"นายหมี่หยกกับนายหัวสวนยาง"
ก่อนอื่นต้องบอกว่าผมเคยอ่านกระทู้ของชาวเนตคนนึงในพันทิปเรื่องการมีแฟนเป็นผู้ชายคนจีน ความรักที่เหมือนจะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบแต่สุดท้ายมันคือ บระเพด ดีๆนั้นเอง เรื่องราวของผมมันเหมือนกับสิ่งที่เค้าเจอมาแบบเดียวกันเลย โครตเศร้า
ผมชื่อเต้ อายุ 28 Y ทำงานพนักงานวิดวะกรบริษัท ผมได้มีโอกาสเดินทางไปพรีเซ้นงานที่ต่างประเทศบ่อย คือประเทศญี่ปุ่น ครั้งล่าสุดที่ไปมาคือเดือน พย.2018 การไปครั้งที่ทำให้พบได้พบกับผู้ชายจีนคนนึงซึ่ง อายุน้อยกว่าผมแค่ปีเดียว ลักษณะ สมาท ขาว ตี๋ หล่อ ทำงานเป็นวิดวะกรเช่นเดียวกัน ได้รู้จักกันและคุยกันแรกๆจน เวลาทำให้เราสนิทมากพอที่จะบอกทุกๆอย่างแก่กัน และสุดท้าย อาตี๋ก็ขอผมเป็นแฟนซึ่งผมคิดว่าหน้าอย่าผมนี้หน่ะ ไม่หล่อเลย แต่ผมสูง 182/77 เค้าบอกผมน่ารักในสายตาเค้าแบบโน้นแบบนั้น โทรและเฟสทามมาทุกวันเพื่อทำให้ผมยอมรับเค้า ให้คิดกับเค้ามากดกว่าคำว่าเพื่อนสนิท
เราคบกันสามเดือนผ่านไป ในทุกๆวันจะต้องบอกรัก
ILOVE U , Have a nice day and Hv a good dream เป็นแบบนี้ในทุกๆวัน จากนั้นเมื่อปีใหม่
อาตี๋ก็ได้ตัดสินใจมาไทยเพื่อจะมาหาผมมาเจอกัน ผมไปรอเค้าที่สนามบินดอนเมืองครั้งแรกที่ไม่เจอกันมา สามเดือน ก็ทักทายในที่สาธารณะปรกติ แต่พอถึง โรงแรมเราก็มีอะไรกันอย่างที่แบบหื่นมาก มันนะหื่น ฮ่าาาาา และเมื่อเสร็จภารกิจบู้ตึ้งวัดเส้าหลินแล้ว เราก็พากันไปเที่ยวพัทยาซึ่ง อาตี๋เหมาแท็กซี่ไป เค้าจะมือผมไว้ตลอดเวลาที่เราไปเที่ยวกัน เรามีอะไรกันทุกห้องและทุกที่ที่ไปพัก อาตี๋ทำให้ผมประทับใจมากคือ ทุกๆวันเค้าจะซักถุงเท้ากับกางเกงในให้ เตรียมทุกๆอย่างให้ทำให้เรามั่นใจว่าเค้ารักเราและไม่ทิ้งเรา เราเที่ยวพัทยา และ กทม 3 คืน4 วันที่ได้อยู่ด้วยกัน
ในกรุงเทพ นางก็พาเราไปกินข้าวดูวิวที่ไบหยก สกาย ช้อป คิงพาวเว่อร์ ในวันที่ฝนตกก้มีคนกางร่มให้ และโอบกอดกันเพื่อไม่ให้เปียก แต่ก็เปียกกันทั้งคู่
ขึ้นรถไฟฟ้าด้วยกัน นั่งรถเมย์ด้วยกัน มันเป้นความสุขที่บอกไม่ถูก เราไม่ได้แสดงออกหรือแต๋วแตกแต่อย่างใด เพราะคิดว่าคนที่ชอบเราก็มีคนที่ไม่ชอบก็มี
เพราะฉะนั้นที่สาธรณะ เฉยๆเพื่อนกันไป แต่บนรถไฟฟ้าก็มีคนแอบจิ้ก แอบถ่ายรูปและบอกว่าน่ารักเนอะ หวานจัง แม้กระทั่งพนักงานโรงแรมบอกว่าเค้าเทกแคร์ดีมากเนอะพี่ ฮ่า
