กลัวจู๋หด อุปทานหมู่ที่คนสมัยก่อนเชื่อฝังหัว

สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ชาแนล Who Askk นะครับ ตอนนี้คุณอยู่กับผมอีกครั้ง ลัก ครับ
.
เรื่องอุปทานหมู่เนี่ยเป็นสิ่งที่เราได้ยินกันมาบ่อยมากเลยนะ อุปทานหมู่บางทีก็มาในรูปแบบเรื่องตลกๆ เช่น ขำต่อๆ กันไปโดยไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ เห็นคนขำก็ขำตาม แล้วก็ขำไปเป็นทอดๆ แบบหยุดไม่ได้จนเหนื่อย อันนี้ก็ดูเป็นเรื่องไร้สาระๆ ที่เกิดขึ้นจริงมาแล้ว

สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่านสามารถดูคลิปแทนได้เลยน้าาา : )

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอแต่อีกหนึ่งอุปทานหมู่ที่บอกเลยว่ามีผลกระทบต่อคนทั้งโลกเป็นวงกว้างมากๆ เลย และเป็นประเด็นดังสุดๆ ก็ต้องยกให้เรื่อง Y2K นี่แหละครับ
.
โดยไอ Y2K มันเป็นเหตุที่ทำให้คนทั้งโลกต้องคลั่ง ถึงชนิดที่ว่า คิดว่าวันนี้จะเป็นวันสิ้นโลกกันเลยทีเดียว โดยก่อนที่เราจะพาทุกคนไปดูไอเรื่องจู๋หดอะไรเนี่ย ขอเท้าความถึงเหตุการณ์อุปทานหมู่ระดับอภิมหากาพย์อีกอันนึง ซึ่งก็คือไอ Y2K นี้กันก่อนนะ คนที่อายุ 20 กว่าขึ้นไปก็น่าจะเกิดทันกันทุกคน
.
คือไอเหตุการณ์นี้มันเป็นเรื่องที่คนแตกตื่นกันไปทั่วโลกเพราะ ก่อนที่โลกเราจะถึงปี 2000 เนี่ย ปฏิทินในคอมพิวเตอร์มันก็จะโชว์แค่เลข 2 ตัว ก็คือ 99 ซึ่งย่อมาจาก 1999 ทีนี้ถ้าเปลี่ยนเป็น 2000 ปุ๊บ ก็เท่ากับมันจะโชว์แค่ 00 แล้วคนทั้งโลกก็อุปทานไปกันเอง คิดเองแบบมั่วยิ้มว่า ถ้ามันเปลี่ยนจาก 99 เป็น 00 คอมพิวเตอร์มันต้องเอ๋อแน่เลย

เพราะคนคิดว่าคอมพิวเตอร์มันจะไม่มีสมองและทำให้ย้อนเวลากลับไปเป็นปี 1900 แทน จนอาจทำให้คอมแฮ้ง พัง ค้าง ไม่สามารถใช้งานต่อได้ เอ๋อ บลาๆ
.
ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน เพราะคอมพิวเตอร์มันเพิ่งผลิตได้ไม่นาน ก็เลยไม่เคยรู้ว่ามันจะอันตรายแบบนั้นจริงมั้ย แล้วจะทำให้หัวปั่นจริงรึเปล่า
.
แต่แน่นอนนะว่า คนที่ทำธุรกิจเค้าไม่มีทางเอาเงินมูลค่าพันล้าน หมื่นล้าน ของตัวเองมาเสี่ยงกับควาไม่แน่นอนครั้งนี้อยู่แล้ว เค้าเลยพยายามหาทางแก้กันยกใหญ่เลย ไม่ใช่แค่ประเทศเดียวนะ แต่ข่าวคราวเรื่องคอมเอ๋อนี่แม่งกระจายไปทั่วโลกจริงๆ เค้ากลัวว่าการคำนวณใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับวันและเวลา ในคอมพิวเตอร์ มันจะผิดเพี้ยนไปหมด


ทั้งธุรกิจสายการบิน โรงแรม การคิดดอกเบี้ย การนัดหมาย การคิดอายุ หรือร้ายแรงหน่อย อาจทำให้คอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการยิงขีปนาวุธนี่มันเกิดทำงานอัตโนมัตขึ้นได้ จนจุดฉนวนสงครามโลกขึ้นอีกครั้งได้เลย คอมพิวเตอร์ในโรงพยาบาลจะรวนทั้งโลก คนจะตายเป็นล้าน ลิฟเลิฟต์หยุดทำงานหมด
.
เอ้า ทีนี้เราจะมองมันเป็นเรื่องใหญ่ได้ยังล่ะ ก็แน่สิ ว่ามันใหญ่ยิ้ม ควรจะกลัวขี้ขึ้นสมองเนี่ยถูกแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ เป็นไงครับ พอมันมาถึงวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งก็คือ วันที่ 31 ธันวาคม 1999 ปุ๊บ เมื่อเคลื่อนผ่านพ้นวันไป ปริศนาทุกอย่างก็กระจ่างทันที
.
ว่าไอที่กลัวกันมาตลอดแบบสติแตกกันทั้งโลกเนี่ย มันแค่เรื่องอุปทานบ้าบอคอพอกแค่นั้นเอง คอมพิวเตอร์มันก็ทำงานได้ปกติ ไม่มีอะไรให้เอ๋อ-ทั้งสิ้น กลายเป็นวันที่ 1 มกราคมปี 2000 แบบชิลๆ เหมือนวันอื่นๆ ทั่วไป ไม่มีรายงานความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่อะไรเลย ก็เลยปิดฉากอุปทานความบ้าครั้งนี้ลงอย่าง งงๆ เนี่ยแหละครับ


