**
อัพเดตครับ หลังจากที่ทางผู้บริหารเครือของห้างดังกล่าว ได้มาเห็นกระทู้นี้จึงได้มีการเรียกผมเพื่อเข้าไปประชุมพูดคุยกันตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2562 เพื่อรับทราบปัญหา และอธิบายแนวทางแก้ไข รวมทั้งแสดงความรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วนะครับ
ซึ่งผู้บริหารฝ่ายงานดูแลลูกค้าของเครือ ผู้บริหารฝ่ายอาคารของเครือ รวมทั้งผู้จัดการใหญ่ของห้างสาขาบางแค ได้ร่วมกันรับฟังผม และชี้แจงทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้วนะครับ ซึ่งผมต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ ที่ทางผู้บริหารของห้างไม่ได้นิ่งนอนใจ และพยายามติดต่อผมอย่างรวดเร็ว
นับว่าเป็นการเอาใจใส่ลูกค้าขั้นสุดท้ายได้ดีทีเดียวครับ ตรงนี้ผมขอชื่นชมจากใจครับ
ซึ่งแนวทางแก้ไขเบื้องต้น :
ทางห้างได้ทำการพ่วงสัญญาณขอความช่วยเหลือของลิฟท์ที่อาคารใหม่ เชื่อมต่อกับห้องควบคุมใหญ่ของอาคารเก่าแล้ว เพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องระบบความปลอดภัยของลิฟท์ที่มากขึ้น ซึ่งทางผู้บริหารฝ่ายอาคารเน้นย้ำว่าสามารถมั่นใจการใช้บริการลิฟท์ของเค้าได้อย่างแน่นอน และได้ขอโทษที่พนักงานได้เสียมารยาททำการถ่ายรูปในขณะที่กำลังติดลิฟท์ โดยไม่ได้มีการแจ้งใดๆ เนื่องจากเป็นเรื่องของหลักฐานการเคลมลิฟท์กับทางบริษัทลิฟท์จึงได้มีการถ่ายรูปดังกล่าวไว้ แต่ผู้บริหารเองก็เข้าใจว่าเป็นใครก็ต้องโกรธที่ถูกถ่ายรูป ก่อนที่จะเข้ามาช่วยเหลือ
รวมทั้งผู้จัดการใหญ่ของสาขาได้มีการเรียกสอบถาม และมีบทลงโทษกับผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว ตรงนี้ผมเข้าใจครับว่ามันเป็นเหตุการณ์สุดวิสัย และเป็นเรื่องของ Human Error แต่ทางห้างเองก็ได้ยืนยันว่าจะพยายามหาแนวทางลดเรื่อง Human error ให้มากที่สุด
รวมทั้งในอนาคต ทางห้างได้มีโครงการที่จะทำทางเชื่อมแต่ละชั้นของอาคารจอดรถให้เดินถึงกันได้ครับ
***ท้ายที่สุดต้องขอขอบพระคุณพลังแห่งโซเชียล ที่ทำให้ผู้บริหารระดับสูงได้รับรู้ถึงปัญหาของผู้มาใช้บริการขั้นสุดท้ายอย่างพวกเราครับ***
สวัสดีครับ ต้องบอกก่อนว่าผมเองเป็นคนที่เคยมีประสบการณ์การติดลิฟท์มาก่อน ซึ่งเคยติดลิฟท์ภายในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งแต่พอกด emergercy call ก็มีเจ้าหน้าที่ตอบกลับและจัดการทันที ซึ่งทำให้ผมไม่ตกใจนักกับเหตุการณ์ติดลิฟท์ในตอนแรก แต่ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้มีประสบการณ์ติดลิฟท์ในห้างในวันอาทิตย์ซึ่งคนมาใช้บริการหนาแน่นมาก และติดอยู่นานขนาดนี้กว่า 30 นาที
เลยเขียนมาเล่าประสบการณ์ เพื่อเตือนภัยผู้ใช้ลิฟท์ที่อาคารที่จอดรถใหม่ของห้างดังย่านบางแคแห่งนี้ครับ ขออนุญาตเล่าเรียบเรียงเหตุการณ์อย่างละเอียดนะครับ
[เหตุเกิด วันที่ 3 มีนาคม 2562 เวลา 19.30 ที่ลิฟท์ตัว L3 ของอาคารจอดรถใหม่ ณ ห้างดังย่านบางแค ]
วันนั้นผมและครอบครัวมาเที่ยวห้างจับจ่ายตามปกติ แต่เนื่องจากเห็นว่าห้างเปิดส่วนตึกจอดรถใหม่แล้ว ประกอบกับทางเข้านั้นบังคับให้ต้องขับไปจอดในอาคารดังกล่าว ผมจึงขึ้นไปจอดรถที่ชั้น 2 ของอาคารจอดรถใหม่
หลังจากเสร็จธุระต่างๆในห้างแล้ว ผมและครอบครัว(รวม4คน) นั่งรถกอล์ฟรับส่งฟรีอาคารจอดรถของทางห้างมาที่ตึกจอดรถใหม่ เมื่อมาถึงก็เดินตรงไปที่ลิฟท์ ขณะนั้นผมเห็นผู้ชายคนนึงวิ่งเข้าลิฟท์ไปคนเดียว เลยบอกให้เขารอและขึ้นลิฟท์ไปพร้อมกัน (ซึ่งตอนนี้ภายในลิฟท์มีกัน 5 คน) หลังจากลิฟท์เคลื่อนตัวได้นิดเดียวลิฟท์ก็กระตุกและค้าง ที่ระหว่าง ชั้น P กับ ชั้น 1 (ประมาณ 80 ซม.)
