กว่าจะได้ล้านแรก(ในหนึ่งปี)

บ่ายๆวันอาทิตย์ เป็นเวลาเหมาะเลยละค๊า ที่จริงก็เขียนไว้สักแปปแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้แชร์ซะที เลยขอเลยละกัน

เริ่มจากตรงไหนดี เอาเป็นว่าค่อยๆเล่าไปทีละนิดละกันเนอะ

เริ่มจาก จขกท ทำงานที่บริษัทหลักทรัพย์เล็กๆ(โบรค)แห่งหนึ่ง เมื่อต้นปี 2560 ประมาณ 5 มกราคม 2560 (ทำงานตั้งแต่เรียนจบทันทีตอนนั้นอายุ 22 จบเศรษฐศาสตร์มอเกษตร 3ปีครึ่ง เกรด 2.66 ซึ่งไม่ได้เป็นคนเก่ง เกียรตินิยมอะไรเลยนะจ๊ะ คนเรียนไม่เก่ง ไม่ได้หมายความว่าจะหาเงินไม่เก่ง)

          “อาชีพมาร์ไม่ใช่เรื่องง่าย” ซึ่งงานในโบรคไม่ใช่เรื่องง่ายซะด้วยสิ ไม่มีลูกค้า ไม่มีเงินเดือน ไม่มีเงิน

          เคยยืมแอคเค้าท์ของเพื่อนมาเขียนในส่วนของลักษณะงาน “เมื่อฉันเป็นมาร์” (https://ppantip.com/topic/36781923)

เริ่มจากการทำงานในช่วงเดือนแรกเลย
          โคตรจะไม่ใช่เรื่องง่ายในช่วง 4เดือนแรก คือพีคมากแทบจะหาลูกค้าไม่ได้เลย ไม่รู้จะหาจากไหน ออกบูธไปก็เท่านั้น มีหลายวิธีมากที่ลองพยายามแล้วก็ไม่ได้ผล ให้พ่อแม่ป้าคนที่รู้จักที่เทรดหุ้นอยู่แล้วมาช่วยกันเปิดบัญชี อ้อนวอนสุดๆๆๆ การที่วอลุ่ม(volume)จะโคเว่อกับเงินเดือนที่โบรคจะจ่ายเรา 15k ไม่ใช่เรื่องง่ายอีก ซึ่งบอกได้เลย 4เดือนแรก วอลุ่มไม่โคเว่อ ซึ่งนั่นแปลว่าเราเริ่มติดลบไปเรื่อยๆ และเสี่ยงต่อการถูกลดเงินเดือนอย่างยิ่ง

          เข้าสู่เดือนที่ 5 เริ่มเครียดแบบจริงจัง ช่วงซีเรียสที่แท้จริง เพราะถ้า 6 เดือน วอลุ่มยังไม่โคเว่อกับเงินเดือนที่เขาจ่ายเรา คือถูกปรับลดเงินเดือนแน่ๆ ไหนจะค่าห้อง ค่าเดินทาง (อันนี้อาจจะเกินไปหน่อยแต่เป็นความฝันอย่างนึงที่จะ ได้จ่ายอะไรที่เราอยากได้ อยากกิน อยากซื้อให้พ่อแม่ คนที่เรารัก โดยที่เราไม่ต้องคิดมากว่าเดือนนี้ใช้เงินติดลบอีกแล้ว หรือสิ้นเดือนนี้ใช้ไม่พอ เคยมีฝังใจไปกินข้าวกับน้องแล้วเดินผ่านร้านนึงซึ่งดูแล้วน่าจะแพง น้องก้อบอกว่าว่าเปลืองตังเจ๊ กินร้านอื่นดีกว่า...) ในช่วงนี้จะเครียดสุดๆแบบโคตรจะจริงจังละ ไม่พอในใจคิดถึงช่วงเวลานี้ตลอด เคยมีปีนึงที่พ่อให้อั่งเปาตรุษจีน 20k จขกท. ก็นะด้วยความพูดไม่คิด บอกพ่อว่าเดี๋ยวทำงานนะจะให้มากกว่านี้อีก นั่นไง!!! ตอนนี้ก็มานั่งคิดละ เงินเดือนแต่ละเดือนยังไม่ถึง 15k (หักประกันสังคม,กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เหลือประมาณ 13.8k) สรุปเดือนนี้ก็ยังไม่โคเว่อกับเงินเดือน 15k อีกอยู่ดี

