ควรจะสู้คดี หรือ รับสารภาพให้คดีจบ ดีคะ

กระทู้คำถาม
สวัสดีคะ...ดิฉัน อยากขอความคิดเห็นได้ไหมคะ

  คือดิฉัน โดนคดีฉ้อโกงประชาชน + พรบ. คอมข้อมูลเท็จ

  ขอเล่าเรื่องที่เกิดก่อนนะคะ  คือเรื่องเกิดร่วม2ปีคะ
  ดิฉันได้ลงขายสินค้าไว้  แล้วผู้เสียหายได้มาสั่งซื้อของกับดิฉัน   และได้ขอหลักฐาณบัตรประชาชนดิฉันเพื่อความสบายใจ   วันต่อมาผู้เสียหายโอนเงินให้ดิฉัน แบะดิฉันได้แจ้งว่า  วันมะรืนดิฉันจะจัดส่งให้นะคะ   เนื่องจากวันนี้และพรุ่งนี้ติดธุระ   ทางผู้เสียหายก็รับทราบ  บอกไม่รีบ    ในวันรุ่งขึ้น   ดิฉันก็ไม่ได้เข้าเฟสมาดู    ต่อมาซึ่งคือวัยที่จะจัดส่งสินค้าให้ดิฉันจะเข้ามาจดที่อยู่  เพื่อทำการจัดส่ง    ปรากฎว่า เห็นใบแจ้งความดำเนินคดีฉ้อโกง ที่ผู้เสียหายไปแจ้งความไว้เมื่อวาน   ซึ่งเขาบอกว่า  พบว่าดิฉันมีประวัติย้อนหลังไม่ดี  (ดิฉัน เคยมีประวัติจัดส่งสินค้าช้า  ลูกค้าทวงของจริงคะ แต่ช่วงตอนมีปัญหานั้น มันห่างจากเหตุการ์ณนี้5ปีแล้ว)  เขาเลยแจ้งความดำเนินคดีฉ้อโกง เขาบอกจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด  พร้อมทั้งให้แอดมินเพจที่ดิฉันลงขายของนำภาพบัตรประชาชนของดิฉันประจานทางเพจขายของ     คราวนี้ตอนนั้นดิฉันเห็นและโมโหด้วย   คิดว่าทำไมไม่รอให้ถึงวันนัดจัดส่งสินค้าก่อน   หรือ   ได้คุยกันสักนิดก่อน    ดิฉันอาจเคยมีประวัติแต่มันนานมาแล้วเป็นช่วงเวลาเดียวที่มีปัญหา   และครั้งนี้ดิฉันลงขายจริง   ไม่มีเจตนาหลอกลวง   แต่ดิฉันก็ประชดเขาด้วยการไม่จัดส่งสินค้าให้คะ   เพราะดิฉันได้ให้บัตรประชาชนเขาไว้  ทำไมก่อนโอนไม่เช็ค  แล้วดิฉันก็คิดว่าให้เขามาทวงของที่บ้านดิฉันเองเลย  มาดูให้รู้ว่าทางดิฉันมีของนะ   คือดิฉันคิดแบบนี้ในตอนนั้น   ของชิ้นนี้เลยยังเก็บไว้ให้เขาอยู่ถึงทุกวันนี้  

