หากใครสงสัยว่า Work and Holiday Visa คืออะไร? ใครมีสิทธิ์ไปได้บ้าง? เหมือน Work and Travel รึเปล่า? โควต้าจากสท. ต้องขอยังไงเปิดขอเมื่อไหร่?
สามารถอ่านข้อมูลได้จากลิงค์นี้ของคุณเกมส์เลยค่ะ อธิบายได้ละเอียดสุดๆอยู่แล้วค่ะ>>>
http://www.thaiwahclub.com/webboard/4732/40388
ต้องขอขอบคุณข้อมูลจากพี่เกมส์มากๆค่ะ
แต่ในกระทู้นี้จะอัพเดทการยื่นเอกสารวีซ่ากับสถานฑูตผ่าน VFS โดยแชร์ประสบการณ์ของจขกทเป็นหลักค่า
เนื่องจากจริงๆจขกท ได้โควต้าของปีที่แล้วที่กำลังจะหมดอายุในไม่ช้า (ตอนนั้นใช้ผลสอบ TOEFL ที่ใกล้หมดอายุ ประกอบกันไปขอโควต้าค่ะ เพิ่งจะได้มีเวลาไปสอบใหม่มาอีกทีไม่นาน><')
ด้านล่างคือหลักฐานที่ต้องใช้ในการขอวีซ่า Work and Holiday ที่ Copy มาจากที่มาโครงการของทาง สท. ค่ะ
หลักฐานประกอบการขอตรวจลงตราหนังสือเดินทาง (วีซ่า) กับสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย
1. แบบฟอร์ม 1208 (Work and Holiday Visa) โดยสามารถ download ได้จาก
http://www.immi.gov.au/allforms/pdf/1208.pdf
2. รูปถ่ายสีขนาด 4.5 x 3.5 ซม. จำนวน 2 รูป >>> อันนี้เราเอารูปถ่ายไซส์ตอนที่ขอวีซ่าอเมริกาไปก็ใช้กันได้ไม่มีปัญหาใดๆค่ะ
3. หนังสือรับรองคุณสมบัติจาก สท. (ฉบับจริง) มีอายุตั้งแต่วันที่ออกหนังสือ
ถึง 30 มิถุนายนของปีถัดไป
4. หนังสือเดินทาง (Passport) มีอายุการใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
6. สำเนาทะเบียนบ้าน
7. หลักฐานเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับใช้งานได้ โดยแนบหลักฐาน
อย่างหนึ่งอย่างใด คือ
1) ผลการสอบ IELTS (ประเภทใดก็ได้) ไม่ต่ำกว่า 4.5 มีอายุไม่เกิน 2 ปี หรือ
2) ผลการสอบ TOEFL มีอายุไม่เกิน 2 ปี ระดับคะแนน หรือ
- 133 on a computer based test
- 450 on a paper based test
- 45 – 46 on an internet-based test
3) ใบรับรอง หรือประกาศนียบัตรที่แสดงว่าได้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา
ที่มีระยะเวลา 2 ปี จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน หรือ
4) หลักฐานการจบระดับประถมศึกษา (Primary) และมัธยมศึกษา (3 years of secondary
education) จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน หรือ
5) หลักฐานที่แสดงว่าได้ศึกษาระดับมัธยมศึกษา 5 ปี (5 years of secondary education)
จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน หรือ
6) สำเร็จการศึกษาจากประเทศออสเตรเลียหลักสูตร 1 ปี ในระดับปริญญาบัตรหรือ
ประกาศนียบัตร
8. หลักฐานทางการเงินของผู้เดินทางไม่น้อยกว่า 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เป็น Bank Statement หรือ ใบรับรองทางการของบัญชีเงินฝากจากธนาคาร
9. ค่าธรรมเนียมตรวจลงตราหนังสือเดินทาง (วีซ่า) 420 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ
13,000 บาท
