กระทู้นี้สืบเนื่องจาก เราอ่านเจอรีวิวของคนที่ไปพักที่หมู่บ้านน้ำใสจากในพันทิปนี่แหละ เลยทำให้อยากไปพักที่ Hotel Oshino Lake บ้าง
โดยทริปของเราเป็นการเดินทางตรงจากชินจูกุสู่หมู่บ้านน้ำใส Oshino Hakkai โดยจองบัสจาก www.highwaybus.comm เลือกลงสถานี Oshino Hakkai ค่ารถบัส 2000 เยน ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 25 นาที นานกว่าเวลาในตารางเล็กน้อย โดยจะมีรถบัสตรงไปที่นี่วันละ 4 รอบ คือ 08.15 – 10.22 / 10.15 – 12.22 / 17.15 – 19.22 /19.15 -21.22
เราเลือกรอบ 17.15 – 19.22 เพราะมีโปรแกรมเที่ยวชมใบแปะก๊วยที่โตเกียวก่อน แล้วกะจะไปนอนที่ Hotel Oshino Lake เพื่อชมฟูจิซังในยามเช้าก่อนทัวร์จะมา
เผื่อใครจะเลือกรอบนี้ เราเลยอยากจะอธิบายภาพไว้ให้จะได้หาเจอที่พักง่ายๆ พอลงรถมืดไปหมด แทบไม่มีแสงไฟ เงียบมาก ไม่มีผู้คนเลยค่ะ โชคดีที่พักที่เราจองอยู่ใกล้ๆกับจุดจอดรถมากแค่ราวๆ 150-200 เมตร เราใช้ Google Map ช่วยพาไปที่พัก โดยเดินย้อนกลับไปทางที่รถวิ่งมา เราไปยืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งตาม Google บอก แบบ มืดๆ งงๆ สักพัก มองหาผู้คน แต่ไม่มีใครเลย จนในที่สุดหันไปมองอีกฝากถนน จึงรู้ว่าที่พักเราอยู่อีกฝั่งถนนต่างหาก ขออภัยลืมถ่ายภาพความมืดมาให้ชม
เราจอง Hotel Oshino Lake จาก booking.com ห้องละ 9720 เยน/2 คน ไม่รวมอาหารเช้า ที่นี่เป็นโรงแรมเล็กๆมีประมาณ 4-5 ห้อง และอยู่ใกล้ หมู่บ้านน้ำใส Oshino Hakkai ที่สุด คือแทบติดกับหมู่บ้านเลย ห้องพักขนาดไม่เล็ก ไม่ใหญ่ อยู่ได้สบายๆแบบไม่อึดอัด
เจ้าของที่พักใจดีมากค่ะ พวกเราคิดว่าไปถึงที่นั่นจะแวะไปซื้อของกินร้อนๆที่ Lawson ก่อนเข้าที่พัก เพราะอ่านเจอว่ามี Lawson อยู่ใกล้จุดจอดรถ แต่เราเข้าใจผิดมันเป็นคนละจุดกับที่เราลงค่ะ ถ้าจะเดินจากที่พักไปก็ราว 800 เมตร ซึ่งทั้งมืด ทั้งหนาวเราไปไม่ไหวแน่ๆ ถ้าใครมาดึกๆแบบเรา ซื้ออาหารมาจากท่ารถที่ชินจูกุเลยก็ดีนะคะ
เราเลยขอเจ้าของบ้านว่ามีมาม่าขายต่อพวกเราสัก 4 กระป๋องมั๊ย เค้าเลยบอกรอแป๊ป จะไปถามคนแถวนี้ให้ว่าใครมีขายเอารสอะไรก็ได้นะ หายไปเกือบ 20 นาที ก็กลับมาพร้อมมาม่า ตามที่เราขอ สนนราคากระป๋องละ 250 เยน (ไม่แพงนะคะ เห็น Nissin แบบที่เรากินขายตรงที่จุดของฝากก็ 180 เยน) จากนั้นก็พาเราไปที่ห้องมีกระติกน้ำร้อน ชาเขียวไว้ต้อนรับ
