..." อีแร้งรุมทึ้งซากศพ ทษช. อนาถอาฟเตอร์ช็อก ชิงเหลี่ยมฉกคะแนนฝุ่นตลบ "...
หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี ด้วยความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 ฐานกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข...ตอนนี้ต้องบอกว่า ฐานเสียงคะแนนของ ทษช.กำลังถูกพรรคต่างๆ มะรุมมะตุ้ม แย่งชิงกันน่าดู อุปมาเหมือนฝูงอีแร้งที่รุมทึ้งซากศพ...
เพจการเมือง “The METTAD” บอกว่า สถานการณ์ช่วงนี้ยุงเหยิง ปั่นป่วนแบบชิงไหวชิงพริบ จุ๊บจิ๊บ หักเหลี่ยมโหดฝุดๆ พร้อมกับวิเคราะห์ได้น่าสนใจ ... มาดูกัน ไล่เรียงจากทันทีที่ ทษช.ถูกยุบ! พรรคอนาคตใหม่ก็รีบฉวยโอกาสโหนศพ ทษช.โจมตีรัฐบาลทหาร และศาลสถิตยุติธรรม หวังกวาดคะแนน ทษช.ที่หล่นน้ำมาเป็นของตน... มีการออกแถลงการณ์คัดค้านการยุบพรรค ทษช. พลันที่แถลงการณ์ที่ส่อไปในทางคุกคามตุลาการศาลยุติธรรม ของอนาคตใหม่ถูกเผยแพร่ หัวหน้าสำนักงานทนายความ “ไพบูลย์ ดวงประทุม” และอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา “นายชูชาติ ศรีแสง” ก็ให้ความเห็นว่า แถลงการณ์ของพรรคอนาคตใหม่นั้นมีลักษณะละเมิดอำนาจศาลชัดเจน... ซึ่งมีแนวโน้มว่าอนาคตใหม่อาจถูกฟ้องร้อง หรือถูกยุบพรรค อีกก็เป็นไปได้ ...
อีกด้านหนึ่ง “ใจลล์ อึ๊งภากรณ์” หนึ่งในนักเคลื่อนไหวเครือข่ายล้มสถาบันฯ ก็รีบออกมาโพสต์เฟซบุ๊กปกป้องศิษย์รักในไส้ทันที โดยระบุว่า มวลชนผู้รักประชาธิปไตยควรเตรียมตัวไว้ ถ้าพรรคอนาคตใหม่โดนเล่นงานทางกฎหมาย ก็ถึงเวลาประท้วงบนท้องถนน ไม่ว่าเราจะสนับสนุนพรรคไหน...อ้าว “คุณธนาธร” ไหนว่าไม่รู้จักขบวนการล้มเจ้าไง... แต่ขบวนการล้มเจ้าออกมาปกป้องพรรคของคุณนี่หมายความว่าอย่างไร? เพจดังตั้งคำถาม ... ย้อนไปเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีคำแถลงการณ์ต้านยุบ ทษช.ของพรรคอนาคตใหม่ ธนาธรได้เคยให้สัมภาษณ์ บางกอกโพสต์ ว่า “กำลังจะเสนอให้พาทักษิณกลับบ้าน”...
ธนาธร ยกกรณีพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบเพราะเป็นผลพวงของการต่อสู้กับระบอบเผด็จการตุลาการ และเขามีแนวโน้มที่จะเห็นด้วยว่า ทักษิณ เองก็เป็นเหยื่อของการถูกรังแกทางการเมือง เขาเรียกร้องให้มีการเอาทักษิณกลับมาพิจารณาคดีใหม่ในคดีที่ตัดสินไปแล้ว ...พอพูดเช่นนี้ กระแสโซเชียลฯ ก็มาคุขึ้นมาทันที เพราะเท่ากับว่านี่คือการพยายามปราศรัยหาเสียงเพื่อนำทักษิณกลับมาพิจารณาคดีใหม่ ด้วยศาลที่พวกเขาอ้างว่าต้องเป็นกลาง ซึ่งมันส่งผลกับการคำพิพากษา ที่อาจจะถูกเปลี่ยนเป็นพ้นผิดได้ หลายคนเลยมองว่ามันคือการนิรโทษกรรมเฉพาะทักษิณ นั่นเอง...
