เนื่องจากอาทิตย์ที่แล้วผมค่อนข้างยุ่งเลยไม่ได้ตั้งกระทู้ขอทำรวบยอดเลยนะครับ

ของตอน 7 ก็จะขอรวบรัดเลยคือ ในการแข่งกันระหว่างกิพเพน+เค vs แฟนทอม
เนื่องจากไม่มีเวลาพอจะมาจัดการรบจำลองแบบครั้งก่อนก็เลยใช้ซิมูเลชันแทน

หลังจากเริ่มไปได้ไม่นาแฟนทอมก็บอกว่าได้ถอนการติดตั้งโปรแกรมหน่วงเวลาการประมวลผล
ที่ให้ช่างจากโคมัตสึมาแอบติดตั้งไว้ออกแล้ว


แฟนทอมเริ่มการใส่ข้อมูลปลอมลงใน Data link อีกครั้งจนกริพเพนสับสนและหมดสติไป


แต่เคได้เปลี่ยนกลับมาควบคุมแทน ทำให้สามารถรู้ที่อยู่ของแฟนทอมและยิงแฟนทอมตกได้
ทำเอาแฟนทอมงงว่าทำไมถึงรู้



นั่นก็เพราะหลังจากกริพเพนหมดสติ เคได้สลับการบังคับมาที่ตัวเองซึ่งเป็นอินเตอร์เฟสควบคุมสำหรับมนุษย์
การแทรกแซงระบบของแฟนทอมจะหลอกได้แค่ Data link ของอนิม่าเท่านั้น เท่ากับว่าพอสลับมาที่เคแล้ว ก็เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเธออยู่ไหน
ส่วนโปรแกรมหน่วงเวลานั่นก็ติดตั้งไว้เป็นตัวล่อทำให้แฟนทอมประมาทเท่านั้นเอง


แฟนทอมยอมรับความพ่ายแพ้และทำตามเงื่อนไข แต่เธอขอให้เคเป็นผู้บังคับเครื่องในการรบพรุ่งนี้ด้วยตัวเอง

เคก็ลังเลว่าตัวเองจะทำได้หรือไม่ แต่จากการที่กริพเพนต้องคอยระวังเรื่องแรง G ให้กับเคทำให้ใช้ความเร็ว ความว่องไวมากไม่ได้แล้วมันก็ไม่ต่างกัน

กลางดึกเคบังเอิญมาเจอกับกริพเพนที่กำลังปรับแต่งดอเธอร์อยู่โรงเก็บเพราะนอนไม่หลับ
ก็ระบายกับกริพเพนถึงความไม่มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้รึเปล่า แล้วก็เหลือบไปเห็นดอเธอร์ของ F-2A ไวเปอร์ ซีโร่
เป็นเครื่องที่ประจำการอยู่ฐานทัพอากาศนาฮะแห่งนี้ ที่เธอไม่ได้เข้าร่วมภารกิจเพราะจำเป็นต้องอยู่ป้องกันฐานทัพ



F-2A-ANM Viper Zero

เครื่องบินขับไล่หลากบทบาท (Multirole fighter) เครื่องยนต์เดี่ยว ประจำการอยู่ที่ฐานทัพอากาศนาฮะ

ด้วยความที่ต้องอยู่ป้องกันฐานทัพอากาศนาฮะ ตัวอนิม่าจึงเป็นคนเงียบ ๆ หวาดกลัวสังคม
ในยามที่กริพเพนและอีเกิลเข้าใปในห้องขณะที่เธอกำลังดื่มชา ก็จะแอบหลบไปซ่อนตัวที่ไหนสักแห่ง

แต่ถ้าพูดถึงขีดความสามารถในการรบล่ะก็จัดว่าสูงทีเดียว
กริพเพนเคยบอกว่า เครื่องบินที่ยิงจรวดต่อสู้เรือรบได้ถึง 4 ลูกนี่มันพวกโรคจิตชัด ๆ

Mitsubishi F-2A Viper Zero เป็นเครื่องบินที่มิตซูบิชิ เฮวี่ อินดัสทรีย์ส ของญี่ปุ่น ร่วมกับ ล็อกฮีด มาร์ติน ของสหรัฐอเมริกาพัฒนาต่อยอดมาจาก F-16 Fighting Falcon