พอรู้ว่าลิฟท์ค้าง จึงมองไปที่แผงควบคุม พบว่าไม่มีปุ่ม "Emergency Call" มีแต่ปุ่ม "Bell" (หรือปุ่มรูปกระดิ่ง) จึงกดขอความช่วยเหลือจากปุ่มกระดิ่งนั้น แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับจากพนักงานห้องควบคุมใดๆ ซึ่งพวกเรากดกริ่งฉุกเฉินอยู่ประมาณ 5 นาที(ลองกดทั้งสั้น กดค้าง สลับกันไปมาตลอด เผื่อว่าจะมีใครได้ยิน) ดูเหมือนว่าภายในลิฟท์เองจะไม่มีเสียงเครื่องดูดอากาศภายในลิฟท์ ตอนนั้นยอมรับว่าผมค่อนข้างจะขวัญเสียเล็กน้อย เริ่มกังวลถึงความปลอกภัยของตัวเองและคนในลิฟท์
จากนั้นจึงเริ่มคิดหาวิธีช่วยเหลือตัวเอง หลังจากผ่านมาประมาณ 10 นาที ในเมือกริ่งมันไม่มีคนได้ยิน จึงหยิบโทรศัพท์มือถือหวังว่าจะเสิร์ชหาเบอร์โทรศัพท์ของห้างดังกล่าว แต่เนื่องจากอยู่ในลิฟท์ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ใดๆ แล้วทันใดนั้นพี่ผู้ชายในลิฟท์ก็หยิบบิลซื้อของขึ้นมาแล้วไล่หาเบอร์ทำให้ได้เบอร์ห้างมา ตรงนี้ผมถือว่าเป็นความโชคดีของพวกเรามาก โชคดีว่ามีแฟนผมที่จู่ๆมีสัญญานมือถือติดเข้ามา เลยรีบโทรตามเบอร์และแจ้งกับคอลเซนเตอร์ และทางคอลเซ็นเตอร์จึงต่อสายให้ทางแผนกอาคารต่อ (หลังจากนั้นไม่มีสัญญานมือถืออีกเลย)
หลังจากนั้นประมาณ 5-10 นาที มีเสียงโฟนจากเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่ : อยู่ที่ลิฟท์ตัวไหนครับ
พวกเรา : ลิฟท์ตัว L3 ครับ
เจ้าหน้าที่ : ลิฟท์ติดอยู่ที่ชั้นไหนครับ กำลังแก้ไขระบบลิฟท์อยู่นะครับ คนในลิฟท์ยังมีอากาศหายใจอยู่ใช่มั้ยครับ? รอแป๊บนึงนะครับ
คนในลิฟท์ : ลิฟท์ติดที่ชั้น 1 ยังมีอากาศครับ
ผ่านไปสักครู่..........
เจ้าหน้าที่ : ติดอยู่กันกี่คนครับ
พวกเรา : 5 คนครับ
เจ้าหน้าที่ รอสักครู่นะครับ กำลังช่วยอยู่ เจ้าหน้าที่กำลังแก้ระบบอยู่ครับ กำลังดูกล้องวงจรปิดอยู่
พวกเรา : ครับๆ รีบๆหน่อยนะครับ
ติดมานานแล้วจนเวลาผ่านไปเรื่อยๆถึง 30 นาที ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะแก้ไขสำเร็จ หรือส่งคนมาช่วยใดๆ มีแต่เสียงโฟนมาถามเป็นระยะ เช่น
"ออกกันมารึยังครับ? ผมกดลิฟท์เปิดที่ชั้น P แล้วนะครับ"
"ยังออกไม่ได้เหรอครับ ก็ลิฟท์มันโชว์ว่าอยู่ที่ชั้น P แล้ว"
"รอสักครุ่นะครับ ช่างกำลังดูระบบ กำลังแก้ไข"
***ตรงนี้พวกเราในลิฟท์สงสัยมากว่า ทำไมถึงไม่ให้เจ้าหน้าที่คนอื่นมาดูหน้าลิฟท์ว่าตกลงลิฟท์เปิดได้จริงมั้ย? แล้วตกลงกล้องวงจรปิดในลิฟท์ยังไม่เปิดใช้ใช่หรือไม่ ถึงได้ไม่เห็นพวกเราในลิฟท์เลยว่ายังอยู่มั้ย...
