ตอนนี้อายุ 15 คะ วันนั้นเราได้เป็นตัวแทนกล่าวความในใจขอลม.3 เราเป็นคนที่ขี้ร้องมากๆ แค่ขึ้นไปบนเวทีแล้วกล่าวสวัสดีผอ.คุณครูเราก็เริ่มร้อง เพราะพอคิดว่านี่คือการกล่าวครั้งสุดท้ายเราก็ร้อง จนเราเลือกที่จะไม่ดูใบปลิว มือไม้เราสั่น พร้อมกับเสียงที่สั่นขึ้นเรื่อยๆจากการร้องบนเวที เราเรียกเพื่อนคนนึงมาช่วยไม่ให้เราร้อง มันก็ไม่หยุด จนเราตัดสินใจพูดออกไป เราไม่รู้ว่าคุณครูโกรธเราประโยคไหน “คงติดถึงคุณครูที่ชอบตะคอกบอกให้เงียบ คงคิดถึงคุณครูที่ไถหัวเด็กนักเรียนเมื่อไม่ตัดผม คงคิดถึงครูที่ให้ไปหาไส้เดือนแทบตายเพื่อมาผ่าในวิชาวิทยาศาสตร์ คงคิดถึงครูทีห้องสมุดที่ชอบบอกว่า เฮ้เงียบๆนี่ห้องสมุดนะ แต่หนูก็เห็นว่าครูก็คุยกัน คุณครูไม่ต้องเป็นห่วงหรอกคะโตไปพวกหนูดีกว่าครูแน่นอน “สุดท้ายเราก็กล่าวแบบเศร้าๆพร้อมขอบคุณครูที่คอยอบรม และ สุดท้ายเรากล่าวว่า “ถึงจะไม่ใช่สถาบันที่ดีที่สุด แต่เป็นสถาบันที่รักมากที่สุด” ตอนที่เราพูดเราไม่ได้เจตนาจะด่าคุณครูเราแค่เพียงจะพูดให้มันขำเพื่อที่เราจะได้เสียงไม่สั่น แต่เราคิดผิดไป ถึงตอนนั้นคุณครูและทุกคนจะหัวเราะ แตรกลับกลายเป็นว่า เหมือนเราพูดไม่ให้เกียรติ มีครูอีกคนมาบอกเราว่าไม่เป็นไรนะทุกคนก็เคยทำผิดพลาด เราก็บอกส่า จะพัฒนาคะ. แต่พอผ่านมา 4 วัน มาวันจันทร์ที่ต้องมาซ้อมรับเกียรติบัตร เรากลัวที่จะขึ้นไปข้างบนเพราะเหมือนเรารู้ลึกๆว่า โดนครูด่าแน่นอน เราเลยขึ้นไปสาย จนครูด่า เราเข้าไปครูถามว่า “ครูนัดเธอมากี่โมง” เราก็ตอบ 08:30 คะ ครูก็ถามอีกว่า ตอนนี้กี่โมง เราก็ตอบอีกว่า 09:11 คะ เพราะที่เราทำแบบนั้นเพราะเราไม่อยากเงียบแล้วฟัง ต้องทำอะไรสักอย่างให้เราไม่รู้สึกเจ็บที่โดนด่า หลังจากนั้นเราเดินไปเอาเก้าอี้ด้านหลัง คุณครูก็ด่าตามหลังอีกว่า “เธอน่ะด่าครูเด็กไม่ดี “ เราก็พูดแบบขอโทษไป ครูก็บอก ไม่ต้องขอโทษ เขารู้ทั้งโรงเรียนแล้ว ไม่มีครูคนไหนอยากคบกับเธอหรอก ดีนะที่วันนั้นคนสำคัญไม่มา
เราก็รีบเดินออกไปพร้อมกับพยายามไม่คิดถึงคำด่า วันต่อมา เราขึ้นไปซ้อมบนเวที สามรอบ ทั้งสามรอบเราก็โดนด่า “เด็กหญิงสักวันจะดีกว่าครูมาแล้ว”
พอเราขึ้นไปอีก “เธอมันเด็กก้าวร้าว เหมือนก่อนฉันเคยชมว่าเด็กดีนะ ตอนนี้ไม่” เราก็ทำหน้ายิ้มๆเพราะไม่อยากจะรู้สึกกับคำพูดอะไร
