สวัสดีครับเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่าน

ผมเข้ามาตั้งกระทู้ในวันนี้เพื่อหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ในประเด็นของเบี้ยยังชีพคนชราซึ่งอาจจะเป็นของคุณพ่อ คุณแม่ หรือญาติผู้ใหญ่โดนระงับการให้ด้วยสาเหตุจากการย้ายบ้านช่วงปี 2561 ที่ผ่านมา และเกิดปัญหาถูกระงับการให้เบี้ยดังกล่าวเป็นระยะเวลา 1 ปีเนื่องจากไม่ได้ลงทะเบียนต่อในเขตที่ได้มีการย้ายชื่อเข้าไปใหม่ภายในเดือนกันยายน อ่านตรงนี้แล้วอาจจะไม่แน่ใจว่าใช่แบบเดียวกันหรือเปล่า ผมขอเล่ารายละเอียดของเรื่องดังนี้ครับ

เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2561 ที่ผ่านมาผม และคุณแม่ได้ย้ายบ้านเข้ามาอยู่ที่ใหม่ โดยได้ทำเรื่องย้ายชื่อของคุณแม่ในอีก 1 เดือนถัดมาคือในเดือนกันยายน โดยย้ายออกจากเขตต้นทาง และย้ายเข้าที่เขตปลายทางปกติ ประเด็นมันเกิดขึ้นตอนที่ได้รับจดหมายที่มาถึงมือผมเมื่อประมาณกลางเดือนตุลาคม 2561 โดยลงบันทึกจดหมายไว้ว่าจดหมายออกวันที่ 8 ตุลาคม 2561 มีใจความประมาณว่า เนื่องจากชื่อของคุณแม่ได้มีการตรวจสอบพบว่าย้ายออกจากเขตแล้ว และเนื่องด้วยการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนั้นจะต้องมีการไปลงทะเบียนในเขตใหม่ โดยให้เขตเก่านั้นจ่ายเบี้ยยังชีพจนถึงเดือนสิ้นปีงบประมาณคือกันยายน หากไม่ได้ไปลงทะเบียนที่เขตใหม่ภายในวันที่ 30 กันยายน ก็จะถูกระงับสิทธิ์ในการจ่ายเบี้ยดังกล่าว และไปรับเบี้ยได้อีกทีคือตุลาคมปี 2562 นั่นคือถูกเว้นสิทธิ์การรับเบี้ยไปเลย 1 ปีเต็มๆ

เรื่องนี้มันมีข้อที่ผมว่าไม่ยุติธรรมสำหรับผู้สูงอายุอยู่ 2 ประการดังนี้ครับ
1. ตอนที่ผมไปย้ายชื่อคุณแม่ออก และเข้าจากทั้ง 2 เขตนั้น ไม่มีการประชาสัมพันธ์ใดๆ ให้ทราบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 เขตเลยแม้แต่น้อย
2. เดือนกันยายนเป็นเดือนปิดงบประมาณที่ควรจะต้องไปลงทะเบียน แต่จดหมายที่แจ้งมานั้นลงบันทึกไว้คือวันที่ 8 ตุลาคม 2561 ซึ่งแปลว่าจดหมายดังกล่าวแจ้งล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น เพราะแค่เปิดอ่านจดหมายแจ้งก็หมดสิทธิ์ไป 1 ปีเรียบร้อยแล้ว

ผมได้ลองโทรสอบถามกับทางเขตถึงสาเหตุของการแจ้งล่าช้า รวมถึงความบกพร่องในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลดังกล่าวให้ทราบ ก็ได้รับแต่คำขอโทษ แต่แก้ไขอะไรให้ไม่ได้เพราะกฏดังกล่าวเป็นของสำนักพัฒนาฯ กรมบัญชีกลางที่ออกมาอย่างนี้ และไม่สามารถทำอะไรได้ โทรไปร้องเรียนกับ 1111 ก็มีแค่คนรับเรื่องไว้ แต่ก็เงียบไป ศูนย์ดำรงค์ธรรมก็เหมือนกัน สุดท้ายก็ได้แต่บอกคุณแม่ให้ทำใจ จริงอยู่ว่าเงินจำนวนดังกล่าวไม่ได้มากมาย แต่สำหรับคนสูงอายุ ผมว่าแกรู้สึกดีใจที่อย่างน้อยๆ ก็ยังได้เงินตรงนี้มาเป็นค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ และกับบางบ้านผมเชื่อว่ามันน่าจะสามารถช่วยประทังชีวิตได้ประมาณนึงเลย

เมื่อสักเดือนก่อนผมพอดีได้คุยกับเพื่อนที่รู้จัก และพอจะมีหนทางในการทำเรื่องนี้ให้เกิดความยุติธรรมขึ้นได้ โดยทำการตั้งเรื่องฟ้องหน่วยงานรัฐฯ ที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องดังกล่าวในฐานะบกพร่องต่อหน้าที่ และควรจะต้องมีการรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม ปัญหาคือผมมีแค่เสียงเดียว การจะร้องเรียนอะไรนั้น มันจะดูอ่อนไป เท่าที่ทราบจากเจ้าหน้าที่เขต ผู้สูงอายุที่มีปัญหาในลักษณะคุณแม่ผม คือย้ายบ้าน และแจ้งชื่อไม่ทันเดือนกันยายนนั้น มีกันอยู่พอสมควร  ผมจึงอยากรบกวนสมาชิกทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ หากท่าน หรือคนรู้จักมีปัญหาเดียวกันกับผู้สูงอายุที่โดนเทเรื่องเบี้ยยังชีพคนชราจากสาเหตุเดียวกัน ผมอยากให้หลังไมค์มาคุยกัน เพื่อรวบรวมให้เสียงมันมีน้ำหนักมากพอในการไปร้องเรียน โดยเรื่องค่าทนาย หรือขั้นตอนในการดำเนินการเกี่ยวกับกฏหมายนั้น ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ เนื่องจากเพื่อนที่รู้จักทำในลักษณะองค์กรสาธารณะประโยชน์ให้กับบุคคลทั่วไปที่เดือดร้อนจากการทำงานของหน่วยงานรัฐฯ

เขียนมาถึงตรงนี้ อยากให้ทุกคนอย่านิ่งดูดายครับ อยากทำให้เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จะทำให้หน่วยงานรัฐฯ รู้ตัวว่าคุณควรปรับปรุงคุณภาพในการบริการให้มันสมกับภาษีที่พวกเราทุกคนเสียให้ไป ขอบคุณครับ