การรอคอยที่ไม่รู้ว่าจะมีวัน Happy Ending หรือเปล่า??

คำนี้ แมร่งงงโครตโดน เลย หลังจากไปดุ หนังเรื่อง Friend Zone    สิ้นสุดของการเป็นเพื่อน
ถ้าย้อนกลับไป ประมาณ 2542 หรือ ปี 2543  จำปีไม่ค่อยได้ ครับ  วันเปิดเทอมวันแรก ผมก็นั่ง ประมาณกลางห้อง จับกลุ่มกับเพื่อน ที่ เรียนมาด้วยกัน ตอนสมัย ปวช โต๊ะเลคเชอร์  กลุ่ม ผมก็จะเหมาไปสองแถว ๆละ 4 ที่นั่ง  มันมี 8 ที่นั่ง กลุ่มผมมี 6 คน ก็แถวหลัง 4 คน แถวหน้า  2 คน  ทีนี้ ก็จะหลือที่ นั่งว่างตรงข้างหน้า ผม  2  ที่นั่ง โล่ง ข้ามไป สองแถวหน้า เลย ก็นั่งคุยๆ เสียงดัง ตามประสาวันเปิดเทอมวันแรก แล้ว อาจารย์ยังไม่เข้าห้องสอน  เธอเดินเข้ามา ทัก เพื่อนในกลุ่มผม ซึ่งนั่งอยู่แถวหน้า เธอเดินพุ่งตรงมาหาเพื่อนในกลุ่ม ซึ่ง เพื่อนผมที่นั่งตรงแถวหน้า แล้วเธอนั่งข้างหน้าผมตรงที่ มันว่างอยู่ ข้างๆซึ่ง เพื่อนผมคนนั้นเคยเรียนที่เดียวกันสมัยมัธยม หรือประถมไม่แน่ใจ หน้าตา ขาวๆ ตัวเล็กน่ารัก  หน้าตาก็น่ารักประมาณนึง  ก็ ทักทายกัน เพื่อนก็แนะนำให้รู้จัก ก็ไม่ต้องเป็นพิธีอะไรมาก ก็เพราะเคยเห็นกัน ในโรงเรียนเดียวกัน อยู่แล้ว เห็นผ่าน ๆ  แต่ พอขึ้น ปวส แล้ว แบบยูนิฟอร์ม โรงเรียนเปลี่ยนใหม่ เป็นแบบคล้าย มหาวิทยาลัย ก็เลยดูแปลกตาไป แล้วน่ารักขึ้นกว่าสมัยก่อน  ตัวผมเองเป็นคนตัวโจ๊กในกลุ่ม น่ะแหล่ะ ก็ เป็นประเภท ปากหมา ทำตัวเองให้ตลก  สาย เอนเตอร์เทรน แซวไปโน่นนี่นั่น ตามประสา  จำวันแรกของการรู้จักกันได้ดี  ผมหัวเราะ แล้วอมอมยิ้ม แล้วทำน้ำลายหกใส่กระเป๋าเค้า ดวงเบอเร่ออออออ   แมร่งโครตอาย เพือ่น ก็ด่า และ ล้อแซว อย่างอาย  แต่เธอไม่โกรธ นะ เธอกับขำเป็นเรื่องตลก ผมเห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเค้า น่ารักดีนะ คนนี้  ก็ผ่านพ้นไป                           เวลาผ่านไป ตัดภาพมาอีกที ที่นั่งที่เธอว่าง อยู่นั้น กลายเป็น ผมขึ้นไปนั่งแทน ตั้งแต่เมือไรไม่รู้ตัว 5555  ทิ้งเพื่อนแถวหลัง ที่นั่งเรียนมาตั้งแต่สมัย ปวช มา 3 ปี ไปซะงั้น เค้าเป็นคนเรียนเก่งนะ  เกรดเฉลี่ย  3 กว่า