ห้องพักเป็นห้องสไตล์ญี่ปุ่น กลางห้องวางโต๊ะโคทัตสึ (Kotatsu) ไว้ เป็นโต๊ะที่ให้ความอบอุ่นแก่ร้างกายในฤดูหนาว ทุกห้องมองเห็นฟูจิซังได้ ถ้าอากาศดี มีชุดนอนยูกาตะ พร้อมเสื้อคลุมฮากามะ ที่นอนเป็นแบบฟูก(ฟุตง)ให้ปูเอง
หลายภาพในที่พักเอามาจาก Google นะคะ เพราะไม่คิดว่าจะมาเขียนรีวิว และไปถึงก็ดึกมาก หิวมากไม่ค่อยได้ถ่ายค่ะ
ภาพหน้าที่พัก เอามาจาก Google ค่ะ
ภาพห้องนอน เอามาจาก Google ค่ะ
พวกเรากับมาม่าในยามหิวโหยค่ะ ต้องขอบคุณเจ้าของบ้านจริงๆที่ไปหามาให้
เราไปช่วงหน้าหน้าว ในห้องจะมีโต๊ะโคทัตสึ (Kotatsu) ไว้ให้ความอบอุ่น และ ชุดนอนยูกาตะ พร้อมเสื้อคลุมฮากามะ เตรียมให้ค่ะ
ห้องนอนทุกห้องสามารถมองเห็นฟูจิซังได้ทุกห้องถ้าอากาศดี
ตอนเช็คอินเจ้าของบ้านบอกเราไว้ก่อนเลยว่าพรุ่งนี้เราคงไม่ได้เห็นฟูจินะ เพราะเมฆเยอะ บอกตรงๆก็ฝันสลายเล็กๆ อุตส่าห์มาดักเฝ้า แต่พอรุ่งขึ้น ราว 6 โมงเช้าฟ้าสว่าง ฟูจิซังก็โผล่มาให้เห็น แบบอยู่กับพวกทั้งวันจนเลยหกโมงเย็นเลย ถึงแม้จะเป็นฟูจิซังกับฉากฟ้าหม่นอมเทา เราก็ดีใจ ดี้ด้ามากแล้ว
ภาพห้องน้ำ เอามาจาก Google ค่ะ ห้องน้ำเป็นห้องอาบรวม 2 ห้อง แต่จะว่าไปก็เหมือนส่วนตัว เพราะถ้าสมาชิกห้องเราใช้อยู่ ก็แขวงป้ายว่ามีคนใช้ อาบได้ครั้งละ 2-3 คน มีอ่างอาบน้ำเล็กๆให้แช่ด้วยกัน อุปกรณ์ในห้องน้าพร้อมตามมาตรฐาน
CR จากชินจูกุสู่หมู่บ้านน้ำใส ชมฟูจิซังแบบไม่ต้องแย่งกับใคร
โดยทริปของเราเป็นการเดินทางตรงจากชินจูกุสู่หมู่บ้านน้ำใส Oshino Hakkai โดยจองบัสจาก www.highwaybus.comm เลือกลงสถานี Oshino Hakkai ค่ารถบัส 2000 เยน ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 25 นาที นานกว่าเวลาในตารางเล็กน้อย โดยจะมีรถบัสตรงไปที่นี่วันละ 4 รอบ คือ 08.15 – 10.22 / 10.15 – 12.22 / 17.15 – 19.22 /19.15 -21.22
เราเลือกรอบ 17.15 – 19.22 เพราะมีโปรแกรมเที่ยวชมใบแปะก๊วยที่โตเกียวก่อน แล้วกะจะไปนอนที่ Hotel Oshino Lake เพื่อชมฟูจิซังในยามเช้าก่อนทัวร์จะมา
เผื่อใครจะเลือกรอบนี้ เราเลยอยากจะอธิบายภาพไว้ให้จะได้หาเจอที่พักง่ายๆ พอลงรถมืดไปหมด แทบไม่มีแสงไฟ เงียบมาก ไม่มีผู้คนเลยค่ะ โชคดีที่พักที่เราจองอยู่ใกล้ๆกับจุดจอดรถมากแค่ราวๆ 150-200 เมตร เราใช้ Google Map ช่วยพาไปที่พัก โดยเดินย้อนกลับไปทางที่รถวิ่งมา เราไปยืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งตาม Google บอก แบบ มืดๆ งงๆ สักพัก มองหาผู้คน แต่ไม่มีใครเลย จนในที่สุดหันไปมองอีกฝากถนน จึงรู้ว่าที่พักเราอยู่อีกฝั่งถนนต่างหาก ขออภัยลืมถ่ายภาพความมืดมาให้ชม
