บทความตามใจฉัน “Game of Consoles: 10NES Chip” Part 1

บทความตามใจฉัน “Game of Consoles: 10NES Chip” Part 1

จากที่เคยเล่าไปใน Game of Consoles: NES Part 2 ว่า ความสำเร็จของ NES ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายการควบคุมคุณภาพของเกมอย่างเข้มข้นของ Nintendo วันนี้เราจะมาลงในรายละเอียดโดยสังเขปว่ามีอะไรบ้าง ทำไมมันถึงสร้างความแค้นของบริษัทพัฒนาเกมต่อ Nintendo นักและการลุกขึ้นสู้ต่อนโยบายดังกล่าว


การที่บริษัทเกมจะพัฒนาเกมลงบนระบบ NES ได้นั้น บริษัทจำต้องปฏิบัติตามนโยบายการควบคุมคุณภาพเกมของ Nintendo ซึ่งข้อกำหนดของนโยบายดังกล่าวถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ได้ดังนี้

Software content เป็นการตรวจสอบเกี่ยวกับระบบและเนื้อหาของเกม ตรงนี้ผู้เขียนมีข้อมูลไม่มากว่ามีเกณฑ์การตรวจสอบอย่างไรแต่ที่แน่ชัดคือ Nintendo ให้ความสำคัญกับความรุนแรงในเกมมาก จะสังเกตได้ว่าเกมใน NES ไม่ว่าจะยิงกันแค่ไหน ตัวละครสยดสยองเพียงไรก็จะแทบจะไม่มีเลือดปรากฏในเกม แต่กระนั้นเกณฑ์การตรวจสอบนี้ก็ไม่ได้ช่วยคัดกรองให้เกมที่ไม่สนุกไม่สามารถวางขายได้แต่อย่างไร


การผลิตตลับเกม เป็นเกณฑ์เกี่ยวกระบวนการผลิตตลับเกมที่จะใช้กับเครื่อง NES
และนี่เป็นจุดที่สร้างความขัดแย้งระหว่าง Nintendo กับบริษัทเกมหลายแห่ง มีรายละเอียดโดยสังเขปดังนี้

- Nintendo จะถือสิทธิ์เป็นผู้ผลิตตลับเกมแต่เพียงผู้เดียว

- การผลิตตลับเกม บริษัทเกมจะต้องสั่งผลิตจำนวนขั้นต่ำ 10,000 ตลับในแต่ละ Order

- ค่าใช้จ่ายในการผลิตตลับเกม บริษัทเกมจะต้องจ่ายล่วงหน้า “เต็มจำนวน”

- แต่ละบริษัทจะได้รับโควตาผลิตตลับเกมได้เพียง 5 เกมต่อปีเท่านั้น เพื่อให้แต่ละบริษัทโฟกัสไปที่คุณภาพของเกมให้เต็มที่ (วิธีนี้ บริษัทใหญ่บางแห่ง ใช้วิธีตั้งบริษัทลูกขึ้นมาเป็นตัวแทนจะได้ขายเกมได้มากกว่า 5 เกมต่อปี)


สรุปได้ว่า Nintendo นอกจากกำไรจากการขาย NES แล้วยังค้ากำไรจากการคิดค่าผลิตตลับเกมกับบริษัทเกมอีกด้วย
และหากนั้นยังไม่แย่พอ Nintendo มีข้อตกลงกับบริษัทเกมเพิ่มเติมว่าเกมใด ๆ ที่ลง NES นั้นจะเป็น
Exclusive ของ NES ระยะเวลา 2 ปี  (บริษัทจะไม่สามารถนำเกมไปลงเครื่องระบบอื่นได้เป็นเวลา 2 ปี)

จากนโยบายที่กล่าวมา ทำให้หลาย ๆ บริษัทเกมสูญเสียรายได้มากมายหรือขาดทุนมหาศาลจากการพัฒนาเกมลงบน NES และสร้างความไม่พอใจแก่บริษัทเหล่านั้นไม่น้อย แต่ตอนนั้นบริษัทเหล่านี้ไม่มีทางเลือกเพราะ NES เป็นเครื่องเกมที่ครองตลาดเกือบทั้งหมดในเวลานั้น ทิ้งห่างคู่แข่งไกลลิบ


