(ต้น)​ห้องน้ำยามราตรี

เรื่องแต่งเรื่องนี้เป็นเรื่องผีที่ผมแต่งเล่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ต้น ชายหนุ่มผู้พานพบประสบการณ์สยองขวัญมานับไม่ถ้วน เพราะเนื่องจากเขามี "สัมผัสที่ 6" ซึ่งสามารถสัมผัสสิ่งเร้นลับที่อยู่รอบตัวเขาได้ ถึงแม้จะเป็นคนธรรมดา แต่ต้นก็ต้องเจอเรื่องราวแบบนี้ต่อไปไม่รู้จักจบสิ้น

ตอนต้นอายุได้แค่ 17 ปี ต้นได้เจออะไรมาบ้าง นั่นเป็นคำถามที่ผมลองตั้งเล่นๆ แล้วมาแต่ง แต่งไปแต่งมาก็ได้แบบนี้ครับ

แม้โรงเรียนมัธยมในตัวจังหวัดเล็กๆ ที่ต้นเรียนนั้นดูช่างธรรมดา ไม่มีอะไรน่ากลัว แต่จริงๆ แล้ว มันมีความลับซ่อนอยู่

ตึกเรียนเก่าๆ ที่ดูทรุดโทรมราวกับมันจะพังสักวัน ซึ่งอยู่ข้างๆ ตึกที่ต้นเรียนนั้น ต้นมักมองหาอะไรสักอย่างในตึกเรียนนั้นจากชั้นสองของตึกเรียนที่ต้นอยู่ แต่แล้วก็ไม่พบอะไร เอกซึ่งเป็นเพื่อนสนิทต้นก็พยายามลุ้นว่าต้นจะเห็นอะไร แต่ต้นก็มองไม่เห็นอะไรเลย เสียงหรือกลิ่นก็ไม่มี ความรู้สึกขนลุกก็ไม่มาเฉียดกายแม้แต่น้อย เอกได้แต่บ่นพึมพำว่าตึกบ้าตึกบออะไรเก่าขนาดนี้ไม่มีเรื่องสยองเลย ต้นได้แต่หัวเราะแห้งๆ เพราะถ้าต้นเห็นจริงเอกคงไม่มาบ่นอะไรแบบนี้แน่

ที่ตึกนั้นชั้นแรกที่อยู่ล่างสุดมีห้องน้ำชายห้องเล็กๆ อยู่ตรงริมสุดข้างบันไดที่อยู่ฝั่งซ้ายมือ ส่วนชั้นสองก็มีห้องน้ำหญิงตรงริมบันไดที่อยู่ฝั่งเดียวกับห้องน้ำชายเหมือนกัน เคยมีเด็กวัยรุ่นหลายกลุ่มในโรงเรียนนี้ลองล่าท้าผีแล้ว ก็ไม่เจออะไรเลย แถมยังได้ตุ่มยุงกัดเต็มไปหมด บางคนก็โดนตะปูทิ่มเท้า จนพวกวัยรุ่นที่ไปท้าต่างก็สรุปว่าผีที่ตึกเก่านี่ไม่มีจริง พวกที่เล่าคงแค่หลอนไปเองหรือกุเรื่องขึ้นมาเพื่อให้ตนเด่นดัง

แต่คืนที่เอกบ่นนั้นกลับมีเสียงเล็ดลอดจากห้องน้ำหญิง เสียงนั้นโหยหวนราวกับกำลังเศร้าโศก ภารโรงที่กำลังทำความสะอาดตึกที่ต้นเรียนนั้นก็สะดุ้ง มือไม้ที่จับไม้กวาดก็อ่อนแรง เสียงกระทบไม้กวาดกับพื้นดังปังทำให้ภารโรงได้สติอีกครั้ง ภารโรงฝ่าความมืดไปก็ไม่เห็นมีใคร และแล้วเสียงนั้นก็ค่อยๆ ลงมาทางห้องน้ำชาย ซึ่งภารโรงตอนนี้อยู่ที่ชั้นหนึ่งของตึกนี้ จึงรีบจ้ำอ้าวขับมอไซค์กลับบ้านตนเองอย่างไม่คิดชีวิต