ปลายๆ  ส่วนผมเหรอ  2 กลางๆ  ก็หรูแล้ว  5555  เราสนิทกันตั้งแต่เมือไรไม่รุ้ตัวเลยครับ  ประมาณว่าตัวติดกันตลอด จนเพื่อนๆๆ ชอบแซว แฟนกันบ้าง  พ่อลูกกันบ้าง ขำๆ กันไป เธอเป็นคนน่ารักครับ  มันก็แน่นอน อ่ะเนอะ ที่จะมีผู้ชายเข้ามาจีบ  แมร่งเยอะไปหมด  เราสนิท เราทุกเรื่อง ให้ฟัง คนนี้จีบกูว่ะ  เออๆ หลอก-แมร่ง เลย โน่นนี่นั่น ตามประสายวัยรุ่น ไม่ได้คิดไรมากใช้ชีวิตให้เหมือน เป๊ปซี่ เป็น สปอนเซอร์  คือ เต็มที่กับชีวิต   555  เที่ยวกลางคืน เดินห้าง อยู่โรงเรียนจนมืดค่ำ ไม่กลับบ้าน ถ้ากลับก็ไปนั่งบ้านเธอต่อ   พ่อแม่ เธอเป็นคนต่างอำเภอ่ะครับ จะเช่าบ้าน ทาวเฮาส์ ให้อยู่กับพี่สาว   เราก็ไปสนิท กับ พี่สาว กลุ่มพี่สาว เธอไปด้วย พี่สาวเค้า ป๊อบ ครับ สายดาวเด่น น่ารักข่าวจิ้มลิ้ม  ก็กินเที่ยวเล่นกับ ก๊วนเค้าไปด้วยเลย . ครับเชื่อมั๊ย ช่วงที่เวลาเรียน ปวส แมร่งเป็นช่วงที่ สนุกกับชีวิต โครตๆ ทั้งเที่ยว ทั้งกิน ดื่ม เที่ยว เสมือนอิสระเสรี มาก  ระหว่างทาง ผมก็จีบคนนั้นคนนี้บ้าง ตามประสา วัยฮอร์โมนว้าวุ่น  55555 ตัวเธอเองก็มีแฟน ครับ  แต่ผมก็ยังเที่ยว แล้วใช้ชีวิตอยู่กับเค้าตลอดนะ ทุกๆ เทศกาล ต้องมีผม และ เธอ ครับ แม้ช่วงฝึกงาน สองสามเดือน เราก็ ฝึกที่เดียวกัน แต่ผมกับเธอ ก็มีทะเลาะกันบ้างนะครับ ตามประสา  ผมก็นะ สายปากหมา บางที ก็ ทำตัวเละทะ ก็มีบ้างที่ทะเลาะ งอนกัน ไม่พูดกันเป็นอาทิตย์  ก็มี แต่สุดท้าย ก็ กลับมาคุยกันเหมือนเดิม   จนกระทั่ง จบ ปวส  ครับ
ผมหัวไม่ค่อยดี กลางๆ พอไปได้ คิดว่า เรียนไปก็เท่านั้น เด๋วก็ต้องกลับมาช่วย กิจการพ่อตัวเองอยู่ดี ก็เรียนต่อ มหาลัย เอกชน ครับ  แต่จริงแล้ว ไปตามสาวครับ สาวที่ผมชอบ 5555 ใช้เป็นข้ออ้าง  ส่วนเธอ ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยครับ  เธอเลือกที่จะแบ่งเบาภาระ พ่อกับแม่เธอครับ เพราะ พ่อแม่ รับราชการทั้งคู่ ก็ เลยสมัคร เรียน มหาลัยรัฐบาล  แล้วเรียนต่อไปด้วยคับ ผมฝากงานให้เค้าทำงาน ออฟฟิศ กับ ญาติผมครับ ซึ่งออฟฟิศ ญาติผมก็ไม่ไกลจากบ้านผม 555  แมร่งก้เจอกัน