จากนั้นถึงวันเดินทางกลับเราต้องจากกันความสัมพันธ์และความผูกพันธ์ชั่วข้ามคืนที่เรามีให้กัน มันก็ทำให้เราเศร้าและลากันด้วยคราบน้ำตา เรากอดกันนานมากเหมือนว่าต่างคนก็ก้ต้องมีหน้าที่และไม่รุ้จะมีโอกาสเจอกันอีกไหม เมื่อนางกลับถึงจีนก็คุยกันปรกติ แต่อะไรบางอย่างเริ่มที่จะไม่เหมือนเดิม หลังจากที่พ่อแม่ เค้ารู้เรื่องเราสองคน พ่อแม่เค้าต้องการให้เราเลิกกัน และตัวอาตี๋ก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ทางบ้านเลือกไว้แล้ว มันเป็นอะไรที่ทำใจได้ยากและทุกๆครั้งที่ไม่ได้คุยมันจะทรมานมาก แต่ไม่เจอกันเสียดีกว่าที่จะเป็นเพื่อนกันต่อไป
สุดท้ายเรื่องของเราก็มาถึงตอนจบก่อนถึงวันเกิดของผม 12 กพ ผมถามไปว่าทำไมเดี่ยวนี้เราคุยกันน้อยลง อาตี๋บอกว่า มิสยูโซมัส และเลิฟยู จากเมื่อก่อนต้องโทรมา ต้องเล่าทุกสิ่งอย่างในแต่ละวันก่อนแยกกันไปนอน สุดท้ายนางก็บอกผมว่า
อาตี๋ // ฉันต้องแต่งงานเร็วๆนี้ เราเป็นแค่เพื่อนกันนะ คุณคือเพื่อนคนไทยที่ดีที่สุดของฉัน ขอบคุณช่วงเวลาดีๆที่ทำให้เรารู้จักกัน
ผม // ฉันก็เช่นกัน ผมรักคุณนะ คุณทำถูกแล้ว เลือกครอบครัวของคุณเถอะ รักเสมอ และน้ำตาผมก็ไหลลลลลล
//// ตอนนี้เราห่างกันไป เกือบสองเดือนไม่ติดต่อกันและไม่ส่งข้อความหากันอีกเลย จนกระทั่งผมนึกได้ว่าเคยจองตั่วเครื่องช่วงหลังวันเกิดไปจีนเพราะอาตี๋จะบุ๊กกิ้งโรงแรมไว้ให้หมด นางล่าวไว้ก่อนที่จะเลิกกัน ผมเลยต้องส่งไปถามว่าจะเอายังไงเอาจิงฉันไม่อยากไปนะ ผมไม่มีสิทเลือกตั่วโลวคอสไม่สามารถเปลี่ยนหรือคืนได้ อาตี๋บอกว่าไม่ต้องจองตั่วนะเพื่อนรัก เค้าจะดูแลผมเองแค่นี้ แล้วเจอกัล
ปล// เดินทาง ศุกร์นี่แล้วครับมาดูกันว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไรท้ายสุดผมคิดว่าเราคงจะไม่ได้พบกันอีกเลย
ชายรักชาย Y&H รักแท้ที่ไม่มีอยู่จริงใช่ไหม?
ผมชื่อเต้ อายุ 28 Y ทำงานพนักงานวิดวะกรบริษัท ผมได้มีโอกาสเดินทางไปพรีเซ้นงานที่ต่างประเทศบ่อย คือประเทศญี่ปุ่น ครั้งล่าสุดที่ไปมาคือเดือน พย.2018 การไปครั้งที่ทำให้พบได้พบกับผู้ชายจีนคนนึงซึ่ง อายุน้อยกว่าผมแค่ปีเดียว ลักษณะ สมาท ขาว ตี๋ หล่อ ทำงานเป็นวิดวะกรเช่นเดียวกัน ได้รู้จักกันและคุยกันแรกๆจน เวลาทำให้เราสนิทมากพอที่จะบอกทุกๆอย่างแก่กัน และสุดท้าย อาตี๋ก็ขอผมเป็นแฟนซึ่งผมคิดว่าหน้าอย่าผมนี้หน่ะ ไม่หล่อเลย แต่ผมสูง 182/77 เค้าบอกผมน่ารักในสายตาเค้าแบบโน้นแบบนั้น โทรและเฟสทามมาทุกวันเพื่อทำให้ผมยอมรับเค้า ให้คิดกับเค้ามากดกว่าคำว่าเพื่อนสนิท
เราคบกันสามเดือนผ่านไป ในทุกๆวันจะต้องบอกรัก ILOVE U , Have a nice day and Hv a good dream เป็นแบบนี้ในทุกๆวัน จากนั้นเมื่อปีใหม่