เราจอง Hotel Oshino Lake จาก booking.com ห้องละ 9720 เยน/2 คน ไม่รวมอาหารเช้า ที่นี่เป็นโรงแรมเล็กๆมีประมาณ 4-5 ห้อง และอยู่ใกล้ หมู่บ้านน้ำใส Oshino Hakkai ที่สุด คือแทบติดกับหมู่บ้านเลย ห้องพักขนาดไม่เล็ก ไม่ใหญ่ อยู่ได้สบายๆแบบไม่อึดอัด
เจ้าของที่พักใจดีมากค่ะ พวกเราคิดว่าไปถึงที่นั่นจะแวะไปซื้อของกินร้อนๆที่ Lawson ก่อนเข้าที่พัก เพราะอ่านเจอว่ามี Lawson อยู่ใกล้จุดจอดรถ แต่เราเข้าใจผิดมันเป็นคนละจุดกับที่เราลงค่ะ ถ้าจะเดินจากที่พักไปก็ราว 800 เมตร ซึ่งทั้งมืด ทั้งหนาวเราไปไม่ไหวแน่ๆ ถ้าใครมาดึกๆแบบเรา ซื้ออาหารมาจากท่ารถที่ชินจูกุเลยก็ดีนะคะ
เราเลยขอเจ้าของบ้านว่ามีมาม่าขายต่อพวกเราสัก 4 กระป๋องมั๊ย เค้าเลยบอกรอแป๊ป จะไปถามคนแถวนี้ให้ว่าใครมีขายเอารสอะไรก็ได้นะ หายไปเกือบ 20 นาที ก็กลับมาพร้อมมาม่า ตามที่เราขอ สนนราคากระป๋องละ 250 เยน (ไม่แพงนะคะ เห็น Nissin แบบที่เรากินขายตรงที่จุดของฝากก็ 180 เยน) จากนั้นก็พาเราไปที่ห้องมีกระติกน้ำร้อน ชาเขียวไว้ต้อนรับ
ห้องพักเป็นห้องสไตล์ญี่ปุ่น กลางห้องวางโต๊ะโคทัตสึ (Kotatsu) ไว้ เป็นโต๊ะที่ให้ความอบอุ่นแก่ร้างกายในฤดูหนาว ทุกห้องมองเห็นฟูจิซังได้ ถ้าอากาศดี มีชุดนอนยูกาตะ พร้อมเสื้อคลุมฮากามะ ที่นอนเป็นแบบฟูก(ฟุตง)ให้ปูเอง
หลายภาพในที่พักเอามาจาก Google นะคะ เพราะไม่คิดว่าจะมาเขียนรีวิว และไปถึงก็ดึกมาก หิวมากไม่ค่อยได้ถ่ายค่ะ
ภาพหน้าที่พัก เอามาจาก Google ค่ะ
ภาพห้องนอน เอามาจาก Google ค่ะ
พวกเรากับมาม่าในยามหิวโหยค่ะ ต้องขอบคุณเจ้าของบ้านจริงๆที่ไปหามาให้
เราไปช่วงหน้าหน้าว ในห้องจะมีโต๊ะโคทัตสึ (Kotatsu) ไว้ให้ความอบอุ่น และ ชุดนอนยูกาตะ พร้อมเสื้อคลุมฮากามะ เตรียมให้ค่ะ
ห้องนอนทุกห้องสามารถมองเห็นฟูจิซังได้ทุกห้องถ้าอากาศดี
ตอนเช็คอินเจ้าของบ้านบอกเราไว้ก่อนเลยว่าพรุ่งนี้เราคงไม่ได้เห็นฟูจินะ เพราะเมฆเยอะ บอกตรงๆก็ฝันสลายเล็กๆ อุตส่าห์มาดักเฝ้า แต่พอรุ่งขึ้น ราว 6 โมงเช้าฟ้าสว่าง ฟูจิซังก็โผล่มาให้เห็น แบบอยู่กับพวกทั้งวันจนเลยหกโมงเย็นเลย ถึงแม้จะเป็นฟูจิซังกับฉากฟ้าหม่นอมเทา เราก็ดีใจ ดี้ด้ามากแล้ว
ภาพห้องน้ำ เอามาจาก Google ค่ะ ห้องน้ำเป็นห้องอาบรวม 2 ห้อง แต่จะว่าไปก็เหมือนส่วนตัว เพราะถ้าสมาชิกห้องเราใช้อยู่ ก็แขวงป้ายว่ามีคนใช้ อาบได้ครั้งละ 2-3 คน มีอ่างอาบน้ำเล็กๆให้แช่ด้วยกัน อุปกรณ์ในห้องน้าพร้อมตามมาตรฐาน