ตลอด แล้วช่วงที่ผมรอ มหาวิทยาลัยเปิดเทอม ก็ไปฝึกงานกับเค้า ญาติผม 5555  บริษัทพ่อ ตัวเองก็มีไม่ทำ  เลวจริงๆ เลยผม  ก็วนลูปเดิม ครับ ผมก็ชวนเพื่อนมาทำงาน ที่ ออฟฟิศ พ่อผม ครับ ก็ หนีไปไหนไม่พ้นครับ  ก็ เจอกัน  ผมไปมหาวิทยาลัย ก็อยู่ หอครับ ใช้ชีวิต มหาวิทยาลับกับเพื่อน กลุ่มใหม่ๆ  จะเจอเธอก็ตอน เมื่อผมกลับบ้าน ครับ หรือไม่ก็หยุดยาวตามเทศกาล สมัยนั้น มันไม่เหมือนสมัยนี้ เนอะ ไม่มี เฟสบุค ไม่มีโลกโชเชียล เราไม่รู้หรอก เราต่างคนไปทำไรในชีวิตของตัวเองกันบ้าง จะรู้อีกทีก็เมือเจอหน้ากัน ก็เหมือนเดิม เวลา ทำงานจัดไปเที่ยวก็ ไปกับเธอครับ ก็นะ บริษัท พ่อเราเอง 555555   แล้วเธอ ก็ ลาออกไป สมัครงานที่อื่นครับ ช่วงนั้นเธอหายไป ครับ ก็มีติดต่อกันบ้าง เวลา ที่เธอเดือดร้อนอะไร ผมก็จะวิ่งเข้าไปหาเค้าทันที  เวลาที่เค้าโทรมาหาผมเค้าร้องไห้  ผมจำได้เลย ตอนนั้น ผมเดินอยู่ห้างกับเพื่อน ไกลจากบ้าน ประมาณ 30 กิโล เค้าโทรมา เสียงร้องไห้ ถามว่าผมอยู่ไหน เค้าอยากเจอ เชื่อไหม ผมทื้งเพื่อน แล้วนั่งรถเมล์ กลับมาหาจุดที่เรานัดพบทันที ทุกครั้งที่เค้ามีปัญหากับแฟน คนไหนก็ตาม เค้าจะโทรหาผมคนแรก แล้วผมก็จะไปหาทุกเค้าทุกครั้ง ที่เค้ามีปัญหา กินเหล้า ดื่ม เที่ยว อยุ่เป็นเพื่อนเค้า จนเค้าโอเค แล้วก็หายไปครับ
ผม ยอมรับเครับ ผมแอบชอบเค้า ครับ แอบชอบเค้าตั้งแต่สมัยเรียน ปวส ครับ แต่ผมไม่รู้ใจตัวเองครับ ไม่กล้าพอ ผมเห็นคนที่เข้ามาในชีวิตเค้า ดีกว่าผมทุกอย่าง หน้าตา ฐานะการเงิน มีรถ มีมือถือ สมัยนั้นมีมือถือ ถือว่ารวย นะครับ  เครื่องนึง แมร่ง  สองสามหื่น  Nokia จอสีฟ้า เนี่ย ใครใช้ แมร่งไฮโซ   555 ก็ แอบชอบเค้ามาโดยตลอด ไม่บอกใครครับ เพื่อนบางคนเค้าก็แซว ก็ รู้ ครับปากนี่ แก้ตัวเป็นพัลวัล แล้วก็เบี่ยงเบนไปจีบคนนั้น คนนี้ บ้าง เพื่อจะได้ไม่เสียเพื่อนครับ ยอมรับครับ  กลัวเสียเพื่อน กลัวหน้าแตก กลัวเค้าไม่คิดไรกับเรา ทุกครั้ง ที่นั่งใกล้เค้า แล้วเค้าสอนการบ้านให้ผม แมร่งโครตมีความสุข อ่ะ  กินข้าว เที่ยวด้วยกัน นอนด้วยกัน แต่จะทุกข์ใจก็ตอน