สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาวบูล กลับมาพบกับการเดินทางของผม นาย4 อีกครั้ง รอบนี้ได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองไทเป ประเทศไต้หวัน ด้วยโปรโมชั่นของสายการบิน Nokscoot ในราคาไปกลับคนละ 3,400 กว่าบาท ซึ่งบินในช่วงฤดูใบไม้ผลิกลางเดือนมีนาคมปี พ.ศ.2562 พอดีครับ จึงไปถ่ายรูปและกลับมารีวิวการท่องเที่ยวครั้งนี้ให้เพื่อนๆชมกัน หากถ่ายรูปไม่สวยยังไงต้องขออภัยด้วยนะครับ และนี่คือแผนการเดินทางคร่าวๆ ของผมครับ
------------------------

-------------------------

DAY1 ศุกร์ ที่ 15 มีนาคม 2562 – เขาหยางหมิงซาน / อนุสรณ์สถานเจียงไคเช๊ก / ย่าน Ximending
DAY2 เสาร์ ที่ 16 มีนาคม 2562 - เมืองท่า Tamsui / วัดเทียนหยวน / สะพาน Lover’s Bridge / เขาช้าง / ตึกไทเป 101
DAY3 อาทิตย์ ที่ 17 มีนาคม 2562 - วัดหลงซาน / Songshan Cultural and Creative Park / ตลาดนัดซื่อหลิน
DAY4 จันทร์ ที่ 18 มีนาคม 2562 – อุทยานเย่หลิว / น้ำตกและถนนสือเฟิ่น / เมืองจิ่วเฟิ่น / ตลาดนัดซือต้า

และสืบเนื่องจากเนื้อหาที่ค่อนข้างเยอะ และรูปที่ถ่ายมาหลายร้อยใบ ผมจึงต้องขอซอยกระทู้เป็น 2 Part นะครับ โดยแบ่งการเดินทาง 4วัน เป็นวันละ 2กระทู้ครับ

โดยกระทู้นี้จะเป็น DAY1 – DAY2 ครับ

และเพื่อนๆสามารถติดตามตอนที่ 2 (DAY3 – DAY4) ได้ที่กระทู้นี้ครับ Link >>> https://ppantip.com/topic/38680901

---------------------------

ฝากรีวิวเที่ยวต่างประเทศเก่า

แบกเป้เที่ยวญี่ปุ่น 2014 Click >> https://ppantip.com/topic/32995388
เที่ยวฮอกไกโด 2017 Click >> https://ppantip.com/topic/36125638
ญี่ปุ่นฤดูร้อน 2018 Click >> https://ppantip.com/topic/37925403
ฮ่องกงฤดูหนาว 2018 Click >> https://ppantip.com/topic/38468402

---------------------------

กลับมาที่เนื้อหาต่อครับ สำหรับการเดินทางไปยังไต้หวันนั้น หากใครต้องการใช้งานอินเตอร์เน็ตที่นั่น และเดินทางมากกว่า 2คน ผมขอแนะนำให้เช่า Pocket Wifi ไปเลยจะคุ้มกว่าซื้อซิมครับ โดยหากเช่า Wifi โดยเลือกไปรับเครื่องที่สนามบินเถาหยวน ก็จะได้ในราคาถูกกว่าเช่าไปเลยจากเมืองไทย (หากเช่าที่ไทยเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 100-250 บาท ในขณะที่หากเช่าที่นั่นราคาเพียงวันละ 50กว่าบาท เท่านั้นครับ) ผมเช่าผ่าน Agency Klook 4 วัน ราคา 204 บาทเองครับ ลงเครื่องปุ๊ปไปรับได้เลย

ในส่วนการเดินทางครั้งนี้เนื่องจากมีเวลาค่อนข้างจำกัด จึงเลือกเที่ยวเฉพาะในตัวเมืองไทเปครับ ไม่ได้ออกไปต่างจังหวัด ดังนั้นกระทู้นี้จึงเป็นการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวเฉพาะในตัวเมืองอย่างเดียวนะครับ

ถ้าพร้อมแล้วไปติดตามกันได้เลยครับ

DAY1 (15 มีค 62) : การเดินทางขาไปนั้นเป็นไฟลท์ดึกรอบ 00.30 ครับ ผมรีบถ่อไปสนามบินดอนเมืองตั้งแต่สามทุ่มกว่าด้วยความที่ว่าเคยอ่านในพันทิพ แล้วมีคนพูดถึงเรื่อง Overbooking เนื่องด้วยเป็นสายการบิน Low Cost ผมจึงรีบมาต่อคิวแต่เนิ่นๆ แต่ก็ต้องตะลึงกับคนมหาศาลมาต่อคิวรอตั้งแต่เค้าเตอร์เช็คอินยังไม่เปิด