ว่าแต่ว่าความเป็นกลางวัดกันที่ตรงไหน? อย่าลืมว่ามีหลายคดี ที่ทักษิณ และคนในเครือข่าย ได้ประโยชน์จากศาลรัฐธรรมนูญ การปราศรัยแบบนี้ คนที่ชื่นชอบทักษิณนั้น ย่อมเทใจไปที่ ธนาธร อย่างแน่นอน และยิ่ง การที่พรรค ทษช. ถูกยุบไปแล้วนั้น ย่อมเป็นมุมบวกของ พรรคอนาคตใหม่ การเอาใจกลุ่มฐานนิยมทักษิณ ให้มาสนับสนุนตนเอง... แต่ไม่ใช่สำหรับกลุ่มพรรคการเมือง “ตระกูลเพื่อ” ที่เปรียบเสมือนเป็นลูกที่มีสายเลือดใกล้กับทักษิณมากกว่า ... เพราะพวกเขาเริ่มมองว่า การกระทำของ ธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ เป็นการดึงคะแนนเสียงออกจากพรรคของตนเอง เลยมีการต่อสายตรงหา ฝ่าย “อดีต” ทษช. กวาดคะแนนที่ลอยน้ำของ ทษช.เข้าพรรค “ตระกูลเพื่อ” แทนที่จะเป็นอนาคตใหม่...
การยื้อแย่งนี้ ส่งสัญญาณออกมาให้เห็นถึงการต่อสู้กันภายในกลุ่มเครือข่ายของทักษิณ ที่ออกมายื้อแย่งคะแนนกันโค้งสุดท้าย ขนาด นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ คนใกล้ชิดกับ ทักษิณ ชินวัตร และเคยเป็นถึง อดีตแฟนคลับพรรคอนาคตใหม่ ก็ออกมาโพสต์เชิงตำหนิว่า “พูดไปเรื่อยเปื่อยจะเอาทักษิณ ยิ่งลักษณ์ กลับมาสู่การพิจารณาคดีใหม่ ไหนช่วยเล่าหน่อยสิ จะเอากลับมายังไง พูดแต่ละเรื่อง ฟังดูดี แต่วิธีจะทำให้เกิดขึ้นอย่างไรไม่เคยพูด เหม็นขี้ฟัน พรรคกะโหลกกะลา”... จากคำพูดของ นายปวิน ก็พอ จะทำให้คาดเดาได้ถึงความไม่พอใจของกลุ่มการเมืองสายแดง ที่ไม่พอใจความฉวยโอกาสของพรรคอนาคตใหม่ ที่พยายามแสดงตัวตนเป็นลูกรักคนใหม่ของทักษิณ กลายเป็นศึกแย่งมวลชน และคะแนนเสียงเลือกตั้งที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ รัฐบาลทหารเลย...
แม้แต่อดีต กก.บห.บางคนของพรรค ทษช.ยังระบุว่า “พรรคใดๆ ก็ตามที่ยังไม่แสดงจุดยืนทางการเมืองชัดว่า อยู่ฝั่งใดแล้วออกมาให้กำลังใจพรรค ทษช. อยากให้ประชาชนพิจารณาตรงนั้น อย่าให้เขาเอาพรรคทษช.ไปหาผลประโยชน์ทางการเมือง เพราะเริ่มเห็นบางพรรคที่ไม่มีจุดยืนทางการเมืองทางประชาธิปไตยชัดเจน เริ่มเอาพรรคทษช.ไปใช้”...