เค้าอยุ่กับแฟน เค้า  5555  แฟนเค้าทุกคนผมรู้จักหมด ไปกินเหล้ากับแฟน เค้าบ้าง ก็เนอะหน้ายิ้ม แต่ใจ น้ำตาไหลท่วม 55555  ก็เป็นบบนี้ไปเรื่อยๆครับ จนมากระทั่ง ถึงจุดที่ เราไปหาเค้า แล้วเค้าไม่อยู่บ้าน ไปกับแฟนคนใหม่ ผมทำงานแล้วไปหาเค้าครับ ผมก็ไปเยี่ยมเค้าครับ ซื้อ ของกินไปเต็มมือเลยครับ ไปหาเค้าทีบ้าน ก็กะว่าจะเซอร์ไพร์ส  เพราะ ผมรู้ มาว่าเค้าเลิกกับแฟนคนที่เธอทำงานที่ใหม่และทีเดียวกัน ผมก็โทรไปหาเค้าคับ เค้ารับสาย แล้วบอกไม่อยู่ ไม่อยากเจอผม ผมเสียใจ มากกกกกก จุกแน่นไปหมด พูดไม่ออก ก็ ฝากของที่ซื้อมาไว้กับพี่สาวเค้าครับ แล้วก็กลับบ้านด้วยใจสลาย ตอนนี้ ผมรู้ตัวอ่ะคับ ผมชอบเค้า อยากจะบอกเค้าว่าผมชอบเค้าก็คือ กะว่าจะสารภาพความในใจกับเค้าน่ะแหล่ะ  -แห้วเลยกู นึกในใจกูเสียเพื่อนแล้วแน่ๆ เลย ก็กลับบ้าน แล้วโทรคุยกับเพื่อนที่สนิทกับเค้าและผม ครับ ก็สารภาพทุกอย่างให้เพื่อนคนนี้ฟังครับ รู้สึกอย่างไร อะไร ระบายพรั่งพรู แมร่งหมด  555  แล้วผมก็ หายไปจากชีวิตเค้าครับ ประมาณ 5  ปี ครับ ก็โสดครับ จีบคนนั้นคนนี้ แมร่งก็ไม่ลืมเค้าเสียทีครับ จีบเค้าไปทั่ว เที่ยวแมร่งกระจาย  แล้วก็มาสู่ สังคมโลกโชเชี่ยล เฟสบุค  เราเป็นเพื่อนในเฟส ครับ แต่ไม่เคยทักกันครับ ผมไม่กล้าทักเค้าครับ ก็ได้แค่ส่องครับ
จนเค้าทัก inbox มาหาผมครับ  ทักมาว่าเป็นไงบ้าง เที่ยวเก่งจังนะ  เห็น ลงเฟสตลอด ผมอ่านครับ แต่ อึ้ง ครับไม่คิดว่าเค้าจะทักมา แล้วผมก็ปิดคอม 5555 ทำเหมือนหล่อ อ่ะเนอะ ไอ้กร๊วกเอ๊ยยย ด่าตัวเองเบา  ผ่านไปสามวัน ผมถึงตอบกลับเค้าไปครับ 555 เค้าก็ด่าครับ โห กว่าจะตอบกลับมา เฮ้ย  เจอกันไหม กินข้าวกัน  ผมดีใจมากครับ ร้อง เยสสสสส หน้าคอมพิวเตตอร์  5555  แล้วก็ เจอกันครับ เจอกันที่ กินฟูจิ ครับ เค้าปลียนไปเลยครับ ดัดผมมาเป็นลอน ดูเป็นสาวโต อีกระดับนึงเลย เอาตรงๆ เลยนะ นึกว่าเค้าโสด ครับ คุยไปคุยมา เค้าพูดมาว่า ถ้าแฟนกูรู้ว่ามากินข้าวกับ แมร่งเอ๊ยไม่อยากจะคิด  ผมชาเลย ชาไปทั้งตัว  555 น้ำตาตกใน อ่ะเค้าบอกว่าเค้ามีแฟนใหม่แล้วคับ  