เรื่อง บ้านพักครู
บทประพันธ์ นัฐพันธ์
…………………………………………………………………………………………………………
ผมเดินทางด้วยรถสองแถวมุ่งหน้ามาที่โรงเรียนแห่งนี้ในเขตชนบทอันห่างไกลความเจริญ วันนี้เป็นวันหยุด และปิดเทอมทางโรงเรียนจึงไม่ได้เปิดเรียนตามปกติ บ้านพักครูที่ผมเข้ามาอยู่ เป็นบ้านไม้หลังเก่าสองชั้น สภาพทรุดโทรม แต่ก็ต้องทำใจทนอยู่เพื่อความประหยัดและสะดวกต่อภาระหน้าที่ อาชีพครูก็เหมือนเรือจ้าง ที่คอยรับส่งศิษย์ให้ถึงฝั่ง จะได้ดีหรือไม่ได้ดี อยู่ที่ตัวของเขาเอง
ผมนั่งตรวจเอกสารต่างต่างที่เตรียมมา และวันจันทร์อาจจะต้องเข้าพบครูใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ แสงจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่บนนภาในค่ำคืนนี้ ทำให้ผมนึกถึงคนที่บ้าน ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างหนอ กว่าสิบปีที่ผมออกเดินทางเข้ามาเรียน และสอบบรรจุครู ผมแทบไม่ได้กลับบ้านเลย จะมีก็แต่ช่วงเทศกาลเท่านั้น ก็ ผมนั่งนึกเรื่องราวอะไรต่างๆเพลินไปจนดึกดื่น มองดวงดาวพราวระยับที่จับอยู่ด้านบน ผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ด้วยความอ่อนเพลียจากการเดินทาง ทำให้ผมฟุบหลับที่โต๊ะทำงานตัวนั้น
เสียงกุกกักดังอยู่ไม่ไกลจากตัวผม เสียงเหมือนคนพยายามลื้อค้นข้าวของ ภายในห้องที่มืดสลัว ยังพอมีแสงไฟนีออนที่สาดส่องเข้ามาจากด้านนอก ผมพอจะมองเห็นว่าเป็นอะไร มันคล้ายๆคนกำลังบุกรื้อค้นลังเสื้อผ้า ไม่ใช่สัตว์อย่างแน่นอน ผมไม่ได้รู้สึกกลัวว่าเป็นผี แต่ผมคิดว่ามันต้องเป็นคน สัญชาติญาณของผมมันบอกแบบนั้น ดูเหมือนว่าไอ้เงาประหลาดนั้นยังคงลื้อข้าวของของผมอยู่ โดยไม่ได้สนใจเลยว่า มีผมแอบมองมันอยู่
ผมนึกขึ้นได้ว่า ผมมีไม้ที่วางเอาไว้ใต้โต๊ะทำงาน ผมสอดมือลงไป พยายามควานหาไม้อันนั้น แล้วหยิบมันขึ้นมา กระชับในมือเพื่อความอุ่นใจ ผมย่องๆเข้าไปใกล้มัน กลิ่นเหม็นรุนแรงแตะที่จมูกของผม มือของผมค่อยๆเอื้อมไปแตะที่สวิตช์ไฟ นับหนึ่ง สอง สาม ไฟถูกเปิดสว่างโล่ง สายตาของผมเห็นเงานั้นถนัดตา เป็นเด็กผู้ชาย ที่สภาพสกปรกมอมแมม ลื้อค้นกระเป๋าที่วางอยู่
ผมตกใจ กลิ่นตัวเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณห้อง จนร้องตกใจสุดขีดเมื่อร่างนั้นลุกขึ้นพร้อมกับร้องแหกปากวิ่งทะลุผ่านผมไป ผมอึ้ง ผี...ผี ผมตกใจกลัวจนทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั้นไปหมด บ้านหลังนี้มีผีจริงจริงหรือนี่ ผมได้แต่ครุ่นคิด ภาพเด็กผู้ชายตัวสกปรกวิ่งทะลุร่างผมไป แสงอาทิตย์ยามเช้า พร้อมเสียงไก่ขัน
