ครั้งที่แล้ว เราพูดถึงตั๋วไปกลับกันแล้ว ซึ่งผมได้ตั๋วแบบ error fare บิน Business class จาก bkk-cape town ด้วยราคาประมาณ 35,xxx บาท
.
ติดตามย้อนหลังได้จากกระทู้นี้นะครับ https://ppantip.com/topic/38520710
.
ทริปนี้เราจะผมเดินทางช่วง ปีใหม่ครับ 29 Dec- 5 Jan เป็นช่วงเวลาเที่ยวครับ ผมจะรีวิวเป็นสถานที่ไป ลองพิจารณากันดูว่าจะเป็นลิสที่จะเอาไว้ในแพลนดีหรือไม่นะครับ


เริ่มแรก เราหารถที่จะไปเที่ยวครับ โดยเช่ารถเหมาวันตั้งแต่ 29 Jan – 5 Dec ผมจองผ่าน website arguscarhire.com เป็น agent ที่โคกับร้านเช่ารถต่างๆ ของผมจองมาได้เป็น avis ครับ ราคา 12,812 บาท หาร 3 แล้วไม่แพงมากครับ พอไปถึงเราต้องมีค่ามัดจำรถอีกประมาณ 5 พันกว่าบาท รูดผ่านบัตรเครดิตได้ พอเราเลิกใช้มาคืน เขาก็จะหักออกไปครับ โดยเราสามารถเลือกรถได้และไปรับรถที่สนามบินเคปทาวน์ มันจะมีป้ายบอกทางไปรับรถ จะมีหลายเจ้ามากๆ อยู่รวมกัน หากหาไม่เจอสามารถถามประชาสัมพันธ์ที่สนามบินได้ครับ ว่าต้องไปทางไหน เป็นรถยี่ห้อ Volkswaken รถค่อนข้างใหญ่ แบกกระเป๋าไว้ด้านหลังได้เยอะ กินน้ำมันไม่เยอะมาก ที่นั่นลิตรไม่แพงมากครับ อยู่ 8 วันเติมไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองซะเยอะ Tie-in ตัวเองเบาๆครับ 555+

หลังจากนั้นเราก็ขับรถเพื่อเข้าที่พัก โดยทั้งทริปเราจะพักกันที่ apartment ซึ่งผมจองผ่านทาง air bnb ซึ่งเขา provide ที่จอดรถให้เราด้วย ผมจองตามรูปภาพด้านล่างเป็น ห้องขนาดใหญ่มี 2 ห้องนอน มีห้องนั่งเล่นตรงกลาง มี facilities ให้ใช้เช่น ห้องครัว ห้องนั่งเล่น Netflix Spotify ที่เราสามารถเปิดได้เลยจากทีวีครับ ส่วนมองออกไปนอกหน้าต่างเราจะเห็นวิวที่เป็น table mountain อยู่ตรงหน้า 

 Link รายละเอียด https://th.airbnb.com/trips/v1/aa5ff369-8eea-4fa8-bb1b-cc060d4f7c75

ลองเช็คราคาดูครับ ไม่แพงมาก มีสองห้องพักได้ 4 คน บรรยากาศดี เดินไปในเมืองได้สบายๆ บรรยากาศส่วนตัวด้วยหรืออาจพักมากกว่านั้นได้เพราะห้องโถงตรงกลางก็สามารถนอนได้อีกครับ ห้องน้ำในตัวแต่ละห้องมีสองห้อง มีอ่างด้วย เอาบาธบอมบ์มาเล่นก็ได้ชิวๆ

วิวจากห้องครับ มองไปก็เห็น table mountain เบาๆ มีเมฆปกคลุม น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง

ชมวิว เรื่อยๆ

มาเริ่มกันที่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเลยครับ

Shopping and dining at V&A Waterfront
Location https://bit.ly/2Fhblry

สำหรับคนที่ถึงแล้วอยากหาอะไรกิน ง่ายๆ หรืออยากเดินช้อปปิ้งตากแอร์หลังจากบินมาระยะเวลานาน แนะนำห้างนี้เลยครับ ห้างหนึ่งเดียวของ capetown ที่คนเยอะมากๆ และมีร้านอาหาร ช้อปปิ้งให้เลือกมากมาย เสื้อผ้าราคาพอๆกับที่ไทย ส่วนร้านอาหารส่วนใหญ่ค่อนข้างถูกและให้จานใหญ่ วิวตอนเย็นค่อนข้างสวยมาก ยิ่งตอนพระอาทิตย์ตกดินและนั่งกินอาหารไปด้วยเลิศมาก

