สวัสดีครับเพื่อนๆชาวบลูแพลนเน็ตทุกท่าน วันนี้กระผมนาย 4 ได้มีโอกาสเดินทางไปทำงานช่วงเวลาสั้นๆ ที่เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ซึ่งทริปนี้จะมีเวลาว่าง 1วัน นั่นก็คือวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562 ผมก็เลยถือโอกาสใช้เวลาวันหยุดนี้ มาทำรีวิวท่องเที่ยวเมืองโฮจิมินห์นี้ดูครับ ลองมาดูกันว่าในหนึ่งวันเราจะสามารถไปเที่ยวที่ไหนกันได้บ้างครับ

-----------------------------
ฝากรีวิวท่องเที่ยวเก่าๆหน่อยนะครับ by นาย4
แบกเป้เที่ยวญี่ปุ่น 2014 Click >>
https://ppantip.com/topic/32995388
เที่ยวฮอกไกโด 2017 Click >>
https://ppantip.com/topic/36125638
ญี่ปุ่นฤดูร้อน 2018 Click >>
https://ppantip.com/topic/37925403
ฮ่องกงฤดูหนาว 2018 Click >>
https://ppantip.com/topic/38468402
ทริปไต้หวัน กินเที่ยว ชมซากุระ มีค 2019 Click >>
https://ppantip.com/topic/38680767
-----------------------------
สำหรับนครโฮจิมินห์ หรือชื่อเดิม ไซ่ง่อน เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง นครโฮจิมินห์เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนาม มีสภาพอากาศใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ บ้านเรา ที่นี่ความเจริญถือว่าโอเคเลยครับ จะน้อยกว่าบ้านเราก็แค่เรื่องการคมนาคมในเมือง เนื่องจากที่นี่ไม่ได้ใช้รถไฟฟ้า เพราะประชาชนส่วนใหญ่มีรถจักรยานยนต์กันอยู่แล้ว ดังนั้นการจะไปไหนมาไหนทีอาจจะลำบากนิดนึงครับ
โดยที่ทริปนี้เดิมทีไม่ได้กะว่าจะเขียนรีวิว ก็เลยไม่ได้พกกล้องถ่ายรูปมา ทุกรูปก็จะใช้มือถือถ่ายทั้งหมด ภาพหากไม่สวยต้องขออภัยด้วยนะครับ ว่าแล้วก็พบกับการท่องเที่ยว One Day Trip in Hojimin ได้เลยครับ
----------------------------
วันอาทิตย์ที่ 24 มีค 62 : ผมเริ่มต้นการเดินทาง โดยเที่ยวบินของสายการบินไทย TG550 รอบเวลา 07.45 ครับ ใช้เครื่องบินแบบ Boeing777-200ER จากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปถึงสนามบินเตินเซินเญิ๊ต นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เวลา 09.40 โดยประมาณครับ

มาถึงสนามบินตั้งแต่ตี 5 กว่า พอเช็คอินเสร็จก็มานอนเอาแรงใน King Power Lounge ครับ ทำบัตรมาได้ใช้บ่อยมากๆๆ

เปิดวาปมาสนามบินที่เมืองโฮจิมินห์เลยครับ ติดตรงตม.ไม่นาน เพราะเครื่องคนไม่เต็มลำ แต่มาช้าตอนรอของจากสายพานครับ กว่าจะได้ออกมาจากสนามบินก็เกือบ 10โมงละ

โดยการเดินทางวันนี้ ทางคณะเราได้จัดการเช่ารถตู้พร้อมคนขับครับ ในราคาตกวันละประมาณ 3,000 พันบาท ถ้าใครไปหลายๆคน แล้วอยากจัดแบบ One Day Tour ในเมือง ผมแนะนำบริการเช่ารถตู้ที่นี่ครับ

จากสนามบิน ที่แรกที่ไปก็คือโรงแรมครับ ด้านล่างเป็นภาพรถตู้ที่เช่ามา พอถึงโรงแรมปุ๊ปฝนก็ตกปรอยๆในทันใด