  เวลาล่วงเลยมา2ปี    คือทั้งผู้เสียหายก็เงียบไป  ทั้งดิฉันก็ไม่ได้เข้าเฟสมาทำธุระอะไร   วันนึงก่อนปีใหม่ที่ผ่านมามีตำรวจโทรมาบอกดิฉันว่า   คุณมีหมายจับฉ้อโกง  ให้รีบไปจัดการนะ     ดิฉันก็งง   ตำรวจบอกค่าเสียหาย2000บาท   มันยอมความได้นะ  ให้รีบมา   ก่อนเปลี่ยนสำนวนเป็นฉ้อโกงประชาชน      ทางตำรวจบอกว่าได้นัดเจ้าทุกข์ ไว้แล้วให้รีบมา    จะได้จบ   ดิฉันจึงได้ไปมอบตัวตามนัด   ไปถึงตำรวจทำประวัติ  แจ้งในสำนวนว่า  เราถูกเขาจับได้   เพราะสายบอกมาว่าเราจะแระกฎตัวเลยตามจับได้   เขียนว่ามีตำรวจจากสน.นั้นสน.นี่จับเราได้    พอมาถึง   สน.  ตำรวจที่เรานัดไว้ก็ทำประวัติไป  ระหว่างนั่งรอ  เราถามตำรวจว่า  เจ้าทุกข์จะมากี่โมง  เพราะอยากเจอเขา   เพื่อปรับความเข้าใจ    ตำรวจบอกเดี๋ยวก็มา    เราก็นั่งรอจนทำประวัติเสร็จ   สักพักร้อยเวรเจ้าของคดีมา   เราก็ขึ้นไปพิมพ์ลายนิ้วมือ   ร้อนเวรเจ้าของคดีก็เอาสำนวนมาให้อ่าน   เขาบอกว่า อัยการเพิ่งเปลี่ยนสำนวนเป็นฉ้อโกงประชาชนนะ  พ่วง พรบ.คอม ด้วยนะ  เพราะเพจที่เราลงขายเป็นเพจสาธารณะ    เดี๋ยวไปประกันตัวที่ศาลเลย   หนูเลนบอกว่า   แล้วเจ้าทุกข์ละ  เราจะได้เจอได้คุยกับเขาไหม   ตำรวจบอกเขารอที่ศาลแล้ว    พอเราไปถึงศาลก็โดนล๊อคตัวเข้าของเวรชี้ละ   รอประกันตัว  ตำรวจที่มาส้วตัวฟ้องเราก็กลับไป   เราประกันเสร็จก็ไร้เงาทั้งตำรวจที่พาตัวมา และเจ้าทุกข์
ทำให้เรารู้ว่าตำรวจหลอกเราว่าจะได้เจอเจ้าทุกข์ ได้ไกล่เกลี่ย  ได้เอาของคืนเขา      จากวันประกันตัวมาประมาณ2อาทิตย์   ตำรวจโทรมาว่าให้ไปพิมลายนิ้วมือใหม่    เราเลยไปแล้วถามตำรวจว่า   เราอยากคุยกับเจ้าทุกข์  จะได้ปรับความเข้าใจกัน   ตำรวจบอกจะคุยกับเจ้าทุกข์ทำไม   ไปคุยกันที่ศาล  ไปรับสารภาพ  ขอรอลงอาญา  เอาเงิน2000บาทวางศาลไว้    เราก็งงทำไมตำรวจกีดกันเราไม่ให้คุยกับเจ้าทุกข์     เราจึงไปหาเบอร์ของเจ้าทุกข์จากใบแจ้งความในข้อความที่ดจ้าทุกข์เคยถ่ายส่งมาให่เราดูวันที่แจ้งความเรา     เราเลยโทรไปคุยกับเจ้าทุกข์ เล่าว่าที่เราลงขายให้เขาเรามีของถึงเราเคยมีประวัติแต่มันน่นมากแล้ว  ครั้งนี้เราลงขายจริงของเขาซื้อเราก็ยังเก็บไว้ให้เขา  แต่ที่เราไม่ส่งเพราะเราเหฌนคุณแจ้งความและประจานโดนที่เราก็มีของจริงขายจริงเราจึงประชดด้วยการไม่จัดส่งให้  เราก็ไม่คิดส่าเรื่องมันจะออกมาร้ายแรงแบบนี้    ทางเจ้าทุกข์รับฟังและไม่เอาเรื่อง  บอกขอ4000บาท  ให้เอาเงินวางที่ตำรวจเลย  เดี๋ยวเขาไปถอนแจ้งความให้      พอเราคุยกับเจ้าทุกข์  เราก็บอกตำรวจเจ้าทุกข์ไม่เอาเรื่อง  ให้วางเงิน4000บาท แบ้วจะมาถอนแจ้งความให้    ตำรวจไม่รับ  บอกให้ไปวางเงินคืนเขาที่ศาลเอง   ดิฉันเลยโทรไปหาเจ้าทุกข์อีกรอยบอกทางเจ้าทุกข์ว่า ตำรวจให้ไปรับเงินที่ศาลเอง  ไม่ต้องมาที่นี่    ไปคุยกันเองที่ศาล  ซึ่งฟังจากน้ำเสียงเจ้าทุกจ์เขาก็งง ทำไมมันต้องไปศาลด้วยเงิน2000บาท ทำไมยอมความที่ สน.