สำหรับจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิ คงไม่มีใครไม่รู้จัก Kawaguchi-Ko หรือ ทะเลสาปคาวากุจิ ซึ่งเป็นอีกจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่มีความสวยงาม เนื่องจากคุณจะได้เห็นวิวทะเลสาปอยู่ใต้ภูเขาไฟฟูจินั่นเอง แต่อาจจมีหลายท่านที่ยังไม่รู้ว่าบริเวณใกล้เคียงทะเลสาปคาวากุจิก็มีสถานที่เที่ยวน่าสนใจอย่าง Oshino Hakkai อีกด้วย ซึ่งในครั้งนี้พี่เนียนก็ได้ไปเดินที่ Oshino Hakkai เพื่อเก็บข้อมูลมาฝากทุกท่าน
ช่วง 2/5 - 2/11 พี่เนียนได้เดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกับครอบครัว(แม่และพี่ชาย) ซึ่งทริปนี้มีพี่ชายมาด้วยก็คาดหวังไว้ว่าอยากไปเดินหลายที่จึงเป็นทริปที่ไม่ค่อยมีความคุ พี่เนียนจึงได้จัดแผนทริปนี้ไว้ดังนี้
- 2/5 Landing Day
-
2/6 Sawara(Chiba) ~ เมืองโบราณสมัยเอโดะ
- 2/7 Kawaguchi-ko ~ Oshino Hakkai
- 2/8
Tokyo Skytree(Kingdom Hearts Period) + Umihotaru(จุดพักรถกลางอ่าวโตเกียว)
- 2/9 Around Tokyo (พิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่อุเอโนะ - กินซ่า)
- 2/10 Wonder Festival 2019 ~ Hobby Exhibition at Makuhari Messe(Chiba) ~ ขอคุซักวัน
- 2/11 Return Day
จะเห็นได้ว่าเป็น One day trip ซะส่วนใหญ่ ซึ่งข้อดีคือเราสามารถเลือกสลับวันเองได้ตามสภาพอากาศจากการพยากรณ์อากาศของวันนั้นๆ และไปได้หลายที่บริเวณใกล้โตเกียว โดยครั้งนี้พี่เนียนได้จองตั๋วบัสจากShinjuku ไปที่สถานี Kawaguchi-Ko ไว้จากวันก่อนที่กลับมาจาก Sawara นั่นเอง
การเดินทางไป Oshino Hakkai สามารถเดินทางแบบ One day trip จากโตเกียว ซึ่งเส้นทางที่พี่เนียนอยากแนะนำก็คือการขึ้นรถบัสที่ Shinjuku ไปที่สถานี Kawaguchi-Ko แล้วสามารถต่อรถบัสประจำทางไปที่ Oshino Hakkai ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งในการโดยสารรถบัสประจำทางเราสามารถจ่ายด้วย IC Card อย่าง Passmo/Suica ได้อย่างสะดวกสบาย โดยจุดขึ้นรถบัสประจำทางจะอยู่ที่ชานชลาหมายเลข 6 หน้าสถานี Kawaguchi-Ko เลย ซึ่งรถบัสประจำทางจะแบ่งเป็นสายต่างๆดังนี้
+ A-Line - A1/A2
+ C-Line - C1/C2
+ F-Line - F1/F2
โดยสายที่ผ่าน Oshino Hakkai คือ A1/C1/F1/F2 ระหว่างนั่งรถบัสเราก็จะได้ตื่นตากับการเที่ยวชมรอบเมืองบริเวณใกล้เคียงสถานี Kawaguchi-Ko แต่ก็อย่าเพลินจนลืมลงที่ป้าย Oshino Hakkai โดยเมื่อใกล้ถึงจะขึ้นชื่อป้ายบนจอในรถบัสเลย ถ้าไม่มีคนกดกริ่งก็ให้เรากดกริ่งเองด้วยเพราะถ้าไม่กดกริ่งคนขับอาจจะไม่จอดป้ายก็ได้นะ ซึ่งบัสทุกสายจะวิ่งไปทาง Yamanaka-Ko หรือทะเลสาปยามานากะนั่นเอง
Oshino Hakkai นั้นจะมีลักษณะเป็นหมู่บ้านเก่าแก่และมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นน้ำที่ละลายจากหิมะ เป็นบ่อน้ำที่ใสมากจนสามารถมองเป็นตัวปลาที่อาศัยอยู่ในบ่อได้เลย และมีน้องเป็ดว่ายน้ำเล่นอยู่บ้างนิดหน่อย ซึ่งสิ่งที่ไม่ควรทำก็คือการโยนอาหารและโยนเหรียญลงไปในบ่อ ซึ่งก็ไร้ประโยชน์ที่จะเตือนพวกทัวร์จีนมือบอนไม่สนสี่สนแปดใดๆแม้เขาจะขึ้นป้ายไว้ว่าห้ามทำ เอาเป็นว่าท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ก็ขอให้เข้าใจไว้ว่าไม่ควรทำจ้า
