เราได้งานทำที่ต่างจังหวัดอยู่แถบทางภาคอีสานค่ะ เราจึงจะหาหอพักถูกๆ ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก และเราก็ได้หอพักค่ะไม่ไกลจากบริษัทมาก นั่งรถสองแถวแปปเดียวถึง ราคาถูก ประหยัดเงินได้หลายบาทเราอยู่กับรูมเมทอีกคนนึงที่มาสมัครงานด้วยกัน เราก็ย้ายของเข้ามาพูดคุยกับเจ้าของหอพักปกติ วันแรกทุกอย่างราบรื่นปกติดี
จนมาคืนที่สอง ขณะที่เพื่อนเรากำลังอาบน้ำอยู่ ส่วนเรานอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนเตียง เราได้ยินเสียงคนมาเคาะห้องสองที เราจึงรีบเดินไปเปิด
แต่ก็ไม่เจอใครซักคนมีแต่ความว่างเปล่า เราก็รู้สึกแปลกๆ นะคะ ส่วนตัวก็เชื่อเรื่องผีอยู่แล้ว แต่ก็คิดว่าข้างห้องมาแกล้งเคาะ หรือเสียงเคาะจากห้องอื่นดังมาก จนเราคิดไปเองว่ามีคนมาเคาะห้องก็ได้ จึงปิดประตูและไปนอนเล่นโทรศัพท์ต่อ ไม่เกิน 2 นาที เสียงเคาะก็ดังขึ้นอีก รอบนี้เราวิ่งไปเปิดเลยค่ะ แต่ก็ไม่เจออะไรเหมือนเเดิม ทีนี้เราเริ่มคิดแล้วค่ะ เพราะข้างนอกไม่มีใครเลยซักคน คนอะไรจะเคาะแล้ววิ่งเร็วขนาดนั้น...
แต่เราก็ไม่ได้เล่าให้รูมเมทฟังนะคะ กลัวรูมเมทจะกลัวแล้วพากันกลัวเข้าไปใหญ่ เมื่อรูมเมทอาบน้ำเสร็จเราก็ออกไปหาอะไรทานกันค่ะ ตอนนั้นเวลาทุ่มครึ่งได้ เมื่อเราเดินลงมาจากหอพัก เรานึกขึ้นได้ว่าเหมือนจะลืมปิดไฟ เราเลยมองขึ้นไปข้างบนดูว่าห้องมืดหรือสว่าง แต่สิ่งที่เห็นคือ เงาคนคล้ายเหมือนกำลังร่ายรำอยู่ในห้อง คือเราช็อคไปเลยค่ะ เลยรีบดึงแขนรูมเมทแล้วเดินออกไปกินข้าว โดยที่ไม่กล้าเล่าให้รูมเมทฟังเมื่อทานข้าวเสร็จก็เดินมาที่หอ เรากล้าๆกลัวๆที่จะขึ้นห้อง เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่เราเห็นคืออะไร ผี หรือเราตาฝาด เมื่อขึ้นห้องเราก็หลับเลยค่ะ จนมารู้สึกตัวอีกที ลืมตาขึ้นมาเห็นรูมเมทปิดไฟหลับแล้วค่ะ เรากำลังจะพลิกตัวกลับไปนอน หางตาเราเห็นเงาดำอยู่ที่ปลายเท้า เราจึงหันกลับมามองชัดๆ อีกที สิ่งที่เราเห็นคือนางรำยืนอยู่ข้างในกระจก ใช่ค่ะยืนอยู่ในกระจก แต่หน้ากระจกไม่มีคนยืน ซึ่งอันนี้ชัดเจนแน่นอนว่าใช่ผีแน่ๆ เราจึงรีบปลุกรูมเมท รูมเมทก็งัวเงียขึ้นมาถามว่ามีอะไร เราก็ชี้ไปที่กระจก แต่นางรำคนนั้นหายไปแล้วค่ะ เรานิ่งเงียบไปซักพักบอกรูมเมทว่าไม่มีอะไร นอนต่อกันเถอะ
จนถึงตอนเช้าเราตัดสินใจเล่าให้รูมเมทฟังค่ะ เพื่อนบอกว่าเรื่องจริงหรอ รูมเมทจึงเล่าในสิ่งที่เจอให้เราฟัง เพราะตอนแรกรูมเมทไม่มั่นใจว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่พอมาฟังที่เราเล่ารูมเมทจึงมั่นใจว่าเจอดีเช่นกัน
กำไลนางรำ...