แต่การประกาศตัว ปกป้อง ทษช. และพาทักษิณกลับบ้าน ก็ไม่ใช่เรื่องดี สำหรับคนที่คาดหวังว่า ธนาธร เป็นความหวังทางการเมืองใหม่ เพราะการดึงเอาทักษิณกลับมานั้น จะเป็นเครื่องยืนยันว่า ธนาธร กำลังเล่นการเมืองแบบเก่าๆ อย่างที่ปรากฏเป็นข่าวมาตลอด ตั้งแต่ที่เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกคนเสื้อแดง และ เป็นถึง นายทุนเว็บไซต์หมิ่นสถาบันฯ อย่าง"ฟ้าเดียวกัน" นั่นเอง ตรงจุดนี้เองที่ทำให้ ธนาธร ถูกเคลือบแคลงสงสัย... อย่างไรก็ตาม การที่ ธนาธร เคยพูดเรื่องนำทักษิณกลับมาพิจารณาคดีใหม่นั้น ทำให้ ฐานเสียงทางการเมืองของอนาคตใหม่ ในกลุ่มของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ชื่นชอบกับการเข้าไปยุ่งกับการเมืองเสื้อสี ก็ต้องถอยออกมาคิดใหม่ ธนาธร ที่มัวแต่พยายามหาเสียงจากผลพลอยได้เหตุการณ์ยุบ พรรค ทษช.เพิ่งตระหนักว่าตนกำลังสูญเสียฐานเสียงที่จงรักภักดีที่สุดไป ส่งผลให้ ธนาธร ต้องออกมาให้ข่าวว่า “เราไม่ได้เสนอให้ “พาทักษิณกลับบ้าน”...
จากจุดนี้นับว่า พอจะทำให้เราเข้าใจกลยุทธ์ของ ธนาธรได้หลายอย่างคือ...
1. ธนาธรเล่นการเมืองคราวนี้ไม่ได้พกความรู้ด้านการเมืองสายพัฒนามา เขาจึงมักวางตัวเป็น นักการเมืองนักปฏิวัติ และผู้พิพากษาทางสังคม เน้นปลุกเร้าให้ผู้คนกระหายต่อการ กำจัด “คนเลว” ในทัศนะของเขาโดยไม่สนกฎหมายของประเทศ เรื่องแบบนี้เข้าข่าย “ศาลเตี้ย” ที่จับเอาประเด็นอ่อนไหวของสังคมมาปราศรัยเพื่อช่วงชิงเสียงข้างมากนั่นเอง การเมืองสายบู๊เช่นนี้มักจะจับประเด็นที่ความแตกแยกของสังคม เช่น เรื่องศาสนา...อุดมการณ์ทางการเมือง ประวัติศาสตร์ ซึ่งทั้งหมดนั้น ก็ยกมาเป็นเพียงแค่ทฤษฎี เท่านั้น แต่ทำจริงได้ยาก
2. เขาพยายามซ่อนตัวเองว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองคนเสื้อแดง และขบวนการล้มเจ้าในอดีต...แต่จากที่ปรากฏ ทั้งสมาชิกพรรค และ คนใกล้ชิดทั้ง นักเคลื่อนไหว นักวิชาการ ล้วนเป็นคนที่มาจากฝ่ายซ้าย และขบวนการล้มเจ้า ทั้งสิ้น
3. เขาพยายามเปิดตัวด้วยความใหม่ และอ่อนเยาว์ เพื่อช่วงชิงคำว่า คนรุ่นใหม่ และการเมืองรุ่นใหม่ แต่หากดูจากวิธีการแสดงออกแล้วนั้น ธนาธร พูดถึง การต่อสู้กับชนชั้นปกครอง เหนือทหาร และ ภารกิจ ปี 2475 ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจจะเกี่ยวโยงกับการเปลี่ยนแปลงการปกครองในอดีต ซึ่งเรื่องพวกนี้ไม่ได้เป็นของใหม่อะไรเลย แต่เคยถูกพูดถึงบ่อยครั้งตั้งแต่ ยุคปฎิวัติฝรั่งเศสและสงครามเย็น
4. และในกรณีของทักษิณ ชินวัตรก็เช่นกัน ...หาก ธนาธร ไม่มีส่วนเกี่ยวโยงกับ ทักษิณ ชินวัตร ทำไม การนำเสนอเรื่องราวหรือนโยบายทางกฏหมาย เช่นการ รื้อคดี ถึงจะต้องวิ่งวน อยู่กับ นายทักษิณ ชินวัตร ทั้งๆ ที่เขาสามารถนำเสนอหรือเปรียบเทียบกับพรรคอื่นในเรื่องนโยบายสาธารณะได้ ...ไหนว่า "ไม่ใช่ นอมินี ทักษิณ และ ทำทุกอย่างเพื่อประชาธิปไตย” ตกลงว่าทำ “เพื่อใคร”??
