ผมคิดว่าเกิดจากการที่พรรคฯ นี้สื่อสารให้ทุกคนที่ได้รู้ชัดเจนว่า
นโยบายของพรรคอนาคตใหม่คืออะไร
พูดตรง มีความชัดเจน ไม่คลุมเครือ
แตกต่างจากนักการเมืองระดับหัวหน้าพรรคอีกหลายๆ พรรค
ที่เวลาพูดเรื่องความชัดเจนของพรรคแล้ว อ้อมๆ แอ้มๆ เลี่ยงไปมา
ไม่กล้าพูดให้ชัดเจน เพราะกลัวเสียคะแนนบ้าง
กลัวเดี๋ยวจะคุยกับพรรคที่กะว่าจะไปต่อรองลำบากขึ้นบ้าง
เหยียบเรือสองแคมกันชัดเจน
มันน่าเบื่อนะครับ
ผมไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งมาหลายครั้งแล้ว
สุดท้ายก็ได้อะไรที่เหมือนๆ เดิมกลับมา
มันไม่มีอะไรก้าวหน้า เหมือนกับเราเดินซอยเท้าช้าๆ อยู่ตลอด
ไม่เดินเร็ว ไม่วิ่ง ให้มันทันกับความเป็นไปของความเป็นจริง
ผมเชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่
จะไม่ได้คะแนนเสียงเฉพาะกลุ่มที่ได้เลือกตั้งครั้งแรกรวมถึงกลุ่มวัยรุ่นเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหญ่ ที่ต้องการเห็นความชัดเจนของพรรคการเมือง
ที่กล้าเสนอนโยบาย กลุ่มคนที่เบื่อเหลือเกินกับนักการเมืองที่คอยจ้องต่อรอง
อย่างที่เราเห็นกันมาหลายสิบปี
เหมือนครั้งนึงสมัยนึง ที่การหาเสียง เน้นด้วยวิธีด่าพรรคโน้น พรรคนี้
ไม่ต้องมีต้องบอกโนยบายกัน
พอมีพรรคใหม่ในยุคนั้นปรากฎขึ้น ใช้การหาเสียงโดยขายนโยบาย
แล้วมันเวิร์ค หลังจากนั้น ทุกพรรคการเมืองก็ต้องขยับตัวไปตามๆ กัน
ถึงแม้ว่าท้ายสุดแล้ว ผมเชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่
จะได้เสียงไม่พอสำหรับการเป็นผู้นำอย่างแน่นอน
แต่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงแนวทางการเมือง
ในอนาคตให้มีอนาคตที่ดีขึ้นได้จริงๆ
ขอบคุณที่อ่านครับ
หมายเหตุ ผมเคยเลือกประชาธิปัตย์มาโดยตลอด แต่ครั้งนี้คงต้องเปลี่ยนแปลงครับ
เหตุที่ทำให้ธนาธร กลายเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นมากที่สุดคนหนึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ ในมุมมองของผม
นโยบายของพรรคอนาคตใหม่คืออะไร
พูดตรง มีความชัดเจน ไม่คลุมเครือ
แตกต่างจากนักการเมืองระดับหัวหน้าพรรคอีกหลายๆ พรรค
ที่เวลาพูดเรื่องความชัดเจนของพรรคแล้ว อ้อมๆ แอ้มๆ เลี่ยงไปมา
ไม่กล้าพูดให้ชัดเจน เพราะกลัวเสียคะแนนบ้าง
กลัวเดี๋ยวจะคุยกับพรรคที่กะว่าจะไปต่อรองลำบากขึ้นบ้าง
เหยียบเรือสองแคมกันชัดเจน
มันน่าเบื่อนะครับ
ผมไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งมาหลายครั้งแล้ว
สุดท้ายก็ได้อะไรที่เหมือนๆ เดิมกลับมา
มันไม่มีอะไรก้าวหน้า เหมือนกับเราเดินซอยเท้าช้าๆ อยู่ตลอด
ไม่เดินเร็ว ไม่วิ่ง ให้มันทันกับความเป็นไปของความเป็นจริง
ผมเชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่
จะไม่ได้คะแนนเสียงเฉพาะกลุ่มที่ได้เลือกตั้งครั้งแรกรวมถึงกลุ่มวัยรุ่นเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหญ่ ที่ต้องการเห็นความชัดเจนของพรรคการเมือง
ที่กล้าเสนอนโยบาย กลุ่มคนที่เบื่อเหลือเกินกับนักการเมืองที่คอยจ้องต่อรอง
อย่างที่เราเห็นกันมาหลายสิบปี
เหมือนครั้งนึงสมัยนึง ที่การหาเสียง เน้นด้วยวิธีด่าพรรคโน้น พรรคนี้
ไม่ต้องมีต้องบอกโนยบายกัน
พอมีพรรคใหม่ในยุคนั้นปรากฎขึ้น ใช้การหาเสียงโดยขายนโยบาย
แล้วมันเวิร์ค หลังจากนั้น ทุกพรรคการเมืองก็ต้องขยับตัวไปตามๆ กัน
ถึงแม้ว่าท้ายสุดแล้ว ผมเชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่
จะได้เสียงไม่พอสำหรับการเป็นผู้นำอย่างแน่นอน
แต่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงแนวทางการเมือง
ในอนาคตให้มีอนาคตที่ดีขึ้นได้จริงๆ
ขอบคุณที่อ่านครับ
หมายเหตุ ผมเคยเลือกประชาธิปัตย์มาโดยตลอด แต่ครั้งนี้คงต้องเปลี่ยนแปลงครับ