โดยผมและคณะพักที่โรงแรม NHAT HA HOTEL 2 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเขต 1 ใจกลางเมืองพอดีครับ นั่งรถจากสนามบินมาประมาณครึ่งชั่วโมงได้

เข้าไปตรงล๊อบบี้ เพื่อรอเช็คอิน ดูโล่งและสะอาดดีครับ

ขึ้นมาแล้วครับ ห้องเรียบร้อยสวยงาม และดูใหม่ครับ เนตลื่นปรื๊ด เป็นอีกที่ ที่แนะนำครับ

เอาละครับ 11 โมงกว่าแล้ว ได้เวลาข้าวเที่ยง หลังจากจัดการวางข้าวของที่พักเรียบร้อย สำหรับสถานที่ต่อไปที่จะไปนั่นก็คือร้านอาหารครับ โดยเป็นร้านอาหารเวียดนามในห้าง SAIGON CENTRE นี่เอง

เดินเข้ามาในห้างแล้วครับ บรรยากาศก็คล้ายๆบ้านเรา

เดินขึ้นไปประมาณ 2ชั้นครับ ก็จะเป็นโซนร้านอาหารเอเชีย

ข้างในนี้มีร้านอาหารติดๆกันอยู่ 3-4ร้านครับ น่าทานทั้งนั้นเลย ทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารเวียดนาม

มื้อเที่ยงนี้เราจะมาจบกันที่ดีครับ ร้าน 37 Street เป็นร้านอาหารแบบ Local

เมนูสวยงามมากครับ อาหารเวียดนามหลากหลายเลยทีเดียว

หลังจากจัดแจงสั่งไปเต็มที่ เวลาที่รอคอย อาหารก็มาลงแล้วครับ พร้อมกับความหิวโหย แต่ต้องถ่ายรูปก่อน 555+ ด้านล่างนี้คล้ายๆขนมครกครับ แปลกดี

อันนี้เป็นยำยอดมะพร้าวอ่อนครับ

แหนมเนืองเวียดนาม ของที่นี่แป้งจะไม่ชุบน้ำเหมือนบ้านเรา ก็เลยจะได้รสชาติกรอบๆครับ อร่อยดี

เป๊าะเปี๊ยะครับ อาหารที่นี่ทุกอย่างเน้นไปที่ผักกับเครื่องเคียงเป็นหลัก

ข้าวผัดก็อร่อยดี

ไก่ทอดครับ รสชาติค่อนข้างเข้มข้นครับ ต้องกินกับข้าวเหนียว ถึงจะแม๊ทกัน

ต้นตำหรับอาหารเวียดนาม ต้องมีเฝอแน่นอนครับ

อันนี้คล้ายๆหอยทอดครับ ข้างในเป็นถั่วงอกกับกุ้ง

จบละครับ ท้องแน่นปุ๊ปก็เดินทางกันต่อ สถานที่ต่อไปที่จะไปเยี่ยมชมนั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์ลุงโฮจิมินห์ บุคคลสำคัญของประเทศเวียดนามเลยครับ โดยที่พิพิธภัณฑ์นั้นจะตั้งอยู่ติดแม่น้ำไซ่ง่อนนี้เลยครับ เป็นทางผ่าน

มาถึงละครับ พิพิธภัณฑ์ลุงโฮฯ

จากนั้นก็ซื้อตั๋วเข้าชมครับ คนละประมาณ 15บาทเท่านั้น ไม่แพง ที่นี่ส่วนใหญ่ผู้ใหญ่ก็จะชอบพาเด็กๆมาทัศนศึกษาครับ เพราะมีเรื่องราวประวัติศาสตร์ให้ศึกษาเยอะมากมาย โดยเข้ามาทางข้างหน้า ก็จะแจก guide book ให้ครับ