5. เนื่องจากเป็นพรรคใหม่ แม้ว่าจะเป็นพันธมิตรที่ดีกับทักษิณ แต่การแย่งคะแนนเสียงจากพรรคลูกข่ายทักษิณ ยังเป็นเรื่องจำเป็น เพราะการเลือกตั้งคือการแข่งขัน ดังนั้นคู่แข่งทางการเมืองของธนาธร ไม่ใช่ ฝ่ายทหารจริงเหมือนกันที่ผู้คนเข้าใจ แต่เป็นฝ่ายเพื่อไทย ที่กุมฐานเสียงกลุ่มเดียวกัน
6. พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้จริงใจกับสถาบันเบื้องสูงอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ ปิยบุตร เป็นคนเดียวที่เคยเรียกร้องอ้าง ไม่อยากให้สถาบันฯ ข้องเกี่ยวการเมืองและเรียกร้องให้ลดอำนาจและสิทธิของพระองค์ด้วยการ ของยกเลิกมาตรา 112 และไม่ต้องการให้สถาบันฯมีพระราชดำรัสต่อที่สาธารณะ แต่ดันเห็นดีเห็นงามต่อการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯชองทษช. และเมื่อทษช. ถูกยุบ อนาคตใหม่ก็ออกไปต่อต้านการยุบพรรค ทั้งๆที่ ศาลมีคำสั่งยุบพรรคเพื่อ เป็นการดึงสถาบันฯ มาข้องเกี่ยวการเมือง
7. การลงเลือกตั้งของ ธนาธร ในครั้งนี้ มีแรงเสียดทานต่ำ เขารู้ตัวเองอยู่แล้วว่า พรรคอนาคตใหม่นั้นไม่ได้หวังเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล แต่คาดหวังแค่ ปาร์ตี้ลิสต์เข้าไปนั่งทางการเมืองเท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าทำอะไรพรรคของเขาคุ้มที่จะเสี่ยงในระดับหนึ่ง เป้าหมายนอกเหนือการเลือกตั้งครั้งนี้ คงไม่พ้นการเล่นบท นักปฏิวัติ ที่ยั่วยุผู้คน ให้ลงมาบนท้องถนน ประท้วงรัฐบาลทหารเพื่อโจมตี รัฐธรรมนูญ ปี2560 หลังจากที่ชัยชนะในการเลือกตั้งตกเป็นของ พปชร.ขึ้นตั้งรัฐบาลผสม.นั้นเอง
ทั้งหมดนี้ของ The Metted ว่าไว้ โอ้ว...หรือพ่อจะเป็นอย่างที่เขาว่ากันจริงๆ ... #พ่อหลอกฟ้า .
