประสบการณ์การเป็นตัวสำรอง ซึ่งไม่ค่อยเห็นมีกระทู้ที่แชร์ประสบการณ์ของการเป็นตัวสำรอง

หลังจากที่ จขกท เพิ่งได้ Visa Grant มาสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันที่ 15 March 2019 ที่ ผ่านมา เลยอยากจะเล่า และแบ่งปันข้อมูล ของการสมัครโครงการ Work and Holiday – Australia (2018) ซึ่ง จขกท ได้เป็นตัวสำรองของโครงการ (รอนานมาก รอจนเกือบลืม)

ในกระทู้นี้ จขกท จะไม่ได้พูดถึงรายละเอียดของโครงการนี้มากนักนะครับเพราะว่ามีหลายกระทู้และข้อมูลจากทาง thaiwahclub.com เยอะแล้ว แต่ จขกท จะขออนุญาตแปะลิงค์ให้สำหรับ ใครที่สนใจโครงการนี้ ไว้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ปล. ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งครับสำหรับคนที่สนใจในโครงการนี้ เก็บข้อมูลรายละเอียดไว้เยอะๆ ครับ

จขกท เอง พยายามจะให้ได้วีซ่าตั้งแต่ปี 2017 แต่ไม่ได้เพราะว่าเป็นปีแรกที่ลองกดโควต้า ซึ่งตอนนั้นเข้า Website แล้วไม่โหลดเลย ล่มบ้าง ด้วยความไม่รู้ เลยไม่ได้พยายามกด F5 เพื่อ refresh หน้า Website นั้นๆ สุดท้าย โควตาเต็ม 800 เลยอด ซึ่งตอนนั้นเอกสารต่างๆ ค่อนข้างพร้อมอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ล้มเลิกความคิด และเก็บเอกสารเหล่านั้น รอกดอีกปี 2018 ครับ และในปีนั้นเอง จขกท เลยปลอบใจตัวเองด้วยการซื้อตั๋วเครื่องบินไปเที่ยว Europe คนเดียว (ย้อนดูกระทู้รีวิวเก่าได้นะครับ อิอิ)

แอบแปะ เผื่อมีคนอยากตามไปเที่ยว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จุดเริ่มต้นของการที่ จขกท อยากไปโครงการนี้เลยคือ อยากไปเที่ยวต่างประเทศ อยากไปลองใช้ชีวิตในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ และ จขกท ก็มีเพื่อนร่วมงานที่เพิ่งกลับมาจากโครงการนี้ (ปี 2015) บวกกับ จขกท มีเพื่อนคนเยอรมันและฝรั่งเศสที่ไปโครงการนี้เหมือนกัน จขกท เริ่มหาข้อมูล แล้วเก็บข้อมูลตั้งแต่ตอนนั้น

แต่ก่อนไปเที่ยวนั้น จขกท ได้สมัครสอบ IELTS ไว้ หลังจากแอบไปเที่ยวปลอบใจตัวเองมา ก็กลับมาสอบ IELTS ครั้งที่ 2 – May 2018

เมื่อถึงวันที่ 1 June 2018 เป็นวันที่กดโควตาผ่าน Website จขกท มาที่ทำงานตั้งแต่ 8.30hrs ปกติเข้างาน 14.30hrs (เพื่อการได้โครงการนี้ ยอมตื่นเช้าหน่อย) เมื่อมาถึงก็รีบเข้า Website และรอเวลา พอถึงเวลาหากใครเคยลองหาข้อมูลมาแล้ว แน่นอนครับ Website error เราก็ต้องพยายาม กด F5 แบบรัว รัวแล้วรัวอีก จนหน้า website แสดงข้อมูล จขกท กดหน้าที่สามารถกรอกข้อมูลได้ถึง 3 ครั้ง แต่มา error ตอนสุดท้ายทุกครั้ง กดไปเรื่อยๆ จน ตัวจริงลำดับ 550 คนแรก เต็ม และแสดงว่าว่า เหลือ อีก 250 ที่สำหรับ ตัวสำรองจากทั้งหมด 800 คน จขกท ไม่ยอมแพ้ ท่องเสมอว่า อะไรที่เราสมควรจะได้ เราจะได้ในเวลาที่เหมาะสม และจู่ๆ จขกท ก็สามารถกดตัวสำรองลำดับที่ 698 ซึ่งตอนนั้นก็ดีใจครับ แต่คงจะดีใจกว่านี้ถ้าได้เป็น 550 คนแรก และอาจจะต้องกดใหม่ปีหน้า เพราะการเป็นตัวสำรองคือ ต้องรอจนตัวจริง 550 คนแรกยื่นวีซ่าหรือใบรังรองโครงการจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) หมดอายุตอนสิ้นเดือน ธันวาคมของปีนั้นๆ รอไปสิครับ