เค้าเปลียนที่ทำงานใหม่แล้ว ก็เลยเจอคนนี้  นึกในใจ เรียกกูออกมาทำไมวะ สาสสส  ก็เจอกันครับ ก็ทักกันบ้าง มีไลน์ เข้ามาก็คุยบ้าง ตอบบ้าง  แล้วผมก็หายไป อีกประมาณ ปีกว่าครับ ผมเลือกไม่ยุ่งกับเค้าอีกแล้ว ก็ เจอกันอีก งานแต่งงานเพื่อน  เจอเพื่อนกลุ่มเรียนปวส มาด้วยกันครับ  ทีนี้เพื่อนทุกคนรู้หมดแล้วครับ ว่าผมคิดยังไง อะไรยังไง เจ้าตัวก็รู้แล้วครับ รู้นานแล้วด้วย บรรยากาศ แมร่ง อืมครึม ในรถ แจีส คันเล็กๆ ของเพื่อน ก็มีแซวกันบ้าง ผมนั่งด้านข้างคนขับ ส่วนเค้ากับเพื่อน นั่งด้านหลัง แล้วเค้าก็ พยายามทำบรรยากาศเฮฮา สะกิด แล้วก็หัวเราะ ผมก็อดขำอดยิ้มไม่ได้  เค้าก็พูดมาว่า  อย่าลืมไปงานแต่งงานกู ปลายปีนะ  เพล้งงงงงงงงงงงงงงงงงง ผมชาเลย  ไปงานแต่งงานเพื่อน ต่างจังหวัดระยะทาง มันช่าง ยาวไกลจังวะ 5555  กูอยากกลับบ้านนนนนนนน กูอยากวาปไปโผล่ ที่ร้านเหล้ากูเลยได้ไหมมมม
แล้วมันก็ผ่านไปครับ จนกระทั่งวันแต่งงาน  เธอแอบไลน์ มาหาเพื่อนสนิทผม ซึ่งเธอ ไม่เคยคุย กับเพื่อนผมคนนี้ เธอ บอกว่า เอาผมไปให้ได้นะ ฝากชวนผมที  และแล้ว ผมก็ไม่ได้ไป ครับ ใจไม่แข็งพอ  ก็ฝากซองใส่เพื่อน แล้ว วันรุ่งขึ้น ก็ อวยพรไปตามปกติ ครับ พร้อมสารภาพความในใจทั้งหมดในไลน์ เธออ่าน แล้วก็ไม่ตอบ   แล้วผมก็วาปป หายไป อีกประมาณสองปี  5555  เจอเค้าอีกทีครับ   เธอมีลูกแล้วครับ วัยกำลังน่ารัก   ก็ยินดี กับเธอด้วยครับ  ที่มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ครับ ยังไงผมก็จะเป็นกำลังใจให้เค้าเสมอตลอดไป  แล้วก็ยังรออยู่ตรงนี้ ครับ  ส่วนผม เป้าหมายชีวิต ตอนนี้ ก็ อยากประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ครับ เรื่องความรัก ผมคงไม่มีแล้วครับ  ผมเคยลองแล้ว แต่ใจผมก็ลืมเค้าไม่ได้ครับ
ผมดู  เฟรนด์ โซน  คำประโยค ตรงหัวข้อ มันโดนมากครับ  แอบรัก ตั้งแต่ปี 2543  จนถึงปัจจุบัน ก้ยังรอต่อไป  5555  ขอเป็นกำลังใจ ให้กับคนที่ แอบรัก ทุกคนนะครับ ก้าวข้ามผ่านไป หาเป้าหมายชีวิตให้เจอ คับ แล้วพุ่งชนไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่