ที่มา :
https://mgronline.com/politics/detail/9620000024547
( ผู้จัดการออนไลน์ เผยแพร่: 12 มี.ค. 2562 05:01 ปรับปรุง: 12 มี.ค. 2562 09:44 โดย: นกหวีด )
"อีแร้งรุมทึ้งซากศพทษช. อนาถอาฟเตอร์ช็อก ชิงเหลี่ยมฉกคะแนนฝุ่นตลบ "...วิเคราะห์กลยุทธของทอน"
หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี ด้วยความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 ฐานกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข...ตอนนี้ต้องบอกว่า ฐานเสียงคะแนนของ ทษช.กำลังถูกพรรคต่างๆ มะรุมมะตุ้ม แย่งชิงกันน่าดู อุปมาเหมือนฝูงอีแร้งที่รุมทึ้งซากศพ...
เพจการเมือง “The METTAD” บอกว่า สถานการณ์ช่วงนี้ยุงเหยิง ปั่นป่วนแบบชิงไหวชิงพริบ จุ๊บจิ๊บ หักเหลี่ยมโหดฝุดๆ พร้อมกับวิเคราะห์ได้น่าสนใจ ... มาดูกัน ไล่เรียงจากทันทีที่ ทษช.ถูกยุบ! พรรคอนาคตใหม่ก็รีบฉวยโอกาสโหนศพ ทษช.โจมตีรัฐบาลทหาร และศาลสถิตยุติธรรม หวังกวาดคะแนน ทษช.ที่หล่นน้ำมาเป็นของตน... มีการออกแถลงการณ์คัดค้านการยุบพรรค ทษช. พลันที่แถลงการณ์ที่ส่อไปในทางคุกคามตุลาการศาลยุติธรรม ของอนาคตใหม่ถูกเผยแพร่ หัวหน้าสำนักงานทนายความ “ไพบูลย์ ดวงประทุม” และอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา “นายชูชาติ ศรีแสง” ก็ให้ความเห็นว่า แถลงการณ์ของพรรคอนาคตใหม่นั้นมีลักษณะละเมิดอำนาจศาลชัดเจน... ซึ่งมีแนวโน้มว่าอนาคตใหม่อาจถูกฟ้องร้อง หรือถูกยุบพรรค อีกก็เป็นไปได้ ...
อีกด้านหนึ่ง “ใจลล์ อึ๊งภากรณ์” หนึ่งในนักเคลื่อนไหวเครือข่ายล้มสถาบันฯ ก็รีบออกมาโพสต์เฟซบุ๊กปกป้องศิษย์รักในไส้ทันที โดยระบุว่า มวลชนผู้รักประชาธิปไตยควรเตรียมตัวไว้ ถ้าพรรคอนาคตใหม่โดนเล่นงานทางกฎหมาย ก็ถึงเวลาประท้วงบนท้องถนน ไม่ว่าเราจะสนับสนุนพรรคไหน...อ้าว “คุณธนาธร” ไหนว่าไม่รู้จักขบวนการล้มเจ้าไง... แต่ขบวนการล้มเจ้าออกมาปกป้องพรรคของคุณนี่หมายความว่าอย่างไร? เพจดังตั้งคำถาม ... ย้อนไปเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีคำแถลงการณ์ต้านยุบ ทษช.ของพรรคอนาคตใหม่ ธนาธรได้เคยให้สัมภาษณ์ บางกอกโพสต์ ว่า “กำลังจะเสนอให้พาทักษิณกลับบ้าน”...
ธนาธร ยกกรณีพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบเพราะเป็นผลพวงของการต่อสู้กับระบอบเผด็จการตุลาการ และเขามีแนวโน้มที่จะเห็นด้วยว่า ทักษิณ เองก็เป็นเหยื่อของการถูกรังแกทางการเมือง เขาเรียกร้องให้มีการเอาทักษิณกลับมาพิจารณาคดีใหม่ในคดีที่ตัดสินไปแล้ว ...พอพูดเช่นนี้ กระแสโซเชียลฯ ก็มาคุขึ้นมาทันที เพราะเท่ากับว่านี่คือการพยายามปราศรัยหาเสียงเพื่อนำทักษิณกลับมาพิจารณาคดีใหม่ ด้วยศาลที่พวกเขาอ้างว่าต้องเป็นกลาง ซึ่งมันส่งผลกับการคำพิพากษา ที่อาจจะถูกเปลี่ยนเป็นพ้นผิดได้ หลายคนเลยมองว่ามันคือการนิรโทษกรรมเฉพาะทักษิณ นั่นเอง...