ตัวห้างติดกับท่าเรือ บรรยากาศดี อากาศไม่ร้อนมาก ลมพัดตลอดเวลาครับ 
ชิงช้าสวรรค์ เป็นจุดแลนด์มาร์คของที่นี่เลย แต่ผมไม่ได้ขึ้นนะ อิอิ คิดว่าน่าจะเหมือนสิงคโปร์ไฟเออ อะไรทำนองนั้น เลยไม่ได้สนใจครับ 
ตัวห้างประกอบไปด้วยหลายๆจุดมากๆ มีหลายโซน ไม่ได้เป็นแนวหลายชั้น แต่ว่าเป็นประมาณ 2 ชั้น แต่อาศัยตั้งหลายจุดในแนวราบ
มีเรือด้วยครับ น่าจะเปิดล่องไปที่อื่น
ชิงช้าสวรรค์ตอนเย็น เอาเป็นว่าใครอยากหาอะไรกิน ช้องปิ้ง ที่นี่คือจุดที่รวมทุกอย่าง คือมาได้ทุกวัน เพราะที่อื่นไม่มีห้างแล้ว 555+

Signal hill Free entry
Location https://bit.ly/2ubD5ra 

สำหรับภูเขานี้เลิศมากครับ มันจะเป็นทางผ่านของ lion head rock ซึ่งเดี๋ยวผมจะรีวิวอีกที ซึ่งเราต้องขับรถขึ้นไปไต่เขาไปเรื่อยๆ สามารถขึ้นมาถ่ายรูปได้และเห็นวิวตัวเมืองของเคปทาวน์ โดยวันเค้าดาวน์ ผมเลือกมาเค้าดาวน์บนภูเขานี้เพื่อมาดูพลุที่ V&A waterfront จุดครับ เราก็จะเห็นพลุแบบมุมบน แต่ๆๆๆ คนเยอะมากถ้าคุณมาช่วงวันเค้าดาวน์จริงๆ แนะนำให้มาจับจองพื้นที่นั่งตั้งแต่ 2 ทุ่มเป็นต้นไป นำเบียร์ ไวน์ขึ้นมาจิบได้ โดยบรรยากาศค่อนข้างสนุก เสียงดัง เพราะบางคนก็ขนลำโพงขึ้นมาเปิดเพลง เราสามารถไปจอยเต้นกับเขาได้ครับ 555+ เอาจริงไม่ค่อยแนะนำเลย พอเลิกเค้าดาวน์เสด คนแย่งกันลง กว่าจะถึงที่พักคือเหนื่อยมาก เพราะถนนมันวิ่งได้แค่ไปกลับสองเลน อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างเลยครับ ลำบาก 555+

ขึ้นมาช่วงเย็นๆ โพ้เพ้ ก็จะเห็นตัวเมืองทั้งหมดครับ แสงสีสวยงาม ภูเขาเทเบิ้ลเมาเท่นก็มีหมอกปกคลุม ไทอินตัวเองอีกแล้ว 555+
วิวแบบเบลอๆ
ด้านจุดให้ชมวิว เห็นทะเลไปไกลสุดขอบฟ้า
มุมถ่ายรูปสวยดีครับ 
บรรยากาศชิวๆ เอาแซนวิชขึ้นมากิน
หรือจะถ่ายแบบฮิปสเตอร์
คนเยอะนะครับ ดูจากรถที่จอด 