          เข้าสู่ช่วงพลิกผัน เดือนที่ 6-8 ช่วงนี้พีคเลย เป็นความโชคดีที่ป้าอยู่ในวงการหุ้นมาก่อน ทำอยู่ที่โบรคอีกที่นึง เป็นเพราะป้าแท้ๆ แต่ก็เป็นเพราะแม่ก่อน และพ่อ สรุปทุกคนรอบตัวมีส่วนช่วงผลักดันให้มีวันนี้ได้ มาเข้าเรื่องกันเถอะ ป้าก็บอกลองหาลูกค้าเป็นกลุ่มดูมั้ย ลองนี่ดูนั่นดู เริ่มจากนี่ก่อนนะ เริ่มแบบนี้ (ขอไม่ลงดีเทลตรงนี้นะค๊า) ความที่ป้ามีประสบการณ์มากกว่า จากนั้นหละลุยต่อค่ะ ที่สุดแล้วก็ต้องเอาวิธีนี้ไปพูดให้หัวหน้าเชื่อในตัวเรา ว่าเราจะทำได้นะ มันเป็นขั้นเป็นตอนแบบนี้ จะเริ่มจากตรงนี้ได้ และแล้วก็ต้องไปดิวลูกค้ามาให้ได้(ระหว่างนี้ก็มีข่าวลือ ปั้นน้ำเป็นตัว ไปมากมาย) แต่สุดท้าย ท้ายสุดได้ลูกค้าเป็นกลุ่มมาจริงๆๆๆๆๆ ตัว จขกท เองก็เร่งเปิดบัญชี ทำทุกอย่างที่ทำได้ หอบงานกลับไปทำที่บ้าน จัดระเบียบตัวเอง เพื่อให้...เดือนที่ 6 นี้วอลุ่มโคเว่อกับเขาสักที จะได้ไม่ถูกลดเงินเดือน ปุ๊ปป ทำไปทำมา ค่อยๆเปิดบัญชีเสร็จ มันก็มีขั้นตอนอีกโคตรจะเยอะ
          เปิดบัญชี >> ขอเอกสาร ลค เพิ่ม >> กว่าจะเปิดเสร็จ >> ทำยังไงให้ลูกค้ามาเทรด >> แล้วลูกค้าต้องเทรดยังไงเราถึงจะโคเว่อ 15k ขอบอกเลยว่าทุกขั้นตอนที่พิมพ์เหมือนจะดูง่าย แต่มันมีความยากต่างๆกันไปในทุกๆขั้นตอน

          และแล้วก็สิ้นสุดเดือน6 !!!! สรุปเดือนนี้โคเว่อแล้วนะค๊าาา(แปลว่าเงินเดือน 15k ไม่ติดลบแล้ว) ดีใจที่สู๊ดดดดดด เริ่มจากตรงนี้ไปก็เริ่มสนุกกับการทำงานละ ถึงแม้จะเหนื่อยเว่อวังอลังการ เหนื่อยมาก เหนื่อยโคตรๆ แต่อารมณ์เหมือนเราทำมาก เราได้มาก เราก็ยิ่งฮึบ สู้โว้ยยย จนเดือน7 ก็ยังคงเปิดบัญชีเรื่อยๆไป จนลูกค้าพุ่งทะลุ 100 คน เก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อยๆ ภายในประมาณ 2 เดือน

          ความพีคก็มาถึง ความสนุก ความตื่นเต้น ความลุ้น มันเกิดขึ้นจาก (เงินที่เราได้แต่ละเดือนมันเกิดจากวอลุ่มที่ลูกค้าเทรด) ตั้งแต่เดือน 6 ไปเรื่อยๆ จนถึงเดือนที่ 8 เราไม่เคยรู้เลยว่าจุดสูงสูงของรายได้เรามันอยู่ไหน (มันตื่นเต้นมากนะที่เราจะต้องมาลุ้นรายได้ของเราทุกเดือน ซึ่งก็เห็นแต่ละเดือนมันเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น)

          ความตื่นเต้น เดือนที่ 9-12 ก็ยังเป็นความตื่นเต้น ต่อไปเรื่อยๆ ความเครียด ความเหนื่อย เริ่มหายไป รู้สึกว่าที่ทำงานมา finally, I can do it แล้วก็จะ งง หน่อยๆมาทำมาได้ขนาดนี้ได้ยังไง สิ่งที่เราคำนวณไว้ตอนแรกว่าต้องทำเท่าไหร่ถึงจะโคเว่อ บลาๆๆ ตอนนี้ก็ เห้ยยย ทำได้แล้วนะ ทำได้ ทำได้ เราทำได้เว้ยยยย