กระนั้นข้อกำหนดนี้ยังมีจุดอ่อนอยู่คือ ถ้าบริษัทเกมผลิตตลับเกมที่เล่นบน NES ได้เองแล้วล่ะก็
นอกจาก Nintendo จะเสียรายได้จากค่าการผลิตตลับแล้วจะทำให้เกณฑ์การควบคุมคุณภาพเกมไม่มีผลอีกต่อไป

Nintendo ก็รู้จุดอ่อนนี้ดี ดังนั้น 10NES Chip จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการนี้

10NES Chip คือ Chip ที่ถูกติดตั้งเพื่อควบคุมเครื่อง NES “ไม่ให้ทำงาน” หากตรวจสอบตลับเกมแล้วพบว่า

- เป็นตลับเกมที่ละเมิดลิขสิทธิ์

- เป็นตลับเกมที่อยู่คนละโซน (จะเห็นว่าการล๊อกโซนนั้นมีมานานแล้ว)

แต่จุดประสงค์ที่ Nintendo ไม่ได้บอกออกมาตรง ๆ ก็คือเพื่อควบคุมบริษัทเกมต่าง ๆ ไม่ให้ละเมิดเกณฑ์การควบคุมคุณภาพและรักษาผลประโยชน์การผลิตตลับเกมของ Nintendo


แล้วทำไมถึงได้ผล

- เพราะการที่จะทำให้เครื่อง NES ทำงานได้ ตลับเกมที่ใช้จะต้องมี 10NES Counter Chip ติดตั้งอยู่

- เพราะ Nintendo เป็นผู้ถือครองสิทธิ์บัตร Source code เพื่อผลิต 10NES Counter Chip แต่เพียงผู้เดียว

- และเฉพาะตลับเกมที่ “Nintendo เป็นผู้ผลิตเท่านั้น” ที่จะถูกติดตั้ง Counter Chip
นั้นก็คือ บริษัทเกมเองสามารถผลิตตลับเกมของตัวเองได้ แต่ ตลับเหล่าก็ไม่สามารถใช้บน NES ได้อยู่ดี

ด้วยเหตุนี้ทำให้ทุกบริษัทเกมจึงต้องทำตามนโยบายของ Nintendo หากต้องการให้เกมของตัวเองขายได้


ในทางกลับกันหากบริษัทเกมสามารถ By pass 10NES Chip ได้ บริษัทก็จะเป็นอิสระจาก Nintendo
และสามารถทำเกมและผลิตตลับเกมตามที่ตนต้องการได้

มันเป็นความคิดที่ดี แต่ประเด็นคือการปฏิบัติให้ได้จริงนั้นยากมาก ไม่มีใครและไม่เคยมีใครที่สามารถเจาะผ่าน
10NES Chip ได้ด้วยเทคนิคที่ปลอดภัยเลยนับตั้งแต่ NES ออกวางจำหน่ายในปี 1983

เทคนิคเจาะผ่าน10NES Chip ในขณะนั้นคือการติดตั้ง Chip ในตลับเกมที่จะส่งกระแสไฟฟ้าแรงสูงเพื่อช๊อต
10NES Chip ไม่ให้ทำงานแต่ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้เครื่องเกมจะเสียหาย

และเทคนิคนี้ยังนานวันยิ่งใช้ไม่ได้ผลเพราะ Nintendo จะคอยปรับแก้ 10NES Chip เพื่อรับมืออยู่เสมอ

จนกระทั้งปี 1988 ในที่สุดก็มีบริษัทเกมที่ By pass 10NES Chip โดยสมบูรณ์ได้สำเร็จ บริษัทนั้นชื่อ Tengen


To be continue in Part 2 >> https://ppantip.com/topic/38643981

ปล.ตอนนี้ผมได้เปิด Facebook Page “บทความตามใจฉัน” โดยบทความจะหลายหลากคละประเภทกันไปความตามความสนใจนั้นขณะนั้น ถ้าสนใจก็กดติดตามได้ครับ
https://www.facebook.com/uptomejournal/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่