หลังจากรีวิวก่อนเพิ่งกลับมาจากประเทศญี่ปุ่นได้ชิมแกงกะหรี่สูตรต้นตำรับมาเจ้าเดียวที่สนามบิน รู้สึกว่าแตกต่างจากประเทศไทย พยายามเสาะหาร้านที่รสชาติใกล้เคียงกับที่เคยทานมากที่สุด จนได้ความว่าร้าน Aoringo ตรงธนิยะพลาซ่าสีลมนี่แหละ  แต่ว่า ร้านปิด... พอไปถึงที่ร้านเจอเจ้าของร้าน(คิดว่าน่าจะนะ ผู้ชายญี่ปุ่นผิวขาวเลยแหละ) กำลังเก็บโต๊ะอยู่ มาดูนาฬิกา อ้าวถึงเวลาปิดร้านแล้ว ปิดตอน 21.00 ปิดเร็วเกิ๊น แต่เรายังไม่หมดความพยายามในการหาร้าน "ข้าวแกงกะหรี่" ทานให้ได้จนได้ความว่าแถวนี้มีร้าน Kanazawa Gold Curry Bangkok เป็นอีกร้านที่เป็นต้นตำรับแกงกะหรี่ญี่ปุ่นมาเปิดร้านอย่างเป็นทางการในประเทศไทย มีหลายสาขา อีกทั้งร้านยังปิดตั้ง 02.00 ตอนนี้ตัวเลือกก็เหลืออยู่ร้านเดียวแล้วที่ใกล้ที่สุด ก็ลองสักหน่อยแล้วกัน เห็นว่ามีแกงกะหรี่ยักษ์น้ำหนัก 2 กก. แต่ว่าเอาไว้ก่อนเพราะคิดว่าให้ทานภายใน 15 นาทีไม่ทันแน่ ขอละเมียดทานแกงกะหรี่แบบชิลล์ๆให้หายอยากหน่อยดีกว่า
เดินเข้ามาในร้าน คนเยอะนะดูคึกคัก ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าวัยรุ่น มาถึงก็หาที่นั่งแล้วสั่งอาหารกันเลยครับ เมนูที่ร้านจะมีแกงกะหรี่แบบเดียว ไม่สามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ แต่สามารถเลือกขนาดได้ตั้งแต่ไซส์ SS 150 กรัม ขนาด S 220กรัม ขนาด M 280 กรัม ขนาด L 350 กรัม และขนาดใหญ่สุด LL 480 กรัม ก็เกือบครึ่งโลแล้วนะ บนโต๊ะมีผักดองให้ทานกระปุกโต สะใจคนชอบทานผักดองยิ่งนัก อีกทั้งยังมีวูสเตอร์ซอส(ซอสเปรี้ยว) พริกป่น 7 สีญี่ปุ่น และทาร์บัสโก้ ให้ปรุงรสแกงกะหรี่ได้ตามใจ อยากได้รสไหนก็เตืมเอาครับ
ความประทับใจที่มาร้านนั้คือมีซุปมิโสะให้ทานได้ตลอด ไม่อิ่มก็ลุกไปเติมได้เรื่อยๆ และน้ำเปล่าก็ทานฟรีด้วย เอาใจกันสุดๆ แต่ว่าเราไม่รู้สั่งชาเขียวมา 1 ขวด เป็นชาเขียวมะลิหวานยี่ห้อ Pokka ก็หวานสดชื่น หอมกลิ่นมะลิดีครับ ทานหมดก็เติมน้ำเปล่าได้อีก ไม่ต้องนั่งทานน้ำดื่มแบบละเมียดกลัวจะหมด
ตอนแรกกะว่าสั่งมาจานนึงก่อนคือเมนูนี้ ข้าวแกงกะหรี่หมูทอดไซส์ LL แล้วถ้าทานไม่หมดค่อยสั่งเพิ่มเอา ขอดูปริมาณก่อน พอยกมาปุ๊ป ลงมติกันเลยว่า "สั่งเพิ่มเถอะ" ไม่ใช่ว่าเขาให้น้อยนะ เยอะแหละ แต่เราทานหมดแน่นอน สั่งอีกจานรอเลย จานนี้ผมชิมไปคำเดียวครับ แกงกะหรี่ที่ร้านรสชาติจะเข้มข้น มีความเค็มหวานเหมือนกลิ่นหัวหอมผัด เครื่องแกงกลิ่นรุนแรงกว่าแกงกะหรี่ญี่ปุ่นที่เคยทานเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าที่ญี่ปุ่นก็รสชาตินี้ หรือว่าเขาปรับรสชาติมาให้คนไทยแล้ว คืออร่อยนั่นแหละ แต่อร่อยแบบถูกลิ้นคนไทย มีความหวานเค็มกลมกล่อมหอมแกงกะหรี่ ทานคู่กับ หมูทอดร้อนๆน่าจะเป็นส่วนสันคอแทรกมันนุ่มอร่อย ทานกับแกงกะหรี่รสชาติลงตัวดีครับ
จานที่ผมสั่งไปมาแล้วครับ ข้าวแกงกะหรี่เบอร์เกอร์เนื้อ ไซส์ LL รสชาติน้ำแกงกะหรี่เหมือนชามเมื่อกี้เปี๊ยบ แต่ท๊อปปิ้งเปลี่ยนเป็นเนื้อวัวบดเบอร์เกอร์ชิ้นหนาเฉยๆ ราดด้วยมายองเนสและซอสมะเขือเทศ เนื้อวัวมีกลิ่นนิดหน่อย เนื้อด้านในไม่ได้ฉ่ำ แถมสุกทั่วกันทั้งชิ้น ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ครับชอบแบบเนื้อฉ่ำๆมากกว่า เพิ่มรสชาติด้วยความหวานกรอบจากผักดอกเยอะๆ เพิ่มรสเปรี้ยวจากวูสเตอร์ซอสให้ความกลมกล่อม และเพิ่มความเผ็ดร้อนจากพริกป่น 7 สี ทานวนไปจนหมดจาน ปิดท้ายด้วยกระหล่ำปลีซอยเย็นๆข้างจานอีกนิด อร่อยและอิ่มกำลังดีครับ
ราคามื้อนี้จานละ 260 บาท ไม่มี + ใดๆเพิ่มเติม มีซุปมิโสะร้อนๆให้เติมได้เรื่อยๆ น้ำเปล่าเย็นๆให้ทานตลอด ถ้าเทียบกับรสชาติ ราคา และความคุ้มค่าแล้ว ผมว่าร้านนี้เด่นเรื่องความคุ้มครับ ให้เยอะ ราคาไม่แพง รสชาติน้ำแกงกะหรี่และผักดอง เครื่องปรุงต่างๆเติมได้เอง สะใจสไตล์ไทยน่าดู แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์เรื่องรสชาติแบบต้นตำรับเท่าไหร่ โอกาสหน้าร้าน Aoringo จะต้องไปทานให้ได้ แล้วจะมาบอกความแตกต่างให้ฟังกันทีหลังนะครับ สำหรับ Gold Curry นี้ผมให้ 4 ดาวครับ รสชาติไม่ผิดหวังแน่นอน 🌟 🌟 🌟 🌟
พิกัด : 58/14 ซอยธนิยะ, ถนนสุรวงศ์, แขวง สุริยวงศ์ เขต บางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
เปิด 11.00 - 02.00 น. (Last Oder 01.30) โทร. 02-238-1134
Facebook : https://www.facebook.com/GoldCurryBangkok/