จนมาคืนที่สอง ขณะที่เพื่อนเรากำลังอาบน้ำอยู่ ส่วนเรานอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนเตียง เราได้ยินเสียงคนมาเคาะห้องสองที เราจึงรีบเดินไปเปิด
แต่ก็ไม่เจอใครซักคนมีแต่ความว่างเปล่า เราก็รู้สึกแปลกๆ นะคะ ส่วนตัวก็เชื่อเรื่องผีอยู่แล้ว แต่ก็คิดว่าข้างห้องมาแกล้งเคาะ หรือเสียงเคาะจากห้องอื่นดังมาก จนเราคิดไปเองว่ามีคนมาเคาะห้องก็ได้ จึงปิดประตูและไปนอนเล่นโทรศัพท์ต่อ ไม่เกิน 2 นาที เสียงเคาะก็ดังขึ้นอีก รอบนี้เราวิ่งไปเปิดเลยค่ะ แต่ก็ไม่เจออะไรเหมือนเเดิม ทีนี้เราเริ่มคิดแล้วค่ะ เพราะข้างนอกไม่มีใครเลยซักคน คนอะไรจะเคาะแล้ววิ่งเร็วขนาดนั้น...
แต่เราก็ไม่ได้เล่าให้รูมเมทฟังนะคะ กลัวรูมเมทจะกลัวแล้วพากันกลัวเข้าไปใหญ่ เมื่อรูมเมทอาบน้ำเสร็จเราก็ออกไปหาอะไรทานกันค่ะ ตอนนั้นเวลาทุ่มครึ่งได้ เมื่อเราเดินลงมาจากหอพัก เรานึกขึ้นได้ว่าเหมือนจะลืมปิดไฟ เราเลยมองขึ้นไปข้างบนดูว่าห้องมืดหรือสว่าง แต่สิ่งที่เห็นคือ เงาคนคล้ายเหมือนกำลังร่ายรำอยู่ในห้อง คือเราช็อคไปเลยค่ะ เลยรีบดึงแขนรูมเมทแล้วเดินออกไปกินข้าว โดยที่ไม่กล้าเล่าให้รูมเมทฟังเมื่อทานข้าวเสร็จก็เดินมาที่หอ เรากล้าๆกลัวๆที่จะขึ้นห้อง เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่เราเห็นคืออะไร ผี หรือเราตาฝาด เมื่อขึ้นห้องเราก็หลับเลยค่ะ จนมารู้สึกตัวอีกที ลืมตาขึ้นมาเห็นรูมเมทปิดไฟหลับแล้วค่ะ เรากำลังจะพลิกตัวกลับไปนอน หางตาเราเห็นเงาดำอยู่ที่ปลายเท้า เราจึงหันกลับมามองชัดๆ อีกที สิ่งที่เราเห็นคือนางรำยืนอยู่ข้างในกระจก ใช่ค่ะยืนอยู่ในกระจก แต่หน้ากระจกไม่มีคนยืน ซึ่งอันนี้ชัดเจนแน่นอนว่าใช่ผีแน่ๆ เราจึงรีบปลุกรูมเมท รูมเมทก็งัวเงียขึ้นมาถามว่ามีอะไร เราก็ชี้ไปที่กระจก แต่นางรำคนนั้นหายไปแล้วค่ะ เรานิ่งเงียบไปซักพักบอกรูมเมทว่าไม่มีอะไร นอนต่อกันเถอะ
จนถึงตอนเช้าเราตัดสินใจเล่าให้รูมเมทฟังค่ะ เพื่อนบอกว่าเรื่องจริงหรอ รูมเมทจึงเล่าในสิ่งที่เจอให้เราฟัง เพราะตอนแรกรูมเมทไม่มั่นใจว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่พอมาฟังที่เราเล่ารูมเมทจึงมั่นใจว่าเจอดีเช่นกัน