ห่างหายจากการีวิวไปนาน (รีวิวเก่าก็ดองไว้ไม่เสร็จซะที) วันนี้ฤกษ์งามยามดีได้มีโอกาสไปสักการะเจดีย์ในเมืองMinbu มาค่ะ พูดชื่อเมืองขึ้นมาหลายคนอาจจะไม่รู้จัก เมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่ทางเหนือขึ้นไปจากเมืองแปร แต่อยู่ต่ำกว่าพุกามลงมาหน่อย ส่วนสภาพอากาศช่วงนี้ตอนเช้าจะเย็นสบายเหมือนอยู่ยอดเขา พอตกบ่ายนี่นึกว่าอยู่ปากปล่องภูเขาไฟ ร้อนจนผิวเปลี่ยนสีอย่างเห็นได้ชัด
ไป Minbu ครั้งนี้เราได้มีโอกาสไปที่
Shwe Set taw Pagoda ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมือง Minbu ประมาณ 55 กม. การเดินทางของเราคราวนี้นั่งรถ Bus VIP จากย่างกุ้งรอบ 20.30น. ถึงเมือง Minbu ประมาณเกือบหกโมงเช้า เราใช้บริการของ Golden Mandalay ราคาตั๋วประมาณ 16,000 Kyats เป็นรถที่นั่งสบาย มีผ้าห่มให้พร้อม ติดอยู่อย่างเดียวคือคนขับไม่ปิดไฟในรถทั้งหมด แสงแยงตาเลยนอนไม่ค่อยจะหลับเท่าไหร่
จาก Minbu สามารถนั่งรถ Minibus ไปที่เจดีย์ได้ ราคาประมาณ 3.000 Kyats ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ขึ้นที่ไหนอันนี้ไม่ทราบจริงๆ เพราะเราใช้บริการรถส่วนตัว (เหรอ?) เลยได้นั่งแบบเปิดโล่งโปร่งสบาย แอร์ไม่มี กระจกเปิดทุกบาน ที่นั่งชั้นพิเศษ รถกระแทกทีหัวชนหลังคารถ สุดท้ายไปถึงที่นั่นแบบหัวฟูๆ ส่วนถนนช่วงนี้ก็กำลังซ่อมอยู่ สภาพดูไม่แย่ แต่นั่งกระแทกจนอาหารเช้ากองมาจุกรวมกันที่คอ
Shwe Set taw Pagoda เป็นเจีดีย์ที่แบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วน Upper
(Ahtet Set Taw Ya) และ Lower
(Auk Set Taw Ya) ซึ่งเจดีย์ทั้งสองแห่งจะบรรจุรอยพระพุทธบาทเอาไว้ และในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนเมษายนของทุกปี (ช่วงนี้) ที่นี่จะมีเทศกาลงานวัดประจำปี บรรยากาศจะคึกคักมากกว่าปกติ ราคาที่พักก็อัพขึ้นไปเป็นเท่าตัว
พอมาถึงแล้วเราก็แวะเดินดูตลาดในงานวัดซะหน่อย ของที่ขายก็จะเหมือนงานเทศกาลทั่วๆ ไปของพม่า ถ้าใครเคยไปเมือง Tauggyi เพื่อไปดูเทศกาล
(คล้ายๆ ) ลอยกระทงก็จะพอนึกออกว่าสภาพเป็นแบบไหน แต่ถ้าใครไม่เคยเราตามไปดูเลยว่าตลาดที่ Set up มาชั่วคราวหน้าตาเป็นยังไง
เพราะเดินดูจนคิดว่าไม่มีอะไรจะดูแล้วก็ได้เวลาเดินขึ้น (ใช่ค่ะ...มันต้องเดินขึ้น) ไปเจดีย์ในส่วน Upper (Ahtet Set Taw Ya) กัน หลังจากที่ฝากรองเท้าแล้วเหมือนจะมีแรงฮึดว่าจะเดิน แต่พอเงยหน้าดู ระยะทางช่างยาวไกลและสูงชัน ทำให้ความฮึดในช่วงแรกละลายหายไปกับไอแดด
สองข้างทางจะมีขายของต่างๆ แต่จุดนี้ไม่ดู ไม่แล ไม่แคร์อะไรทั้งนั้น เพราะความล้าจากวัยมันเริ่มมาเยือน เดินๆ ไปก็หยุดพัก ทำเป็นอยากถ่ายรูปขึ้นมาซะงั้น
