เมื่อพูดถึง Landmark สำหรับในโตเกียว Tokyo Skytree ก็เป็นอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวรวมถึงคนญี่ปุ่นเองก็นิยมไป เพราะเป็นหอคอยสูงที่สามารถชมวิวรอบๆโตเกียวที่ความสูงจากพื้นดินถึง 350 เมตร โดยในช่วง 2019.1.8(tue) - 2019.3.5(tue) ที่ชั้น 450m จะมีจัดแสดง Gallery ของ Kingdom Hearts อีกด้วย
ช่วง 2/5 - 2/11 พี่เนียนได้เดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกับครอบครัว(แม่และพี่ชาย) ซึ่งทริปนี้มีพี่ชายมาด้วยก็คาดหวังไว้ว่าอยากไปเดินหลายที่จึงเป็นทริปที่ไม่ค่อยมีความคุ พี่เนียนจึงได้จัดแผนทริปนี้ไว้ดังนี้
- 2/5 Landing Day
-
2/6 Sawara(Chiba) ~ เมืองโบราณสมัยเอโดะ
-
2/7 Kawaguchi-ko ~ Oshino Hakkai
- 2/8 Tokyo Skytree(Kingdom Hearts Period) + Umihotaru(จุดพักรถกลางอ่าวโตเกียว)
- 2/9 Around Tokyo (พิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่อุเอโนะ - กินซ่า)
- 2/10 Wonder Festival 2019 ~ Hobby Exhibition at Makuhari Messe(Chiba) ~ ขอคุซักวัน
- 2/11 Return Day
จะเห็นได้ว่าเป็น One day trip ซะส่วนใหญ่ ซึ่งข้อดีคือเราสามารถเลือกสลับวันเองได้ตามสภาพอากาศจากการพยากรณ์อากาศของวันนั้นๆ และไปได้หลายที่บริเวณใกล้โตเกียว
สำหรับที่สกายทรีนั้นจะมีการแบ่งชั้นเป็น 350m และ 450m ซึ่งท่านที่ต้องการไป 450m สามารถตีตั๋วเพิ่มได้ที่ชั้น 350m ในส่วนชั้น 350m นั้นจะเป็นกระจกใสให้ชมวิวโดยรอบของโตเกียว ซึ่งในวันที่อากาศดีก็อาจจะสามารถมองเห็นถึงภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วย แต่วันที่พี่เนียนไปก็สภาพอากาศไม่ได้ดีเท่าไหล่ แต่สามารถมองเห็นไปถึง Umihotaru ที่โผล่ขึ้นมากลางอ่าวโตเกียวได้(สำหรับ Umihotaru สามารถดูข้อมูลต่อได้ในโพสหน้า)
ในชั้น 350m เองก็มีจัดแสดงงานศิลปบางส่วน ที่เป็นผลงานประกวดภาพวาดของ Skytree อยู่บางส่วนด้วย
จากชั้น 350m พี่เนียนได้ลองเดินสำรวจดูก็พบว่ามีบันไดให้สามารถลงไปชั้น 345m ซึ่งเป็นส่วน Skytree Shop กับมีส่วนที่เป็นกระจกใสที่สามารถมองเห็นอาคารบ้านเรือนที่อยู่ใต้เท้าเราได้ด้วย โดยจะมีบริการถ่ายรูปบนกระจกใสให้เป็นที่ระทึกในการมาเยี่ยมสกายทรีกันไป และจากชั้น 345m ก็สามารถลงต่อไป 340m ที่เป็นส่วนคาเฟ่ร้านอาหารได้อีกด้วย
ในส่วนชั้น 450m นั้นจะเป็นส่วนจัดแสดง Gallery ซึ่งในช่วงที่พี่เนียนไปนั้นคือช่วงแสดงของเกม RPG ชื่อดังจากค่าย SQEX อย่าง Kingdom Hearts นั่นเอง และเมื่อประตูลิฟท์เปิดออกเราก็จะพบกับ Back Drop ที่จัดเป็นเก้าอี้สำหรับถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกจาก Skytree:Kingdom Hearts
ซึ่งระหว่างเดินวนขึ้นจาก 445m ไป 450m ก็จะมีการตกแต่งภายในเพื่อบอกเล่าประวัติตัวละครใน Kingdom Hearts และโลก Disney ต่างๆที่ปรากฎใน Kingdom Hearts ซึ่งด้านบนจะมี Goods Shop ของ Kingdom Hearts ให้เหล่าแฟนคลับมาจับจ่ายกัน
เดินต่อมาอีกหน่อยก็จะมี Keyblade 1/1 ให้ลองจับเพื่อเปิดประตูกันด้วย