F-2A เป็นรุ่นที่นั่งเดี่ยวแบบโจมตี และชื่อ Viper Zero นั้นก็มาจากการเอาชื่อ Viper ที่นักบินใช้เรียก F-16 มารวมกับชื่อ Zero ของ A6M Zero เครื่องบินขับไล่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ของมิตซูบิชิ
-------------------------------

ในวันรุ่งขึ้น ระหว่างทางกองเรือที่ 7 ของอเมริกาถูกไซโจมตี เลยจำเป็นต้องมี 1 คนแยกตัวไปช่วย
แฟนทอมเลยหลอกอีเกิลว่า ท่านพ่อ(ยาชิโระโดริ) เป็นบอกให้ไป ถ้าเจ้าพวกนั้นเจออีเกิลล่ะก็สู้ไม่ไหวแน่
ก็เลยทำให้อีเกิลที่บ้ายอยอมแยกตัวออกไปแต่โดยดี

เท่ากับว่าศึกครั้งนี้แฟนทอมจะมีเพียงเคและกริพเพนคุ้มกันเพียงลำเดียวเท่านั้น

-------------------------------------------------------------

ตอนที่ 8

แฟนทอมแอบมีแทรกแซงการบังคับเครื่องแทนเค แต่ที่ทำก็เพื่อช่วยสอนให้เคจดจำความรู้สึกเอาไว้

ไซเริ่มยิงระเบิดลูกปรายอีกครั้ง โดยไม่สนว่าจะโดนพวกเดียวกันหรือไม่ ครั้งนี้ทั้งคู่พยายามบินวนรอบเกาะเพื่อหลบเศษลูกปราย

ทันใดนั้น F-2A ไวเปอร์ ซีโร่ที่อยู่ ๆ ก็โผล่มา แถมทิ้งระเบิด (free-fall bomb) ใส่แท่นยิงอาวุธต่อสู้อากาศยานบนเกาะ0oถูกทำลายหมด
กริพเพนก็บอกแว่าตัวเอก็มีความสามารถในการปฏิบัติการรบผิวน้ำ แต่บรรทุกระเบิดเยอะขนาดนั้นไม่ได้
ว่าแล้วเชียว ยัยนี่มันโรคจิต


แฟนทอมได้โอกาสส่งพิกัดพร้อมคำสั่งโจมตีไปยังกองเรือที่ 7 และกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินเพื่อยิงอาวุธปล่อยนำวิถีถล่มเกาะ

อลังการเกินไปแล้วววว


ฐานทัพของไซถูกทำลายลงได้ เคและพวกอนิม่าก็ได้มาเล่นน้ำทะเลที่โอกินาวะกันก่อนกลับ

มีทั้งไซส์ใหญ่ กลาง เล็ก ให้เลือกเลยนะคะ
"ล้อเล่นค่ะ"

เคและแฟนทอมคุยกันถึงผลลัพธ์ที่ออกมา ดูเหมือนแฟนทอมเองก็อยากเดิมพันกับการทำงานร่วมกันของมนุษย์และอนิม่าอยู่
บางทีเคอาจจะเป็นกุญแจสำคัญในสงครามครั้งนี้ก็ได้

ถ้าอยากหาพาร์ทเนอร์ใหม่เมื่อไหร่ล่ะก็ ฉันยังรออยู่นะคะ

หลังจากเพลง OP ดูเหมือนเคและหมิงฮวาจะมีปากเสียงกัน ยาชิโระโดริก็มีเรื่องด่วนเรียกตัวไปโอกินาวะอีกครั้งพอดี

เพราะว่ากริพเพนมีชิ้นส่วนที่ต้องเปลี่ยนจากที่นี่ ซึ่งจะใช้เวลาน้อยกว่าเอาขึ้นเครื่องแล้วไปประกอบที่โคมัตสึ
ที่เรียกเคมาด้วยก็เพราะอาจต้องขอความเห็นของตัวนักบินด้วย
ระหว่างนี้ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยออกไปเลยเล่นก่อน

แต่อยู่ ๆ ก็พบกับหมิงฮวา (ซึ่งก็คือไวเปอร์ ซีโร่นั่นแหละ) ไม่รู้ว่าเธอมาที่นี่ได้อย่างไร การแต่งตัวก็ต่างไปจากเดิม
แต่ว่าไม่ว่าจะอธิบายอะไรไปเธอก็ไม่พูดด้วย เคเลยคิดว่าเธอน่าจะยังโกรธอยู่