ทางเดินรอบๆพิพิธภัณฑ์รอบๆๆ สวยทีเดียวครับ ด้วยความที่ว่าจัดสวนสวยและอยู่ติดแม่น้ำ เหมาะจะมาถ่ายรูปยามเย็นครับ ส่วนผมมากลางวัน ร้อนแทบสุก

จากสวนรอบๆ มองไปก็จะเห็นอนุสาวรีย์ลุงโฮสมัยหนุ่มๆครับ โดยที่ลุงโฮจิมินห์ เป็นนักปฏิวัติชาวเวียดนาม ซึ่งในภายหลังได้กลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามครับ ส่วนชื่อเมืองโฮจิมินห์ เมื่อก่อนเรียกไซ่ง่อน ตอนหลังเปลี่ยนชื่อมาเป็นโฮจิมินห์ เป็นการให้เกียรติลุงโฮ ครับ

เข้ามาข้างในพิพิธภัณฑ์ก็จะพบกับชีวิตประวัติ ภาพถ่ายรวมทั้งกิจกรรมสำคัญๆของลุงโฮจิมินห์ครับ เรียกได้ว่าเดินดูได้เพลินๆเป็นชั่วโมงเลย

จากนั้นก็เดินทางกลับครับ ระหว่างเดินออก เจอเด็กๆมาทัศนศึกษากันพอดี เป็นกลุ่มใหญ่เลยทีเดียว

ไปกันต่อที่สถานที่ต่อไปครับ โดยเราจะไปอนุสาวรีย์ลุงโฮจิมินห์กัน ระหว่างทางก็จะผ่านย่านถนนคนเดินครับ ตอนดึกๆจะคึกคักบริเวณนี้ แต่กลางวันไม่มีคนเลย ร้อนมาก

มาถึงแล้วครับ บริเวณนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติค่อนข้างเยอะ แต่พื้นที่ตรงนี้เป็นกลางแจ้ง ไม่มีที่ล่ม ผมลงมาถ่ายรูปไม่นานก็กลับครับ เพราะแดดที่นี่แรงมาก

รูปย้อนแสงนิดนะครับ ลุงโฮฯเลยมืดเลย ส่วนตึกสวยๆด้านหลังก็คือศาลากลางโฮจิมินห์ (Ho Ci Minh City Hall) ครับ เป็นย่านการค้าการท่องเที่ยวของเมืองเพราะมีศูนย์การค้า ร้านค้าแบรนด์เนมและโรงแรมหรูๆ อยู่รอบๆ

ถัดไปครับ นั่งรถแปปเดียวก็มาถึงโบสถ์นอร์ทเธอดาม หรือ Notre Dame Cathedral ซึ่งโบถส์แห่งนี้นั้นได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนาม แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากมาย ลักษณะของตัวโบสถ์เป็นรูปแบบของสมัยอาณานิคม มีหอคอยคู่สี่เหลี่ยมอยู่ด้านหน้าสูง 40 เมตร เป็นเอกลักษณ์ที่แสนสง่างาม

น่าเสียดายครับ ไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ และดูเหมือนว่ากำลังก่อสร้างอยู่ด้วย

ถัดมาสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปอีกจุดข้างๆโบสถ์แห่งนี้ นั่นก็คือ ไปรษณีย์กลางไซ่ง่อน ครับ ซึ่งสำนักงานไปรษณีย์กลางไซ่ง่อนมีความงดงามตระการตาในแบบสถาปัตยกรรมสมัยศตวรรษที่ 19 จนกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่มาเที่ยวที่นี่

เข้ามาข้างในก็จะมีร้านขายของที่ระลึก รวมทั้งเค้าเตอร์ให้บริการรับส่งไปรษณีย์ทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย

สถาปัตยกรรมรอบๆ ดูสวยงามดีครับ

ถัดไปครับ อีกสถานที่นึงที่พลาดไม่ได้ในการเที่ยวเมืองโฮจิมินห์ นั่นก็คือ ทำเนียบอิสรภาพ (Independence Palace) แต่เดิมเป็นทำเนียบของอดีตประธานาธิบดีเวียดนาม ปัจจุบันได้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อเป็นอนุสรณ์ในสมัยสงคราม ข้างในมีการจัดแสดงห้องทำงาน ห้องรับรองต่างๆ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้สำนักงานและอุปกรณ์การสื่อสารในสมัยสงครามที่ยังคงถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
[CR] Review รีวิว หนึ่งวันในนครโฮจิมินห์ One Day Trip in Hojimin มีนาคม 2019
-----------------------------
ฝากรีวิวท่องเที่ยวเก่าๆหน่อยนะครับ by นาย4
แบกเป้เที่ยวญี่ปุ่น 2014 Click >> https://ppantip.com/topic/32995388
เที่ยวฮอกไกโด 2017 Click >> https://ppantip.com/topic/36125638
ญี่ปุ่นฤดูร้อน 2018 Click >> https://ppantip.com/topic/37925403
ฮ่องกงฤดูหนาว 2018 Click >> https://ppantip.com/topic/38468402
ทริปไต้หวัน กินเที่ยว ชมซากุระ มีค 2019 Click >> https://ppantip.com/topic/38680767
-----------------------------
สำหรับนครโฮจิมินห์ หรือชื่อเดิม ไซ่ง่อน เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง นครโฮจิมินห์เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนาม มีสภาพอากาศใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ บ้านเรา ที่นี่ความเจริญถือว่าโอเคเลยครับ จะน้อยกว่าบ้านเราก็แค่เรื่องการคมนาคมในเมือง เนื่องจากที่นี่ไม่ได้ใช้รถไฟฟ้า เพราะประชาชนส่วนใหญ่มีรถจักรยานยนต์กันอยู่แล้ว ดังนั้นการจะไปไหนมาไหนทีอาจจะลำบากนิดนึงครับ
โดยที่ทริปนี้เดิมทีไม่ได้กะว่าจะเขียนรีวิว ก็เลยไม่ได้พกกล้องถ่ายรูปมา ทุกรูปก็จะใช้มือถือถ่ายทั้งหมด ภาพหากไม่สวยต้องขออภัยด้วยนะครับ ว่าแล้วก็พบกับการท่องเที่ยว One Day Trip in Hojimin ได้เลยครับ
----------------------------
วันอาทิตย์ที่ 24 มีค 62 : ผมเริ่มต้นการเดินทาง โดยเที่ยวบินของสายการบินไทย TG550 รอบเวลา 07.45 ครับ ใช้เครื่องบินแบบ Boeing777-200ER จากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปถึงสนามบินเตินเซินเญิ๊ต นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เวลา 09.40 โดยประมาณครับ
มาถึงสนามบินตั้งแต่ตี 5 กว่า พอเช็คอินเสร็จก็มานอนเอาแรงใน King Power Lounge ครับ ทำบัตรมาได้ใช้บ่อยมากๆๆ
เปิดวาปมาสนามบินที่เมืองโฮจิมินห์เลยครับ ติดตรงตม.ไม่นาน เพราะเครื่องคนไม่เต็มลำ แต่มาช้าตอนรอของจากสายพานครับ กว่าจะได้ออกมาจากสนามบินก็เกือบ 10โมงละ