ว่าแต่ว่าความเป็นกลางวัดกันที่ตรงไหน? อย่าลืมว่ามีหลายคดี ที่ทักษิณ และคนในเครือข่าย ได้ประโยชน์จากศาลรัฐธรรมนูญ การปราศรัยแบบนี้ คนที่ชื่นชอบทักษิณนั้น ย่อมเทใจไปที่ ธนาธร อย่างแน่นอน และยิ่ง การที่พรรค ทษช. ถูกยุบไปแล้วนั้น ย่อมเป็นมุมบวกของ พรรคอนาคตใหม่ การเอาใจกลุ่มฐานนิยมทักษิณ ให้มาสนับสนุนตนเอง... แต่ไม่ใช่สำหรับกลุ่มพรรคการเมือง “ตระกูลเพื่อ” ที่เปรียบเสมือนเป็นลูกที่มีสายเลือดใกล้กับทักษิณมากกว่า ... เพราะพวกเขาเริ่มมองว่า การกระทำของ ธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ เป็นการดึงคะแนนเสียงออกจากพรรคของตนเอง เลยมีการต่อสายตรงหา ฝ่าย “อดีต” ทษช. กวาดคะแนนที่ลอยน้ำของ ทษช.เข้าพรรค “ตระกูลเพื่อ” แทนที่จะเป็นอนาคตใหม่...
การยื้อแย่งนี้ ส่งสัญญาณออกมาให้เห็นถึงการต่อสู้กันภายในกลุ่มเครือข่ายของทักษิณ ที่ออกมายื้อแย่งคะแนนกันโค้งสุดท้าย ขนาด นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ คนใกล้ชิดกับ ทักษิณ ชินวัตร และเคยเป็นถึง อดีตแฟนคลับพรรคอนาคตใหม่ ก็ออกมาโพสต์เชิงตำหนิว่า “พูดไปเรื่อยเปื่อยจะเอาทักษิณ ยิ่งลักษณ์ กลับมาสู่การพิจารณาคดีใหม่ ไหนช่วยเล่าหน่อยสิ จะเอากลับมายังไง พูดแต่ละเรื่อง ฟังดูดี แต่วิธีจะทำให้เกิดขึ้นอย่างไรไม่เคยพูด เหม็นขี้ฟัน พรรคกะโหลกกะลา”... จากคำพูดของ นายปวิน ก็พอ จะทำให้คาดเดาได้ถึงความไม่พอใจของกลุ่มการเมืองสายแดง ที่ไม่พอใจความฉวยโอกาสของพรรคอนาคตใหม่ ที่พยายามแสดงตัวตนเป็นลูกรักคนใหม่ของทักษิณ กลายเป็นศึกแย่งมวลชน และคะแนนเสียงเลือกตั้งที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ รัฐบาลทหารเลย...
แม้แต่อดีต กก.บห.บางคนของพรรค ทษช.ยังระบุว่า “พรรคใดๆ ก็ตามที่ยังไม่แสดงจุดยืนทางการเมืองชัดว่า อยู่ฝั่งใดแล้วออกมาให้กำลังใจพรรค ทษช. อยากให้ประชาชนพิจารณาตรงนั้น อย่าให้เขาเอาพรรคทษช.ไปหาผลประโยชน์ทางการเมือง เพราะเริ่มเห็นบางพรรคที่ไม่มีจุดยืนทางการเมืองทางประชาธิปไตยชัดเจน เริ่มเอาพรรคทษช.ไปใช้”...
