ใครก็ตามที่เติบโตขึ้นมาในยุค 80-90s ที่ช่องเก้าการ์ตูนและน้าต๋อยเซมเบ้อยู่ในยุคนั้น คงมีน้อยคนที่ไม่รู้จักการ์ตูน Action เรื่อง City Hunter
และตัวคู่พระนางอย่าง ซาเอบะ เรียว ยอดมือปืนพลัง Beep และ คาโอริ คู่หูสาวมือค้อนร้อยตัน เป็นแน่แท้
แม้ในสมัยเด็ก City Hunter จะเป็นหนึ่งในอนิเมะในตำนานที่'ถึงรู้จัก แต่ไม่เคยดูจบ' (จำเนื้อหาได้อย่างเลือนรางแค่บางส่วนเท่านั้น และดู Angel Heart ภาคอนิเมทาง True Spark ไปพักหนึ่ง) ก็ตามที พอผมได้ข่าวว่า ทาง Sunrise จะนำเปิดตัวอนิเม City Hunter ตอน Shinjuku ฉายโรงในเดือนกุมภาพันธ์นี้(ที่ญี่ปุ่น) ผมก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที และตัดสินใจไปดูอนิเมเรื่องนี้ที่โรงภาพยนตร์ ในวันแรกที่ออกฉาย ทั้งๆที่ตัวเองยังไม่ได้กลับไปอ่านฉบับมังงะ หรือดูอนิเมที่ฉายบนทีวีจนจบเสียก่อน
ใน Shinjiku Private Eyes นั้น ซาเอบะ เรียว จะรับภารกิจอารักขา ชินโด ไอ นางแบบคนสวยที่เป็นลูกสาวของนักวิทยาศาสตร์ที่เสียชีวิตอย่างลึกลับจากอุบัติเหตุ ในขณะเดียวกันนั้น คู่หูและคนรักของเรียวอย่างคาโอรินั้น ก็มีเหตุให้ใจหวั่นไหวจากการได้พบกับเพื่อนชายในวัยเด็ก ที่ได้ดิบได้ดีเป็นประธานบริษัทไฮเทคระดับโลก เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ จะเชื่อมโยงไปกับเหล่าร้ายของเรื่อง ผู้มาพร้อมกับระบบอาวุธไฮเทค 'เมบิอุส' ที่จะทำให้ย่านชินจูกุแห่งกรุงโตเกียวนั้น เปลี่ยนสภาพเป็นแเดนสงคราม
จากที่ได้ดู City Hunter : Shinjuku Private Eyes มา ความรู้สึกของผมมีดังนี้ครับ
- ฉากบู๊เปิดเรื่องทำออกมาได้กระชับน่าสนใจ และแสดงให้ผู้ชมระลึกถึงฝีมือการใช้ปีนระดับเทพของซาเอบะ เรียว ได้เป็นอย่างดี
- ผู้ชมสามารถดูหนังได้เข้าใจ โดยไม่จำเป็นต้องกลับไปดู City Hunter ภาคเดิมจนครบ ขอเพียงมีความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตัวละครหลักอย่าง เรียว คาโอริ ซาเอโกะ และอุมิโบซึ ก็ดูรู้เรื่องแล้ว
- ในเรื่อง จะมีการปรับเปลี่ยนบรรยากาศต่างๆให้เข้ากับยุคปัจจุบันมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น กระดานข้อความ XYZ นั้น จะถูกเปลี่ยนมาเป็นกระดานแบบ Augmented Reality แทน, (ในสถานที่จริงจะไม่มีกระดานอยู่ แต่ต้องเอา Smartphone ส่องถึงจะเห็น และเขียน XYZ ลงไปได้) ในร้าน Cat's Eye ของอุมิโบซึก็จะมีหุ่นยนต์ คล้ายหุ่น Pepper ที่มีอยู่จริงคอยให้บริการ , เรียวใช้โดรนแอบส่องสาวเปลี่ยนเสื้อผ้า