จริงๆ แล้ว จขกท แอบถอดใจแล้ว เพราะลำดับตัวสำรองที่ได้คือ 698 และคิดว่าถ้าไม่โดนเรียกก็รอกด Working and Holiday ที่ New Zealand ปี 2019 เพราะผลสอบ IELTS อยู่ได้ถึง 2 ปี

ด้วยความที่รอกึ่งไม่รอ และแล้วเวลานั้นก็มาถึง วันที่ 18 January 2019 ที่ผ่านมา ดย. ได้ประกาศรายชื่อตัวสำรองที่มีสิทธิ์ยื่นเอกสารเพื่อขอใบรังรองโครงการเพื่อที่จะได้ยื่นวีซ่าในขั้นตอนต่อไป และตัวสำรองทั้งหมด (ถึงลำดับ 800) ถูกเรียกให้ยื่นเอกสารสมัครโครงการในวันที่ 13-14 February 2019 และสามารถรับใบรับรองโครงการได้ในวันที่ 27-28 February 2019 หากผ่านการตรวจเอกสารสมัครโครงการ

วันที่ 22 February 2019 จขกท ได้รับ E-mail จาก ดย. พร้อม attached file รายชื่อตัวสำรองที่ผ่านการตรวจเอกสาทั้งหมด 129 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ ดย. ได้แจ้งว่า วีซ่าสำหรับตัวสำรองเหลืออีก 71 ที่ ซึ่งหมายความว่า ทั้ง 129 คนที่ได้รับใบรับรองจากทาง ดย. ต้องแย่งโควตาวีซ่าที่เหลืออีก 71 ที่ และหมายความว่า 58 คนจาก 129 คนจะไม่ได้รับวีซ่า (หากเพื่อนๆ ตัวสำรองได้เข้ามาอ่าน ขอเป็นกำลังใจให้คนที่ยังไม่ได้วีซ่าครับ)

เมื่อรู้ว่าต้องมาการแย่งวีซ่า จขกท ได้ทำการนัดยื่นวีซ่าในวันเดียวกันกับที่ไปรับเอกสารรับรอง วันที่ 27 February 2019 จขกท ไปรับเอกสารรับรองและรีบไปที่ศูนย์ยื่นวีซ่า Australia - VFS หลังจาก ส่วนขั้นตอนและเอกสารการยื่นวีซ่านั้น จขกท ขออนุญาต ใช้ลิงค์จากทาง thaiwahclub.com และกระทู้เก่าๆ จากรุ่นก่อนครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ปล. ในกระทู้ที่ จขกท แปะไว้ เป็นกระทู้ของปีก่อนๆ และแนะนำให้หาข้อมูลล่าสุดประกอบด้วยนะครับ
 
ในวันเดียวกัน ตัวสำรองส่วนใหญ่รีบไปรับใบรับรองจาก ดย. และไปที่ศูนย์ยื่นวีซ่า
(**แนะนำให้รีบยื่นวีซ่าสำหรับการเป็นตัวสำรองครับเพราะต้องแย่งโควต้า Visa ที่เหลือ**)

หลังจากยื่นเอกสารขอวีซ่าเสร็จก็ต้องรอ E-mail จากทาง VFS และจากทาง Australian Embassy เพื่อตรวจร่างกายในขั้นต่อไป จขกท รอ E-mail ตรวจสุขภาพประมาน 2 อาทิตย์ เมื่อวันที่ 13 March 2019 จขกท ได้รับ E-mail เวลาประมาน 9 โมงครึ่ง จขกท รีบโทรนัดเวลากับทางโรงพยาบาล เพื่อให้ได้ตรวจร่างกายในวันนั้นช่วงบ่าย หลังจากไปตรวจร่างกายเรียบร้อย ผลตรวจปกติ และเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ผลตรวจจะถูกส่งไปที่ Australian Embassy ภายใน 3 วัน (จขกท คิดว่า จริงๆ น่าจะส่งภายใน 24 ชั่วโมง)