เดินไปถึงอีกจุดเห็นมีพระพุทธรูปองค์ขนาดกลางตั้งอยู่ นี่ถึงแล้วใช่มั๊ย? เปล่าเลยเค้าเดินเลยผ่านตรงนี้ไปอย่างไม่ถามไถ่สักคำ ตอนเดินกลับถึงได้ฉุดกระชากให้หยุดแล้วขอแวะไหว้ซะหน่อย
พอถึงจุดนี้ ไกด์ประจำตัวบอกว่า “ถึงแล้วจ้า” ดีใจน้ำตาไหล รีบก้มลงกราบพระ บั้นท้ายกระดกไป 3 ทียังไม่ทันได้พักหายใจ “เราไปทางนั้นกันต่อนะ”
แล้วชั้นเลือกอะไรได้มั๊ย? ไม่ได้สินะ ต้องเดินต่อไป เดินขึ้นอีกจนถึงลานกว้างๆ มีลูกกรงอยู่ด้านหน้า เห็นคนเดินเยอะๆ เราก็ตามไป แต่แล้ว “รอตรงนี้นะ ผู้หญิงเข้าไม่ได้” เราได้แต่ทำตาปริบๆ แล้วฝากมือถือให้เค้าไปถ่ายรูปมาให้ เมื่อเราทำอะไรไม่ได้ก็ควักเงินขึ้นมาทำบุญต่อไป
ตรงจุดนี้เราจะได้เห็นวิวพาโนฯ ของ Auk Set Taw Ya พร้อมกับสายน้ำที่ลากผ่านหน้าเจดีย์ พร้อมกับเรือนแพที่พัก และซุ้มขายของที่เรียงรายอยู่ด้านหน้าเจดีย์
ถ่ายรูปเสร็จได้หายใจสองฟืด “ป่ะ...เราไปกันต่อนะ” ก้มหน้าก้มตาเดินตามเค้าต่อไปจนถึงจุดสูงสุด ด้านบนจะเป็นเจดีย์ขนาดเล็ก แต่กลับไม่มีใครถ่ายรูปกับเจดีย์นี้เท่าไหร่
ทุกคนสนใจแต่รูปปั้นนายพราน ว่าแล้วก็เดินเข้าไปถ่ายกับเค้า แต่ถ้าถามว่าประวัติความเป็นมาว่าไง อันนี้ตอบไม่ได้ เพราะคนพามาพูดอังกฤษไม่ได้ ฮือๆ
จากจุดนี้เราก็เดินกลับลงมาเรื่อยๆ เดินไปขาก็สั่นหวั่นไหว ผลจากการไม่ได้ออกกำลังกาย เข่าทรุดเข่าอ่อนมากๆ หลังจากรับรองเท้าที่ด้านล่างแล้ว เราก็เดินข้ามสะพานเล็กๆ เพื่อไปยังฝั่ง Lower (Auk Set Taw Ya) ตรงนี้เราก็ต้องถอดรองเท้า (อีกแล้ว) เพื่อเข้าไปสักการะรอยพระพุทธบาท แน่นอนว่าหญิงอย่างเราไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ ต้องฝากเงินและมือถือให้ชายหนุ่มเข้าไปถ่ายรูปออกมาให้
เราได้แต่ก้มลงกราบขอพรอยู่ด้านนอก ก่อนที่จะเดินไปรอบๆ แล้วเตรียมตัวกลับ แต่ระหว่างทางไกด์ประจำตัวได้พาเราไปดูที่พักสำหรับที่ที่อยากค้างคืน
และเล่นน้ำในที่แห่งนี้ ซึ่งราคาห้องพักมี 2 แบบคือแบบติดน้ำ กับไม่ติดน้ำ ทั้ง 2 แบบขนาดเท่ากัน วัดด้วยตาไม่น่าเกิน 10 ตร.ม. เป็นห้องโล่งๆ ผนังไผ่สาน พื้นก็ไผ่สาน ส่วนราคานั้นเห็นว่าห้องไม่ติดริมน้ำ 20,000 Kyats ถ้าติดริมน้ำ 30,000 Kyats แต่ถ้าเป็นช่วงนี้ที่เป็นช่วงเทศกาล ราคาก็จะอัพขึ้นไปอีก สำหรับเราเห็นสภาพแล้วขอบาย เอาเป็นว่ามาเที่ยวแบบ One day trip ก็พอ
ที่ Minbu นอกจากจะมีเจดีย์แล้ว ยังมี Mud Volcano อีก แต่ด้วยเวลาเที่ยวอันจำกัด เลยเลยอดไป ฮือๆ
[CR] เที่ยวหลุดกรอบแบบทัวร์ไม่พาแต่ชั้นอยากไป ไหว้พระพุทธบาทที่ Minbu ประเทศพม่า