อย่างไรก็ตาม อายุของตัวละครจะไม่แตกต่างไปจากเดิมเท่าไร (ในเนื้อเรื่อง จะทำให้คนดูรู้ได้อย่างอ้อมๆว่า คาโอริมีอายุที่ประมาณ 26 ปี)
- ในเรื่องจะมีการเล่นมุกตลก ที่แฟนๆ City Hunter รุ่นเก่าคุ้นเคยกันดี แต่ก็น่าเสียดายที่ว่า การชงจังหวะยังทำได้ไม่ดีพอ เลยทำให้รู้สึกเพียงแค่ได้ระลึกความหลัง โดยที่ไม่ถึงขึ้นขำกลิ้ง
- มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้รู้สึกแปลกๆ เกี่ยวกับอนิเมภาคนี้ ก็คือ ทางผู้สร้างยังคงเลือกใช้ทีมพากย์เสียงทีมเดิมอยู่ ทำให้เสียงของตัวละครสาวสวยหลายคน ไม่ว่าจะเป็น คาโอริ ซาเอโกะ หรือมิกิ มีร่องรอยความสูงอายุของนักพากย์แฝงอยู่
- ในส่วนของฉากบู๊ตอนกลางๆเรื่องไปจนถึงท้ายเรื่องนั้น มีข้อเสียตรงที่ผู้เขียนบทไม่สามารถแสดงให้ผู้ชมรู้สึกถึงความน่าเกรงขามของฝ่ายผู้ร้ายและอาวุธของตนได้ ฉากบู๊ต่างๆเลยไม่ให้ความรู้สึกลุ้นมากนัก แม้ในเนื้อเรื่อง ตัวซาเอบะ เรียว จะมีการใช้กลยุทธแก้ทางฝ่ายผู้ร้ายอยู่บ้างก็ตาม
- ที่จริงแล้ว ในเรื่องมีไฮไลท์เด็ดอยู่อย่างหนึ่งคือ จะมีสามจอมโจรสาวจากเรื่อง Cat's Eye เข้ามาร่วมทีมด้วย (ไม่ถือว่า Spoil เพราะสามารถเห็นพวกเธอได้จากใน Trailer แล้ว)
แต่คนเขียนบทกลับนำพวกเธอมาใช้ได้ไม่คุ้ม ชวนให้สงสัยว่า จะนำพวกเธอใส่เข้ามาในเรื่องทำไม
- เพลงประกอบทำออกมาได้ดี มีเพลงเอกของภาคอนิเม TV อย่าง Get Wild และ Ai yo kienai de
- ในเรื่องมีโฆษณาแฝงที่โจ่งแจ้งไม่แพ้ โฆษณาไทยประกันชีวิตในหนังไทย
- End Credit ถือว่าทำออกมาได้ชวนรำลึกความหลังได้เป็นอย่างดี เพราะมีการทำกราฟฟิคสรุปฉากเด็ดๆในภาคทีวี อย่างเช่น ฉากยิงปืนทะลุมือ เป็นต้น
กล่าวโดยสรุป :
หากเป็นแฟนรุ่นเก่า Shinjuku Private Eyes นี้ก็ถือว่าเป็น อนิเมพอดูเพลินๆ ระลึกความหลังได้ แต่อย่าไปคาดหวังอะไรมากนัก
ส่วนคนที่ไม่เคยรู้จัก City Hunter มาก่อน ก็อาจจะไม่มีอะไรจดจำเป็นพิเศษ จนต้องไปตามอ่านมังงะหรืออนิเมภาคเก่าๆ แต่อย่างใด
ส่วนตัวให้คะแนน 6.5./10 ครับ
สุดท้ายนี้ก็ขอส่งท้ายด้วยตัวอย่างใหม่ ของ City Hunter ฉบับคนแสดงของฝรั่งเศสครับ กำหนดฉายเดือนกุมภานี้เหมือนกัน (แต่เป็นที่ฝรั่งเศสครับ) จะสนุกมากน้อยแค่ไหนก็ต้องติดตามกันต่อไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ คาโอริก็ยังมีค้อนเหมือนเดิม 555555