          ปีถัดไป เดือน มกราคม - กุมภาพันธ์ 2561 ขอเรียกว่าช่วงรับรู้รายได้สูงสุด (ซึ่งมันก็เป็นไปตามตลาดหุ้น ตลาดดี คนก็เขามาเทรด ตลาดไม่ดี คนก็ไม่เทรด) ช่วงเดือนนี้รายได้ทะลุไปที่ 6 หลักต้นๆต่อเดือน (พิมไปก็ตื่นเต้นไป) และในใจตอนนี้ก็คิดว่าเย้ ทำไปได้ไงวะ ถ้าพ่อกับแม่รู้น่าจะภูมิใจหรืออย่างน้อยก็ไม่ต้องลำบากที่เราต้องขอเงินเพิ่มในแต่ละเดือน และประเด็นสำคัญเลยคือไม่ต้องมาเครียดเรื่องที่พูดไม่คิด (ความพูดไม่คิด บอกพ่อว่าเดี๋ยวทำงานนะจะให้มากกว่า 20k อีก นั่นไง!!!) และอีกหลายๆเรื่องที่ตั้งความหวังไว้

          หลังจากนั้นมา จนถึงสิ้นปี 2561 รายได้ก็คงที่ ประมาณ 5 หลักปลายๆถึง 6 หลักต้นๆ การทำงานก็มีความสุขดี แต่ชีวิตช่วงนี้จะเข้าสู่ comfort zone หน่อย ซึ่งเริ่มไม่ดีกับตัวเราละ งานอดิเรก เวลาว่างก็ดู netflix จนสามารถทำกระทู้รีวิวหนังใน netflix ได้อีก (https://ppantip.com/topic/38054918)

          ต้นปี 2562 - ตอนนี้ มีนาคม 2562 ช่วงนี้ก็มีเปลี่ยนโบรคไปโบรคที่มีความก้าวหน้าขึ้น แต่นามบัตรไม่ค่อยสวยเลย แง5555 รายได้ก็ยังคงที่ มีดรอปๆบ้าง ขึ้นๆลงๆ พยายามรักษาไว้ที่ 5 หลักปลายๆถึง 6 หลักต้นๆ และก็ยังพยายามหาลูกค้าเพิ่มเรื่อยๆ แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ลูกค้า เหมือนเดิมคือยังคงดู netflix อยู่5555

          หลังจากนี้คงต้องรอดูความตื่นเต้นอย่างต่อไปนะค๊า555555

          ส่วนรายได้ที่ได้มา ก็จัดการซะ Asset allocation แบ่งเงินซะ กระจายไปลงทุนตามที่ต่างๆ กองทุน สลาก และอื่นๆ...

          ตอนนี้ก็กำลังคิดจะพัฒนาตัวเองทั้งร่างกายและความคิด ต่อยอดตัวเอง สอบไลเซ้นต่างๆที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง นำเงินไปต่อเงิน และเริ่มคิดเรื่องเรียนต่อปริญญาโทสายการเงิน ทำงานไปเรียนไป (หลังจากทำงานมาได้ 2 ปี)

สุดท้ายต้องขอบคุณจากใจ ลูกค้าทุกคนที่ไว้วางใจให้ดูแลไว้ ณ ทีนี้ด้วยนะคะ ไม่มีลูกค้าก็ไม่มีวันนี้ค่ะ ขอบคุณครอบครัว เพื่อน คนรอบข้าง ที่ทำให้มีวันนี้ เพราะทุกคนมีส่วนช่วยจริงๆค๊า

“ความลำบาก ความกดดัน มันสามารถทำให้เราทำในสิ่งที่เราไม่คิดว่าเราจะทำได้”

แค่มาแชร์ประสบการณ์นะค๊า ผิดพลาดตรงไหนขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค๊า หรือใครอยากจะแนะนำอะไร ยินดีมากค่าบ

สุดท้าย ท้ายสุดจริงๆ อยากจะบอกว่าเราคิดอะไรที่เป็นพลังบวกกับตัวเรา สิ่งแวดล้อมที่เป็นพลังบวกให้เรา และพยายามทำมันให้ได้ ถ้ายังไม่ได้ ก็ทำอีกๆ ทำต่อไป จินตนาการดูว่าสำเร็จแล้วจะเป็นยังไง เมื่อเราทำได้ เราจะเหลือเชื่อกับมันมากว่าเราก็ทำได้นะเห้ย แล้วเราจะภูมิใจกับมันอย่างบอกไม่ถูก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่