พวกเรารออยู่ในลิฟท์เกินกว่า 30 นาที แน่นอนว่าอากาศหายใจนั้นค่อนข้างน้อย และชวนอึดอัด และหายใจลำบากทีเดียว คนในลิฟท์เริ่มชวนกันนั่งอยู่เฉยๆ ผมสังเกตว่าพี่ผู้ชายและแม่เริ่มมีอาการไม่ค่อยดี หน้าซีดๆไป ผมเองก็ไม่คิดว่าหลังจากเจ้าหน้าที่รับเรื่องแล้วจะต้องรอการช่วยเหลืออีกนานขนาดนี้ แย่ครับ..
จึงทดลองกดกริ่งหาเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
เจ้าหน้าที่ : มีอะไรรึเปล่าครับ?
พวกเรา : มางัดลิฟท์ช่วยให้ออกไปก่อนได้มั้ยครับ นี่มันติดมาเกิน 30 นาทีแล้ว..นานมากแล้ว หรือช่วยเอาใครมาดูหน้าลิฟท์หน่อยได้มั้ย?
เจ้าหน้าที่ : มันงัดไม่ได้ครับ จอดไม่ตรงชั้นใช่มั้ยครับ ห่างเท่าไหร่
พวกเรา : อีกประมาณ 80 ซม. จะเต็มชั้นครับ
เจ้าหน้าที่ : ลูกค้าอย่าพึ่งงัดลิฟท์นะครับ กำลังเร่งแก้ให้อยู่ครับ
พวกเรา : น่าจะมาช่วยคนออกไปก่อน ที่จะดูระบบมั้ยครับ? อย่างน้อยก็น่าจะเอาใครมาดูสักหน่อยนะครับ
**เรื่องนี้ทำเอาพวกเราในลิฟท์ก็งงว่าจะรอแต่ระบบ รออะไรที่เป็นอัตโนมัติหรือไง จริงๆควรช่วยเหลือชีวิตลูกค้าก่อนดีมั้ย?!
จากนั้นสักครู่..
เจ้าหน้าที่ : กำลังไปช่วยนะครับ รอสักครู่นะครับเจ้าหน้าที่กำลังไปช่วยแล้ว
สัก 2-3 นาที เจ้าหน้าที่ก็มากันที่หน้าลิฟท์และช่วยกันง้างประตูลิฟท์เปิดออก เจ้าหน้าที่มากัน 5 คน พร้อมทั้งบอกว่า "อย่าพึ่งออกนะครับ ขอถ่ายรูปก่อนครับ" บอกตรงๆตอนนั้นไม่มีกะใจจะถ่ายรูปอะไรทั้งนั้นแล้วครับ นับเป็นการช่วยเหลือที่แย่มากๆ หลังจากออกมาแล้วเจ้าหน้าที่ก็พาพวกเราเดินทะลุส่วนของชั้นขายเฟอร์นิเจอร์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ (ตรงชั้น 1 ที่ลิฟท์ค้างอยู่) ยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิมตรงที่ในส่วนนั้นน่าจะมีสารเคมีจากการก่อสร้างเดินผ่านนี่แสบตาไปหมด..
แล้วเจ้าหน้าที่ก็แยกเดินไปส่งเราที่รถและส่งพี่ผู้ชายที่รถและพยายามจะช่วยถือของ (ซึ่งผมมองว่าถ้านี้เรียกว่า ..ความรับผิดชอบ.. ผมคิดว่าผิดเรื่องมาก) เมื่อถึงรถผมได้ตำหนิเจ้าหน้าที่ผู้นั้นไปถึงการมาช่วยเหลือที่ล่าช้า ว่าควรนึกถึงผู้ที่ติดลิฟท์ให้มากกว่านี้ ถ้าไม่ใช่คนที่แข็งแรงแต่เป็นคนชรา หรือเด็กเล็กๆ หรือคนที่กลัวที่แคบแล้วต้องติดนานขนาดนี้มันอันตรายถึงชีวิตได้.. ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้แต่พูดว่า "ครับๆ"
นับเป็นการติดลิฟท์ครั้งที่ 2 แต่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่รู้สึกแย่มากๆ มันทำให้ผมกลัวเลยทีเดียว..