ในชั้น 450m ก็จะมีตู้โชว์แผ่นเกม ภาพวาด และสินค้าของ Kingdom Hearts อยู่มากมาย ซึ่งก็รวมไปถึง Keyblade 1/1 พิเศษ ที่จัดทำขึ้นสำหรับ Skytree ด้วย
สำหรับการคอลาโบของ Kingdom Hearts ในครั้งนี้ ผู้จัดก็มีกินกรรมเล็กๆให้ผู้มาเยี่ยมชม ได้เดินจนทั่ว Skytree ด้วยการ Stamp Rally คือการสะสมตราประทับตามจุดต่างๆ ซึ่งในโบรชัวร์ก็ระบุไว้แล้วว่ามีตราประทับที่จุดไหนบ้าง ซึ่งคนที่สามารถสะสมครบก็นำไปแลกรับ Post Card พิเศษได้ด้วย
ท่านที่สนใจมาเที่ยวที่ Skytree โดยปกติจะคิดค่าตั๋วเป็น 2 ขั้นคือ
- ไปชั้น 350m ราคา 2000 เยน
- ต่อชั้น 450m ราคา 1000 เยน
ซึ่งท่านที่ไม่มีความประส่งจะเข้าส่วน Gallery ก็ตีตั๋วไปแค่ชั้น 350m แล้วกลับพอครับ
สำหรับการเดินทางไป
Tokyo Skytree ให้โดยสาร
Asakusa Line มาลงที่
Oshiage Station จ้า
และเช่นเคยแจ้งเตือนสำหรับสายกาชาปอง ให้ไปหาร้านเกมแล้วทำการ Reload กระสุนมาให้เต็มแม็ก เพราะที่ Kingdom Hearts Shop ชั้น 450m ก็จะมีตู้กาชาพิเศษ Magnet ของ Skytree:Kingdom Hearts จนอาจจะทำให้ตกอยู่ในสภาพแบบนี้
ขอขอบคุณท่านที่อ่านจนจบถึงตรงนี้ ซึ่งผมหวังว่าบทความนี้จะช่วยเติมเต็มข้อมูลเพื่อจะเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นตามที่ท่านหวังไว้ และสำหรับท่านที่สนใจหาข้อมูลท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นแบบโอตาคุ สามารถไปพูดคุยกันต่อได้ที่เพจ FB: OTATOUR เลยจ้า
[CR] [One Day Trip] ไปปีนหอคอยแห่งแสงและความมืดที่ Tokyo Skytree
เมื่อพูดถึง Landmark สำหรับในโตเกียว Tokyo Skytree ก็เป็นอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวรวมถึงคนญี่ปุ่นเองก็นิยมไป เพราะเป็นหอคอยสูงที่สามารถชมวิวรอบๆโตเกียวที่ความสูงจากพื้นดินถึง 350 เมตร โดยในช่วง 2019.1.8(tue) - 2019.3.5(tue) ที่ชั้น 450m จะมีจัดแสดง Gallery ของ Kingdom Hearts อีกด้วย
ช่วง 2/5 - 2/11 พี่เนียนได้เดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกับครอบครัว(แม่และพี่ชาย) ซึ่งทริปนี้มีพี่ชายมาด้วยก็คาดหวังไว้ว่าอยากไปเดินหลายที่จึงเป็นทริปที่ไม่ค่อยมีความคุ พี่เนียนจึงได้จัดแผนทริปนี้ไว้ดังนี้
- 2/5 Landing Day
- 2/6 Sawara(Chiba) ~ เมืองโบราณสมัยเอโดะ
- 2/7 Kawaguchi-ko ~ Oshino Hakkai
- 2/8 Tokyo Skytree(Kingdom Hearts Period) + Umihotaru(จุดพักรถกลางอ่าวโตเกียว)
- 2/9 Around Tokyo (พิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่อุเอโนะ - กินซ่า)
- 2/10 Wonder Festival 2019 ~ Hobby Exhibition at Makuhari Messe(Chiba) ~ ขอคุซักวัน
- 2/11 Return Day
จะเห็นได้ว่าเป็น One day trip ซะส่วนใหญ่ ซึ่งข้อดีคือเราสามารถเลือกสลับวันเองได้ตามสภาพอากาศจากการพยากรณ์อากาศของวันนั้นๆ และไปได้หลายที่บริเวณใกล้โตเกียว