เช้าวันต่อมา ภารโรงก็ได้เล่าให้ผอ. ฟัง แต่เรื่องนี้ก็ดันแพร่กระจายไปสู่นักเรียน นักเรียนบางคนก็พากันไปดูตึกบ้าง บางคนก็ถ่ายรูปเก็บไว้ แต่มีนักเรียนคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนที่อยู่ในห้องเดียวกับต้น และเป็นเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งของต้น นั่นก็คือ เจ้าคิว คิวเป็นนักเรียนรูปร่างใหญ่ ร่างกายบึกบึน ไม่เคยกลัวอะไร เจ้าคิวตะโกนปาวๆ ใส่ตึกว่า

คิว : "คืนนี้ข้าจะมาหาแกแน่ คิดว่าเป็นผีแล้วกร่างได้หรอ เดี๊ยะๆ เดี๋ยวปั๊ดตบ"

สิ้นเสียงของคิว นักเรียนต่างพากันพูดห้ามเจ้าคิว บางคนรีบวิ่งไปบอกครู จนคิวโดนครูตักเตือนในห้องพักครู

แต่ดูเหมือนคำพูดครูจะไม่เข้าหัวคิวเลย คิวได้แอบโทรให้เพื่อนๆ มายังที่ตึกร่างแห่งนั้น เอกซึ่งคิดว่าตึกนั้นไม่น่ามีอะไร เพราะต้นไม่แสดงอาการ ก็เลยตกลงไปกับคิว ส่วนต้นด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงตกลงไปด้วยอีกคน โดยคนที่มาโรงเรียนนั้นมีแค่ 3 คน คือ คิว เอก และต้น

คิวใช้ไฟฉายกระบอกยาวส่องไปทั่วตึกเรียน ต้นก็ใช้ไฟฉายกระบอกเล็กๆ ที่เตรียมมา แต่เอกกลับไม่พกอะไรมาเลย หวังพึ่งไฟฉายของต้นและคิวอย่างเดียว ขณะที่คิวส่องไปส่องมา ก็ได้ยินอะไรสักอย่างตกลงมาหน้าห้องน้ำ เมื่อคิวหันเอาไฟฉายส่องไป ก็พบว่ามีไม้กวาดหล่นอยู่ คิวรู้สึกใจคอไม่ดีแต่ก็เดินช้าๆ ไปยังไม้กวาด แล้วขว้างไม้กวาดไปในห้องน้ำชาย แต่แล้วก็มีเสียงผู้ชายแก่ๆ ส่งเสียงแหบๆ ว่า "พวกเอ็งใช่ไหม ที่ทำให้ลูกผมต้องเป็นอย่างนี้!" คิวที่ไม่ค่อยกลัวผี ก็ตอบกลับไปอย่างห้วนๆ ว่า

คิว : "ไรวะ ผมไม่ได้ทำ!"
เสียงแหบๆ : "ไม่ต้องมาโกหก... พวกเธอเสพยาแล้วพาลูกผมมาผิดทาง... อย่าคิดว่าจะรอดไปได้!"
คิว : "พาลูกกับพ่อลุงสิ ลุงอะแหละติดยารึป่าว เพ้ออยู่ได้"

ต้นเริ่มได้กลิ่นเหม็นโชยมาจากห้องน้ำ และรีบสะกิดคิวให้ห่างออกจากที่นี่ คิวดูเหมือนจะไม่สนใจต้น จนเอกเริ่มทนไม่ไหวกับนิสัยของคิว เลยตบหัวแล้วกระชากคอเสื้อมา ไฟฉายที่คิวถือก็หล่นทันที และแล้วก็มีเสียงปืนดังมาจากความมืด แต่เสียงปืนนั้นดังระงมไปทั่ว ราวกับคนกำลังรุมยิงอะไรสักอย่าง ต้นเห็นท่าไม่ดีจึงชวนทุกคนวิ่งหนีออกมา แต่คิวก็ยังหัวรั้นจะท้าผีให้ได้

คิว : "ไอ้ต้น! จะพาข้าออกทำไม ข้าจะเคลียร์กับมัน!!"
ต้น : "เคลียร์อะไรวะ เห็นไหมผีโกรธแล้วนั่นน่ะ โชคดีที่ไอ้เอกมันแค่ตบหัวแล้วกระชาก ถ้าเป็นผีคงไม่ทำแค่เท่าไอ้เอกแน่!"
คิว : "เท่าพ่อแกสิไอ้ต้น ข้าจะเตะก้นผีให้ได้ คิดว่าเป็นผีแล้วกร่างได้หรอ ดูที่มันด่าพวกเราด้วย มันด่าจนพวกเราเสียหายเลยนะเว้ย!!"
เอก :"​ถ้าตบหัวแล้วห้าวอย่างี้คงต้องถีบละ ไปเหอะไอ้เวร"