หากการติดลิฟท์ในวันนั้น พวกเรากดกริ่งแล้วไม่มีใครได้ยิน และไม่มีสัญญาณมือถือแว๊บเข้ามา พวกเราจะทำยังไงต่อไป? (ซึ่งการงัดลิฟท์อาจจะต้องเป็นทางออกสุดท้ายของพวกเรา) ผมถือว่าห้างให้การช่วยเหลือลูกค้าได้ช้ามากๆถึงมากที่สุด ทำเอารู้สึกแย่กับห้างไปด้วยเลย
ซึ่งวันนั้นขณะติดลิฟท์อยู่
พี่ผู้ชายที่เข้าลิฟท์มาคนเดียวพูดเลยว่า "..ผมคิดไม่ออกเลยว่าถ้าผมขึ้นลิฟท์แล้วติดอยู่คนเดียวผมต้องทำยังไง ในเมื่อกดกริ่งขอความช่วยเหลือแล้วไม่มีคนได้ยิน แถมมือถือก็ไม่มีสัญญาณตั้งแต่เข้าลิฟท์มาเลย.."
ทั้งนี้ผมเข้าใจว่าเหตุการณ์ลิฟท์ค้างอาจเป็นเหตุจากการขัดข้องทางระบบที่อาจจะเกิดขึ้นได้
แต่ผมฝากไว้ให้ลองคิดเล่นๆดูนะครับ ว่า..
-หากมีคนติดลิฟท์ตัวนี้มากกว่าแค่ 5 คนขึ้นไป อากาศที่ใช้หายใจจะยังพออยู่มั้ย? ถ้ามีคนแก่ เด็กเล็ก ผู้ที่ไม่แข็งแรงพอ หรือผู้ที่กลัวที่แคบอยู่ในลิฟท์นี้ล่ะ พวกเค้าจะทนไหวมั้ยกับการติดลิฟท์นานเกิน 30 นาที และการช่วยเหลือที่ล่าช้าแบบนี้ ทางห้างจะรับผิดชอบอย่างไร?
-เมื่อมีการกดกริ่งขอความช่วยเหลือแล้วไม่มีใครได้ยินเช่นนี้ นั่นแปลว่าปกติไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำการในห้องควบคุมใช่หรือไม่? ถ้ามีเจ้าหน้าที่ประจำห้องควบคุม แล้วเจ้าหน้าที่หายไปไหนนับ 10 นาที?
-หากไม่มีสัญญาณโทรศัพท์แว๊บเข้ามาในมือถือ และไม่มีการโทรหา Call Center ของห้างดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะทราบหรือไม่ว่ามีลูกค้าติดลิฟท์อยู่?
-แบบนี้เท่ากับลูกค้าที่มาใช้บริการนั้นไม่ได้รับการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างสูงสุดใช่หรือไม่? เช่นนี้ระบบรักษาความปลอดภัยของห้างแห่งนี้ต้องมีการทบทวนหรือไม่?
-อาคารนี้เป็นอาหารจอดรถที่เพิ่งสร้างเสร็จ แต่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ นั่นเท่ากับความพร้อมยังไม่มีเท่าที่ควรและรีบเปิดใช้บริการ โดยที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้ามาเป็นอันดับ 1 หรือไม่?
อันนี้ฝากไว้ให้คิดนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น ห้างและเจ้าหน้าที่ควรมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ต่อความปลอดภัยของลูกค้าให้มากกว่านี้ ไม่สมกับเป็นห้างใหญ่ที่มีสาขามากมายทั่วประเทศจริงๆครับ ผิดหวังมาก
สุดท้ายหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ แม่พูดเลยว่า "ปกติเป็นคนไม่ชอบใช้ลิฟท์อยู่แล้ว ยิ่งทำให้คิดว่าไม่กล้าใช้ลิฟท์เข้าไปใหญ่ กลัวตายคาลิฟท์"
ส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ทำให้ผมตระหนักว่า เราควรมีสติเสมอ และจากนี้ผมคงต้องศึกษาหาแนวทางการช่วยเหลือตัวเองจากการติดลิฟท์ไว้บ้างเพื่อช่วยเหลือตัวเองหากพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้อีก ...