จัดการเช็คอินเรียบร้อยครับ โชคดีได้ที่นั่งแถว 62 ซึ่งเป็น Super Seat ด้านหน้าจะกว้างกว่าที่นั่งปกตินิดหน่อยครับ

จากนั้นก็ไปนั่งเล้าท์คิงพาวเวอร์รอครับ ทุกทีใช้บริการที่สุวรรณภูมิ มารอบนี้เพิ่งได้มีโอกาสมาใช้บริการที่ดอนเมืองเป็นครั้งแรก ทางเข้าสวยงามครับ

ขึ้นชั้นสองมา คนเป็นล้านเหมือนเดิมครับ คนไทยส่วนใหญ่ชอบบินไฟลท์ดึกอยู่แล้ว

นั่งรอสองชั่วโมง พอใกล้ๆเที่ยงคืนก็เดินไปขึ้นเครื่อง ซึ่งเครื่องใหญ่ โบอิ้ง 777-200 ขนาด 415 ที่นั่ง ของนกสกู๊ดจอดรออยู่แล้ว

ที่นั่งของผมไฟลท์นี้จะเป็นเบาะเหลืองซึ่งกว้างดีครับ นั่งสบาย

หลังจากขึ้นเครื่องก็หลับในทันที ผ่านไป 3ชั่วโมงกว่า ตอนเกือบๆตี 5 ก็วาปมาถึงสนามบินเถาหยวน ประเทศไต้หวันกันแล้วครับ โดยถือว่าเป็นสนามบินที่มีความสวยงามทางด้านดีไซต์และสถาปัตยกรรมมาก แถมยังคล้ายๆสุวรรณภูมิบ้านเรา

ตอนลงจากเครื่องผมพยายามรีบเดิน และผ่านตม.มาคนแรกๆ ตอนเดินถึงสายพานนี่ยังไม่มีใครมาเลยครับ ก็เลยโชคดีมีโอกาสได้ใช้ห้องอาบน้ำ (อยู่ด้านหลังสายพานครับ) ซึ่งห้องอาบน้ำที่นี่ดีมากเลย มีไดร์ แชมพู ครีมอาบน้ำให้ครบ แต่ปัญหาคือเรื่องการแย่งห้องอาบน้ำนี่สิครับ ถ้าใครเดินมาช้า อาจจะต้องต่อคิวรออาบน้ำนานนิดนึง เนื่องจากห้องอาบน้ำมีเพียง ชาย 2 ห้อง หญิง 2 ห้อง เท่านั้น

หลังจากอาบน้ำเติมความสดชื่นเสร็จ ก็เดินมาจัดการเรื่อง Pocket Wifi ต่อครับ ซึ่งผมได้จองและชำระเงินผ่าน Agency ไปเรียบร้อยแล้ว ตอนเดินไปถึง Arrival Hall ตรง Counter 3 ก็ยื่น Voucher ให้เจ้าหน้าที่ แล้วรับ Pocket wifi ไปได้เลยครับ

ที่สนามบินเถาหยวนนี่มีบริการนักท่องเที่ยวดีมากครับ นอกจากห้องอาบน้ำแล้ว เรายังสามารถพบเครื่องกดน้ำเย็น-น้ำร้อนได้ในหลายๆจุดครับ ไม่มีค่าบริการ

จากนั้นก็ลากกระเป๋าเดินไปยังฝั่ง Depart ครับ เดินเลยไปอีกนิดก็จะเป็นทางเข้า MRT เพื่อต่อรถไฟ Airport MRT เข้าเมือง

เดินมาถึงละครับ ทางเข้า Airport MRT

จากนั้นสิ่งแรกที่ทำก่อนจะเข้าเมืองก็คือซื้อบัตร Easy Card ครับ ซึ่งสะดวกมากในการใช้บริการ MRT ที่ไต้หวัน รวมทั้งรถเมล์และร้านค้าหลายๆแห่งครับ แต่ตอนผมไปมีแต่แบงก์พัน ซึ่งไม่สามารถซื้อ Easy Card 500NT ได้ เพราะเครื่องไม่มีทอน ผมเลยไปซื้อกับเจ้าหน้าที่ที่หน้าเค้าเตอร์เอาครับ

นั่งรอรถไฟซักพัก ก็มาครับ สีน้ำเงินจะเป็นแบบ Commute จอดหมดทุกป้าย ส่วนสีม่วงจะเป็น Express ถ้าใครเข้าเมือง แนะนำนั่ง Express เลยครับ ไวดี ราคาเท่ากัน