แต่การประกาศตัว ปกป้อง ทษช. และพาทักษิณกลับบ้าน ก็ไม่ใช่เรื่องดี สำหรับคนที่คาดหวังว่า ธนาธร เป็นความหวังทางการเมืองใหม่ เพราะการดึงเอาทักษิณกลับมานั้น จะเป็นเครื่องยืนยันว่า ธนาธร กำลังเล่นการเมืองแบบเก่าๆ อย่างที่ปรากฏเป็นข่าวมาตลอด ตั้งแต่ที่เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกคนเสื้อแดง และ เป็นถึง นายทุนเว็บไซต์หมิ่นสถาบันฯ อย่าง"ฟ้าเดียวกัน" นั่นเอง ตรงจุดนี้เองที่ทำให้ ธนาธร ถูกเคลือบแคลงสงสัย... อย่างไรก็ตาม การที่ ธนาธร เคยพูดเรื่องนำทักษิณกลับมาพิจารณาคดีใหม่นั้น ทำให้ ฐานเสียงทางการเมืองของอนาคตใหม่ ในกลุ่มของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ชื่นชอบกับการเข้าไปยุ่งกับการเมืองเสื้อสี ก็ต้องถอยออกมาคิดใหม่ ธนาธร ที่มัวแต่พยายามหาเสียงจากผลพลอยได้เหตุการณ์ยุบ พรรค ทษช.เพิ่งตระหนักว่าตนกำลังสูญเสียฐานเสียงที่จงรักภักดีที่สุดไป ส่งผลให้ ธนาธร ต้องออกมาให้ข่าวว่า “เราไม่ได้เสนอให้ “พาทักษิณกลับบ้าน”...
จากจุดนี้นับว่า พอจะทำให้เราเข้าใจกลยุทธ์ของ ธนาธรได้หลายอย่างคือ...
1. ธนาธรเล่นการเมืองคราวนี้ไม่ได้พกความรู้ด้านการเมืองสายพัฒนามา เขาจึงมักวางตัวเป็น นักการเมืองนักปฏิวัติ และผู้พิพากษาทางสังคม เน้นปลุกเร้าให้ผู้คนกระหายต่อการ กำจัด “คนเลว” ในทัศนะของเขาโดยไม่สนกฎหมายของประเทศ เรื่องแบบนี้เข้าข่าย “ศาลเตี้ย” ที่จับเอาประเด็นอ่อนไหวของสังคมมาปราศรัยเพื่อช่วงชิงเสียงข้างมากนั่นเอง การเมืองสายบู๊เช่นนี้มักจะจับประเด็นที่ความแตกแยกของสังคม เช่น เรื่องศาสนา...อุดมการณ์ทางการเมือง ประวัติศาสตร์ ซึ่งทั้งหมดนั้น ก็ยกมาเป็นเพียงแค่ทฤษฎี เท่านั้น แต่ทำจริงได้ยาก
2. เขาพยายามซ่อนตัวเองว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองคนเสื้อแดง และขบวนการล้มเจ้าในอดีต...แต่จากที่ปรากฏ ทั้งสมาชิกพรรค และ คนใกล้ชิดทั้ง นักเคลื่อนไหว นักวิชาการ ล้วนเป็นคนที่มาจากฝ่ายซ้าย และขบวนการล้มเจ้า ทั้งสิ้น
3. เขาพยายามเปิดตัวด้วยความใหม่ และอ่อนเยาว์ เพื่อช่วงชิงคำว่า คนรุ่นใหม่ และการเมืองรุ่นใหม่ แต่หากดูจากวิธีการแสดงออกแล้วนั้น ธนาธร พูดถึง การต่อสู้กับชนชั้นปกครอง เหนือทหาร และ ภารกิจ ปี 2475 ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจจะเกี่ยวโยงกับการเปลี่ยนแปลงการปกครองในอดีต ซึ่งเรื่องพวกนี้ไม่ได้เป็นของใหม่อะไรเลย แต่เคยถูกพูดถึงบ่อยครั้งตั้งแต่ ยุคปฎิวัติฝรั่งเศสและสงครามเย็น
4. และในกรณีของทักษิณ ชินวัตรก็เช่นกัน ...หาก ธนาธร ไม่มีส่วนเกี่ยวโยงกับ ทักษิณ ชินวัตร ทำไม การนำเสนอเรื่องราวหรือนโยบายทางกฏหมาย เช่นการ รื้อคดี ถึงจะต้องวิ่งวน อยู่กับ นายทักษิณ ชินวัตร ทั้งๆ ที่เขาสามารถนำเสนอหรือเปรียบเทียบกับพรรคอื่นในเรื่องนโยบายสาธารณะได้ ...ไหนว่า "ไม่ใช่ นอมินี ทักษิณ และ ทำทุกอย่างเพื่อประชาธิปไตย” ตกลงว่าทำ “เพื่อใคร”??