ทั้งสามวิ่งออกมาอย่างทุลักทุเล เจ้าคิวมองตึกไปอย่างโกรธแค้น ทางต้นก็รู้สึกหนาววูบและเริ่มปวดหัวเพราะเสียงปืนที่ดังลั่นทั่วตึก ส่วนเอกพอเห็นสีหน้าต้นแล้วก็พอรู้ว่าต้นเป็นอะไร ก็เลยเอามือกอดตัวเองไว้แล้วไม่หันไปทางตึกร้างนั้นอีกเลย

แต่เรื่องยังไม่จบ เพร่ะอยู่ดีๆ ที่โกยเหล็กเก่าๆ ก็ปลิวมาจากห้องน้ำมายังด้านหน้าของทั้งสาม ทั้งสามอึ้งไปสักพัก และแล้วก็มีลมกรรโชกพัดมาจากทางตึกร้าง ทั้งสามรีบเดินกลับบ้านใครบ้านมัน แถมยังโดนพ่อแม่ดุด่าด้วย จนวันรุ่งขึ้นครูที่ตักเตือนคิวก็เรียกทั้งสามไปพบ และคิวก็ได้ถามคุณครูถึงเรื่องเมื่อคืน

คิว : "ครู ที่ตึกนั้นมีอะไร แล้วห้องน้ำมีอะไร ทำไมถึงมีไอ้ขี้ยาชอบปาไม้กวาดกับที่โกยใส่ด้วย แล้วยังมีเสียงปืนดังไปทั่วตึกอีก"
ครู : "ขี้ยา... ไม้กวาด... เสียงปืน... อ๋อ เรื่องมันมาเจ็ดปีละ ตอนนั้นพวกเธอยังเด็กอยู่ ไม่รู้ว่าพวกเธอจะรู้ข่าวนี้หรือยัง คือในตึกนั้นเคยมีกลุ่มเด็กมาซ่องสุมเสพยา แล้วเกิดอาการหลอนเลยยิงกันเองจนตายหมด พอภารโรงคนหนึ่งซึ่งเป็นพ่อเด็กหนึ่งในนั้นรู้เรื่องเข้า ก็เลยรับไม่ได้แล้วผูกคอตายอยู่ในห้องน้ำชาย แต่พอภารโรงตายไม่กี่วัน นักเรียนก็เจอดี บางคนเจอภารโรงโยนไม้กวาดใส่แล้วบอกว่าพวกเขาพาลูกหลงผิดบ้าง บางคนก็ได้ยินเสียงปืน บางคนก็เห็นคนผูกคอตายแว้บๆ ในห้องเก็บอุปกรณ์ ตึกนี้ก็เลยร้างและไม่เคยหลอกหลอนใครเลยจนกระทั่งภารโรงอีกคนเจอนั่นแหละ"
คิว : "โห ข่าวนี้เหมือนเคยได้ยินแว้บๆ ไม่นึกว่าจะเป็นตึกนี้ บรื๋อ!"
ครู : "​ทีหลังพวกเธออย่าไปทำอีกละ เรื่องแบบนี้ไม่ควรลอง นำเรื่องนี้ไปจำให้ดีๆ นะว่าอย่าทำอีก"

ทั้งสามคนตอบรับ และไม่เคนคิดจะทำอีกเลย และสามวันต่อมาทั้งสามก็ได้รู้ว่าภารโรงคนที่เจอผีนี้เคยเอาใบกัญชาแอบมาสูบที่ห้องน้ำชายตรงตึกร้าง ผีภารโรงที่ไม่ชอบยาเสพติดเลยไม่พอใจแล้วไปหลอกภารโรงคนนั้น ในวันที่ทั้งสามรู้เรื่องภารโรงแอบสูบกัญชา ภารโรงก็ได้โดนจับข้อหามีใบกัญชาครอบครอง และเรื่องที่แอบสูบก็เลยเปิดเผยออกมา และแล้วเรื่องผีในตึกร้างนั้นก็ไม่เคยปรากฏออกมาเลย

จบแล้วครับกับตอนนี้ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ดูเหมือนผมจะเน้นคิวมากไปหน่อยครับ555  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่