ควรยกลูกให้เป็นบุตรบุญธรรมคนอื่นดีไหม

ตอนนี้ไม่รุ้จะทำยังไงดี สับสนไปหมดแล้ว เราตั้งท้องโดยความไม่พร้อม และมารุ้ว่าพ่อของเด็กมีครอบครัวยุแล้ว เราตัดสินใจที่จะไม่เอาเด็กออกแต่ไม่ได้บอกทางครอบครัว ปรึกษาแค่พี่ที่สนิทกันคนนึง แล้วก็มีครอบครัวนึงเขามีลูกไม่ได้ อยากรับลูกเราเป็นบุตรบุญธรรม เขาก็ให้เหตุผลว่าลูกจะมีอนาคตที่ดีกว่าอยู่กับเรา ตอนนั้นเรายังไม่ได้ตัดสินใจอะไรจนคลอดน้อง คือใจนึงเราก็อยากให้ลูกไปอยู่กับครอบครัวที่พร้อม เพราะเราก็รุ้จักกันรุ้จักพื้นฐานครอบครัว ทางครอบครัวบุญธรรมก็ไม่ได้กีดกันอะไรเรากับลูก มาหามาเยี่ยมได้ตลอด แต่ใจนึงเราก็อยากกัดฟันเลี้ยงลูกเอง ลำบากนิดหน่อยก็ทนเอา เอาไว้พร้อมค่อยบอกทางบ้านเรา ท่านอาจจะเสียใจบ้างแต่คิดว่าคงรับได้ แต่ก็กลัวยายเสียใจหนักจนทรุด แต่ถ้าลูกอยู่กับเราเราก็ต้องจ้างเลี้ยงเพราะต้องทำงาน ก็กลัวลูกจะมีปมด้อย กลัวโดนล้อว่าลูกไม่มีพ่อ กลัวลูกรับแรงกดดันคำพูดทางสังคมไม่ไหว ถ้าจะเอาลูกให้ฝั่งพ่อเขา เราก็กลัวแม่เลี้ยงจะทำร้ายลูกเรา กลัวพี่คนละแม่จะไม่รักเขา ตอนนี้สับสนมาก ความคิดในหัวตีกันไปหมด ร้องไห้ทุกคืน มองหน้าลูกก็น้ำตาไหล ใจนึงก็อยากเลี้ยงเอง แต่ใจนึงก็อยากให้เขาอยู่กับครอบครัวที่สมบูรณ์ เพื่ออนาคตเขาเอง เพราะอย่างน้อยเรายังได้เห็นการเติบโตของเขาอยู่
ปล.อาจเรียบเรียงถ้อยคำไม่สวยงามเนื่องจากตอนนี้ก็สับสนมาก บวกกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด พยายามมีสติให้มากอยู่ตอนนี้ อารมณ์ดิ่งมาก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เริ่มต้นเลยนะครับ
ให้ จขกท ถอดความคิดที่จะตัดสินใจ ออกจากมุมมองของตัวเอง
และให้ตัดสินใจสิ่งนี้จากมุมมอง เด็ก หรือคนนอก

การจะเลี้ยงเด็ก 1 คนในมีคุณภาพ อย่างน้อย 3 ปีแรกคือช่วงเวลาที่เด็กต้องการพัฒนาศักยภาพมากที่สุด
ให้ จขกท ลองนึกดูว่า "3 ปีที่แล้วจนถึงวันนี้ คุณภาพชีวิตของ จขกท บริบูรณ์ดีไหม"
เพราะมันเป็นตัวชี้วัดว่าในอีก 3 ปี จขกท จะเลี้ยงลูกด้วยคุณภาพชีวิตอย่างไร

ผมไม่ได้บอกว่า จขกท จะดักดานแบบนี้ไปอีก 3 ปี แน่นอนว่าบางคนก็ชีวิตดีขึ้นในข้ามปี!!
แต่ต้องคิดในทางปกติก่อนว่า โดยปกติ ใน 3 ปีข้างหน้า มนุษย์ก็มักจะไม่ได้เปลี่ยนชีวิตไปแบบพลิกหน้ามือหลังมือ

ปัจจัยที่สองที่ให้คิดคือ ให้คิดในฐานะยึดประโยชน์เด็กเป็นหลัก
หากยึดแต่ความพอใจส่วนตัวเป็นหลัก แบบนั้นไม่เรียกความรัก มันเรียกว่าความใคร่
ถ้ามองในมุมของเด็กเป็นหลักแล้ว ประเมิน/ประมาณแล้วว่า เด็กอยู่กับครอบครัวไหน เขาจะได้รับประโยชน์สูงสุด ควรให้อยู่กับคนนั้น
ไม่จำเป็นต้องรีบตัดสินใจ เพราะหากมีผู้ประสงค์อุปการะเลี้ยงดูลูกเรา อีกหลายคู่ ก็ควรค่อยๆ เลือกไป (บนพื้นฐานของประโยชน์เด็กเป็นหลัก)



แต่ที่แนะนำคือ ถ้าตัดสินใจให้ลูกเขาไปแล้ว อย่าพยายามเข้าไปแสดงความเป็นเจ้าของลูกคนนั้น,
แต่ให้ครอบครัวและเด็กคนนั้นตัดสินใจเอง ว่าเขาอยากเจอพ่อแม่ที่แท้จริงหรือไม่

ย้ำ ไม่ต้องรีบตัดสินใจ เพราะ จขกท เองก็ควรดูให้ถี่ถ้วนว่าคนที่อุปการะลูกค้า เหมาะสมดีแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่