ว่างๆ เลยเลองทำใน excel เล่นๆ โดยอ้างอิงจำนวนคะแนนที่ได้ทั้งหมดจากเวบ
https://vote62.com/
โดยใช้ตัวเลขคะแนนที่ได้ทั้งหมดจากในโหมด กกต. มาลงในตาราง และทำสูตรคำนวณแบบง่ายๆ คือ
เอาคะแนนบัตรดี ทั้งหมดมาหารด้วย 500 ก็จะได้ จำนวนคะแนน ต่อ สส 1 คน
พอใสค่าเสร็จ ดูผลจำนวน สส พึงมี ทำไมมันต่างจากชาวบ้านเขาไปเยอะ
UPDATE :
ตอนนี้ผมพอเข้าใจหลักการคิดคร่าวๆ แล้วครับ เลยใส่ ที่นั่ง สส เขต ตามที่ กกต. บอก แต่คะแนนดิบยังไม่ได้แก้ไข
อาจจะมีเพี้ยนบ้าง แต่คงไม่น่าจะเยอะ จึงขอนำข้อมูลคร่าวๆ มาลงให้ดู
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หรือใครจะโหลดไปใส่ค่าตามที่ได้มาก็ได้นะครับ เป็นไฟล์ .xlsx ผมไว้ใน onedrive ของผม
https://1drv.ms/x/s!ArKhKHDyon5pkqlFEs-0HDr7-DbMIA
pass สำหรับโหลด : pantip
pass สำหรับแก้ที่ล็อคสูตร (ถ้ามี) : election
มีข้อสงสัย ขอถามว่า จากที่ผมใส่สูตรคำนวณ สส พึงมี ที่คำนวณนี้คือ จาก 66,708 คะแนน จะได้ สส. 1 คน
แต่พอมาหาจำนวนจริง ถ้า ยึดตามนี้ ก็จะได้จำนวน สส ที่มากกว่า 150 คน จากพรรคเล็กๆ ที่มีคะแนนถึง
ผมจึงใช้วิธีตัดจำนวน สส ปาร์ตี้ลิส ให้ได้ครบ 150 โดยวิธีการ ไล่ลำดับจำนวนคะแนนทั้งหมดก่อน
แล้ว ใส่ค่า สส เขตที่ได้ และพรรคใหญ่ๆ ก็จะได้จำนวน สส ปาร์ตี้ลิส เป็นไปตามสูตร โดยไล่ลำดับไปเรื่อยๆ
จากตารางรูปด้านบน หมายความว่า พรรคการเมืองลำดับที่ 10 นี้ ได้ผลรวมปาร์ตี้ลิสไปแล้ว 148 คน
แต่พรรคลำดับที่ 11 นี้ จะได้ สส. พึงมี 6 คน โดยแบ่งเป็น สส เขต 1 คน ดังนั้นจะเหลือ สส ปาร์ตี้ลิสอีก 5 คน
แต่ว่า จำนวนสส. ปาร์ตี้ลิส ยังขาดอยู่เพียง 2 คน จนครบ 150 คน ผมจึงใช้วิธีเลือกเอา สส ปาร์ตี้ลิสแค่ 2 คน
โดยตัดทิ้งไป อีก 3 คน วิธีนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ
ซึ่งจะเห็นว่า พรรคที่มีลำดับปาร์ตี้ลิสรวม เป็นลำดับที่ 147-150 จะเป็นพรรคที่มีคะแนน 391,728 คน ที่เป็นคะแนนต่ำสุดที่ได้สส. พึงมี
ถึงพรรคที่มีคะแนน ถึง 66.708 คะแนน ก็ยังไม่ได้เป็น สส ปาร์ตี้ลิส ใช่หรือไม่ เพราะถ้าถือตามเกณฑ์จำนวนคะแนน จะได้สส ปาร์ตี้ลิส
เป็นจำนวนถึง 163 คน มากกว่า 150 คน ครับ
UPDATE เพิ่ม
ผมลองกลับไปแก้มาใหม่แล้วครับ ตามตารางข้างล่างเลย
ในการจัดสรร สส ปาร์ตี้ลิส อาจจะมีปัญหาบ้าง โดยที่แต่ละสำนัก อาจจะคิดไม่ตรงกัน ในกรณีที่ มีสส พึงมีส่วนที่จัดสรร
