แหม่ บอ.บู๋ก็อวยลิ้วพูลของผมเกิ๊น
https://www.siamsport.co.th/column/detail/71255
เพรสซิ่งคัมแบ็ก!ชำแหละ5ข้อเกมหงส์บุกถลกหนังเสือใต้
ตอนแรกไอ้เราก็นึกว่าจะเสือ ที่ไหนได้นะครับ
1. สิ่งหนึ่งที่เห็นจากพลพรรคหงส์แดงในเกมบุกถลกหนังเสือใต้คือวิธีการเล่นแบบ "เพรสซิ่ง" ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง เมื่อโดนบีบเข้าหาบอลเร็ว ผลก็คือมันทำให้ บาเยิร์น มิวนิค เล่นไม่ถนัด และบุกไม่ขึ้น แถมหาจังหวะจบแบบจะจะแทบไม่ได้ด้วยซ้ำ
2. เจ้าถิ่นได้ครองบอลมากกว่าก็จริง แต่สังเกตให้ดีจะพบว่ามันเป็นการครองบอลแบบไม่รุกคืบ เวลาโดนบดบี้จะพยายามเคาะกันไปเคาะกันมาได้ชุดละ 4-5 จังหวะ สุดท้ายโดนไล่จนต้องวางบอลยาวแล้วก็เสีย เข้าไม่ถึงพื้นที่สุดท้าย ขณะที่ ลิเวอร์พูล ใช้จังหวะฉาบฉวยตอบโต้เป็นระยะจนนำมาซึ่งประตูแรก
3. อะเวย์โกลแรกที่ ลิเวอร์พูล ควักได้ที่ถ้ำเสือมาจากการวางบอลยาวตรงกลางสนาม และเป็น มานูเอล นอยเออร์ นายทวารของ บาเยิร์น ที่อ่านเกมผิดชวนตีนตัวเองออกจากเส้นมาสกัด ซาดิโอ มาเน่ ตรงริมเขตโทษ ทั้งที่มีกองหลังตามประกบอยู่แล้ว แถมยังมีเพื่อนร่วมทีมอีกคนตามมาประคอง คือไม่จำเป็นต้องออกมาเลย
4. ตอน บาเยิร์น มิวนิค ตามตีเสมอได้เร็วก่อนหมดครึ่งแรก เหมือนโมเมนตั้มจะเหวี่ยงกลับมาเข้าข้างพวกเขาแล้ว ทว่ากลับลงมา (เดิน) เล่นในครึ่งหลังแบบเฉื่อยๆ ประหนึ่งตัวเองเป็นฝ่ายนำซะอย่างนั้น
เหตุผลคือพอถูกนักเตะหงส์แดงเพรสใส่แล้วแก้ไม่ค่อยออก และบุกไม่ขึ้น แถม ลิเวอร์พูล ยังเล่นเกมรับได้เหนียวแน่นอีกต่างหากจนนักเตะเจ้าบ้านเหมือนจะท้อไปเลย
เมื่อทีมเยือนได้ประตูที่ 2 มันก็บอกได้เลยว่า...มันจบแล้วครับนาย
5. เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แม่มระดับโลกจริงๆ ขอบอก นอกจากจะคุมเกมรับอยู่หมัดเอาซะ เลวานดอฟสกี้ กลายเป็นกองหน้าดาดๆ ยังเป็นคนวางยาวให้ มาเน่ กะซวกประตูแรก แถมยังขึ้นมาโขกฝังพี่เสือลงหลุมอีกต่างหาก
บอ.บู๋
.................ทรรศนะจาก บอ.บู๋ ในคืนที่หงส์บุกชนะเสือใต้จ่าฝูงเจอระมานคาบ้าน...........
https://www.siamsport.co.th/column/detail/71255
เพรสซิ่งคัมแบ็ก!ชำแหละ5ข้อเกมหงส์บุกถลกหนังเสือใต้
ตอนแรกไอ้เราก็นึกว่าจะเสือ ที่ไหนได้นะครับ
1. สิ่งหนึ่งที่เห็นจากพลพรรคหงส์แดงในเกมบุกถลกหนังเสือใต้คือวิธีการเล่นแบบ "เพรสซิ่ง" ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง เมื่อโดนบีบเข้าหาบอลเร็ว ผลก็คือมันทำให้ บาเยิร์น มิวนิค เล่นไม่ถนัด และบุกไม่ขึ้น แถมหาจังหวะจบแบบจะจะแทบไม่ได้ด้วยซ้ำ
2. เจ้าถิ่นได้ครองบอลมากกว่าก็จริง แต่สังเกตให้ดีจะพบว่ามันเป็นการครองบอลแบบไม่รุกคืบ เวลาโดนบดบี้จะพยายามเคาะกันไปเคาะกันมาได้ชุดละ 4-5 จังหวะ สุดท้ายโดนไล่จนต้องวางบอลยาวแล้วก็เสีย เข้าไม่ถึงพื้นที่สุดท้าย ขณะที่ ลิเวอร์พูล ใช้จังหวะฉาบฉวยตอบโต้เป็นระยะจนนำมาซึ่งประตูแรก
3. อะเวย์โกลแรกที่ ลิเวอร์พูล ควักได้ที่ถ้ำเสือมาจากการวางบอลยาวตรงกลางสนาม และเป็น มานูเอล นอยเออร์ นายทวารของ บาเยิร์น ที่อ่านเกมผิดชวนตีนตัวเองออกจากเส้นมาสกัด ซาดิโอ มาเน่ ตรงริมเขตโทษ ทั้งที่มีกองหลังตามประกบอยู่แล้ว แถมยังมีเพื่อนร่วมทีมอีกคนตามมาประคอง คือไม่จำเป็นต้องออกมาเลย
4. ตอน บาเยิร์น มิวนิค ตามตีเสมอได้เร็วก่อนหมดครึ่งแรก เหมือนโมเมนตั้มจะเหวี่ยงกลับมาเข้าข้างพวกเขาแล้ว ทว่ากลับลงมา (เดิน) เล่นในครึ่งหลังแบบเฉื่อยๆ ประหนึ่งตัวเองเป็นฝ่ายนำซะอย่างนั้น
เหตุผลคือพอถูกนักเตะหงส์แดงเพรสใส่แล้วแก้ไม่ค่อยออก และบุกไม่ขึ้น แถม ลิเวอร์พูล ยังเล่นเกมรับได้เหนียวแน่นอีกต่างหากจนนักเตะเจ้าบ้านเหมือนจะท้อไปเลย
เมื่อทีมเยือนได้ประตูที่ 2 มันก็บอกได้เลยว่า...มันจบแล้วครับนาย
5. เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แม่มระดับโลกจริงๆ ขอบอก นอกจากจะคุมเกมรับอยู่หมัดเอาซะ เลวานดอฟสกี้ กลายเป็นกองหน้าดาดๆ ยังเป็นคนวางยาวให้ มาเน่ กะซวกประตูแรก แถมยังขึ้นมาโขกฝังพี่เสือลงหลุมอีกต่างหาก
บอ.บู๋