ทีนี้กลับมาดูเรื่องอุปทานที่อาจจะไม่ดังเท่า แต่ก็ทำให้เรายิ้มได้กันดีกว่า ซึ่งไอเรื่องจู๋หดเนี่ย ผู้ชายทุกคนแค่ได้ยินก็กลัวกันจะแย่แล้ว เพราะลำพังเกิดมาน้องชายเล็กยังปวดหัว ยังเครียดกันเลย แล้วมีคนมาบอกว่าตัวเองจะจู๋หดจนหายวับเข้าไปในร่างกาย เป็นใครมันจะไม่กลัววะ ใช่ป่ะ
.
โดยไอจุดเริ่มต้นของความโกลาหลครั้งนี้มันเกิดขึ้นทั่วโลกในแอฟริกา และเอเชียเลยดีกว่า อินโด มาเล สิงคโปร์นี่เจอหมด อุปทานกันไปทั้งบ้านทั้งเมือง ผู้คนจะมีความเชื่อว่า เมื่ออวัยวะเพศของตัวเอง หรือน้องชายเนี่ยมันหดเข้าไปในร่างกาย ก้จะทำให้ตายได้
.
พอมีคนบอกแบบนี้ปุ๊บก็เลยเกิดความกลัวขึ้น แล้วก็บอกกันไปแบบปากต่อปาก แพร่กระจายกันออกไปไวมากเลย เพราะผู้ชายเค้าถือว่าเรื่องนี้มันซีเรียสจริงๆ ใช่ป่ะล่ะ ทีนี้แหละครับผู้ชายเกือบทั้งโลกก็เลยพยายามทำมันทุกวิถีทางที่จะไม่ให้น้องชายหดหายเข้าไปในตัวเอง


บางคนนี่ถึงกับแบบเอามือมาจับ มาดึงจู๋เอาไว้ตลอดเวลา หรือหาที่คีบ ที่หนีบ มาดึงไม่ให้มันหด บางคนก็ขอแรงให้มีคนมาจับเอาไว้ด้วยกัน ดึงคนเดียวสงสัยกลัวไม่พอ
.
ซึ่งไออุปทานหมู่เนี่ย มันก็มีความเชื่อแปลกๆ เข้ามาพัวพันด้วยอีกสเต็ปนึง คือ เค้าเชื่อกันว่าต้องให้ผู้ชายด้วยกันช่วยกันดึงเท่านั้น ห้ามไปให้ผู้หญิงดึงเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้อวัยวะเพศหดและตายในที่สุด อะไรของมันวะเนี่ย แล้วก็ดันเชื่อกันเป็นตุเป็นตะกันทั้งโลก เหมืนกับว่าโรคนี้มันเป็นโรคระบาดอะไรแบบนั้นแหละครับ
.
นอกจากไอเรื่องห้ามผู้หญิงดึง ก็ยังมีการห้ามกินแตงโม ห้ามเดินข้ามขนม้าและอึเต่า บางที่ก็ห้ามเดินผ่านเต่า เพราะกลัวว่าถ้าเต่าหดหัว จะทำให้ไอจู๋หดกลับเข้าไปด้วย เออ เอาเข้าไป

และสุดท้ายแล้ว ไอเรื่องอุปทานนี้มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด เป็นแค่ความกลัวที่เกิดขึ้นในจิตใจคนเราเท่านั้นเอง เป็นเพราะผลจากอาการทางจิตซึ่งไม่ได้รับการบำบัดแบบเหมาะสมนี่แหละครับ เลยทำให้กลัวว่าจู๋จะหดและทำให้ตาย ซึ่งมันก็แพร่จะจายข่าวได้ไว เพราะมันเป็นเรื่องใต้สะดือที่ผู้ชายกลัวนั่นเอง
.
โดยโรคกลัวจู๋หดมันก้ระบาดหนักในสิงคโปร์ช่วงปี 1967 เดือดร้อนถึงขั้นที่รัฐบาลกับเจ้าหน้าที่เนี่ย เค้าต้องเร่งออกมาแก้ไขปัญหาแบบด่วนมาก เพราะมันเป็นความมั่นคงระดับชาติแล้วอ่ะครับ คนในประเทศมันกลัวกันจนเป้นเรื่องใหญ่เรื่องโตไปหมด
.
โดยรัฐบาลก็ออกมาประกาศตามสื่อต่างๆ แบบจริงจังเลย ให้คนอื่นเชื่อว่า การหดหายไปของน้องชายมันไม่มีทางเป็นไปได้จริงในวงการแพทย์ ดังนั้นเลิกกังวลกันได้แล้ว ประชาชนถึงจะสงบจิตสงบใจ และใช้ชีวิตกันต่อไปได้ เป็นเรื่องวุ่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ เพราะคำว่า อุปทานหมู่ คำเดียวเลยล่ะครับ
.
แล้วเพื่อนๆ คิดยังไงกับเรื่องอุปทานหมู่พวกนี้บ้างครับ คอมเมนท์มาบอกกันทีนะ เดี๋ยวผมจะเข้าไปอ่านทุกอันแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่