โดยการเดินทางวันนี้ ทางคณะเราได้จัดการเช่ารถตู้พร้อมคนขับครับ ในราคาตกวันละประมาณ 3,000 พันบาท ถ้าใครไปหลายๆคน แล้วอยากจัดแบบ One Day Tour ในเมือง ผมแนะนำบริการเช่ารถตู้ที่นี่ครับ
จากสนามบิน ที่แรกที่ไปก็คือโรงแรมครับ ด้านล่างเป็นภาพรถตู้ที่เช่ามา พอถึงโรงแรมปุ๊ปฝนก็ตกปรอยๆในทันใด
โดยผมและคณะพักที่โรงแรม NHAT HA HOTEL 2 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเขต 1 ใจกลางเมืองพอดีครับ นั่งรถจากสนามบินมาประมาณครึ่งชั่วโมงได้
เข้าไปตรงล๊อบบี้ เพื่อรอเช็คอิน ดูโล่งและสะอาดดีครับ
ขึ้นมาแล้วครับ ห้องเรียบร้อยสวยงาม และดูใหม่ครับ เนตลื่นปรื๊ด เป็นอีกที่ ที่แนะนำครับ
เอาละครับ 11 โมงกว่าแล้ว ได้เวลาข้าวเที่ยง หลังจากจัดการวางข้าวของที่พักเรียบร้อย สำหรับสถานที่ต่อไปที่จะไปนั่นก็คือร้านอาหารครับ โดยเป็นร้านอาหารเวียดนามในห้าง SAIGON CENTRE นี่เอง
เดินเข้ามาในห้างแล้วครับ บรรยากาศก็คล้ายๆบ้านเรา
เดินขึ้นไปประมาณ 2ชั้นครับ ก็จะเป็นโซนร้านอาหารเอเชีย
ข้างในนี้มีร้านอาหารติดๆกันอยู่ 3-4ร้านครับ น่าทานทั้งนั้นเลย ทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารเวียดนาม
มื้อเที่ยงนี้เราจะมาจบกันที่ดีครับ ร้าน 37 Street เป็นร้านอาหารแบบ Local
เมนูสวยงามมากครับ อาหารเวียดนามหลากหลายเลยทีเดียว
หลังจากจัดแจงสั่งไปเต็มที่ เวลาที่รอคอย อาหารก็มาลงแล้วครับ พร้อมกับความหิวโหย แต่ต้องถ่ายรูปก่อน 555+ ด้านล่างนี้คล้ายๆขนมครกครับ แปลกดี
อันนี้เป็นยำยอดมะพร้าวอ่อนครับ
แหนมเนืองเวียดนาม ของที่นี่แป้งจะไม่ชุบน้ำเหมือนบ้านเรา ก็เลยจะได้รสชาติกรอบๆครับ อร่อยดี
เป๊าะเปี๊ยะครับ อาหารที่นี่ทุกอย่างเน้นไปที่ผักกับเครื่องเคียงเป็นหลัก
ข้าวผัดก็อร่อยดี
ไก่ทอดครับ รสชาติค่อนข้างเข้มข้นครับ ต้องกินกับข้าวเหนียว ถึงจะแม๊ทกัน
ต้นตำหรับอาหารเวียดนาม ต้องมีเฝอแน่นอนครับ
อันนี้คล้ายๆหอยทอดครับ ข้างในเป็นถั่วงอกกับกุ้ง
จบละครับ ท้องแน่นปุ๊ปก็เดินทางกันต่อ สถานที่ต่อไปที่จะไปเยี่ยมชมนั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์ลุงโฮจิมินห์ บุคคลสำคัญของประเทศเวียดนามเลยครับ โดยที่พิพิธภัณฑ์นั้นจะตั้งอยู่ติดแม่น้ำไซ่ง่อนนี้เลยครับ เป็นทางผ่าน
มาถึงละครับ พิพิธภัณฑ์ลุงโฮฯ
จากนั้นก็ซื้อตั๋วเข้าชมครับ คนละประมาณ 15บาทเท่านั้น ไม่แพง ที่นี่ส่วนใหญ่ผู้ใหญ่ก็จะชอบพาเด็กๆมาทัศนศึกษาครับ เพราะมีเรื่องราวประวัติศาสตร์ให้ศึกษาเยอะมากมาย โดยเข้ามาทางข้างหน้า ก็จะแจก guide book ให้ครับ
ทางเดินรอบๆพิพิธภัณฑ์รอบๆๆ สวยทีเดียวครับ ด้วยความที่ว่าจัดสวนสวยและอยู่ติดแม่น้ำ เหมาะจะมาถ่ายรูปยามเย็นครับ ส่วนผมมากลางวัน ร้อนแทบสุก