City Hunter -Shinjuku Private Eyes : การกลับมาที่เรียบไปหน่อยของ ซาเอบะ เรียว [No Spoil]
และตัวคู่พระนางอย่าง ซาเอบะ เรียว ยอดมือปืนพลัง Beep และ คาโอริ คู่หูสาวมือค้อนร้อยตัน เป็นแน่แท้
แม้ในสมัยเด็ก City Hunter จะเป็นหนึ่งในอนิเมะในตำนานที่'ถึงรู้จัก แต่ไม่เคยดูจบ' (จำเนื้อหาได้อย่างเลือนรางแค่บางส่วนเท่านั้น และดู Angel Heart ภาคอนิเมทาง True Spark ไปพักหนึ่ง) ก็ตามที พอผมได้ข่าวว่า ทาง Sunrise จะนำเปิดตัวอนิเม City Hunter ตอน Shinjuku ฉายโรงในเดือนกุมภาพันธ์นี้(ที่ญี่ปุ่น) ผมก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที และตัดสินใจไปดูอนิเมเรื่องนี้ที่โรงภาพยนตร์ ในวันแรกที่ออกฉาย ทั้งๆที่ตัวเองยังไม่ได้กลับไปอ่านฉบับมังงะ หรือดูอนิเมที่ฉายบนทีวีจนจบเสียก่อน
ใน Shinjiku Private Eyes นั้น ซาเอบะ เรียว จะรับภารกิจอารักขา ชินโด ไอ นางแบบคนสวยที่เป็นลูกสาวของนักวิทยาศาสตร์ที่เสียชีวิตอย่างลึกลับจากอุบัติเหตุ ในขณะเดียวกันนั้น คู่หูและคนรักของเรียวอย่างคาโอรินั้น ก็มีเหตุให้ใจหวั่นไหวจากการได้พบกับเพื่อนชายในวัยเด็ก ที่ได้ดิบได้ดีเป็นประธานบริษัทไฮเทคระดับโลก เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ จะเชื่อมโยงไปกับเหล่าร้ายของเรื่อง ผู้มาพร้อมกับระบบอาวุธไฮเทค 'เมบิอุส' ที่จะทำให้ย่านชินจูกุแห่งกรุงโตเกียวนั้น เปลี่ยนสภาพเป็นแเดนสงคราม
จากที่ได้ดู City Hunter : Shinjuku Private Eyes มา ความรู้สึกของผมมีดังนี้ครับ
- ฉากบู๊เปิดเรื่องทำออกมาได้กระชับน่าสนใจ และแสดงให้ผู้ชมระลึกถึงฝีมือการใช้ปีนระดับเทพของซาเอบะ เรียว ได้เป็นอย่างดี
- ผู้ชมสามารถดูหนังได้เข้าใจ โดยไม่จำเป็นต้องกลับไปดู City Hunter ภาคเดิมจนครบ ขอเพียงมีความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับตัวละครหลักอย่าง เรียว คาโอริ ซาเอโกะ และอุมิโบซึ ก็ดูรู้เรื่องแล้ว
- ในเรื่อง จะมีการปรับเปลี่ยนบรรยากาศต่างๆให้เข้ากับยุคปัจจุบันมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น กระดานข้อความ XYZ นั้น จะถูกเปลี่ยนมาเป็นกระดานแบบ Augmented Reality แทน, (ในสถานที่จริงจะไม่มีกระดานอยู่ แต่ต้องเอา Smartphone ส่องถึงจะเห็น และเขียน XYZ ลงไปได้) ในร้าน Cat's Eye ของอุมิโบซึก็จะมีหุ่นยนต์ คล้ายหุ่น Pepper ที่มีอยู่จริงคอยให้บริการ , เรียวใช้โดรนแอบส่องสาวเปลี่ยนเสื้อผ้า