วันที่ 15 March 2019 ได้รับข้อความและโทรศัพท์จาก VFS ว่า ผลของวีซ่ามาถึงที่ VFS แล้ว แล้วจะถูกส่งทางไปรษณีย์ในวันจันทร์ที่ 18 March 2019 ซึ่งติดช่วงหยุดเสาร์-อาทิตย์ และเสาร์ อาทิตย์นี้เป็น 2 วันที่ผ่านไปช้ามากๆ และเป็นอาทิตย์ที่อยากให้ถึงวันจันทร์ให้เร็วที่สุดเพราะ อยากรู้ผลวีซ่า (ที่ จขกท ค่อนข้างตื่นเต้นเพราะ จขกท มีเปอร์เซ็นต์ที่จะไม่ผ่านวีซ่าได้คือเรื่อง Statement)

และในวันที่ 18 March 2019 จขกท ก็ได้รับข้อความแจ้งว่า เอกสารถูกส่งไปทางไปรษณีย์แล้ว ขอบอกก่อนนะครับว่าการยื่นวีซ่าต้องผ่านทาง VFS และ ผลวีซ่าของ Work and Holiday Australia จะส่งผ่านไปรษณีย์เท่านั้น

จขกท พยายามเช็คสถานะของพัสดุ ตลอดทั้งวัน จนกระทั่งวันที่ 19 March 2019 จขกท อยากแกล้งลาป่วยมากเพราะอยากรอรับเอกสารด้วยตัวเอง และอยากรู้ผลวีซ่า แต่ก็ฝืนตัวเองมาทำงานทั้งที่ทั้งวันเอาแต่เช็คสถานะพัสดุ

เวลา 17.00hrs ของวันที่ 19 March 2019 จขกท รีบกลับห้องและรับเปิดเอกสาร ในใจภาวนาตลอดเวลาว่าขอให้เปิดมาแล้วเห็นคำว่า Visa Grant ซึ่งเป็นไปตามดังที่ใจหวังไว้ และได้ Visa มาไว้ครอบครอง ซึ่ง จขกท ยังไม่ได้วางแผนว่าจะไป Australia เมื่อไร แต่คิดๆ ไว้ว่าน่าจะสิ้นปีเลย หรืออาจจะกลางปีนี้ หากจู่ๆ เบื่องาน แหะๆ

สำหรับการได้เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ จขกท มีเรื่องบังเอิญบางอย่างมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับ เพื่อนที่ได้ตัวสำรองของปีนี้ด้วยกัน ไม่รู้ว่าเกิดจากความบังเอิญ หรืออะไรก็ตาม จขกท เจอเพื่อนคนหนึ่ง นามสมมติ Mill (มิล ไม่แน่ใจสะกดแบบนี้หรือเปล่า อิอิ) จริงเราเคยเจอกันก่อนหน้านี้ แต่จขกท มาเจอเพื่อนคนนี้อีกครั้งตอนที่ไปรอยื่นเอกสารที่ ดย. ซึ่งขณะที่รอ ที่นั่งข้างๆ จขกท ว่างอยู่หนึ่งตัว เพื่อนเลยมาขอนั่ง ตอนแรก จขกท ไม่ได้เอะใจ จนเพื่อนนั่งสักพัก แล้วก็ทัก จขกท ว่า หน้าคุ้นๆ พอ จขกท นึกขึ้นได้ก็บอกว่า เฮ้ย เราเป็นเพื่อนที่เคยเรียน IELTS Class ของ Beyond Study Center ที่จัดขึ้นในปี 2017 ด้วยเราสมัครสอบรอบเดียวกันของปีนั้น และการสอบครั้งนั้น เราก็ดันได้นั่งโต๊ะเดียวกันอีก แต่เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเพื่อนไม่ได้กดของปี 2017 เพราะเรื่องคะแนนสอบ แต่เพื่อนก็มาได้ตัวสำรองพร้อมกันกับ จขกท ในปี 2018 เรายื่นเอกสาร รับใบรับรอง และยื่นวีซ่าพร้อมกัน เราได้ E-mail ตรวจร่างกายวันเดียวกัน จขกท เลยส่งข้อความหาเพื่อนเพื่อจะได้ไปตรวจร่างกายวันเดียวกัน (จริงๆ แล้ว เราอัพเดตข้อมูลกันนอกกลุ่ม Line ตลอด) สุดท้าย เราได้ Visa Grant พร้อมกันอีก เป็นเรื่องที่ จขกท ไม่คิดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นบังเอิญอะไรขนาดนั้น (หากเพื่อนเข้ามาอ่านกระทู้นี้ จขกท อยากบอกเพื่อนว่า ยินดีที่ได้เจอและยินดีมากๆ ที่ได้ Visa ด้วยกัน ฮ่าๆ)