พอคุณครูคุยกัน ครู... ก็บอกพวกคุณครูว่า “อย่าคุยกันเดี๋ยวเด็กก็ด่าว่า คุยกันอีก
เราไม่เข้าใจเลย ตลอดที่ผ่านมา ครูที่โรงเรียนเก่า เอาแต่พูดว่าโตไปพวกเธอต้องเป็นเด็กที่ดีกว่าครูนะ แต่พอเราเอามาพูดที่โรงเรียนนี้กลับโดนด่า
ครูคงไม่ให้อภัยเรา เราทำไปเพราะเราคิดไม่ถึงจะถ้าคนอื่นฟังจะเป็นคำด่าที่ฟังแล้วหยาบคายไม่มีมารยาท เราคงผิดเองที่เป็นคัวแทนกล่าววันนั้น
เราผิดเองที่พูดอะไรไม่รอบคอบ เราคงผิดตั้งแต่ที่เราย้ายเข้ามาที่โรงเรียนแห่งนี้ ตลอดที่ผ่านมาเราไม่เคยก่อเรื่องอะไรเลย แต่เมื่อเราผิดพลาดเพียงครั้งเดียว กลับไม่มีใครให้อภัยเราเลย การผิดพลาดครั้งนี้มันทำให้เรารู้ว่า ดีเกินไป มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย เรารู้สึกแย่มาก
เราได้แต่คิดว่า เราจะไม่มีวันทำแบบนี้อีกครั้งอย่างแน่นอน และจากนี้เราคงไม่คิดที่จะกล้าขึ้นไปกล่าวอะไรบนเวทีอีกแล้ว
โดนครูด่าจนรู้สึกแย่
เราก็รีบเดินออกไปพร้อมกับพยายามไม่คิดถึงคำด่า วันต่อมา เราขึ้นไปซ้อมบนเวที สามรอบ ทั้งสามรอบเราก็โดนด่า “เด็กหญิงสักวันจะดีกว่าครูมาแล้ว”
พอเราขึ้นไปอีก “เธอมันเด็กก้าวร้าว เหมือนก่อนฉันเคยชมว่าเด็กดีนะ ตอนนี้ไม่” เราก็ทำหน้ายิ้มๆเพราะไม่อยากจะรู้สึกกับคำพูดอะไร
พอคุณครูคุยกัน ครู... ก็บอกพวกคุณครูว่า “อย่าคุยกันเดี๋ยวเด็กก็ด่าว่า คุยกันอีก
เราไม่เข้าใจเลย ตลอดที่ผ่านมา ครูที่โรงเรียนเก่า เอาแต่พูดว่าโตไปพวกเธอต้องเป็นเด็กที่ดีกว่าครูนะ แต่พอเราเอามาพูดที่โรงเรียนนี้กลับโดนด่า
ครูคงไม่ให้อภัยเรา เราทำไปเพราะเราคิดไม่ถึงจะถ้าคนอื่นฟังจะเป็นคำด่าที่ฟังแล้วหยาบคายไม่มีมารยาท เราคงผิดเองที่เป็นคัวแทนกล่าววันนั้น
เราผิดเองที่พูดอะไรไม่รอบคอบ เราคงผิดตั้งแต่ที่เราย้ายเข้ามาที่โรงเรียนแห่งนี้ ตลอดที่ผ่านมาเราไม่เคยก่อเรื่องอะไรเลย แต่เมื่อเราผิดพลาดเพียงครั้งเดียว กลับไม่มีใครให้อภัยเราเลย การผิดพลาดครั้งนี้มันทำให้เรารู้ว่า ดีเกินไป มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย เรารู้สึกแย่มาก
เราได้แต่คิดว่า เราจะไม่มีวันทำแบบนี้อีกครั้งอย่างแน่นอน และจากนี้เราคงไม่คิดที่จะกล้าขึ้นไปกล่าวอะไรบนเวทีอีกแล้ว