เล่าย้อนไปก่อนที่เคจะถูกเรียกตัว คือทั้งคู่มีหนังเรื่องที่อยากดูอยู่ แต่กลายเป็นว่าเคไปดูกับเพื่อนมาก่อนแล้วเพราะไม่รู้ว่าหมิงฮวาอยากไปดูด้วยกันเนื่องจากเธอไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ ทั้งคู่เลยทะเลาะกัน

ไวเปอร์ ซีโร่ที่อยู่ ๆ เจอใครก็ไม่รู้มาเดินตามแถมยังเล่าอะไรก็ไม่รู้ให้ฟัง ก็เริ่มสนใจ ต่อมเผือกทำงาน
จึงพิมพ์ใส่มือถือถามเคว่าอยากปรับความเข้าใจกับคนคนนั้นเหรอ

เคก็ยัง งงอยู่เพราะเข้าใจผิดว่านั่นคือหมิงฮวา ก็เลยเล่ารายละเอียดให้ฟัง
กลายเป็นว่ามานั่งระบายโดยมีไวเปอร์ ซีโร่เป็นที่ปรึกษา

สรุปว่าไวเปอร์ ซีโร่แนะนำให้พาหมิงฮวาไปดูหนังเรื่องอื่นด้วยกันแทน
สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าจะดูหนังอะไร แต่อยู่ที่ประสบการณ์ที่ทั้งสองคนได้อยู่ด้วยกันต่างหาก

ระหว่างนั้นช่างจากโคมัตสึ... (ขอโทษครับผมลืมชื่อลุงไปแล้ว ทั้งที่เพิ่งบอกเมื่อตอนที่แล้ว)
ก็โผล่มาพอดีเพราะต้องการความเห็นจากนักบินเรื่องการปรับแต่ง และไวเปอร์ ซีโร่ก็หายตัวไปทันที

เคเลยโทรไปหาหมิงฮวาว่าอยู่ที่ไหน รีบ ๆ กลับมา ทางนั้นเลยบอกว่า นั่นมันบทพูดฉันย่ะ!!

ยาชิโระโดริบอกว่า จากลักษณะของชุดแล้วคงเป็นไวเปอร์ ซีโร่นั่นแหละ เพราะเจ้านั่นชอบแต่งตัวแบบนั้น
ที่เห็นเป็นหมิงฮวานั่นก็เพราะเธอต่างจากอนิม่าคนอื่น ๆ
รูปลักษณ์จะเปลี่ยนไปตามคนที่มองเธอ เหมือนภาพสะท้อนในจิตใจของคนนั้นว่าต้องการใครที่สุด
ทำให้แต่ละคนจะเห็นหน้าตาเธอแตกต่างกันไป


เคกลับมาบ้าน เจอหมิงฮวา (ตัวจริง) ยืนหน้าบึ้งอยู่
ที่จริงแล้วเธอก็โกรธแหละ แต่คิดว่าเคกลับมาเหนื่อย ๆ เลยบอกให้มากินข้าวเย็นก่อน

ทั้งคู่ขอโทษเรื่องเมื่อเช้าที่ตัวเองพูดจาไม่ดีใส่จนปรับความเข้าใจกันได้
และก็ชวนหมิงฮวาไปดูหนังเรื่องอื่นด้วยกัน เธอก็ตอบตกลงว่าไปแน่นอน

แต่ไอ้นี่ก็ปากพาจน อยู่ดีไม่ว่าดี ดันบอกว่าหมิงฮวาไม่น่าเหมาะกับชุดกระโปรงมีระบายใส่ริบบิ้นหรอก
เอาจริง ๆ ตอนแต่งชุดนักเรียนยังว่าแปลกเลย ไปใส่ชุดผู้ชายจะดีกว่า (นี่แกอยากตายเหรอ???)

สุดท้ายทั้งคู่ก็กลับมาทะเลาะกันอีกจนได้


ตัดภาพไปที่อนิม่า และดอเธอร์ลำใหม่ที่จะมีบทในตอนต่อไป


F/A-18 Super Hornet หรือ ไรโน จากอเมริกา


หนูน้อยกริพเพนที่ถูกล่อลวงด้วยพิซซ่า