เช้าวันใหม่ ผมเดินลงมาจากบ้าน ไม่ลืมเรื่องเมื่อคืนที่ผมเจอผีเด็กตนนั้น วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียน ผมเห็นเด็กนักเรียนหลายคนถยอยกันเดินเข้ามาในโรงเรียน ผมแต่งชุดสีกากี อันแสดงถึงความเป็นข้าราชการ วันเริ่มต้นของผม เสียงแว่วมาแต่ไกลจากผู้ปกครองเด็กที่ยืนคุยอยู่กับภารโรงดังแว่วๆ
“ไอ้ป๋องนี้สิ มันแอบไปเล่นน้ำโคลนเนื้อตัวสกปก บอกให้มันขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”หญิงสาวคนนั้นมองไปที่บ้านไม้หลังเก่าที่ทรุดโทรมที่ผมอาศัย
“มันบอกมันเจอผีผู้ชาย ยืนถือไม้อยู่บนบ้าน มันเลยร้องแหกปากลั่นเลย”
“เจอดีเข้าแล้วล่ะคุณ “ภารโรงเก่าแก่บอกเสียงเบาๆ
“บ้านพักครูหลังนั้นน่ะ เป็นบ้านเก่าครูสมพร แกตายไปนานเป็นสิบปีแล้วนะ ไม่ยักจะไปเกิดซะที ใครมาอยู่บ้านพักครูหลังนี้ เป็นเจอดีทุกราย” ภารโรงเก่ามองบ้านหลังนั้นด้วยแววตาเศร้าๆ
ร่างของผมยืนชาไปทั้งตัว ป้ายชื่อที่ติดอยู่หน้าอก เขียนชื่อ “สมพร” ร่างของผมค่อยๆเลือนหายไป พร้อมกลับไปที่จุดเริ่มต้น ของวันที่เดินทางมา
จบ
เรื่อง "บ้านพักครู"
เรื่อง บ้านพักครู
บทประพันธ์ นัฐพันธ์
…………………………………………………………………………………………………………
ผมเดินทางด้วยรถสองแถวมุ่งหน้ามาที่โรงเรียนแห่งนี้ในเขตชนบทอันห่างไกลความเจริญ วันนี้เป็นวันหยุด และปิดเทอมทางโรงเรียนจึงไม่ได้เปิดเรียนตามปกติ บ้านพักครูที่ผมเข้ามาอยู่ เป็นบ้านไม้หลังเก่าสองชั้น สภาพทรุดโทรม แต่ก็ต้องทำใจทนอยู่เพื่อความประหยัดและสะดวกต่อภาระหน้าที่ อาชีพครูก็เหมือนเรือจ้าง ที่คอยรับส่งศิษย์ให้ถึงฝั่ง จะได้ดีหรือไม่ได้ดี อยู่ที่ตัวของเขาเอง
ผมนั่งตรวจเอกสารต่างต่างที่เตรียมมา และวันจันทร์อาจจะต้องเข้าพบครูใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ แสงจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่บนนภาในค่ำคืนนี้ ทำให้ผมนึกถึงคนที่บ้าน ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างหนอ กว่าสิบปีที่ผมออกเดินทางเข้ามาเรียน และสอบบรรจุครู ผมแทบไม่ได้กลับบ้านเลย จะมีก็แต่ช่วงเทศกาลเท่านั้น ก็ ผมนั่งนึกเรื่องราวอะไรต่างๆเพลินไปจนดึกดื่น มองดวงดาวพราวระยับที่จับอยู่ด้านบน ผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ด้วยความอ่อนเพลียจากการเดินทาง ทำให้ผมฟุบหลับที่โต๊ะทำงานตัวนั้น