ห่างหายจากการีวิวไปนาน (รีวิวเก่าก็ดองไว้ไม่เสร็จซะที) วันนี้ฤกษ์งามยามดีได้มีโอกาสไปสักการะเจดีย์ในเมืองMinbu มาค่ะ พูดชื่อเมืองขึ้นมาหลายคนอาจจะไม่รู้จัก เมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่ทางเหนือขึ้นไปจากเมืองแปร แต่อยู่ต่ำกว่าพุกามลงมาหน่อย ส่วนสภาพอากาศช่วงนี้ตอนเช้าจะเย็นสบายเหมือนอยู่ยอดเขา พอตกบ่ายนี่นึกว่าอยู่ปากปล่องภูเขาไฟ ร้อนจนผิวเปลี่ยนสีอย่างเห็นได้ชัด
ไป Minbu ครั้งนี้เราได้มีโอกาสไปที่ Shwe Set taw Pagoda ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมือง Minbu ประมาณ 55 กม. การเดินทางของเราคราวนี้นั่งรถ Bus VIP จากย่างกุ้งรอบ 20.30น. ถึงเมือง Minbu ประมาณเกือบหกโมงเช้า เราใช้บริการของ Golden Mandalay ราคาตั๋วประมาณ 16,000 Kyats เป็นรถที่นั่งสบาย มีผ้าห่มให้พร้อม ติดอยู่อย่างเดียวคือคนขับไม่ปิดไฟในรถทั้งหมด แสงแยงตาเลยนอนไม่ค่อยจะหลับเท่าไหร่
จาก Minbu สามารถนั่งรถ Minibus ไปที่เจดีย์ได้ ราคาประมาณ 3.000 Kyats ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ขึ้นที่ไหนอันนี้ไม่ทราบจริงๆ เพราะเราใช้บริการรถส่วนตัว (เหรอ?) เลยได้นั่งแบบเปิดโล่งโปร่งสบาย แอร์ไม่มี กระจกเปิดทุกบาน ที่นั่งชั้นพิเศษ รถกระแทกทีหัวชนหลังคารถ สุดท้ายไปถึงที่นั่นแบบหัวฟูๆ ส่วนถนนช่วงนี้ก็กำลังซ่อมอยู่ สภาพดูไม่แย่ แต่นั่งกระแทกจนอาหารเช้ากองมาจุกรวมกันที่คอ
Shwe Set taw Pagoda เป็นเจีดีย์ที่แบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วน Upper (Ahtet Set Taw Ya) และ Lower (Auk Set Taw Ya) ซึ่งเจดีย์ทั้งสองแห่งจะบรรจุรอยพระพุทธบาทเอาไว้ และในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนเมษายนของทุกปี (ช่วงนี้) ที่นี่จะมีเทศกาลงานวัดประจำปี บรรยากาศจะคึกคักมากกว่าปกติ ราคาที่พักก็อัพขึ้นไปเป็นเท่าตัว
พอมาถึงแล้วเราก็แวะเดินดูตลาดในงานวัดซะหน่อย ของที่ขายก็จะเหมือนงานเทศกาลทั่วๆ ไปของพม่า ถ้าใครเคยไปเมือง Tauggyi เพื่อไปดูเทศกาล
(คล้ายๆ ) ลอยกระทงก็จะพอนึกออกว่าสภาพเป็นแบบไหน แต่ถ้าใครไม่เคยเราตามไปดูเลยว่าตลาดที่ Set up มาชั่วคราวหน้าตาเป็นยังไง
เพราะเดินดูจนคิดว่าไม่มีอะไรจะดูแล้วก็ได้เวลาเดินขึ้น (ใช่ค่ะ...มันต้องเดินขึ้น) ไปเจดีย์ในส่วน Upper (Ahtet Set Taw Ya) กัน หลังจากที่ฝากรองเท้าแล้วเหมือนจะมีแรงฮึดว่าจะเดิน แต่พอเงยหน้าดู ระยะทางช่างยาวไกลและสูงชัน ทำให้ความฮึดในช่วงแรกละลายหายไปกับไอแดด