หรืออย่างละเอียดของคุณเกมส์ที่ >>>
http://www.thaiwahclub.com/article-wah/Work-And-Holiday-Australia/204-wah-visa-application.html
อันนี้ คือค่าธรรมเนียมล่าสุดจากเว็บ
ส่วนประสบการณ์ตรงของจขกท.นะคะ เราเตรียมเอกสารไปทุกอย่างครบถ้วน โดยยึดจากลิงก์ของคุณเกมส์เน้น เตรียมเอกสารให้ครบเผื่อไว้ดีกว่าขาด
ไปถึงที่ตึก Thai CC ชั้น 34 ไม่ต้องแลกบัตรค่ะ ก็บอกเจ้าหน้าที่ด้านหน้าว่ามายื่นขอวีซ่า Work and Holiday แล้วก็รับบัตรคิว
รอไปสักพักก็ถึงคิวเราค่ะ เจ้าหน้าที่ก็ตรวจเอกสารไปเรื่อยๆ และก็ขอเอกสารเพิ่ม
- สำเนาหน้าพาสปอร์ต ต้องเตรียมไว้หลายๆใบหน่อยนะคะ ของเราเอาไป 2 ชุด เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องใช้เพิ่ม เราก็ต้องเดินไป Copy เพิ่ม ซึ่งเค้าคิดแผ่นละ 3 บาทค่ะ
- พาสปอร์ต ต้อง Copy หน้าที่มีปั๊มการเดินทางไว้ทุกหน้า รวมถึงวีซ่าประเทศอื่นๆด้วยค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่เค้าจะคืนเล่มจริงให้กับเรา และส่ง Copy ให้สถานฑูต ดังนั้นเตรียมไว้ก่อนเลยค่ะ เราไม่รู้เลยซีร็อกไว้แค่หน้าแรกหน้าเดียว
- ค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียให้ VFS นอกเหนือจากค่าวีซ่ามีดังนี้ค่ะ
VISA fees: 13,100 บาทค่าวีซ่า
SMS fess: 60 บาท คือเจ้าหน้าที่เค้าจะถามเราว่าต้องการให้แจ้งผลว่ามาเอาได้แล้วทาง SMS หรือไม่ (ในกรณีมารับเอง)
Courier fee : อันนี้เป็นค่าส่งไปรษณีย์ ถ้าไม่มารับเอง ไม่แน่ใจว่า 200 บาท หรือ 300 นี่แหละค่ะ
Service fee: 600 บาท
เอกสาร 3 ส่วนด้านล่าง เราได้รับอีเมลตอนตรวจสุขภาพจากสถานฑูตว่าให้ตามมาส่งตัวจริงด้วย ภายใน 5 วันทำการหลังจากได้รับเมล แต่ถ้าส่งมาแล้วก็ไม่เป็นไร ดังนั้นวันที่ยื่นเอกสารเอาไปด้วยนะคะ
- สมุดบัญชีตัวจริง ห้ามลืมเอามาเด็ดขาดค่ะ เพราะต้องส่งให้สถานฑูตด้วย ไม่ได้ส่งไปแค่ Bank Guarantee รวมถึง Copy ย้อนหลัง6 เดือน อย่าลืมอัพเดทสมุดด้วยนะคะ
- ผล IELTS ตัวจริงยื่นไปด้วยค่ะ เค้าจะคืนให้ทีหลังพร้อมกับผลวีซ่า
- Transcript ตัวจริง และหนังสือรับรองจบจากทางมหาวิทยาลัย
หลังจากเรายื่นเอกสารไปวันที่ 26/03/14 ก็ได้รับอีเมลให้ไปตรวจร่างกาย E-health จากสถานฑูตในวันที่ 27/03/14 ด้วยความรวดเร็วมากค่ะ
ในใบแจ้งจะเขียนว่าให้เราไป X-ray ปอดอย่างเดียว โดยเลือกโรงพยาบาลคือ BNH หรือ โรงพยาบาลกรุงเทพ
เราเลือก BNH เพราะใกล้บ้าน ไปถึงวันเสาร์แต่ว่าบ่ายแล้ว ก็เพิ่งจะรู้ว่าวันเสาร์ทางโรงพยาบาลเปิดตรวจสุขภาพถึงแค่เที่ยงค่ะ ก็เลยไปตรวจวันที่ 31/03/14 ตอนแรกเป็นกังวลมาก เพราะพยาบาลตอนที่คุยทางโทรศัพท์บอกให้ประจำเดือนหมดก่อน 7 วัน แต่ตอนแรกเรากะจะต้องได้วีซ่าก่อน 12 เมษา เพราะซื้อตั๋วโปรไว้ กลัวได้วีซ่าไม่ทันก็เลยรีบไปตรวจ สุดท้าย X-ray ปอดอย่างเดียวค่ะ 1,600 บาท มีอาหารว่างให้ทานด้วย
สุดท้ายตอนนี้ได้รับวีซ่าเรียบร้อยค่ะ 02/04/14 รวดเร็วมากค่ะ