เป็นปาร์ตี้ลิส มีจำนวนเกินกว่า 150 ที่นั่ง จาก ความเห็นที่ 7 ผมลองอ่าน และลองศึกษามาเรียบร้อยแล้ว
แต่ยังไม่แน่ใจว่า ตีความวิธีคิดให้ ปาร์ตี้ลิส ลงตัวให้ได้ตัวเลข 150 พอดี ถูกต้องหรือไม่
แต่พอจับใจความได้ว่า ถ้าคำนวณได้ จำนวนคะแนน ต่อ สส ปาร์ตี้ลิส 1 คนแล้ว ในบทกฎหมาย ก็ อยากจะให้
บรรดาพรรคเล็กพรรคน้อยที่มีจำนวนคะแนนถึงเกณฑ์ปาร์ตี้ลิสได้ในส่วนนี้ด้วย การที่ใช้เกณฑ์จากคะแนนแบบนี้ ก็จะทำให้ได้จำนวน
สส ปาร์ตี้ลิสมีจำนวนเกิน 150 อันเนื่องมาจาก overhange จากพรรคเพื่อไทย ที่มีจำนวน สส. เขต ได้จำนวนเกิน สส พึงมี
ซึ่งในกรณีนี้ จึงต้องใช้วิธีเทียบบัญญัติไตรยางค์ ส่วน สส ปาร์ตี้ลิสที่เกินมา ให้เป็น 150 ให้ได้ และเมื่อได้ค่าแล่ว
ก็จัดใส่ตัวเลขจำนวน สส ปาร์ตี้ลิส ในส่วนที่เป็นจำนวนเต็มก่อน [จากตารางภาพประกอบ ผมใช้ชื่อช่องว่า เพิ่ม (เต็ม)]
และเมื่อใส่จนครบหมดแล้ว ก็จะทำให้ ผลรวมกันไม่ถึง 150 เนื่องจากว่าตัดส่วนทศนิยมออกไป เพื่อนำส่วนนี้มาจัดลำดับใหม่
โดยเรียงจากมากสุดไปหาน้อยสุด [จากตาราง ผมใช้ชื่อว่า order ] แล้วใส่เพิ่มลงไปอีก 1 คน ตามลำดับจนได้จำนวนครบ 150 คน
เป็นอันเสร็จสิ้น โดยถ้ามีลำดับที่เหลือให้ตัดทิ้งเลย [จากตาราง ผมใช้ชื่อว่า เพิ่มอีก ] ซึ่งวิธีแบบนี้ ผมว่ายุติธรรมสำหรับพรรคเล็กๆ
ทำไม ผมคำนวณจำนวนที่นั่งสส. ที่พึงมี ต่างไปจากที่อื่น
โดยใช้ตัวเลขคะแนนที่ได้ทั้งหมดจากในโหมด กกต. มาลงในตาราง และทำสูตรคำนวณแบบง่ายๆ คือ
เอาคะแนนบัตรดี ทั้งหมดมาหารด้วย 500 ก็จะได้ จำนวนคะแนน ต่อ สส 1 คน
พอใสค่าเสร็จ ดูผลจำนวน สส พึงมี ทำไมมันต่างจากชาวบ้านเขาไปเยอะ
UPDATE :
ตอนนี้ผมพอเข้าใจหลักการคิดคร่าวๆ แล้วครับ เลยใส่ ที่นั่ง สส เขต ตามที่ กกต. บอก แต่คะแนนดิบยังไม่ได้แก้ไข
อาจจะมีเพี้ยนบ้าง แต่คงไม่น่าจะเยอะ จึงขอนำข้อมูลคร่าวๆ มาลงให้ดู
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มีข้อสงสัย ขอถามว่า จากที่ผมใส่สูตรคำนวณ สส พึงมี ที่คำนวณนี้คือ จาก 66,708 คะแนน จะได้ สส. 1 คน
แต่พอมาหาจำนวนจริง ถ้า ยึดตามนี้ ก็จะได้จำนวน สส ที่มากกว่า 150 คน จากพรรคเล็กๆ ที่มีคะแนนถึง
ผมจึงใช้วิธีตัดจำนวน สส ปาร์ตี้ลิส ให้ได้ครบ 150 โดยวิธีการ ไล่ลำดับจำนวนคะแนนทั้งหมดก่อน
แล้ว ใส่ค่า สส เขตที่ได้ และพรรคใหญ่ๆ ก็จะได้จำนวน สส ปาร์ตี้ลิส เป็นไปตามสูตร โดยไล่ลำดับไปเรื่อยๆ