ไม่ได้     หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกับใครอีก     ก็รอไปรายงานตัวครั้งแรก ซึ่งถ้านับคือพลัดฟ้องที่5      วันไปรายงานตัว  ศาลรับฟ้องแล้วพอดี    เราก็เข้าห้องเวรชี้    คนในศาลบอกรับสารภาพก็จบศาลจะรอลงอาญา    แต่ตอนนั้นสำนวนฟ้องที่เราได้อ่านจากอัยการฟ้องมา   คือเราตั้งใจหลอกลวงประชาชนแบบลงต่อเนื่อง   ทำให้ประชาชนเดิอดร้อน    ซึ่งเป็นคำกบ่าวหาที่ไม่เป็นความจริง   เราไม่ได้ลงต่อเนื่อง  เราลงขายครั้งเดียวก็ไม่ได้ลงไม่ได้ขายใครอีก    และเจ้าทุกข์เอวเขาก็ไม่เอาเรื่องเรา  แต่ในใบฟ้องเนี้ย  เรายังไม่เคยได้ในถอนร้องทุกข์จากเจ้าทุกข์มา  เพราะเรากับเจ้าทุกข์ยังไม่เคยเจอกันเลย   แบ้วแบบนี้ศาลจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าทุกข์เขาไม่เอาเรื่องแล้ว    แล้วถ้าเรารับสารภาพทั้งๆๆที่เราไม่ได้มีเจตนาโกงมาตั้งแต่แรกตามสำนวนฟ้องที่ดูแรงกว่าความเป็นจริงแบบนี้ ศาลจะรู้ความจริงได้อย่างไร    เราเลยรับสารภาพกับศาลไปว่า    เรารับผิดที่ไม่ส่งของให้เขา แต่เราไม่มีเจตนาโกงหรือลงข้อความเป็นเท็จเพื่อหลอกลวงประชาชนอย่างต่อเนื่องตามข้อกล่าวหา  เลยเล่าเรื่อวราวให้ศาลฟังเลย    ในห้องเวรชี้    ศาลเลยบอกว่าเดี๋ยวนัดคุ้ครองสิทธิ์ วันที่20/2 นี้    มาไกล่เกลี่ย   แล้วนัดตรวจพยานหลักฐาณ   1/4/62   นี้         คราวนี้เราเลยออกมาหาทนายให่ตัวเอง    เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ทนายฟัง  ทนายแนะนำให้เรา  สู้คดี  แก้ข้อกล่าวหาที่ว่าเรา  ลงหลอกลวงประชาชน ข้อความเป็นเท็จ  เพราะเราลงขายจริง   มีของจริง  คนในบ้านเราก็เห็นของชิ้นนี้ทุกคน    แต่ที่เราไม่ส่งของเพราะเขาแจ้งความเร็วไปก่อนวันนัดส่งของ     และให้แอดมินเพขเอาบัตรประชาชนเราประจานในกลุ่มขายของทำให้เราไม่จัดส่งของให่จริงๆได้วยความประชด      

คือตอนแรกเรากะว่าจะหาทนายเพื่อช่วยเรื่อง  ให้เขียนคำรับสารภาพขอรอลงอาญา  แต่พอเราเล่าเรื่องให้ทนายฟัง  ทนายบอกว่าทำไมไม่สู้เพื่อให้หลุดข้อกล่าวหานี่ดู    


เราเลยไม่รู้ควรสู้  หรือ สารภาพให้เรื่องจบดีอะคะ  

วานผู้รู้ช่วยออกความคิดเห็นได้ไหมคะ

เขียนยาวไปหน่อยนะคะ   แต่อยากให้ทุกคนได้ทราบเรื่องราวคะ    

ขอบคุณที่ช่วยออกความเห็นนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่