บรรยากาศบนรถไฟ Airport MRT มีที่วางสัมภาระให้ด้วยครับ สะดวกดี

นั่งจนสุดสายก็จะมาโผล่กลางเมืองเลยครับ ที่สถานี Taipei Main Station ซึ่งการเดินทางทริปนี้จะได้ผ่านสถานีนี้บ่อยมาก จากนั้นผมก็ลากกระเป๋านั่งรถไฟต่อไปยังที่พักที่สถานียอดฮิตอย่าง Ximen ครับ

ออกจากสถานี Ximen ทางออก 5 โดยผมจองที่พักที่ Green World Zhonghua ตลอดการเดินทางทริปนี้ครับ

จากทางออก 5 ลากกระเป๋ามาเกือบ 10 นาทีก็มาถึงหน้าโรงแรมครับ โดยข้างๆโรงแรมจะมี 7/11 รวมทั้งร้านซูชิชื่อดัง ส่วนชั้น 2F ที่นี่ก็มีร้านชาบูอีกด้วยครับ

เข้ามาปุ๊ปกดลิฟท์ไปที่ Lobby สำหรับ Check in ที่ชั้น 13 เลย ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลา 7 โมงเช้าเท่านั้น ยังไม่สามารถเช็คอินได้ ผมก็จัดการฝากกระเป๋าไว้ก่อนครับ เพื่อออกไปเที่ยวต่อ

จากนั้นได้เวลาออกเที่ยวและครับ สถานที่แรกที่จะไปนั่นก็คือ อุทยานหยางหมินซาน ซึ่งช่วงเวลาที่ไปผมคาดหวังว่าจะได้ไปดูซากุระสวยๆตามที่อ่านในรีวิวมา จะเจอมั้ยเดี๊ยวไปดูกันครับ 555+

ออกจากสถานีช่อง Y6 มาแล้ว จะเจอประตู North1 กับ North2 ครับ ป้ายรถเมล์จะอยู่ข้างหน้าเลย

นี่ครับ มายืนรอรถเมล์สาย 260 ไม่ถึง 10 นาที รถเมล์ก็มาครับ ตอนขึ้นก็ขึ้นด้านหน้า Scan บัตร Easy Card ได้เลยครับ ง่ายมาก

นั่งรถเมล์ในสภาพหลับๆตื่นๆ อยู่ร่วมๆ 50 นาที โดยนั่งสุดสายก็วาปมาถึงเขาหยางหมินซานละครับ สัมผัสแรกที่ลงจากรถเมล์คืออากาศหนาวมากก ประมาณ 13-14 องศา เท่านั้นครับ

ที่นี่ถือว่ามีธรรมชาติที่สวยงามมาก รวมทั้งมีดอกไม้นานาชนิดที่สวยงามเหมาะแก่การเยี่ยมชมครับ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลินี้

ข้างทางก็จะมีของกินขายครับ ผมลองจัดไอศกครีมรสโยเกิร์ตที่นั่นไป รสชาติอร่อยมาก

เดินมาในส่วนนี้เป็น Flower Clock ครับ จะเป็นลานกว้าง สำหรับนั่งท่องเที่ยวทำกิจกรรมกัน

ในบริเวณนี้สามารถเดินชมสวนสวยๆ กับดอกไม้หลายแบบได้ครับ แต่ผมยังไม่เจอซากุระเลยตั้งแต่มา

เดินชมไปเรื่อยๆจนถึงโซนน้ำพุ Fountain ในที่สุดก็เจอต้นซากุระแล้วครับ แต่เอิ่ม ดูสภาพคงร่วงไปเยอะแล้ว เนื่องจากสับดาห์ที่ผ่านมาฝนตก พายุเข้าเกือบทุกวัน

แต่อย่างน้อยก็ยังไม่ถึงกับเสียเที่ยวครับ ยังเหลือให้ชมบ้างนิดหน่อยก็ยังดี 555+

ก่อนเดินออกจากบริเวณนี้ก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อนครับ

จากนั้นนั่งรถ 260 ย้อนกลับไปป้ายนึงครับ จะเป็นป้าย Visitor Center ทีแรกหาไม่เจอ ต้องเดินเข้าไปข้างในลานจอดรถครับ จะเป็นที่จอดรถมินิบัสสาย 108 ผมไปซื้อตั๋ว One Day Pass ราคา 60NT เพื่อขึ้นลงรถตามสถานีต่างๆบนเข้าหยางหมิงซาน ได้สะดวกครับ ใครที่คิดว่าจะขึ้นลงรถเกิน 4 รอบ ซื้อไปเลยคุ้มกว่าครับ

มาถึง Bus Stop No.4 ครับ จะเป็น Erziping Recreation Area สำหรับคนชอบเดินป่าเลยครับ เนื่องจากการจะเข้าไปชมธรรมชาติด้านในได้นั้นจะต้องผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ต้องเดินเท้าเข้าไปเท่านั้น ด้วยระยะทาง 1.8 กม ครับ