ซึ่งผมเองเลยอยากจะมาแบ่งปันเรื่องราว เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เป็นแนวทาง เพื่อการป้องกันเผื่อเกิดสถานการณ์แบบเดียวกัน และ
บอกเลยว่าผมเป็นคนหนึ่งที่จะไม่ไปจอดรถที่อาคารแห่งนี้อีก เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยของระบบลิฟท์รวมถึงการช่วยเหลือของห้างแห่งนี้ จึงอยากแนะนำว่าถ้าท่านใดไปจอดรถที่อาคารแห่งนี้ หาทางหนีทีไล่ของตัวเองไว้ในกรณีฉุกเฉินด้วยนะครับ ด้วยความปรารถนาดี
(เตือนภัยเงียบ) เมื่อผมติดลิฟท์นานกว่า 30 นาที ที่อาคารจอดรถใหม่ห้างดังย่านบางแค ในวันอาทิตย์
ซึ่งแนวทางแก้ไขเบื้องต้น : ทางห้างได้ทำการพ่วงสัญญาณขอความช่วยเหลือของลิฟท์ที่อาคารใหม่ เชื่อมต่อกับห้องควบคุมใหญ่ของอาคารเก่าแล้ว เพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องระบบความปลอดภัยของลิฟท์ที่มากขึ้น ซึ่งทางผู้บริหารฝ่ายอาคารเน้นย้ำว่าสามารถมั่นใจการใช้บริการลิฟท์ของเค้าได้อย่างแน่นอน และได้ขอโทษที่พนักงานได้เสียมารยาททำการถ่ายรูปในขณะที่กำลังติดลิฟท์ โดยไม่ได้มีการแจ้งใดๆ เนื่องจากเป็นเรื่องของหลักฐานการเคลมลิฟท์กับทางบริษัทลิฟท์จึงได้มีการถ่ายรูปดังกล่าวไว้ แต่ผู้บริหารเองก็เข้าใจว่าเป็นใครก็ต้องโกรธที่ถูกถ่ายรูป ก่อนที่จะเข้ามาช่วยเหลือ
รวมทั้งผู้จัดการใหญ่ของสาขาได้มีการเรียกสอบถาม และมีบทลงโทษกับผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว ตรงนี้ผมเข้าใจครับว่ามันเป็นเหตุการณ์สุดวิสัย และเป็นเรื่องของ Human Error แต่ทางห้างเองก็ได้ยืนยันว่าจะพยายามหาแนวทางลดเรื่อง Human error ให้มากที่สุด
รวมทั้งในอนาคต ทางห้างได้มีโครงการที่จะทำทางเชื่อมแต่ละชั้นของอาคารจอดรถให้เดินถึงกันได้ครับ
***ท้ายที่สุดต้องขอขอบพระคุณพลังแห่งโซเชียล ที่ทำให้ผู้บริหารระดับสูงได้รับรู้ถึงปัญหาของผู้มาใช้บริการขั้นสุดท้ายอย่างพวกเราครับ***
สวัสดีครับ ต้องบอกก่อนว่าผมเองเป็นคนที่เคยมีประสบการณ์การติดลิฟท์มาก่อน ซึ่งเคยติดลิฟท์ภายในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งแต่พอกด emergercy call ก็มีเจ้าหน้าที่ตอบกลับและจัดการทันที ซึ่งทำให้ผมไม่ตกใจนักกับเหตุการณ์ติดลิฟท์ในตอนแรก แต่ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้มีประสบการณ์ติดลิฟท์ในห้างในวันอาทิตย์ซึ่งคนมาใช้บริการหนาแน่นมาก และติดอยู่นานขนาดนี้กว่า 30 นาที
เลยเขียนมาเล่าประสบการณ์ เพื่อเตือนภัยผู้ใช้ลิฟท์ที่อาคารที่จอดรถใหม่ของห้างดังย่านบางแคแห่งนี้ครับ ขออนุญาตเล่าเรียบเรียงเหตุการณ์อย่างละเอียดนะครับ
[เหตุเกิด วันที่ 3 มีนาคม 2562 เวลา 19.30 ที่ลิฟท์ตัว L3 ของอาคารจอดรถใหม่ ณ ห้างดังย่านบางแค ]
วันนั้นผมและครอบครัวมาเที่ยวห้างจับจ่ายตามปกติ แต่เนื่องจากเห็นว่าห้างเปิดส่วนตึกจอดรถใหม่แล้ว ประกอบกับทางเข้านั้นบังคับให้ต้องขับไปจอดในอาคารดังกล่าว ผมจึงขึ้นไปจอดรถที่ชั้น 2 ของอาคารจอดรถใหม่
หลังจากเสร็จธุระต่างๆในห้างแล้ว ผมและครอบครัว(รวม4คน) นั่งรถกอล์ฟรับส่งฟรีอาคารจอดรถของทางห้างมาที่ตึกจอดรถใหม่ เมื่อมาถึงก็เดินตรงไปที่ลิฟท์ ขณะนั้นผมเห็นผู้ชายคนนึงวิ่งเข้าลิฟท์ไปคนเดียว เลยบอกให้เขารอและขึ้นลิฟท์ไปพร้อมกัน (ซึ่งตอนนี้ภายในลิฟท์มีกัน 5 คน) หลังจากลิฟท์เคลื่อนตัวได้นิดเดียวลิฟท์ก็กระตุกและค้าง ที่ระหว่าง ชั้น P กับ ชั้น 1 (ประมาณ 80 ซม.)