อย่างไรก็ตาม อายุของตัวละครจะไม่แตกต่างไปจากเดิมเท่าไร (ในเนื้อเรื่อง จะทำให้คนดูรู้ได้อย่างอ้อมๆว่า คาโอริมีอายุที่ประมาณ 26 ปี)
- ในเรื่องจะมีการเล่นมุกตลก ที่แฟนๆ City Hunter รุ่นเก่าคุ้นเคยกันดี แต่ก็น่าเสียดายที่ว่า การชงจังหวะยังทำได้ไม่ดีพอ เลยทำให้รู้สึกเพียงแค่ได้ระลึกความหลัง โดยที่ไม่ถึงขึ้นขำกลิ้ง
- มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้รู้สึกแปลกๆ เกี่ยวกับอนิเมภาคนี้ ก็คือ ทางผู้สร้างยังคงเลือกใช้ทีมพากย์เสียงทีมเดิมอยู่ ทำให้เสียงของตัวละครสาวสวยหลายคน ไม่ว่าจะเป็น คาโอริ ซาเอโกะ หรือมิกิ มีร่องรอยความสูงอายุของนักพากย์แฝงอยู่
- ในส่วนของฉากบู๊ตอนกลางๆเรื่องไปจนถึงท้ายเรื่องนั้น มีข้อเสียตรงที่ผู้เขียนบทไม่สามารถแสดงให้ผู้ชมรู้สึกถึงความน่าเกรงขามของฝ่ายผู้ร้ายและอาวุธของตนได้ ฉากบู๊ต่างๆเลยไม่ให้ความรู้สึกลุ้นมากนัก แม้ในเนื้อเรื่อง ตัวซาเอบะ เรียว จะมีการใช้กลยุทธแก้ทางฝ่ายผู้ร้ายอยู่บ้างก็ตาม
- ที่จริงแล้ว ในเรื่องมีไฮไลท์เด็ดอยู่อย่างหนึ่งคือ จะมีสามจอมโจรสาวจากเรื่อง Cat's Eye เข้ามาร่วมทีมด้วย (ไม่ถือว่า Spoil เพราะสามารถเห็นพวกเธอได้จากใน Trailer แล้ว)
แต่คนเขียนบทกลับนำพวกเธอมาใช้ได้ไม่คุ้ม ชวนให้สงสัยว่า จะนำพวกเธอใส่เข้ามาในเรื่องทำไม
- เพลงประกอบทำออกมาได้ดี มีเพลงเอกของภาคอนิเม TV อย่าง Get Wild และ Ai yo kienai de
- ในเรื่องมีโฆษณาแฝงที่โจ่งแจ้งไม่แพ้ โฆษณาไทยประกันชีวิตในหนังไทย
- End Credit ถือว่าทำออกมาได้ชวนรำลึกความหลังได้เป็นอย่างดี เพราะมีการทำกราฟฟิคสรุปฉากเด็ดๆในภาคทีวี อย่างเช่น ฉากยิงปืนทะลุมือ เป็นต้น
กล่าวโดยสรุป :
หากเป็นแฟนรุ่นเก่า Shinjuku Private Eyes นี้ก็ถือว่าเป็น อนิเมพอดูเพลินๆ ระลึกความหลังได้ แต่อย่าไปคาดหวังอะไรมากนัก
ส่วนคนที่ไม่เคยรู้จัก City Hunter มาก่อน ก็อาจจะไม่มีอะไรจดจำเป็นพิเศษ จนต้องไปตามอ่านมังงะหรืออนิเมภาคเก่าๆ แต่อย่างใด
ส่วนตัวให้คะแนน 6.5./10 ครับ
สุดท้ายนี้ก็ขอส่งท้ายด้วยตัวอย่างใหม่ ของ City Hunter ฉบับคนแสดงของฝรั่งเศสครับ กำหนดฉายเดือนกุมภานี้เหมือนกัน (แต่เป็นที่ฝรั่งเศสครับ) จะสนุกมากน้อยแค่ไหนก็ต้องติดตามกันต่อไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้