สวัสดีค่ะ ขอออกตัวก่อนนะคะว่าหากแท็กห้องผิดและพิมพ์ผิดบ้างต้องขออถัยค่ะ เพราะพิมพ์ในมือถือไม่ถนัดและปกติไม่ตั้งกระทู้ค่ะ
เริ่มเลยนะคะ คือปกติเราเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ทำงานเกี่ยวออกแบบสื่อดิจิทัล พวกเว็บ แอพ เกม และเรียนด้านนี้มาโดยตรงตลอดค่ะ ไม่ได้เรียนครูและไม่เคยคลุกคลีกับเด็กๆ นัก... จนเรารับงานเสริมเป็นครูสอนศิลปะเด็กในสถาบันกวดวิชาแห่งหนึ่ง สอนช่วงเย็น 3-4 วัน/สัปดาห์ มักจะเจอเด็กคนเดิมๆ จนสนิทกัน มีตั้งแต่เด็กอนุบาล1 จนถึง ป.6 เรียนรวมคละกัน จึงเกิดเป็นกรณีน่าห่วงค่ะ
เคสที่ 1
...... มีเด็กผู้หญิงอนุบาล 2 ชอบเล่าว่าตนมีแฟนบ่อยๆ เป็นเพื่อนที่โรงเรียน ซึ่งเป็นแฟนคนเดิมตลอด เราก็ฟังเฉยๆ เออ ออ ไป ไม่อะไร เพราะคิดว่าพูดไปตามประสาเด็กที่ไม่รู้จักความหมายของคำว่าแฟนที่แท้จริง จนวันนึงเด็กคนนี้บอกว่าเขารักแฟนเขามากและวันนี้จูบกันด้วย !! เราแบบหื้มม... เลยถามว่าจูบอะไร ยังไง จูบกันคือทำแบบไหน เล่ามาให้ฟังหน่อย เด็กหญิงคนนี้ก็เล่าได้เห็นภาพ คือไม่ได้แค่จุ๊บ แต่จูบ คือมีจังหวะมีการกอด การลูบต่างๆ และเด็กอธิบายต่อว่าคนเป็นแฟนกันจะทำกับแบบนี้ ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าเขาไปจำมาจากไหน ประเด็นคือ เราก็อยากเตือน แต่ไม่รู้จะสื่อสารกับเด็กอย่างไร เพราะไม่มีความรู้ว่าพูดกับเด็กควรพูดยังไง... ต่อมานะคะ เด็กหญิงคนเดิมเริ่มให้ความสำคัญกับการมีลูก!! ชอบมาถามว่าคุณครูมีลูกมั้ย ทำไมถึงไม่มีอย่างั้นอย่างี้ และต่อประโยคด้วยคำว่า หนูอยากมีลูกกับแฟนหนูนะ เพราะหนูเป็นแฟนกัน เราเลยถามให้มั่นใจว่าเด็กเข้าใจถูก เราถามว่าลูกคืออะไรคะ หนูรู้จักหรอ เด็กตอบกลับมาว่า “ที่อยู่ในท้องอ่ะ หนูอยากมี... และแฟนหนูเขาก็ชวนมาทำลูกกัน!.. หนูจะมีลูกแล้วนะ...” คือเราอึ้งค่ะ จะคุยต่อกับเด็กวัยนี้อย่างไรดีค่ะ ว่าแบบนี้มันไม่โอเค
ปล. 1 เราฟังเด็กพูดบ่อยๆ เราก็ห่วง เพราะก็เคยเห็นข่าว เห็นคลิป เด็กอนุบาล เด็กปฐมต้น ข่มขืนกัน สลับกันจับอวัยวะเพศ พยายามจะมีเซ็กส์กัน ทั้งภายนอกและใน เราจึงห่วง และอยากจะพูดกับเขาให้เข้าใจกันแบบไม่ซีเรียส และเด็กไม่รู้แย่ เพราะความรู้สึกเด็กอ่ะค่ะ เขาชอบเพื่อน เราก็ไม่อยากขัดหรือต่อว่าให้เขาเสียใจ เพราะเดี๋ยวความชอบนั้นก็จะจางๆไปเอง แต่เราห่วงพฤติกรรมและการกระทำมากกว่าค่ะ
ปล. 2 เราไม่สามารถบอกกับผู้ปกครองเด็กได้ค่ะ เพราะเราเป็นแค่ครูประจำคอร์สศิลปะ ไม่มีสิทธ์สื่อสารกับผู้ปกครองเด็กโดยตรงค่ะ เพราะตรงนี้คือหน้าที่ของครูประจำสถาบัน และเราไม่ได้อยู่กับลูกเขาเยอะ แค่สัปดาห์ละ 3-4 ชั่วโมงเอง พูดไปผู้ปกครองก็คงไม่เชื่ออยู่ดีค่ะ