สำหรับท่านที่กลัวว่าจะหาอาหารท่านที่นี่ยาก ก็ขอบอกว่าไม่ต้อกลัวเพราะมีขายของกินเพียบ คนก็เพียบเช่นกัน.....เห็นคนแล้วก็เพลียของกินไอติมเกาลัดแก้เวียนหัวก่อน
จริงอยู่ว่า Oshino Hakkai สามารถมาแบบ One day trip จากโตเกียวได้ แต่ท่านที่ต้องการมาชมความงามธรรมชาติของ Oshino Hakkai ก็ควรมาแบบค้างคืนหลายวันหน่อยและนั่งรถบัสเที่ยวชมไปรอบบริเวณทะเลสาปคาวากุจิ เนื่องจากสภาพอากาศอาจจะไม่ค่อยเป็นใจให้เห็นยอดภูเขาไฟฟูจิอย่างสวยงามในทุกวัน ท่านที่ไปแบบ One day trip อาจจะต้องอาศัยดวงอยู่บ้าง และวันที่พี่เนียนไปก็ถือได้ว่าดวงซวยหน่อยที่เป็นวันที่มีเมฆเยอะ ซึ่งสภาพอากาศประเทศญี่ปุ่นก็เปลี่ยนแปลงได้ตลอดแม้จะมีการดูพยากรณ์อากาศไว้แล้ว TwT สิ่งที่ต้องระวังอีกอย่างสำหรับ Oshino Hakkai คือที่นี่เป็น Landmark ของทัวร์จีนมือบอน ซึ่งพอสายหน่อยจะมีรถทัวร์จีนมือบอนมาลงประมาณ 8 คันรถ ก็ให้ตีไปว่าคันนึงจุได้ประมาณ 50 คน :V ดังนั้นพี่เนียนขอแนะนำว่าควรไปแต่ช่วงเช้าเพื่อหลีกเลี่ยงทัวร์จีนสำหรับท่านที่ไปค้างได้
แต่ถึงทัวร์จีนมือบอนจะลงแล้วก็ไม่ได้ถือว่าแย่ซะทีเดียว เพราะที่ Oshino Hakkai จะมีโซนที่เป็น Museum อยู่ด้วย โดยสำหรับโซนนี้จะต้องตีตั๋วเสียค่าผ่านประตูเพิ่มซึ่งทัวร์จีนมือบอนนั้นไม่ยอมจ่าย 55555 จึงทำให้ในโซนนี้เราสามารถเข้าไปเดินได้อย่างสบายใจชมความงามของสถานที่ภายในได้อย่างเต็มที่ และมีเป็ดว่ายน้ำให้ดูเป็นฝูงเลย สภาพยังกว่าหนังคนละม้วน 555
ภายในส่วน Museum ก็จะมีบ้านที่จัดแสดงพวกเครื่องใช้เก่าแก่ของหมู่บ้านไว้ให้นักท่องเที่ยวชม
ก็อย่างที่เล่าไปข้างต้นว่าวันนี้ดวงไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ แต่ยังพอได้เห็นโคนภูเขาไฟบ้างตรงหน้าสถานี Kawaguchi-Ko ซึ่งปกติถ้าฟ้าเป็นใจก็จะได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิจากหน้าสถานีด้วย
และสำหรับในครั้งนี้ที่ต้องมาที่ทะเลสาปคาวากุจินั้น อีกเหตุผลก็คือมันจะมีของบางอย่างที่หายไปจากโตเกียวตั้งแต่ Day one TwT
สุดท้ายนี้ก็มีเรื่องจะแจ้งเตือนสำหรับสายกาชาปอง ให้ไปหาร้านเกมแล้วทำการ Reload กระสุนมาให้เต็มแม็กตั้งแต่อยู่ในโตเกียว เพราะตอนขากลับพอเข้าไปในสถานี Kawaguchi-Ko จะมีตู้กาชาเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิเยอะมาก ก็อาจจะทำให้ตกอยู่ในสภาพแบบนี้
ขอขอบคุณท่านที่อ่านจนจบถึงตรงนี้ ซึ่งผมหวังว่าบทความนี้จะช่วยเติมเต็มข้อมูลเพื่อจะเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นตามที่ท่านหวังไว้ และสำหรับท่านที่สนใจหาข้อมูลท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นแบบโอตาคุ สามารถไปพูดคุยกันต่อได้ที่เพจ FB: OTATOUR เลยจ้า
[CR] [One Day Trip] จาก Tokyo ไปหมู่บ้านน้ำใสใกล้ภูเขาไฟฟูจิ Oshino Hakkai
สำหรับจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิ คงไม่มีใครไม่รู้จัก Kawaguchi-Ko หรือ ทะเลสาปคาวากุจิ ซึ่งเป็นอีกจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่มีความสวยงาม เนื่องจากคุณจะได้เห็นวิวทะเลสาปอยู่ใต้ภูเขาไฟฟูจินั่นเอง แต่อาจจมีหลายท่านที่ยังไม่รู้ว่าบริเวณใกล้เคียงทะเลสาปคาวากุจิก็มีสถานที่เที่ยวน่าสนใจอย่าง Oshino Hakkai อีกด้วย ซึ่งในครั้งนี้พี่เนียนก็ได้ไปเดินที่ Oshino Hakkai เพื่อเก็บข้อมูลมาฝากทุกท่าน
ช่วง 2/5 - 2/11 พี่เนียนได้เดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกับครอบครัว(แม่และพี่ชาย) ซึ่งทริปนี้มีพี่ชายมาด้วยก็คาดหวังไว้ว่าอยากไปเดินหลายที่จึงเป็นทริปที่ไม่ค่อยมีความคุ พี่เนียนจึงได้จัดแผนทริปนี้ไว้ดังนี้
- 2/5 Landing Day
- 2/6 Sawara(Chiba) ~ เมืองโบราณสมัยเอโดะ
- 2/7 Kawaguchi-ko ~ Oshino Hakkai
- 2/8 Tokyo Skytree(Kingdom Hearts Period) + Umihotaru(จุดพักรถกลางอ่าวโตเกียว)
- 2/9 Around Tokyo (พิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่อุเอโนะ - กินซ่า)
- 2/10 Wonder Festival 2019 ~ Hobby Exhibition at Makuhari Messe(Chiba) ~ ขอคุซักวัน
- 2/11 Return Day
จะเห็นได้ว่าเป็น One day trip ซะส่วนใหญ่ ซึ่งข้อดีคือเราสามารถเลือกสลับวันเองได้ตามสภาพอากาศจากการพยากรณ์อากาศของวันนั้นๆ และไปได้หลายที่บริเวณใกล้โตเกียว โดยครั้งนี้พี่เนียนได้จองตั๋วบัสจากShinjuku ไปที่สถานี Kawaguchi-Ko ไว้จากวันก่อนที่กลับมาจาก Sawara นั่นเอง
การเดินทางไป Oshino Hakkai สามารถเดินทางแบบ One day trip จากโตเกียว ซึ่งเส้นทางที่พี่เนียนอยากแนะนำก็คือการขึ้นรถบัสที่ Shinjuku ไปที่สถานี Kawaguchi-Ko แล้วสามารถต่อรถบัสประจำทางไปที่ Oshino Hakkai ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งในการโดยสารรถบัสประจำทางเราสามารถจ่ายด้วย IC Card อย่าง Passmo/Suica ได้อย่างสะดวกสบาย โดยจุดขึ้นรถบัสประจำทางจะอยู่ที่ชานชลาหมายเลข 6 หน้าสถานี Kawaguchi-Ko เลย ซึ่งรถบัสประจำทางจะแบ่งเป็นสายต่างๆดังนี้
+ A-Line - A1/A2
+ C-Line - C1/C2
+ F-Line - F1/F2
โดยสายที่ผ่าน Oshino Hakkai คือ A1/C1/F1/F2 ระหว่างนั่งรถบัสเราก็จะได้ตื่นตากับการเที่ยวชมรอบเมืองบริเวณใกล้เคียงสถานี Kawaguchi-Ko แต่ก็อย่าเพลินจนลืมลงที่ป้าย Oshino Hakkai โดยเมื่อใกล้ถึงจะขึ้นชื่อป้ายบนจอในรถบัสเลย ถ้าไม่มีคนกดกริ่งก็ให้เรากดกริ่งเองด้วยเพราะถ้าไม่กดกริ่งคนขับอาจจะไม่จอดป้ายก็ได้นะ ซึ่งบัสทุกสายจะวิ่งไปทาง Yamanaka-Ko หรือทะเลสาปยามานากะนั่นเอง
Oshino Hakkai นั้นจะมีลักษณะเป็นหมู่บ้านเก่าแก่และมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นน้ำที่ละลายจากหิมะ เป็นบ่อน้ำที่ใสมากจนสามารถมองเป็นตัวปลาที่อาศัยอยู่ในบ่อได้เลย และมีน้องเป็ดว่ายน้ำเล่นอยู่บ้างนิดหน่อย ซึ่งสิ่งที่ไม่ควรทำก็คือการโยนอาหารและโยนเหรียญลงไปในบ่อ ซึ่งก็ไร้ประโยชน์ที่จะเตือนพวกทัวร์จีนมือบอนไม่สนสี่สนแปดใดๆแม้เขาจะขึ้นป้ายไว้ว่าห้ามทำ เอาเป็นว่าท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ก็ขอให้เข้าใจไว้ว่าไม่ควรทำจ้า