สำหรับที่สกายทรีนั้นจะมีการแบ่งชั้นเป็น 350m และ 450m ซึ่งท่านที่ต้องการไป 450m สามารถตีตั๋วเพิ่มได้ที่ชั้น 350m ในส่วนชั้น 350m นั้นจะเป็นกระจกใสให้ชมวิวโดยรอบของโตเกียว ซึ่งในวันที่อากาศดีก็อาจจะสามารถมองเห็นถึงภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วย แต่วันที่พี่เนียนไปก็สภาพอากาศไม่ได้ดีเท่าไหล่ แต่สามารถมองเห็นไปถึง Umihotaru ที่โผล่ขึ้นมากลางอ่าวโตเกียวได้(สำหรับ Umihotaru สามารถดูข้อมูลต่อได้ในโพสหน้า)
ในชั้น 350m เองก็มีจัดแสดงงานศิลปบางส่วน ที่เป็นผลงานประกวดภาพวาดของ Skytree อยู่บางส่วนด้วย
จากชั้น 350m พี่เนียนได้ลองเดินสำรวจดูก็พบว่ามีบันไดให้สามารถลงไปชั้น 345m ซึ่งเป็นส่วน Skytree Shop กับมีส่วนที่เป็นกระจกใสที่สามารถมองเห็นอาคารบ้านเรือนที่อยู่ใต้เท้าเราได้ด้วย โดยจะมีบริการถ่ายรูปบนกระจกใสให้เป็นที่ระทึกในการมาเยี่ยมสกายทรีกันไป และจากชั้น 345m ก็สามารถลงต่อไป 340m ที่เป็นส่วนคาเฟ่ร้านอาหารได้อีกด้วย
ในส่วนชั้น 450m นั้นจะเป็นส่วนจัดแสดง Gallery ซึ่งในช่วงที่พี่เนียนไปนั้นคือช่วงแสดงของเกม RPG ชื่อดังจากค่าย SQEX อย่าง Kingdom Hearts นั่นเอง และเมื่อประตูลิฟท์เปิดออกเราก็จะพบกับ Back Drop ที่จัดเป็นเก้าอี้สำหรับถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกจาก Skytree:Kingdom Hearts
ซึ่งระหว่างเดินวนขึ้นจาก 445m ไป 450m ก็จะมีการตกแต่งภายในเพื่อบอกเล่าประวัติตัวละครใน Kingdom Hearts และโลก Disney ต่างๆที่ปรากฎใน Kingdom Hearts ซึ่งด้านบนจะมี Goods Shop ของ Kingdom Hearts ให้เหล่าแฟนคลับมาจับจ่ายกัน
เดินต่อมาอีกหน่อยก็จะมี Keyblade 1/1 ให้ลองจับเพื่อเปิดประตูกันด้วย
ในชั้น 450m ก็จะมีตู้โชว์แผ่นเกม ภาพวาด และสินค้าของ Kingdom Hearts อยู่มากมาย ซึ่งก็รวมไปถึง Keyblade 1/1 พิเศษ ที่จัดทำขึ้นสำหรับ Skytree ด้วย
สำหรับการคอลาโบของ Kingdom Hearts ในครั้งนี้ ผู้จัดก็มีกินกรรมเล็กๆให้ผู้มาเยี่ยมชม ได้เดินจนทั่ว Skytree ด้วยการ Stamp Rally คือการสะสมตราประทับตามจุดต่างๆ ซึ่งในโบรชัวร์ก็ระบุไว้แล้วว่ามีตราประทับที่จุดไหนบ้าง ซึ่งคนที่สามารถสะสมครบก็นำไปแลกรับ Post Card พิเศษได้ด้วย
ท่านที่สนใจมาเที่ยวที่ Skytree โดยปกติจะคิดค่าตั๋วเป็น 2 ขั้นคือ
- ไปชั้น 350m ราคา 2000 เยน
- ต่อชั้น 450m ราคา 1000 เยน
ซึ่งท่านที่ไม่มีความประส่งจะเข้าส่วน Gallery ก็ตีตั๋วไปแค่ชั้น 350m แล้วกลับพอครับ
สำหรับการเดินทางไป Tokyo Skytree ให้โดยสาร Asakusa Line มาลงที่ Oshiage Station จ้า
และเช่นเคยแจ้งเตือนสำหรับสายกาชาปอง ให้ไปหาร้านเกมแล้วทำการ Reload กระสุนมาให้เต็มแม็ก เพราะที่ Kingdom Hearts Shop ชั้น 450m ก็จะมีตู้กาชาพิเศษ Magnet ของ Skytree:Kingdom Hearts จนอาจจะทำให้ตกอยู่ในสภาพแบบนี้
ขอขอบคุณท่านที่อ่านจนจบถึงตรงนี้ ซึ่งผมหวังว่าบทความนี้จะช่วยเติมเต็มข้อมูลเพื่อจะเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นตามที่ท่านหวังไว้ และสำหรับท่านที่สนใจหาข้อมูลท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นแบบโอตาคุ สามารถไปพูดคุยกันต่อได้ที่เพจ FB: OTATOUR เลยจ้า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้