จากตารางรูปด้านบน หมายความว่า พรรคการเมืองลำดับที่ 10 นี้ ได้ผลรวมปาร์ตี้ลิสไปแล้ว 148 คน
แต่พรรคลำดับที่ 11 นี้ จะได้ สส. พึงมี 6 คน โดยแบ่งเป็น สส เขต 1 คน ดังนั้นจะเหลือ สส ปาร์ตี้ลิสอีก 5 คน
แต่ว่า จำนวนสส. ปาร์ตี้ลิส ยังขาดอยู่เพียง 2 คน จนครบ 150 คน ผมจึงใช้วิธีเลือกเอา สส ปาร์ตี้ลิสแค่ 2 คน
โดยตัดทิ้งไป อีก 3 คน วิธีนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ
ซึ่งจะเห็นว่า พรรคที่มีลำดับปาร์ตี้ลิสรวม เป็นลำดับที่ 147-150 จะเป็นพรรคที่มีคะแนน 391,728 คน ที่เป็นคะแนนต่ำสุดที่ได้สส. พึงมี
ถึงพรรคที่มีคะแนน ถึง 66.708 คะแนน ก็ยังไม่ได้เป็น สส ปาร์ตี้ลิส ใช่หรือไม่ เพราะถ้าถือตามเกณฑ์จำนวนคะแนน จะได้สส ปาร์ตี้ลิส
เป็นจำนวนถึง 163 คน มากกว่า 150 คน ครับ
UPDATE เพิ่ม
ผมลองกลับไปแก้มาใหม่แล้วครับ ตามตารางข้างล่างเลย
ในการจัดสรร สส ปาร์ตี้ลิส อาจจะมีปัญหาบ้าง โดยที่แต่ละสำนัก อาจจะคิดไม่ตรงกัน ในกรณีที่ มีสส พึงมีส่วนที่จัดสรร
เป็นปาร์ตี้ลิส มีจำนวนเกินกว่า 150 ที่นั่ง จาก ความเห็นที่ 7 ผมลองอ่าน และลองศึกษามาเรียบร้อยแล้ว
แต่ยังไม่แน่ใจว่า ตีความวิธีคิดให้ ปาร์ตี้ลิส ลงตัวให้ได้ตัวเลข 150 พอดี ถูกต้องหรือไม่
แต่พอจับใจความได้ว่า ถ้าคำนวณได้ จำนวนคะแนน ต่อ สส ปาร์ตี้ลิส 1 คนแล้ว ในบทกฎหมาย ก็ อยากจะให้
บรรดาพรรคเล็กพรรคน้อยที่มีจำนวนคะแนนถึงเกณฑ์ปาร์ตี้ลิสได้ในส่วนนี้ด้วย การที่ใช้เกณฑ์จากคะแนนแบบนี้ ก็จะทำให้ได้จำนวน
สส ปาร์ตี้ลิสมีจำนวนเกิน 150 อันเนื่องมาจาก overhange จากพรรคเพื่อไทย ที่มีจำนวน สส. เขต ได้จำนวนเกิน สส พึงมี
ซึ่งในกรณีนี้ จึงต้องใช้วิธีเทียบบัญญัติไตรยางค์ ส่วน สส ปาร์ตี้ลิสที่เกินมา ให้เป็น 150 ให้ได้ และเมื่อได้ค่าแล่ว
ก็จัดใส่ตัวเลขจำนวน สส ปาร์ตี้ลิส ในส่วนที่เป็นจำนวนเต็มก่อน [จากตารางภาพประกอบ ผมใช้ชื่อช่องว่า เพิ่ม (เต็ม)]
และเมื่อใส่จนครบหมดแล้ว ก็จะทำให้ ผลรวมกันไม่ถึง 150 เนื่องจากว่าตัดส่วนทศนิยมออกไป เพื่อนำส่วนนี้มาจัดลำดับใหม่
โดยเรียงจากมากสุดไปหาน้อยสุด [จากตาราง ผมใช้ชื่อว่า order ] แล้วใส่เพิ่มลงไปอีก 1 คน ตามลำดับจนได้จำนวนครบ 150 คน
เป็นอันเสร็จสิ้น โดยถ้ามีลำดับที่เหลือให้ตัดทิ้งเลย [จากตาราง ผมใช้ชื่อว่า เพิ่มอีก ] ซึ่งวิธีแบบนี้ ผมว่ายุติธรรมสำหรับพรรคเล็กๆ