จากสวนรอบๆ มองไปก็จะเห็นอนุสาวรีย์ลุงโฮสมัยหนุ่มๆครับ โดยที่ลุงโฮจิมินห์ เป็นนักปฏิวัติชาวเวียดนาม ซึ่งในภายหลังได้กลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามครับ ส่วนชื่อเมืองโฮจิมินห์ เมื่อก่อนเรียกไซ่ง่อน ตอนหลังเปลี่ยนชื่อมาเป็นโฮจิมินห์ เป็นการให้เกียรติลุงโฮ ครับ
เข้ามาข้างในพิพิธภัณฑ์ก็จะพบกับชีวิตประวัติ ภาพถ่ายรวมทั้งกิจกรรมสำคัญๆของลุงโฮจิมินห์ครับ เรียกได้ว่าเดินดูได้เพลินๆเป็นชั่วโมงเลย
จากนั้นก็เดินทางกลับครับ ระหว่างเดินออก เจอเด็กๆมาทัศนศึกษากันพอดี เป็นกลุ่มใหญ่เลยทีเดียว
ไปกันต่อที่สถานที่ต่อไปครับ โดยเราจะไปอนุสาวรีย์ลุงโฮจิมินห์กัน ระหว่างทางก็จะผ่านย่านถนนคนเดินครับ ตอนดึกๆจะคึกคักบริเวณนี้ แต่กลางวันไม่มีคนเลย ร้อนมาก
มาถึงแล้วครับ บริเวณนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติค่อนข้างเยอะ แต่พื้นที่ตรงนี้เป็นกลางแจ้ง ไม่มีที่ล่ม ผมลงมาถ่ายรูปไม่นานก็กลับครับ เพราะแดดที่นี่แรงมาก
รูปย้อนแสงนิดนะครับ ลุงโฮฯเลยมืดเลย ส่วนตึกสวยๆด้านหลังก็คือศาลากลางโฮจิมินห์ (Ho Ci Minh City Hall) ครับ เป็นย่านการค้าการท่องเที่ยวของเมืองเพราะมีศูนย์การค้า ร้านค้าแบรนด์เนมและโรงแรมหรูๆ อยู่รอบๆ
ถัดไปครับ นั่งรถแปปเดียวก็มาถึงโบสถ์นอร์ทเธอดาม หรือ Notre Dame Cathedral ซึ่งโบถส์แห่งนี้นั้นได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนาม แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากมาย ลักษณะของตัวโบสถ์เป็นรูปแบบของสมัยอาณานิคม มีหอคอยคู่สี่เหลี่ยมอยู่ด้านหน้าสูง 40 เมตร เป็นเอกลักษณ์ที่แสนสง่างาม
น่าเสียดายครับ ไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ และดูเหมือนว่ากำลังก่อสร้างอยู่ด้วย
ถัดมาสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปอีกจุดข้างๆโบสถ์แห่งนี้ นั่นก็คือ ไปรษณีย์กลางไซ่ง่อน ครับ ซึ่งสำนักงานไปรษณีย์กลางไซ่ง่อนมีความงดงามตระการตาในแบบสถาปัตยกรรมสมัยศตวรรษที่ 19 จนกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่มาเที่ยวที่นี่
เข้ามาข้างในก็จะมีร้านขายของที่ระลึก รวมทั้งเค้าเตอร์ให้บริการรับส่งไปรษณีย์ทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย
สถาปัตยกรรมรอบๆ ดูสวยงามดีครับ
ถัดไปครับ อีกสถานที่นึงที่พลาดไม่ได้ในการเที่ยวเมืองโฮจิมินห์ นั่นก็คือ ทำเนียบอิสรภาพ (Independence Palace) แต่เดิมเป็นทำเนียบของอดีตประธานาธิบดีเวียดนาม ปัจจุบันได้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อเป็นอนุสรณ์ในสมัยสงคราม ข้างในมีการจัดแสดงห้องทำงาน ห้องรับรองต่างๆ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้สำนักงานและอุปกรณ์การสื่อสารในสมัยสงครามที่ยังคงถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้