พอรู้ว่าลิฟท์ค้าง จึงมองไปที่แผงควบคุม พบว่าไม่มีปุ่ม "Emergency Call" มีแต่ปุ่ม "Bell" (หรือปุ่มรูปกระดิ่ง) จึงกดขอความช่วยเหลือจากปุ่มกระดิ่งนั้น แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับจากพนักงานห้องควบคุมใดๆ ซึ่งพวกเรากดกริ่งฉุกเฉินอยู่ประมาณ 5 นาที(ลองกดทั้งสั้น กดค้าง สลับกันไปมาตลอด เผื่อว่าจะมีใครได้ยิน) ดูเหมือนว่าภายในลิฟท์เองจะไม่มีเสียงเครื่องดูดอากาศภายในลิฟท์ ตอนนั้นยอมรับว่าผมค่อนข้างจะขวัญเสียเล็กน้อย เริ่มกังวลถึงความปลอกภัยของตัวเองและคนในลิฟท์
จากนั้นจึงเริ่มคิดหาวิธีช่วยเหลือตัวเอง หลังจากผ่านมาประมาณ 10 นาที ในเมือกริ่งมันไม่มีคนได้ยิน จึงหยิบโทรศัพท์มือถือหวังว่าจะเสิร์ชหาเบอร์โทรศัพท์ของห้างดังกล่าว แต่เนื่องจากอยู่ในลิฟท์ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ใดๆ แล้วทันใดนั้นพี่ผู้ชายในลิฟท์ก็หยิบบิลซื้อของขึ้นมาแล้วไล่หาเบอร์ทำให้ได้เบอร์ห้างมา ตรงนี้ผมถือว่าเป็นความโชคดีของพวกเรามาก โชคดีว่ามีแฟนผมที่จู่ๆมีสัญญานมือถือติดเข้ามา เลยรีบโทรตามเบอร์และแจ้งกับคอลเซนเตอร์ และทางคอลเซ็นเตอร์จึงต่อสายให้ทางแผนกอาคารต่อ (หลังจากนั้นไม่มีสัญญานมือถืออีกเลย)
หลังจากนั้นประมาณ 5-10 นาที มีเสียงโฟนจากเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่ : อยู่ที่ลิฟท์ตัวไหนครับ
พวกเรา : ลิฟท์ตัว L3 ครับ
เจ้าหน้าที่ : ลิฟท์ติดอยู่ที่ชั้นไหนครับ กำลังแก้ไขระบบลิฟท์อยู่นะครับ คนในลิฟท์ยังมีอากาศหายใจอยู่ใช่มั้ยครับ? รอแป๊บนึงนะครับ
คนในลิฟท์ : ลิฟท์ติดที่ชั้น 1 ยังมีอากาศครับ
ผ่านไปสักครู่..........
เจ้าหน้าที่ : ติดอยู่กันกี่คนครับ
พวกเรา : 5 คนครับ
เจ้าหน้าที่ รอสักครู่นะครับ กำลังช่วยอยู่ เจ้าหน้าที่กำลังแก้ระบบอยู่ครับ กำลังดูกล้องวงจรปิดอยู่
พวกเรา : ครับๆ รีบๆหน่อยนะครับ
ติดมานานแล้วจนเวลาผ่านไปเรื่อยๆถึง 30 นาที ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะแก้ไขสำเร็จ หรือส่งคนมาช่วยใดๆ มีแต่เสียงโฟนมาถามเป็นระยะ เช่น
"ออกกันมารึยังครับ? ผมกดลิฟท์เปิดที่ชั้น P แล้วนะครับ"
"ยังออกไม่ได้เหรอครับ ก็ลิฟท์มันโชว์ว่าอยู่ที่ชั้น P แล้ว"
"รอสักครุ่นะครับ ช่างกำลังดูระบบ กำลังแก้ไข"
***ตรงนี้พวกเราในลิฟท์สงสัยมากว่า ทำไมถึงไม่ให้เจ้าหน้าที่คนอื่นมาดูหน้าลิฟท์ว่าตกลงลิฟท์เปิดได้จริงมั้ย? แล้วตกลงกล้องวงจรปิดในลิฟท์ยังไม่เปิดใช้ใช่หรือไม่ ถึงได้ไม่เห็นพวกเราในลิฟท์เลยว่ายังอยู่มั้ย...