อาตี๋ก็ได้ตัดสินใจมาไทยเพื่อจะมาหาผมมาเจอกัน ผมไปรอเค้าที่สนามบินดอนเมืองครั้งแรกที่ไม่เจอกันมา สามเดือน ก็ทักทายในที่สาธารณะปรกติ แต่พอถึง โรงแรมเราก็มีอะไรกันอย่างที่แบบหื่นมาก มันนะหื่น ฮ่าาาาา และเมื่อเสร็จภารกิจบู้ตึ้งวัดเส้าหลินแล้ว เราก็พากันไปเที่ยวพัทยาซึ่ง อาตี๋เหมาแท็กซี่ไป เค้าจะมือผมไว้ตลอดเวลาที่เราไปเที่ยวกัน เรามีอะไรกันทุกห้องและทุกที่ที่ไปพัก อาตี๋ทำให้ผมประทับใจมากคือ ทุกๆวันเค้าจะซักถุงเท้ากับกางเกงในให้ เตรียมทุกๆอย่างให้ทำให้เรามั่นใจว่าเค้ารักเราและไม่ทิ้งเรา เราเที่ยวพัทยา และ กทม 3 คืน4 วันที่ได้อยู่ด้วยกัน ในกรุงเทพ นางก็พาเราไปกินข้าวดูวิวที่ไบหยก สกาย ช้อป คิงพาวเว่อร์ ในวันที่ฝนตกก้มีคนกางร่มให้ และโอบกอดกันเพื่อไม่ให้เปียก แต่ก็เปียกกันทั้งคู่
ขึ้นรถไฟฟ้าด้วยกัน นั่งรถเมย์ด้วยกัน มันเป้นความสุขที่บอกไม่ถูก เราไม่ได้แสดงออกหรือแต๋วแตกแต่อย่างใด เพราะคิดว่าคนที่ชอบเราก็มีคนที่ไม่ชอบก็มี
เพราะฉะนั้นที่สาธรณะ เฉยๆเพื่อนกันไป แต่บนรถไฟฟ้าก็มีคนแอบจิ้ก แอบถ่ายรูปและบอกว่าน่ารักเนอะ หวานจัง แม้กระทั่งพนักงานโรงแรมบอกว่าเค้าเทกแคร์ดีมากเนอะพี่ ฮ่า
จากนั้นถึงวันเดินทางกลับเราต้องจากกันความสัมพันธ์และความผูกพันธ์ชั่วข้ามคืนที่เรามีให้กัน มันก็ทำให้เราเศร้าและลากันด้วยคราบน้ำตา เรากอดกันนานมากเหมือนว่าต่างคนก็ก้ต้องมีหน้าที่และไม่รุ้จะมีโอกาสเจอกันอีกไหม เมื่อนางกลับถึงจีนก็คุยกันปรกติ แต่อะไรบางอย่างเริ่มที่จะไม่เหมือนเดิม หลังจากที่พ่อแม่ เค้ารู้เรื่องเราสองคน พ่อแม่เค้าต้องการให้เราเลิกกัน และตัวอาตี๋ก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ทางบ้านเลือกไว้แล้ว มันเป็นอะไรที่ทำใจได้ยากและทุกๆครั้งที่ไม่ได้คุยมันจะทรมานมาก แต่ไม่เจอกันเสียดีกว่าที่จะเป็นเพื่อนกันต่อไป
สุดท้ายเรื่องของเราก็มาถึงตอนจบก่อนถึงวันเกิดของผม 12 กพ ผมถามไปว่าทำไมเดี่ยวนี้เราคุยกันน้อยลง อาตี๋บอกว่า มิสยูโซมัส และเลิฟยู จากเมื่อก่อนต้องโทรมา ต้องเล่าทุกสิ่งอย่างในแต่ละวันก่อนแยกกันไปนอน สุดท้ายนางก็บอกผมว่า
อาตี๋ // ฉันต้องแต่งงานเร็วๆนี้ เราเป็นแค่เพื่อนกันนะ คุณคือเพื่อนคนไทยที่ดีที่สุดของฉัน ขอบคุณช่วงเวลาดีๆที่ทำให้เรารู้จักกัน
ผม // ฉันก็เช่นกัน ผมรักคุณนะ คุณทำถูกแล้ว เลือกครอบครัวของคุณเถอะ รักเสมอ และน้ำตาผมก็ไหลลลลลล
//// ตอนนี้เราห่างกันไป เกือบสองเดือนไม่ติดต่อกันและไม่ส่งข้อความหากันอีกเลย จนกระทั่งผมนึกได้ว่าเคยจองตั่วเครื่องช่วงหลังวันเกิดไปจีนเพราะอาตี๋จะบุ๊กกิ้งโรงแรมไว้ให้หมด นางล่าวไว้ก่อนที่จะเลิกกัน ผมเลยต้องส่งไปถามว่าจะเอายังไงเอาจิงฉันไม่อยากไปนะ ผมไม่มีสิทเลือกตั่วโลวคอสไม่สามารถเปลี่ยนหรือคืนได้ อาตี๋บอกว่าไม่ต้องจองตั่วนะเพื่อนรัก เค้าจะดูแลผมเองแค่นี้ แล้วเจอกัล
ปล// เดินทาง ศุกร์นี่แล้วครับมาดูกันว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไรท้ายสุดผมคิดว่าเราคงจะไม่ได้พบกันอีกเลย