[CR] Time-Shift --> ย้อนเวลากลับไปล่าแสงเหนือที่ Iceland 2016 (EP.04)

ความเดิมจาก EP.03 --> https://ppantip.com/topic/38511521


19 Feb

พวกเราตื่นขึ้นมาอย่างสดใส เพราะเมื่อคืนทั้งกินอิ่ม นอนอุ่น และมี Wi-fi ให้ใช้ไม่อั้น
(แม้ว่ามันจะไม่ได้เร็วมากนัก แต่ก็ทำให้ทุกคนสามารถเคลียร์เมล์ เคลียร์งานบางส่วน และลงรูปบนโซเชียลได้จนพอใจก่อนนอน)
เช้านี้พวกเราเอาของหลายๆ อย่าง ทั้งของสดที่ยังเหลือ และของแห้งที่พกมา มาทำเป็นอาหารเช้ามื้อใหญ่กัน
เพราะ รร. ที่เราพักนั้นมีครัวให้ด้วย มื้อเช้าเลยอิ่มหนำกันไปทั่วหน้า

วันนี้โปรแกรมของเรามีแค่ที่เดียวเท่านั้น นั่นคือ Hvitserkur เนื่องจากที่เที่ยวของทาง North Iceland ไม่ได้มีเยอะเหมือน South Iceland...
ดังนั้นพวกเราจึงไม่ได้รีบมาก กว่าจะได้ออกจาก รร. ก็เวลาประมาณ 11.00 เวลา Check-out พอดี
อีกทั้งร้านค้าส่วนใหญ่ก็เปิดกันประมาณ 10.00 ด้วย ก็ถือซะว่ารอเวลาเพื่อเดินเล่นในเมือง Akureyri ซะหน่อย เมื่อวานมาถึงก็ปิดเกือบหมดละ
ซึ่งร้านที่เราไปแวะเป็นร้านกาแฟชื่อ Kaffi Ilmur เป็นร้านกาแฟที่เคยได้รับ Certificate of Excellence จาก tripadvisor ในปี 2014 อีกด้วย

ถนนหน้า รร. ยาม...สาย







ได้นั่งจิบกาแฟพร้อมทานขนามหวานในตอนสาย ก็ถือว่าเป็นวันที่ชิลๆ ดี หลังจากเที่ยวกันไม่หยุดมาหลายวัน
และหลังจากกลับมาจากร้านกาแฟ พวกเราก็ทำอาหารเที่ยงง่ายๆ กินกันในรถ ก่อนที่จะออกเดินทางไป Hvitserkur

Hvitserkur หรือชื่อฉายาว่า The Troll of Northwest Iceland เป็นแท่งหิน Basalt ที่ตั้งอยู่กลางทะเลใกล้ชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Iceland
มีรูปร่างคล้ายมังกรหรือไดโนเสาร์กำลังก้มกินน้ำอยู่ (เค้าว่ากันอย่างงั้น)...
จาก Akureyri ไปถึงที่ Hvitserkur จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม. แต่เอาเข้าจริงพวกเราใช้เวลาเกือบๆ 4 ชม.
เนื่องจากมีหยุดถ่ายรูปวิวและคุณม้าผมสลวย เอกลักษณ์ของ Iceland ที่ใครมาก็ต้องถ่ายรูปหยุดรถเพื่อลงไปถ่ายรูปด้วย




ด้วยหิมะที่หนา ทำให้ทางเข้าไปถึง Hvitserkur นั่นขับยากพอสมควร ทางแคบมากเพราะ 2 ข้างทางเป็นหิมะปกคลุม
เลยไม่กล้าที่จะหลุดออกนอกรอยล้อรถเลย...พอไปถึงที่ ก็งงๆ กับที่จอดรถว่าควรจะต้องจอดตรงไหน
แถมพื้นที่จอดรถก็ลื่นมากๆ กลัวรถจะเบรคไม่อยู่แล้วไหลตกเข้ามากๆ

ทางเดินไปจุดที่มองเห็นเจ้า Hvitserkur ก็หิมะปกคลุมเยอะ ทำให้เดินยาก ทางที่จะลงไปถ่ายรูปจากด้านล่างก็หาไม่เจอ
แถมตรงนั้นก็มีแต่พวกเรา เพราะเราไปถึงประมาณ 16.00 คนพากันออกมาหมดแล้ว...จริงๆ พวกเราเองก็ต้องรีบถ่ายรูปและรีบออกเช่นกัน เนื่องจากแถวนั้นมันลึกเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่มีแสงไฟ หากออกมาช้า ต้องขับรถยากมากแน่ๆ เราเลยอยู่กันที่ Hvitserkur ไม่นานนักก็ออกมา