[CR] กระทู้แชร์ประสบการณ์ ขอวีซ่า Work and Holiday ออสเตรเลีย ที่ VFS
สามารถอ่านข้อมูลได้จากลิงค์นี้ของคุณเกมส์เลยค่ะ อธิบายได้ละเอียดสุดๆอยู่แล้วค่ะ>>>http://www.thaiwahclub.com/webboard/4732/40388
ต้องขอขอบคุณข้อมูลจากพี่เกมส์มากๆค่ะ
แต่ในกระทู้นี้จะอัพเดทการยื่นเอกสารวีซ่ากับสถานฑูตผ่าน VFS โดยแชร์ประสบการณ์ของจขกทเป็นหลักค่า
เนื่องจากจริงๆจขกท ได้โควต้าของปีที่แล้วที่กำลังจะหมดอายุในไม่ช้า (ตอนนั้นใช้ผลสอบ TOEFL ที่ใกล้หมดอายุ ประกอบกันไปขอโควต้าค่ะ เพิ่งจะได้มีเวลาไปสอบใหม่มาอีกทีไม่นาน><')
ด้านล่างคือหลักฐานที่ต้องใช้ในการขอวีซ่า Work and Holiday ที่ Copy มาจากที่มาโครงการของทาง สท. ค่ะ
หลักฐานประกอบการขอตรวจลงตราหนังสือเดินทาง (วีซ่า) กับสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย
1. แบบฟอร์ม 1208 (Work and Holiday Visa) โดยสามารถ download ได้จาก
http://www.immi.gov.au/allforms/pdf/1208.pdf
2. รูปถ่ายสีขนาด 4.5 x 3.5 ซม. จำนวน 2 รูป >>> อันนี้เราเอารูปถ่ายไซส์ตอนที่ขอวีซ่าอเมริกาไปก็ใช้กันได้ไม่มีปัญหาใดๆค่ะ
3. หนังสือรับรองคุณสมบัติจาก สท. (ฉบับจริง) มีอายุตั้งแต่วันที่ออกหนังสือ
ถึง 30 มิถุนายนของปีถัดไป
4. หนังสือเดินทาง (Passport) มีอายุการใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
6. สำเนาทะเบียนบ้าน
7. หลักฐานเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับใช้งานได้ โดยแนบหลักฐาน
อย่างหนึ่งอย่างใด คือ
1) ผลการสอบ IELTS (ประเภทใดก็ได้) ไม่ต่ำกว่า 4.5 มีอายุไม่เกิน 2 ปี หรือ
2) ผลการสอบ TOEFL มีอายุไม่เกิน 2 ปี ระดับคะแนน หรือ
- 133 on a computer based test
- 450 on a paper based test
- 45 – 46 on an internet-based test
3) ใบรับรอง หรือประกาศนียบัตรที่แสดงว่าได้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา
ที่มีระยะเวลา 2 ปี จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน หรือ
4) หลักฐานการจบระดับประถมศึกษา (Primary) และมัธยมศึกษา (3 years of secondary
education) จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน หรือ
5) หลักฐานที่แสดงว่าได้ศึกษาระดับมัธยมศึกษา 5 ปี (5 years of secondary education)
จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน หรือ
6) สำเร็จการศึกษาจากประเทศออสเตรเลียหลักสูตร 1 ปี ในระดับปริญญาบัตรหรือ
ประกาศนียบัตร
8. หลักฐานทางการเงินของผู้เดินทางไม่น้อยกว่า 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เป็น Bank Statement หรือ ใบรับรองทางการของบัญชีเงินฝากจากธนาคาร
9. ค่าธรรมเนียมตรวจลงตราหนังสือเดินทาง (วีซ่า) 420 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ
13,000 บาท
