แกรมมาสำคัญมากครับต่อการเรียนภาษาอังกฤษ

ใครบอกแกรมมาไม่สำคัญนี่ โกหกทั้งนั้น แกรมมาสำคัญมากทุกระดับ ไม่ว่าจะสร้างประโยคง่ายๆ จนถึงประโยคซับซ้อน

จากประสบการณ์ คนใกล้ตัวพูดภาษาอังกฤษได้เหมือนท่อง  เพราะจำมา ประโยคเดิมๆ ใช้ในการทำงานพูดคุยกบลูกค้าทุกวัน แต่พอมีประโยคใหม่ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับหัวข้อที่เคยท่องไว้ ก็ไม่สามารถตอบประโยคที่ยาวเพียงพอต่อการเข้าใจทั้งสองฝ่ายได้ (แต่ตอบได้เป็นคำๆ เพราะรู้คำศพท์นั้น)

การท่องจำประโยคสำเร็จรูปเพียงอย่างเดียวช่วยให้พูดอังกฤษได้ (ในประโยคที่ท่องไว้) แต่ประโยคใหม่ๆต้องอาศัยความรู้จากศัพท์และแกรมมาพื้นฐาน ครับ

การอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเยอะๆ (หลายร้อยหลายพันเล่ม) ทำให้ซึมศัพท์การสร้างรูปประโยคแบบเป็นธรรมชาติ แต่อาจใช้เวลาหลายปี หนังสือแกรมมาระดับโลก ไม่ว่าจะ GRAMMAR IN USE และอื่นๆ คือตัวช่วยร่นระยะเวลาในการเข้าใจภาษาอังกฤษ

การเรียนแกรมมา ไม่ได้เป็นสาเหตุของการพูดติดๆขัดๆ สิ่งสำคัญคือ ควรฝึกพูดและคิดวิเคราะห์ว่าเราวางโครงสร้างถูกไหมตามหลักแกรมมา
อาจมีติดขัดบ้างในตอนแรก แต่หลังจากนั้นไม่นาน มการันตีได้ว่าจะแต่งประโยคพูดอะไรก็ได้

สิ่งที่ต้องเข้าใจคือ ต้อง (เรียนแกรมมาพื้นฐาน Essential Grammar) (เรียนศัพท์พื้นฐาน ไม่เกิน 1000 คำ, รวมการออกเสียง และตัวอย่างประโยค) และ ( การออกเสียงระดับประโยค) เช่น Part of speech ประเภทใดบ้างควรเน้นเสียง และอนไหนบ้างควรลดเสียง การเน้นเสียงในประโยคคำถาม เป็นต้น

การเรียนให้พูดได้ ผมการันตี ถ้าได้เรียนจากครูที่เข้าใจว่าอันไหนควรสอนก่อน พื้นฐาน ศัพท์+แกรมมา+หลักการออกเสียง และนำไปประยุกใช้ให้ถูกต้อง
การพูดภาษาอังกฤษ ระดับ เบสิค A1-A2 เริ่มต้น ใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือนแน่นอน แต่ต้องให้คนมีประสบการณ์ดูแลให้

แค่ 3 เดือนก็พูดภาษาอังกฤษได้ขั้นเบสิคครับ และทุกคนก็ทำได้ และจำเป็นต้องฝึกุกวัน วันละไม่เกิน 2 ชั่วโมง

ไม่ได้มีเจตนาโฆษณา ไม่มีคอร์สขายนะครับ จากประสบการณ์และยังคงเชื่อว่า ใครๆก็ฝึกให้เป็นคนพูดภาษาอังกฤษได้ใน 3 เดือน

คีย์เวิร์ดหลักๆ คือ essential vocabularies, grammar, pronunciation
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่