แอบรักเขา มา 3 ปี จน...ไม่ต้องแอบอีกต่อ... ###ความรักของผู้หญิงอ้วนๆคนหนึ่งกับรุ่นพี่ที่ชอบมากๆ

ความรักครั้งนี้มันเกิดขึ้นตอนมัธยมปลาย
เกริ่นก่อนเลยนะ  เราไม่ใช่คนสวยเรียกได้อาจจะไม่สวยเลยก็ได้ สิวเต็มหน้า แถมอ้วนอีกนะ แต่ก็ไม่ได้อ้วนเกินไปมั้ง..
ส่วนพี่ที่เราชอบ เขาถือว่าหล่อในระดับหนึ่งเลยนะ ขาว ตาตี่สูง เป็นนักบาสประจำโรงเรียน เป็นนักร้องอีก

ตามประสาความรักเด็กมัธยมอ่ะเนอะต้องมีแอบรักกันบ้าง

* ม.4 *

เราชอบรุ่นพี่คนหนึ่ง พี่เขาอยู่ ม.5 ส่วนเรา ม.4 ตอนนั้น เราเป็นเด็กใหม่ที่พึ่งเข้าไปเรารู้จักกับพี่ ไม่ซิ่...
เรียกว่าเรารู้จักพี่เขาข้างเดียวดีกว่า เพราะ พี่เขาไม่น่าจะรู้จักเราตอนนั้น ช่วงกีฬาสีเราเป็นนักบาส พี่เขาก็เป็นนักบาส ช่วงนั้นเจอพี่เขาบ่อย อาจจะเรียกว่าแทบทุกวันเลยก็ได้ แต่เราไม่เคยพูดหรือทักทายกันเลย  เเล้วเวลาเราอยู่ต่อหน้าพี่เขา รึ ว่าทำอะไรอยู่เราจะนิ่ง นิ่งมากๆ จนเขาอาจจะคิดว่าเราหยิ่งก็ได้มั้ง? (ไม่รู้ว่าใครเป็นแบบเราบ้างหรือเปล่านะ555) จนมีอยู่ครั้งหนึ่งเราแข่งทีมกัน แบ่งเป็นฝั่ง ผญ และ ผช เรากับพี่เขาอยู่ตำแหน่งเดียวกัน ทำให้เราต้องประกบพี่เขาไว้ตลอด ประกบไปประกบมาเราไปยืนอยู่ข้างหลังพี่เขาพอดีแล้วคราวนี้พี่เขากระโดดรับลูกพอดีทำให้ข้อศอกพี่เขากะแทกจมูกเราเต็มๆ
เลือดกำเดาออกเลย...   สภาพเราตอนนั้นกองอยู่กับพื้นเลยจ้า พี่เขาก็คงตกใจแหน่ะ แกก็รีบพยุงเราไปข้างสนามเลยแถมหาทิชชูมาเช็ดให้
ตอนนั้นก็ดีใจอยู่นะที่เขายังห่วง   มีความสุขบนความเจ็บปวด555
วันรุ่งขึ้น เขาก็ยังถามว่าเป็นไงโอเครรึเปล่า เราก็บอกโอเคร ไม่เป็นไรแล้วพี่ หลังจากเหตุการณ์วันนั้น...เราก็กล้าคุยกับเขามากขึ้นนะ
แต่แบบก็ทักทายแบบปกติทั่วไป โดยที่เขาก็ยังไม่รู้จักชื่อเรา

ฤดูกาลกีฬาสีผ่านไป...
เราเจอพี่เค้าน้อยลง  จะเจอก็เฉพาะพักเที่ยง เพราะพี่เขาเรียนอยู่ห้องกิฟ(เด็กกิฟจะมีห้องประจำไม่ต้องเดินเรียนเหมือนเด็กปกติ)
ส่วนเราเป็นแค่เด็กห้องปกติ ก็เดินผ่านห้องพี่เขามั่ง รึ ไม่ก็จะเจอตามห้องน้ำเวลาพักคาบแต่ ก็ไม่เคยทักหรือพูดคุยเหมือนช่วงกีฬาสีนะ
เราก็จะแบบทำเป็นเหมือนไม่เห็นเขาแหน่ะ ทั้งที่ทุกการกระทำของเขาอยู่ในสายตาเราตลอด

ตอน ม.4 ก็ไม่มีอะไรมากทำได้มากสุดก็แค่แอบมองไปเรื่อย แล้วก็ภาวนาทุกวันอย่าให้พี่เค้ามีแฟนเลย555

* ม.5 *  ส่วนพี่เค้าก็ ม.6
ม.6 ปีสุดท้ายของวัยมัธยม ซึ่งหมายความว่าจบปีการศึกษาเราอาจจะไม่ได้เจอพี่เขาอีก
ไม่รู้ว่ามีใครคิดเหมือนกันบ้างไหม  แต่เราคิดว่าเป็นปีสุดท้ายที่เราจะได้เจอพี่เขา อยากจะทำอะไรอยากจะบอกอะไร บอกเขาไปเลยดีกว่า... จริงไหม?