5. เนื่องจากเป็นพรรคใหม่ แม้ว่าจะเป็นพันธมิตรที่ดีกับทักษิณ แต่การแย่งคะแนนเสียงจากพรรคลูกข่ายทักษิณ ยังเป็นเรื่องจำเป็น เพราะการเลือกตั้งคือการแข่งขัน ดังนั้นคู่แข่งทางการเมืองของธนาธร ไม่ใช่ ฝ่ายทหารจริงเหมือนกันที่ผู้คนเข้าใจ แต่เป็นฝ่ายเพื่อไทย ที่กุมฐานเสียงกลุ่มเดียวกัน
6. พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้จริงใจกับสถาบันเบื้องสูงอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ ปิยบุตร เป็นคนเดียวที่เคยเรียกร้องอ้าง ไม่อยากให้สถาบันฯ ข้องเกี่ยวการเมืองและเรียกร้องให้ลดอำนาจและสิทธิของพระองค์ด้วยการ ของยกเลิกมาตรา 112 และไม่ต้องการให้สถาบันฯมีพระราชดำรัสต่อที่สาธารณะ แต่ดันเห็นดีเห็นงามต่อการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯชองทษช. และเมื่อทษช. ถูกยุบ อนาคตใหม่ก็ออกไปต่อต้านการยุบพรรค ทั้งๆที่ ศาลมีคำสั่งยุบพรรคเพื่อ เป็นการดึงสถาบันฯ มาข้องเกี่ยวการเมือง
7. การลงเลือกตั้งของ ธนาธร ในครั้งนี้ มีแรงเสียดทานต่ำ เขารู้ตัวเองอยู่แล้วว่า พรรคอนาคตใหม่นั้นไม่ได้หวังเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล แต่คาดหวังแค่ ปาร์ตี้ลิสต์เข้าไปนั่งทางการเมืองเท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าทำอะไรพรรคของเขาคุ้มที่จะเสี่ยงในระดับหนึ่ง เป้าหมายนอกเหนือการเลือกตั้งครั้งนี้ คงไม่พ้นการเล่นบท นักปฏิวัติ ที่ยั่วยุผู้คน ให้ลงมาบนท้องถนน ประท้วงรัฐบาลทหารเพื่อโจมตี รัฐธรรมนูญ ปี2560 หลังจากที่ชัยชนะในการเลือกตั้งตกเป็นของ พปชร.ขึ้นตั้งรัฐบาลผสม.นั้นเอง
ทั้งหมดนี้ของ The Metted ว่าไว้ โอ้ว...หรือพ่อจะเป็นอย่างที่เขาว่ากันจริงๆ ... #พ่อหลอกฟ้า .
ที่มา : https://mgronline.com/politics/detail/9620000024547
( ผู้จัดการออนไลน์ เผยแพร่: 12 มี.ค. 2562 05:01 ปรับปรุง: 12 มี.ค. 2562 09:44 โดย: นกหวีด )