เสียงกุกกักดังอยู่ไม่ไกลจากตัวผม เสียงเหมือนคนพยายามลื้อค้นข้าวของ ภายในห้องที่มืดสลัว ยังพอมีแสงไฟนีออนที่สาดส่องเข้ามาจากด้านนอก ผมพอจะมองเห็นว่าเป็นอะไร มันคล้ายๆคนกำลังบุกรื้อค้นลังเสื้อผ้า ไม่ใช่สัตว์อย่างแน่นอน ผมไม่ได้รู้สึกกลัวว่าเป็นผี แต่ผมคิดว่ามันต้องเป็นคน สัญชาติญาณของผมมันบอกแบบนั้น ดูเหมือนว่าไอ้เงาประหลาดนั้นยังคงลื้อข้าวของของผมอยู่ โดยไม่ได้สนใจเลยว่า มีผมแอบมองมันอยู่
ผมนึกขึ้นได้ว่า ผมมีไม้ที่วางเอาไว้ใต้โต๊ะทำงาน ผมสอดมือลงไป พยายามควานหาไม้อันนั้น แล้วหยิบมันขึ้นมา กระชับในมือเพื่อความอุ่นใจ ผมย่องๆเข้าไปใกล้มัน กลิ่นเหม็นรุนแรงแตะที่จมูกของผม มือของผมค่อยๆเอื้อมไปแตะที่สวิตช์ไฟ นับหนึ่ง สอง สาม ไฟถูกเปิดสว่างโล่ง สายตาของผมเห็นเงานั้นถนัดตา เป็นเด็กผู้ชาย ที่สภาพสกปรกมอมแมม ลื้อค้นกระเป๋าที่วางอยู่
ผมตกใจ กลิ่นตัวเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณห้อง จนร้องตกใจสุดขีดเมื่อร่างนั้นลุกขึ้นพร้อมกับร้องแหกปากวิ่งทะลุผ่านผมไป ผมอึ้ง ผี...ผี ผมตกใจกลัวจนทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั้นไปหมด บ้านหลังนี้มีผีจริงจริงหรือนี่ ผมได้แต่ครุ่นคิด ภาพเด็กผู้ชายตัวสกปรกวิ่งทะลุร่างผมไป แสงอาทิตย์ยามเช้า พร้อมเสียงไก่ขัน
เช้าวันใหม่ ผมเดินลงมาจากบ้าน ไม่ลืมเรื่องเมื่อคืนที่ผมเจอผีเด็กตนนั้น วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียน ผมเห็นเด็กนักเรียนหลายคนถยอยกันเดินเข้ามาในโรงเรียน ผมแต่งชุดสีกากี อันแสดงถึงความเป็นข้าราชการ วันเริ่มต้นของผม เสียงแว่วมาแต่ไกลจากผู้ปกครองเด็กที่ยืนคุยอยู่กับภารโรงดังแว่วๆ
“ไอ้ป๋องนี้สิ มันแอบไปเล่นน้ำโคลนเนื้อตัวสกปก บอกให้มันขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”หญิงสาวคนนั้นมองไปที่บ้านไม้หลังเก่าที่ทรุดโทรมที่ผมอาศัย
“มันบอกมันเจอผีผู้ชาย ยืนถือไม้อยู่บนบ้าน มันเลยร้องแหกปากลั่นเลย”
“เจอดีเข้าแล้วล่ะคุณ “ภารโรงเก่าแก่บอกเสียงเบาๆ
“บ้านพักครูหลังนั้นน่ะ เป็นบ้านเก่าครูสมพร แกตายไปนานเป็นสิบปีแล้วนะ ไม่ยักจะไปเกิดซะที ใครมาอยู่บ้านพักครูหลังนี้ เป็นเจอดีทุกราย” ภารโรงเก่ามองบ้านหลังนั้นด้วยแววตาเศร้าๆ
ร่างของผมยืนชาไปทั้งตัว ป้ายชื่อที่ติดอยู่หน้าอก เขียนชื่อ “สมพร” ร่างของผมค่อยๆเลือนหายไป พร้อมกลับไปที่จุดเริ่มต้น ของวันที่เดินทางมา