เทอมแรก ทุกอย่างดูเหมือนเดิม เราเป็นนักบาส พี่เขาก็เล่นบาสเหมือนเดิมพิเศษที่ว่าพี่เขาเป็นพี่ ม.6 ก็เลยต้องมาคุมทีมบาสทั้ง ญ ช
เราไม่รู้ว่าจะเรียกว่ากัปตัน หรือ ผู้จัดการ พี่เขาทำทุกอย่างตั้งแต่ซื้อน้ำยันฝึก นักบาสทุกคน เพราะพี่เขาเก่งระดับหนึ่งเลยแหล่ะ เป็นถึงนักกีฬาโรงเรียนไปแข่งระดับจังหวัดเลย แล้วแถมเป็นตัวแทนจังหวัด  พี่แกคุมได้โหดมากกกกกกกกกก
แล้วบางอย่างที่เราเจ็บใจคือ พี่เขาไม่รู้ชื่อเราหรือยังไง  เวลาที่เค้าจะเรียกเรา เขาเรียกเราว่า อ้วน เราแบบ หืมมมมม ในใจเลยย  ยกตัวอย่างนะ
- อ้วนวิ่งชนเลย เองตัวใหญ่อยู่แล้ว
- อ้วนไปยกกะติกน้ำให้หน่อย เอ็งตัวใหญ่สุด
- อ้วนไปเอาลูกบาสในตาข่ายให้หน่อยย

เราแบบ อ้วนพ่อง!!!! บางทีก็อยากกระโดดถีบอยู่นะ ให้ชอบแค่ไหนก็เถอะ

ก่อนวันสุดท้ายกีฬาสี เราไปช่วยพี่ ม.6 ทำสเตจ ถามว่าเกี่ยวไรกะ ม.5 ไหม ตอบเลย ไม่ เราอยากเสอนหน้าไปช่วยแค่นั้นเพราะเรารู้ว่าพี่เขาต้องไปทำสเตจ เราก็เลยชวนเพื่อนทั้งกลุ่มไปด้วย พี่ ม.6 เขาก็ดีใจอยู่ ที่มีน้อง ม.5 ไปช่วย ระหว่างเราทำสเตจเราก็ร้องเพลงเล่นกับเพื่อนๆ แต่ทุกๆเพลงที่เราร้องเป็นเพลงที่พี่เขาแชร์ทั้งหมด  (เราอาจจะโรคจิตเวลาที่เขาแชร์อะไร ไม่ว่าจะเพลง บทความไลฟ์สไตร์เราจะฟังซ้ำๆดูซ้ำแล้วชอบไปกับมันด้วย) เราก็แบบแหกปากร้องแหน่ะ ทำเป็นเล่นกับเพื่อน แล้วเรารู้ว่าพี่เขาอยู่ข้างหลังเราไง 555

บางครั้งก็คิดนะเวลาชอบใครมาก ต้องทำตัวบ้าๆบอขนาดนี้เลยหรอวะ

จนวัสุดท้ายของกีฬาสี เป็นวันเปิดงานมีเดินขบวน แล้ว เชียร์เสตจ
วันนั้นพี่เขาเป็นดามไม้แรกของสี   ส่วนเราเป็นสตาฟ ซัพพอตลีด วันนั้นเรายุ่งมากๆตั้งแต่เช้า แต่ใจเราอยากไปถ่ายรูปกับพี่เขาแต่หาโอกาศไม่ได้เลยสุดท้ายก็ไม่ได้ถ่าย   เพราะเรายุ่งแบบข้าวเช้า กลางวันไม่ได้กินเลย ความจริงเราไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ขนาดได้ แต่เราอาสาขอเป็น เพื่อที่จะเจอพี่เห็นว่าเขาทำไรอยู่ก็แค่นั้น  โชคเราก็มีอยู่บ้างนะ เพราะพวกลีดกับดามอยู่ห้องเดียวกัน เพราะต้องแสดงตอนเปิดแล้วก็ปิดงานเรียกว่าทั้งวันเราก็เห็นพี่เขาตลอดไม่ว่าจะทำอะไร ตอนไหน กินข้าว หลับ เปลี่ยนเสื้อผ้า 555มีความสุขถึงจะเหนื่อยก็ตาม...  อย่างน้อยก็ได้เห็นซิคแพคพี่เขาละหว้าา 555