พวกเรารออยู่ในลิฟท์เกินกว่า 30 นาที แน่นอนว่าอากาศหายใจนั้นค่อนข้างน้อย และชวนอึดอัด และหายใจลำบากทีเดียว คนในลิฟท์เริ่มชวนกันนั่งอยู่เฉยๆ ผมสังเกตว่าพี่ผู้ชายและแม่เริ่มมีอาการไม่ค่อยดี หน้าซีดๆไป ผมเองก็ไม่คิดว่าหลังจากเจ้าหน้าที่รับเรื่องแล้วจะต้องรอการช่วยเหลืออีกนานขนาดนี้ แย่ครับ..
จึงทดลองกดกริ่งหาเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
เจ้าหน้าที่ : มีอะไรรึเปล่าครับ?
พวกเรา : มางัดลิฟท์ช่วยให้ออกไปก่อนได้มั้ยครับ นี่มันติดมาเกิน 30 นาทีแล้ว..นานมากแล้ว หรือช่วยเอาใครมาดูหน้าลิฟท์หน่อยได้มั้ย?
เจ้าหน้าที่ : มันงัดไม่ได้ครับ จอดไม่ตรงชั้นใช่มั้ยครับ ห่างเท่าไหร่
พวกเรา : อีกประมาณ 80 ซม. จะเต็มชั้นครับ
เจ้าหน้าที่ : ลูกค้าอย่าพึ่งงัดลิฟท์นะครับ กำลังเร่งแก้ให้อยู่ครับ
พวกเรา : น่าจะมาช่วยคนออกไปก่อน ที่จะดูระบบมั้ยครับ? อย่างน้อยก็น่าจะเอาใครมาดูสักหน่อยนะครับ
**เรื่องนี้ทำเอาพวกเราในลิฟท์ก็งงว่าจะรอแต่ระบบ รออะไรที่เป็นอัตโนมัติหรือไง จริงๆควรช่วยเหลือชีวิตลูกค้าก่อนดีมั้ย?!
จากนั้นสักครู่..
เจ้าหน้าที่ : กำลังไปช่วยนะครับ รอสักครู่นะครับเจ้าหน้าที่กำลังไปช่วยแล้ว
สัก 2-3 นาที เจ้าหน้าที่ก็มากันที่หน้าลิฟท์และช่วยกันง้างประตูลิฟท์เปิดออก เจ้าหน้าที่มากัน 5 คน พร้อมทั้งบอกว่า "อย่าพึ่งออกนะครับ ขอถ่ายรูปก่อนครับ" บอกตรงๆตอนนั้นไม่มีกะใจจะถ่ายรูปอะไรทั้งนั้นแล้วครับ นับเป็นการช่วยเหลือที่แย่มากๆ หลังจากออกมาแล้วเจ้าหน้าที่ก็พาพวกเราเดินทะลุส่วนของชั้นขายเฟอร์นิเจอร์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ (ตรงชั้น 1 ที่ลิฟท์ค้างอยู่) ยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิมตรงที่ในส่วนนั้นน่าจะมีสารเคมีจากการก่อสร้างเดินผ่านนี่แสบตาไปหมด..
แล้วเจ้าหน้าที่ก็แยกเดินไปส่งเราที่รถและส่งพี่ผู้ชายที่รถและพยายามจะช่วยถือของ (ซึ่งผมมองว่าถ้านี้เรียกว่า ..ความรับผิดชอบ.. ผมคิดว่าผิดเรื่องมาก) เมื่อถึงรถผมได้ตำหนิเจ้าหน้าที่ผู้นั้นไปถึงการมาช่วยเหลือที่ล่าช้า ว่าควรนึกถึงผู้ที่ติดลิฟท์ให้มากกว่านี้ ถ้าไม่ใช่คนที่แข็งแรงแต่เป็นคนชรา หรือเด็กเล็กๆ หรือคนที่กลัวที่แคบแล้วต้องติดนานขนาดนี้มันอันตรายถึงชีวิตได้.. ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้แต่พูดว่า "ครับๆ"
นับเป็นการติดลิฟท์ครั้งที่ 2 แต่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่รู้สึกแย่มากๆ มันทำให้ผมกลัวเลยทีเดียว..