สำหรับท่านที่กลัวว่าจะหาอาหารท่านที่นี่ยาก ก็ขอบอกว่าไม่ต้อกลัวเพราะมีขายของกินเพียบ คนก็เพียบเช่นกัน.....เห็นคนแล้วก็เพลียของกินไอติมเกาลัดแก้เวียนหัวก่อน
จริงอยู่ว่า Oshino Hakkai สามารถมาแบบ One day trip จากโตเกียวได้ แต่ท่านที่ต้องการมาชมความงามธรรมชาติของ Oshino Hakkai ก็ควรมาแบบค้างคืนหลายวันหน่อยและนั่งรถบัสเที่ยวชมไปรอบบริเวณทะเลสาปคาวากุจิ เนื่องจากสภาพอากาศอาจจะไม่ค่อยเป็นใจให้เห็นยอดภูเขาไฟฟูจิอย่างสวยงามในทุกวัน ท่านที่ไปแบบ One day trip อาจจะต้องอาศัยดวงอยู่บ้าง และวันที่พี่เนียนไปก็ถือได้ว่าดวงซวยหน่อยที่เป็นวันที่มีเมฆเยอะ ซึ่งสภาพอากาศประเทศญี่ปุ่นก็เปลี่ยนแปลงได้ตลอดแม้จะมีการดูพยากรณ์อากาศไว้แล้ว TwT สิ่งที่ต้องระวังอีกอย่างสำหรับ Oshino Hakkai คือที่นี่เป็น Landmark ของทัวร์จีนมือบอน ซึ่งพอสายหน่อยจะมีรถทัวร์จีนมือบอนมาลงประมาณ 8 คันรถ ก็ให้ตีไปว่าคันนึงจุได้ประมาณ 50 คน :V ดังนั้นพี่เนียนขอแนะนำว่าควรไปแต่ช่วงเช้าเพื่อหลีกเลี่ยงทัวร์จีนสำหรับท่านที่ไปค้างได้
แต่ถึงทัวร์จีนมือบอนจะลงแล้วก็ไม่ได้ถือว่าแย่ซะทีเดียว เพราะที่ Oshino Hakkai จะมีโซนที่เป็น Museum อยู่ด้วย โดยสำหรับโซนนี้จะต้องตีตั๋วเสียค่าผ่านประตูเพิ่มซึ่งทัวร์จีนมือบอนนั้นไม่ยอมจ่าย 55555 จึงทำให้ในโซนนี้เราสามารถเข้าไปเดินได้อย่างสบายใจชมความงามของสถานที่ภายในได้อย่างเต็มที่ และมีเป็ดว่ายน้ำให้ดูเป็นฝูงเลย สภาพยังกว่าหนังคนละม้วน 555
ภายในส่วน Museum ก็จะมีบ้านที่จัดแสดงพวกเครื่องใช้เก่าแก่ของหมู่บ้านไว้ให้นักท่องเที่ยวชม
ก็อย่างที่เล่าไปข้างต้นว่าวันนี้ดวงไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ แต่ยังพอได้เห็นโคนภูเขาไฟบ้างตรงหน้าสถานี Kawaguchi-Ko ซึ่งปกติถ้าฟ้าเป็นใจก็จะได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิจากหน้าสถานีด้วย
และสำหรับในครั้งนี้ที่ต้องมาที่ทะเลสาปคาวากุจินั้น อีกเหตุผลก็คือมันจะมีของบางอย่างที่หายไปจากโตเกียวตั้งแต่ Day one TwT
สุดท้ายนี้ก็มีเรื่องจะแจ้งเตือนสำหรับสายกาชาปอง ให้ไปหาร้านเกมแล้วทำการ Reload กระสุนมาให้เต็มแม็กตั้งแต่อยู่ในโตเกียว เพราะตอนขากลับพอเข้าไปในสถานี Kawaguchi-Ko จะมีตู้กาชาเกี่ยวกับภูเขาไฟฟูจิเยอะมาก ก็อาจจะทำให้ตกอยู่ในสภาพแบบนี้
ขอขอบคุณท่านที่อ่านจนจบถึงตรงนี้ ซึ่งผมหวังว่าบทความนี้จะช่วยเติมเต็มข้อมูลเพื่อจะเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นตามที่ท่านหวังไว้ และสำหรับท่านที่สนใจหาข้อมูลท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นแบบโอตาคุ สามารถไปพูดคุยกันต่อได้ที่เพจ FB: OTATOUR เลยจ้า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้