ผ่านมาเทอม 2  เป็นเทอมที่พีคที่สุดแล้วมั้ง...
ใกล้ 14 กพ. วันวาเลนไทน์แล้ว     แถมใกล้ปิดเทอมแล้วด้วย หมายความว่าใกล้ที่เราจะไม่ได้เจอพี่เขาอีกแล้ว
ที่ผ่านมาเราทำได้แค่มองอยู่ห่างๆ พยามอยู่ในที่ๆที่เขาชอบอยู่ ไปในในที่ๆเขาชอบไป ที่ผ่านเราทำได้แค่นี้...
เพื่อนเรามันก็บอกเราว่า ปิดเทอมไปก็จะไม่เจอเขา อยากทำอะไรก็ทำๆไปเถอะ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย อย่างน้อยถ้าเราทำมันก็มีโอกาศ50/50
แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยมันก็ 0เลยนะ
เราก็ตัดสินใจว่าวันที่ 14 กพ. เราจะบอกพี่เขา เราซื้อฟอเรโร่ไปกล่องหนึ่ง วันนั้นทั้งวันเราไม่เจอพี่เขาเลย ทั้งๆที่ วันนั้นเป็นวันอังคาร
ม. ปลายภาคบ่ายจะว่าง  แล้ววันนั้นเรามีประชุมด้วย เราก็คิดว่าคงไม่ได้เจอแล้วล่ะ ....

พอเราลงมาจาที่ประชุม เราก็ไปนั่งรอเพื่อนหน้าตึก ซึ่งเป็นตึกที่พี่เขาอยู่ เราก็แบบเอาไงดี้ว้าาา ใจก็ไม่กล้า อีกใจก็อยากจะบอก
เพื่อนทุกคนก็แบบ ให้เลย บอกเลย ทำเลยเดี๋ยวจะไม่เจอแล้ว เราก็แบบ กูไม่กล้าไงงงง

จนมีเพื่อนพี่เขาเดินผ่านโต๊ะเราลงมา แล้วเราสนิทกับพี่คนนี้ไง(เรียกว่าพี่ ม ก็ได้) เราก็เลยเอาเฟอเรโร่ให้พี่ ม แล้วบอกฝากให้พี่ ฟ ด้วย
(พี่ ฟ คือชื่อย่อของคนที่เราชอบ)  พี่ ม แกก็คง งงๆแร่ะมั้ง เพราะวันเดือนปี เราไม่สนิท กับพี่ ฟ ขนาดนั้น แต่พี่เขาก็เอาไปให้นะ ระหว่างที่พี่เขาเอาไปให้
เรา วิ่งหนี วิ่งแบบไม่คิดชีวิต อายก็อาย กลัวก็กลัว คิดไปต่างๆนาๆ ประโยคสุดท้ายที่เราได้ยินคือพี่ ม บอกกะพี่ ฟ ว่าเรา เอามาให้ไม่รู้แกจะเห็นหน้าเราไหม แต่ก็แบบทำไปแล้วอ้ะ 555

###เดี๋ยวมาต่อนะว่าเหตุการณ์จะเป็นไง

ที่เรามาเล่าให้ฟังเราก็แค่อยากมาแชร์ประสบการการแอบรักของจนไปถึงไม่แอบอีกต่อไป55
และเราแค่อยากเก็บไว้เป็นความทรงจำ เพราะเวลาผ่านๆไป เราจะลืมก็ได้

***แล้วอีกอย่าง เราอยากจะบอกกับคนทุกคนที่กำลังแอบรัก ว่าการแอบรักมันอาจจะไม่ได้เจ็บปวดเสมอไป  แต่ก็อาจจะไม่ได้แฮปปี้เหมือนในนิยายขนาดนั้น การแอบรักใครสักคน   มันทำให้เราได้ทำอะไรแปลกบ้าๆต๊องๆอย่างที่ไม่คิดว่าจะทำก็ได
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่