ตอนแรก เราวางแผนกันว่าจะหานอนที่ N1 อย่างที่ทำกันมาตลอด แต่ผมได้ออกความเห็นกับทุกคนว่า
ถ้าเราค้างที่ N1 เลย มันจะทำให้วันนี้ของพวกเราจบเร็วมาก เพราะ N1 ที่ใหญ่พอให้เราจอดรถเพื่อนอนนั้นอยู่ใกล้กับ Hvitserkur มาก
แล้วจะทำให้วันพรุ่งนี้ของพวกเราเสียเวลาเดินทางเยอะเช่นกัน ผมจึงอยากที่จะลุยขับรถยาวไปจนถึงที่จุดหมายวันพรุ่งนี้ของเราที่ Kirkjufell เลย
อีกทั้งยังสามารถไปลุ้นแสงเหนือที่ Kirkjufell ได้อีกด้วย...ซึ่งทุกคนไม่มีปัญหา เพราะผมเป็นคนขับ (ฮ่าๆๆ)
แผนเราเลยเปลี่ยนไปตามข้อเสนอของผม โดยคืนนี้เราจะไปจบการเดินทางกันที่ Kirkjufell

ระหว่างทางจาก N1 ไป Kirkjufell ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ครึ่ง โดยเราเปิดเช็คค่า kp กันตลอดทาง
และแล้วฟ้าก็เห็นใจเรา ส่งเส้นแสงเหนือพาดผ่านหัวเรามาให้ 1 เส้น เมื่อเจอแบบนี้แล้ว ก็จอดรถถ่ายรูปกันสิครับ...
ตอนนั้นเวลาประมาณ 21.00 แต่ไม่มีรถผ่านมาซักคัน เปลี่ยวมากๆ


พอเจอแบบนี้แล้ว ผมนี่รีบบึ่งรถไปด้วยความเร็ว maximum เลยครับ เนื่องจากดูในแอปแล้วพบว่าค่า kp คืนนี้
ยิ่งดึกยิ่งน้อยลง ถ้าอยากลุ้นถ่ายรูป Kirkjufell ติดแสงเหนือ ต้องรีบไปให้ถึงโดยเร็วที่สุด

พวกเราไปถึงที่ Kirkjufell เวลาประมาณ 22.30 ซึ่งผมก็ไม่รอช้า เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมที่จะลุยไปจุดถ่ายรูปยอดนิยม
แต่ด้วยอุณหภูมิระดับ -7 องศา แถมยังมีลมอันแสนแรงจะแทบจะยืนนิ่งๆ ไม่ได้ จนทำให้เพิ่งเคยรู้สึกถึงคำว่า “หนาวหูขาด” เป็นยังไง
มันแทบไม่รู้สึกถึงหูตัวเองเลย...สุดท้ายก็ต้องรออยู่แถวๆ รถ เพื่อดูว่ามีแสงเหนือมาบ้างมั้ย
แต่มันก็ช่างริบหรี่เหลือเกินเพราะค่า kp ต่ำมากๆ
จนสุดท้ายเวลาประมาณ 23.00 ทุกน (ยกเว้นผม) ก็ลงความเห็นว่าเราควรไปหาที่นอนเพื่อเก็บแรงไว้สำหรับพรุ่งนี้

สีดำๆ ตรงตีนเขา คือจุดที่จะไปตั้งกล้องถ่ายรูป แต่หนาวมากจนไม่กล้าเดินไปยืนรอถ่าย กลัวแข็งตายไปซะก่อน

เราจึงขับรถย้อนเข้าไปในเมืองกัน ซึ่งตอนแรกเราคุยกันว่าเราจะไปจอดรถนอนกันที่ Swimming pool
(หนึ่งตัวเลือกที่นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกที่จะไปจอดนอน เพราะสามารถจ่ายเงินเพื่อเข้าไปใช้ห้องอาบน้ำและห้องน้ำได้)
เพราะได้ยินมาว่าบาง Swimming pool เปิด 24 ชม....แต่พอเราไปถึง มันโคตรเงียบ ซึ่งเอาจริงๆ มันเงียบสุดๆ ทั้งเมืองเลย ตั้งแต่เราไปถึงแล้ว

สุดท้ายเราก็ต้องขับรถวนไปเรื่อยๆ เพื่อหาจุดที่จะจอดนอน จนไปได้ที่จอดอยู่หน้าโรงเรียน...
พวกเราก็ได้แต่หวังว่า พรุ่งนี้คงไม่ถูกตำรวจมาเคาะปลุกเพื่อตักเตือนเหมือนคราวก่อน
ชื่อสินค้า:   Iceland Trip
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่