หากการติดลิฟท์ในวันนั้น พวกเรากดกริ่งแล้วไม่มีใครได้ยิน และไม่มีสัญญาณมือถือแว๊บเข้ามา พวกเราจะทำยังไงต่อไป? (ซึ่งการงัดลิฟท์อาจจะต้องเป็นทางออกสุดท้ายของพวกเรา) ผมถือว่าห้างให้การช่วยเหลือลูกค้าได้ช้ามากๆถึงมากที่สุด ทำเอารู้สึกแย่กับห้างไปด้วยเลย
ซึ่งวันนั้นขณะติดลิฟท์อยู่ พี่ผู้ชายที่เข้าลิฟท์มาคนเดียวพูดเลยว่า "..ผมคิดไม่ออกเลยว่าถ้าผมขึ้นลิฟท์แล้วติดอยู่คนเดียวผมต้องทำยังไง ในเมื่อกดกริ่งขอความช่วยเหลือแล้วไม่มีคนได้ยิน แถมมือถือก็ไม่มีสัญญาณตั้งแต่เข้าลิฟท์มาเลย.."
ทั้งนี้ผมเข้าใจว่าเหตุการณ์ลิฟท์ค้างอาจเป็นเหตุจากการขัดข้องทางระบบที่อาจจะเกิดขึ้นได้
แต่ผมฝากไว้ให้ลองคิดเล่นๆดูนะครับ ว่า..
-หากมีคนติดลิฟท์ตัวนี้มากกว่าแค่ 5 คนขึ้นไป อากาศที่ใช้หายใจจะยังพออยู่มั้ย? ถ้ามีคนแก่ เด็กเล็ก ผู้ที่ไม่แข็งแรงพอ หรือผู้ที่กลัวที่แคบอยู่ในลิฟท์นี้ล่ะ พวกเค้าจะทนไหวมั้ยกับการติดลิฟท์นานเกิน 30 นาที และการช่วยเหลือที่ล่าช้าแบบนี้ ทางห้างจะรับผิดชอบอย่างไร?
-เมื่อมีการกดกริ่งขอความช่วยเหลือแล้วไม่มีใครได้ยินเช่นนี้ นั่นแปลว่าปกติไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำการในห้องควบคุมใช่หรือไม่? ถ้ามีเจ้าหน้าที่ประจำห้องควบคุม แล้วเจ้าหน้าที่หายไปไหนนับ 10 นาที?
-หากไม่มีสัญญาณโทรศัพท์แว๊บเข้ามาในมือถือ และไม่มีการโทรหา Call Center ของห้างดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะทราบหรือไม่ว่ามีลูกค้าติดลิฟท์อยู่?
-แบบนี้เท่ากับลูกค้าที่มาใช้บริการนั้นไม่ได้รับการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างสูงสุดใช่หรือไม่? เช่นนี้ระบบรักษาความปลอดภัยของห้างแห่งนี้ต้องมีการทบทวนหรือไม่?
-อาคารนี้เป็นอาหารจอดรถที่เพิ่งสร้างเสร็จ แต่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ นั่นเท่ากับความพร้อมยังไม่มีเท่าที่ควรและรีบเปิดใช้บริการ โดยที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้ามาเป็นอันดับ 1 หรือไม่?
อันนี้ฝากไว้ให้คิดนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น ห้างและเจ้าหน้าที่ควรมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ต่อความปลอดภัยของลูกค้าให้มากกว่านี้ ไม่สมกับเป็นห้างใหญ่ที่มีสาขามากมายทั่วประเทศจริงๆครับ ผิดหวังมาก
สุดท้ายหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ แม่พูดเลยว่า "ปกติเป็นคนไม่ชอบใช้ลิฟท์อยู่แล้ว ยิ่งทำให้คิดว่าไม่กล้าใช้ลิฟท์เข้าไปใหญ่ กลัวตายคาลิฟท์"
ส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ทำให้ผมตระหนักว่า เราควรมีสติเสมอ และจากนี้ผมคงต้องศึกษาหาแนวทางการช่วยเหลือตัวเองจากการติดลิฟท์ไว้บ้างเพื่อช่วยเหลือตัวเองหากพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้อีก ...
ซึ่งผมเองเลยอยากจะมาแบ่งปันเรื่องราว เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เป็นแนวทาง เพื่อการป้องกันเผื่อเกิดสถานการณ์แบบเดียวกัน และบอกเลยว่าผมเป็นคนหนึ่งที่จะไม่ไปจอดรถที่อาคารแห่งนี้อีก เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยของระบบลิฟท์รวมถึงการช่วยเหลือของห้างแห่งนี้ จึงอยากแนะนำว่าถ้าท่านใดไปจอดรถที่อาคารแห่งนี้ หาทางหนีทีไล่ของตัวเองไว้ในกรณีฉุกเฉินด้วยนะครับ ด้วยความปรารถนาดี