Lion head rock ค่าเข้าฟรี
Location https://bit.ly/2T5XpEk

ผมเลือกที่จะมา trekking ภูเขานี้ตอนเช้าตรู่เพื่อขึ้นไปดูแสงอาทิตย์ขึ้นครับ เราเตรียมตัวตั้งแต่ตีห้าขับรถขึ้นมาจอดหน้าทางเข้าและเดินขึ้นไป ช่วงแรกเป็นทางเดินขึ้นไป ชิวมาก แต่ก็จะชันๆหน่อย พอไปถึงจุดด้านบน เป็นบันไดแคบที่สามารถขึ้นได้คนเดียว ช่วงนี้การจราจรจะติดขัดนิดนึง ก็ต้องทำเวลาหน่อยครับ ไม่นั้นเดี๋ยวพระอาทติย์ขึ้น ก็จะร้อนหน่อย ข้อดีของการเทรคตอนเช้าคืออากาศจะไม่ร้อนมาก เราก็เดินๆไป แนะนำพกน้ำขึ้นไปขวดนึง ไว้กินตอนเหนื่อยๆ ด้านบนไม่ได้ใหญ่มากนะครับ เราสามารถเช็คพระอาทิตย์ขึ้นได้จากกูเกิ้ลได้เลย ว่ามันขึ้นกี่โมง ระยะเวลาในการเทรคกิ้งประมาณ 1 ชั่วโมง – 1 ชั่วโมงครั้งครับ แอบเห็นคนพาน้องหมาขึ้นมาด้วย เก่งมากกกครับ

มาเทรกกิ้งตั้งแต่ตีห้า วิวก็จะสวยๆไปอีกแบบ
ทางเดินขึ้นก็จะลูกรังหน่อย แต่ก็มีที่ให้เดินครับ เป็นทางเดิน ส่วนใหญ่เขาจะมาวิ่งออกกำลังกายกันขึ้นมาแล้วก็ลง 
เดินแข่งกับพระอาทิตย์ขึ้นจ้า รีบๆหน่อย เดี๋ยวไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้น
ถึงแล้วจ้า มาทันด้วย รอเห็นพระอาทิตย์โผล่หัวขึ้นมา
เริ่มสว่างขึ้นแล้วครับ 
แวะถ่ายรูปแปป ไหนๆก็ขึ้นมาแล้ว
ความสูงของภูเขานี้ เหนือระดับน้ำทะเล มีนักท่องเที่ยวปีนขึ้นมาดูเยอะเหมือนกันครับ 
คนคึกคักนั่งรอพระอาทิตย์ขึ้น
แสงก็จะลอดผ่านช่อง และค่อยๆไล่เชดจากมืดค่อยๆสว่างขึ้นเรื่อย นางฝรั่งก็ตื่นเต้นกันไป เม้ามอยกับเพื่อนดูซิเทอแล้วก็อธิบายความเป็นศิลปะ
มือไม่นิ่งพอ เบลอนิดนึง

Kirstenbosch Botanical Garden (70 Zar ประมาณ 155 บาท)
Location https://bit.ly/2Hrzr50

ศูนย์พฤษศาสตร์ที่โคตรใหญ่ใช้เวลาเดินน่าจะครึ่งวันได้ มีทั้งโซนบนภูเขา พืชพรรณไม้ในที่ร่ม ป่าให้เดิน สะพานไม้ บางวันก็จะมีจัดคอนเสิร์ต ดูหนัง อันนี้ต้องเสียค่าเข้าต่างหากนะครับ ถ้าใครชอบเดินเยอะๆ เดินชมไม้ ชมพืชก็แนะนำให้มาครับ ประมาณครึ่งวันก็น่าจะเดินหมด เดินไปเรื่อยๆ ขำๆ ขับรถจากตัวเมืองมาประมาณ 20 นาทีได้

หน้าทางเข้าครับ 
อันนี้ในที่ล่ม แต่ก็ไม่ล่มนะ กระจกใสจ้า ร้อนมาก
สภาพด้านนอก เดินเล่นได้ทั้งวันอะครับ 
ความจริงมันโซนเดินเข้าป่าด้วยนะ แต่ไม่ได้เข้าครับ กลัว 555+
ทางเดิน
สะพานไม้ อย่าลืมไปเดินนะครับ ไม่ใช่การ์เด้นบายเดอะเบย์นะ 555+

มี Champman's peak อีก 1 คอมเม้นนะครับ 

ยังไงฝากเพจท่องเที่ยวผมด้วยครับ https://www.facebook.com/Eatplayleave/
เพจรีวิวท่องเที่ยว อาหาร ไลฟ์สไตล์ คนไม่เยอะมาก ไม่หนาแน่นครับ 555