** ความบังเอิญมีในโลกนี้จริงๆ **

มาถึงส่วนนี้ จขกท อยากจะพูดถึง Timeline ของการเรียกตัวสำรอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

และในส่วนนี้ จขกท จะพูดถึง Timeline การสมัครโครงการนี้ของ จขกท ตั้งแต่รู้จักโครงการนี้

27 April 2017 – สอบ IELTS ครั้งที่ 1
ถ้าจำไม่ผิดประมานช่วงปลายเดือน May 2017 ที่เปิดให้กดโควต้า
12 May 2018 – สอบ IELTS (ครั้งที่ 2 เพราะอันเก่าหมดอายุ)
1 June 2018 – กดโควตา (ติดตัวสำรอง)
18 January 2019 – ประกาศรายชื่อตัวสำรอง
13 February 2019 – ยื่นเอกสารกับทาง ดย.
22 February 2019 – ประกาศรายชื่อตัวสำรองที่ได้รับใบรับรอง
27 February 2019 – รับใบรับรองจาก ดย. และยื่น Visa ที่ VFS
13 March 2019 – ได้รับ E-mail ตรวจสุขภาพ
15 March 2019 – Visa Grant

กว่าจะได้ Visa โครงการนี้มา จขกท รอและใช้เวลาราวๆ 2 ปี

จนถึงตอนนี้ วันที่ 25 March 2019 ในกลุ่ม Line ของตัวสำรองปี 2018 ในกลุ่มมีตัวสำรองประมาน 115 คนจาก 129 คน จขกท คิดว่า น่าจะมีตัวสำรองคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม Line นี้ด้วย จากการทำ Poll ของเพื่อนในกลุ่ม มีคน ได้วีซ่าแล้ว 26 คนรวม จขกท ได้รับ e-mail ตรวจสุขภาพ และรอผลอยู่ 5 คน และอีก 32 คน ยังไม่ได้รับ E-mail ตรวจสุขภาพ และตัวสำรองที่เหลือไม่ได้ทำการโหวต ซึ่ง จขกท คิดว่า ตอนนี้ คนที่ได้วีซ่าจริงๆ แล้วน่าจะเกิน 30 คน

มาถึงตอนนี้ อยากเป็นกำลังใจให้เพื่อนที่รอวีซ่าอยู่ และยินดีกับเพื่อนที่ได้วีซ่าแล้ว และส่วนคนที่สนใจโครงการนี้ลองหาข้อมูลและเตรียมตัวเพื่อโควต้าของปี 2019 ครับ

จขกท คิดว่า การกดโควตานั้น หลายๆ คนคงรู้อยู่แล้วว่า บางครั้งอาจจะอยู่ที่ดวงเราจริงๆ เคยเห็นบางคนบอกว่า เข้าไปกดก็กดได้เลย บอกคนกด F5 คีย์บอร์ดจะพัง (จขกท เป็นอย่างหลัง)

อีกอย่าง จขกท แอบไปไหว้พระขอพรมาด้วยครับ หลายที่เลยครับ ฮ่าๆ แต่มีหลักๆ 3 ที่ครับ จะขอบอกเลยละกันครับ เผื่อสงสัย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

การได้เป็นตัวสำรองนั้นขั้นตอนต่างๆ ก็จะคล้ายๆ ตัว กับการเป็นตัวจริง แต่มีข้อหนึ่งแต่มีข้อแม้คือ การอดทนรอ (นานหน่อย)

สุดท้ายแล้ว จขกท เป็นกำลังใจให้ทุกคนได้เดินตามความฝัน ทำในสิ่งที่อยากทำ และประสบความสำเร็จในเรื่องที่อยากทำ อยากได้ครับ
จขกท เชื่อเสมอเหมือนที่เคยกล่าวไว้ข้างต้นมา เราจะได้ในสิ่งที่เราอยากได้ถ้าสิ่งนั้นเป็นของเรา และเราลงมือทำเพื่อที่จะได้สิ่งนั้นมา

“Stay focused, go after your dreams and keep moving toward your goals.”
- LL Cool J

สวัสดีครับ!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่