หรืออย่างละเอียดของคุณเกมส์ที่ >>>http://www.thaiwahclub.com/article-wah/Work-And-Holiday-Australia/204-wah-visa-application.html
อันนี้ คือค่าธรรมเนียมล่าสุดจากเว็บ
ส่วนประสบการณ์ตรงของจขกท.นะคะ เราเตรียมเอกสารไปทุกอย่างครบถ้วน โดยยึดจากลิงก์ของคุณเกมส์เน้น เตรียมเอกสารให้ครบเผื่อไว้ดีกว่าขาด
ไปถึงที่ตึก Thai CC ชั้น 34 ไม่ต้องแลกบัตรค่ะ ก็บอกเจ้าหน้าที่ด้านหน้าว่ามายื่นขอวีซ่า Work and Holiday แล้วก็รับบัตรคิว
รอไปสักพักก็ถึงคิวเราค่ะ เจ้าหน้าที่ก็ตรวจเอกสารไปเรื่อยๆ และก็ขอเอกสารเพิ่ม
- สำเนาหน้าพาสปอร์ต ต้องเตรียมไว้หลายๆใบหน่อยนะคะ ของเราเอาไป 2 ชุด เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องใช้เพิ่ม เราก็ต้องเดินไป Copy เพิ่ม ซึ่งเค้าคิดแผ่นละ 3 บาทค่ะ
- พาสปอร์ต ต้อง Copy หน้าที่มีปั๊มการเดินทางไว้ทุกหน้า รวมถึงวีซ่าประเทศอื่นๆด้วยค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่เค้าจะคืนเล่มจริงให้กับเรา และส่ง Copy ให้สถานฑูต ดังนั้นเตรียมไว้ก่อนเลยค่ะ เราไม่รู้เลยซีร็อกไว้แค่หน้าแรกหน้าเดียว
- ค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียให้ VFS นอกเหนือจากค่าวีซ่ามีดังนี้ค่ะ
VISA fees: 13,100 บาทค่าวีซ่า
SMS fess: 60 บาท คือเจ้าหน้าที่เค้าจะถามเราว่าต้องการให้แจ้งผลว่ามาเอาได้แล้วทาง SMS หรือไม่ (ในกรณีมารับเอง)
Courier fee : อันนี้เป็นค่าส่งไปรษณีย์ ถ้าไม่มารับเอง ไม่แน่ใจว่า 200 บาท หรือ 300 นี่แหละค่ะ
Service fee: 600 บาท
เอกสาร 3 ส่วนด้านล่าง เราได้รับอีเมลตอนตรวจสุขภาพจากสถานฑูตว่าให้ตามมาส่งตัวจริงด้วย ภายใน 5 วันทำการหลังจากได้รับเมล แต่ถ้าส่งมาแล้วก็ไม่เป็นไร ดังนั้นวันที่ยื่นเอกสารเอาไปด้วยนะคะ
- สมุดบัญชีตัวจริง ห้ามลืมเอามาเด็ดขาดค่ะ เพราะต้องส่งให้สถานฑูตด้วย ไม่ได้ส่งไปแค่ Bank Guarantee รวมถึง Copy ย้อนหลัง6 เดือน อย่าลืมอัพเดทสมุดด้วยนะคะ
- ผล IELTS ตัวจริงยื่นไปด้วยค่ะ เค้าจะคืนให้ทีหลังพร้อมกับผลวีซ่า
- Transcript ตัวจริง และหนังสือรับรองจบจากทางมหาวิทยาลัย
หลังจากเรายื่นเอกสารไปวันที่ 26/03/14 ก็ได้รับอีเมลให้ไปตรวจร่างกาย E-health จากสถานฑูตในวันที่ 27/03/14 ด้วยความรวดเร็วมากค่ะ
ในใบแจ้งจะเขียนว่าให้เราไป X-ray ปอดอย่างเดียว โดยเลือกโรงพยาบาลคือ BNH หรือ โรงพยาบาลกรุงเทพ
เราเลือก BNH เพราะใกล้บ้าน ไปถึงวันเสาร์แต่ว่าบ่ายแล้ว ก็เพิ่งจะรู้ว่าวันเสาร์ทางโรงพยาบาลเปิดตรวจสุขภาพถึงแค่เที่ยงค่ะ ก็เลยไปตรวจวันที่ 31/03/14 ตอนแรกเป็นกังวลมาก เพราะพยาบาลตอนที่คุยทางโทรศัพท์บอกให้ประจำเดือนหมดก่อน 7 วัน แต่ตอนแรกเรากะจะต้องได้วีซ่าก่อน 12 เมษา เพราะซื้อตั๋วโปรไว้ กลัวได้วีซ่าไม่ทันก็เลยรีบไปตรวจ สุดท้าย X-ray ปอดอย่างเดียวค่ะ 1,600 บาท มีอาหารว่างให้ทานด้วย
สุดท้ายตอนนี้ได้รับวีซ่าเรียบร้อยค่ะ 02/04/14 รวดเร็วมากค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น