ปล. 3 มีเคสของเด็กประถม 5 ด้วยค่ะ ไว้จะมาปรึกษาต่อในคอมเมนท์วันหลังนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ลูกศิษย์ วัยเด็กน้อย (อนุบาล-ประถม) มาปรึกษาเรื่องแฟน ควรพูดกับเขายังไงดีคะ
เริ่มเลยนะคะ คือปกติเราเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ทำงานเกี่ยวออกแบบสื่อดิจิทัล พวกเว็บ แอพ เกม และเรียนด้านนี้มาโดยตรงตลอดค่ะ ไม่ได้เรียนครูและไม่เคยคลุกคลีกับเด็กๆ นัก... จนเรารับงานเสริมเป็นครูสอนศิลปะเด็กในสถาบันกวดวิชาแห่งหนึ่ง สอนช่วงเย็น 3-4 วัน/สัปดาห์ มักจะเจอเด็กคนเดิมๆ จนสนิทกัน มีตั้งแต่เด็กอนุบาล1 จนถึง ป.6 เรียนรวมคละกัน จึงเกิดเป็นกรณีน่าห่วงค่ะ
เคสที่ 1
...... มีเด็กผู้หญิงอนุบาล 2 ชอบเล่าว่าตนมีแฟนบ่อยๆ เป็นเพื่อนที่โรงเรียน ซึ่งเป็นแฟนคนเดิมตลอด เราก็ฟังเฉยๆ เออ ออ ไป ไม่อะไร เพราะคิดว่าพูดไปตามประสาเด็กที่ไม่รู้จักความหมายของคำว่าแฟนที่แท้จริง จนวันนึงเด็กคนนี้บอกว่าเขารักแฟนเขามากและวันนี้จูบกันด้วย !! เราแบบหื้มม... เลยถามว่าจูบอะไร ยังไง จูบกันคือทำแบบไหน เล่ามาให้ฟังหน่อย เด็กหญิงคนนี้ก็เล่าได้เห็นภาพ คือไม่ได้แค่จุ๊บ แต่จูบ คือมีจังหวะมีการกอด การลูบต่างๆ และเด็กอธิบายต่อว่าคนเป็นแฟนกันจะทำกับแบบนี้ ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าเขาไปจำมาจากไหน ประเด็นคือ เราก็อยากเตือน แต่ไม่รู้จะสื่อสารกับเด็กอย่างไร เพราะไม่มีความรู้ว่าพูดกับเด็กควรพูดยังไง... ต่อมานะคะ เด็กหญิงคนเดิมเริ่มให้ความสำคัญกับการมีลูก!! ชอบมาถามว่าคุณครูมีลูกมั้ย ทำไมถึงไม่มีอย่างั้นอย่างี้ และต่อประโยคด้วยคำว่า หนูอยากมีลูกกับแฟนหนูนะ เพราะหนูเป็นแฟนกัน เราเลยถามให้มั่นใจว่าเด็กเข้าใจถูก เราถามว่าลูกคืออะไรคะ หนูรู้จักหรอ เด็กตอบกลับมาว่า “ที่อยู่ในท้องอ่ะ หนูอยากมี... และแฟนหนูเขาก็ชวนมาทำลูกกัน!.. หนูจะมีลูกแล้วนะ...” คือเราอึ้งค่ะ จะคุยต่อกับเด็กวัยนี้อย่างไรดีค่ะ ว่าแบบนี้มันไม่โอเค
ปล. 1 เราฟังเด็กพูดบ่อยๆ เราก็ห่วง เพราะก็เคยเห็นข่าว เห็นคลิป เด็กอนุบาล เด็กปฐมต้น ข่มขืนกัน สลับกันจับอวัยวะเพศ พยายามจะมีเซ็กส์กัน ทั้งภายนอกและใน เราจึงห่วง และอยากจะพูดกับเขาให้เข้าใจกันแบบไม่ซีเรียส และเด็กไม่รู้แย่ เพราะความรู้สึกเด็กอ่ะค่ะ เขาชอบเพื่อน เราก็ไม่อยากขัดหรือต่อว่าให้เขาเสียใจ เพราะเดี๋ยวความชอบนั้นก็จะจางๆไปเอง แต่เราห่วงพฤติกรรมและการกระทำมากกว่าค่ะ
ปล. 2 เราไม่สามารถบอกกับผู้ปกครองเด็กได้ค่ะ เพราะเราเป็นแค่ครูประจำคอร์สศิลปะ ไม่มีสิทธ์สื่อสารกับผู้ปกครองเด็กโดยตรงค่ะ เพราะตรงนี้คือหน้าที่ของครูประจำสถาบัน และเราไม่ได้อยู่กับลูกเขาเยอะ แค่สัปดาห์ละ 3-4 ชั่วโมงเอง พูดไปผู้ปกครองก็คงไม่เชื่ออยู่ดีค่ะ
ปล. 3 มีเคสของเด็กประถม 5 ด้วยค่ะ ไว้จะมาปรึกษาต่อในคอมเมนท์วันหลังนะคะ
ขอบคุณค่ะ