สองข้างทางจะมีขายของต่างๆ แต่จุดนี้ไม่ดู ไม่แล ไม่แคร์อะไรทั้งนั้น เพราะความล้าจากวัยมันเริ่มมาเยือน เดินๆ ไปก็หยุดพัก ทำเป็นอยากถ่ายรูปขึ้นมาซะงั้น
เดินไปถึงอีกจุดเห็นมีพระพุทธรูปองค์ขนาดกลางตั้งอยู่ นี่ถึงแล้วใช่มั๊ย? เปล่าเลยเค้าเดินเลยผ่านตรงนี้ไปอย่างไม่ถามไถ่สักคำ ตอนเดินกลับถึงได้ฉุดกระชากให้หยุดแล้วขอแวะไหว้ซะหน่อย
พอถึงจุดนี้ ไกด์ประจำตัวบอกว่า “ถึงแล้วจ้า” ดีใจน้ำตาไหล รีบก้มลงกราบพระ บั้นท้ายกระดกไป 3 ทียังไม่ทันได้พักหายใจ “เราไปทางนั้นกันต่อนะ”
แล้วชั้นเลือกอะไรได้มั๊ย? ไม่ได้สินะ ต้องเดินต่อไป เดินขึ้นอีกจนถึงลานกว้างๆ มีลูกกรงอยู่ด้านหน้า เห็นคนเดินเยอะๆ เราก็ตามไป แต่แล้ว “รอตรงนี้นะ ผู้หญิงเข้าไม่ได้” เราได้แต่ทำตาปริบๆ แล้วฝากมือถือให้เค้าไปถ่ายรูปมาให้ เมื่อเราทำอะไรไม่ได้ก็ควักเงินขึ้นมาทำบุญต่อไป
ตรงจุดนี้เราจะได้เห็นวิวพาโนฯ ของ Auk Set Taw Ya พร้อมกับสายน้ำที่ลากผ่านหน้าเจดีย์ พร้อมกับเรือนแพที่พัก และซุ้มขายของที่เรียงรายอยู่ด้านหน้าเจดีย์
ถ่ายรูปเสร็จได้หายใจสองฟืด “ป่ะ...เราไปกันต่อนะ” ก้มหน้าก้มตาเดินตามเค้าต่อไปจนถึงจุดสูงสุด ด้านบนจะเป็นเจดีย์ขนาดเล็ก แต่กลับไม่มีใครถ่ายรูปกับเจดีย์นี้เท่าไหร่
ทุกคนสนใจแต่รูปปั้นนายพราน ว่าแล้วก็เดินเข้าไปถ่ายกับเค้า แต่ถ้าถามว่าประวัติความเป็นมาว่าไง อันนี้ตอบไม่ได้ เพราะคนพามาพูดอังกฤษไม่ได้ ฮือๆ
จากจุดนี้เราก็เดินกลับลงมาเรื่อยๆ เดินไปขาก็สั่นหวั่นไหว ผลจากการไม่ได้ออกกำลังกาย เข่าทรุดเข่าอ่อนมากๆ หลังจากรับรองเท้าที่ด้านล่างแล้ว เราก็เดินข้ามสะพานเล็กๆ เพื่อไปยังฝั่ง Lower (Auk Set Taw Ya) ตรงนี้เราก็ต้องถอดรองเท้า (อีกแล้ว) เพื่อเข้าไปสักการะรอยพระพุทธบาท แน่นอนว่าหญิงอย่างเราไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ ต้องฝากเงินและมือถือให้ชายหนุ่มเข้าไปถ่ายรูปออกมาให้
เราได้แต่ก้มลงกราบขอพรอยู่ด้านนอก ก่อนที่จะเดินไปรอบๆ แล้วเตรียมตัวกลับ แต่ระหว่างทางไกด์ประจำตัวได้พาเราไปดูที่พักสำหรับที่ที่อยากค้างคืน
และเล่นน้ำในที่แห่งนี้ ซึ่งราคาห้องพักมี 2 แบบคือแบบติดน้ำ กับไม่ติดน้ำ ทั้ง 2 แบบขนาดเท่ากัน วัดด้วยตาไม่น่าเกิน 10 ตร.ม. เป็นห้องโล่งๆ ผนังไผ่สาน พื้นก็ไผ่สาน ส่วนราคานั้นเห็นว่าห้องไม่ติดริมน้ำ 20,000 Kyats ถ้าติดริมน้ำ 30,000 Kyats แต่ถ้าเป็นช่วงนี้ที่เป็นช่วงเทศกาล ราคาก็จะอัพขึ้นไปอีก สำหรับเราเห็นสภาพแล้วขอบาย เอาเป็นว่ามาเที่ยวแบบ One day trip ก็พอ
ที่ Minbu นอกจากจะมีเจดีย์แล้ว ยังมี Mud Volcano อีก แต่ด้วยเวลาเที่ยวอันจำกัด เลยเลยอดไป ฮือๆ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้