สงสัยมั้ยคะ ว่าทำไมคนเป็นสิวถึงต้องใช้มอยเจอร์ไรซ์เซอร์?
เราไม่เคยเข้าใจประโยคนี้เลยค่ะ คิดแต่ว่า เป็นสิวก็ต้องใช้ครีมทาสิวซิ ถูกมั้ย?
จนมาเป็นสิวด้วยตัวเองเนี่ยแหละค่ะ เป็นมาตลอดแบบไม่เคยหายสักที เลยได้เข้าใจว่า มอยเจอร์ไรซ์เซอร์
มันสำคัญกับผิวที่เป็นสิวยังไง
ก่อนอื่น เราต้องขอบอกก่อนว่า รีวิวนี้เขียนขึ้นจากความเข้าใจของเราที่เพียรพยายามรักษาสิวมาหมดผ่านมาทั้งยาสิว สกินแคร์แอคเน่ต่างๆแต่ก็ไม่หายสักที จนมาเข้าใจว่า จริงๆแล้ว มันเกิดจากที่ผิวเราแห้งจนเกินไป
แล้วผิวแห้งมันทำให้เกิดสิวยังไง? อธิบายง่ายๆเลยค่ะ ผิวแห้งคือ ผิวเราสูญเสียน้ำ สูญเสียความชุ่มชื้นในผิว เมื่อผิวสูญเสียความชุ่มชื้นก็ทำให้น้ำในผิวที่คอยป้องกันการระคายเคืองหรือปัญหาผิวต่างๆ เสียสมดุล ทำให้ผิวอ่อนแอลง มีรอยรั่วและติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย จนเป็นสิวนั่นเองค่ะ
ดังนั้น วิธีรักษาสิวและผิวที่ดีที่สุดก็คือ การเติมน้ำให้ผิว และ มอยเจอร์ไรซ์เซอร์จึงตอบโจทย์เราที่สุดค่ะ เพราะ
1.ไม่ทำให้ผิวแห้งเหมือนสกินแคร์ประเภทแอคเน่/ยาสิว
2.มอยเจอร์ไรซ์เซอร์มักจะอ่อนโยนกับผิว ไม่ค่อยมีส่วนผสมที่ที่ทำให้ผิวแพ้ แห้งแดง
3.ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้มาก และที่สำคัญเดี๋ยวนี้มอยเจอร์ไรซ์เซอร์ยังช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม ไร้ริ้วรอย
ผิวเด้งเด็ก แบบไม่ต้องพึ่งครีมประเภทไวท์เทนนิ่งเลยค่ะ
นั่นแหละค่ะ เราก็เลยจัดรีวิว มอยเจอร์ไรซ์เซอร์ 5 ตัวที่เราใช้มาแล้วและชอบที่สุดเอามารีวิวกัน ส่วนผลจะเป็นยังไง ตัวไหนใช้แล้วจะถูกไทป์เราที่สุดก็กดเลื่อนลงล่างได้เลยค่ะ
ATOPALM Intensive Moisturizing Cream ราคา 330 บาท ขนาด 30 ml
มอยเจอร์ไรซ์เซอร์ตัวแรกที่เราลองใช้ หาซื้อได้จากร้านขายยาทั่วไป(ไม่แน่ใจว่า ตามห้างมีขายมั้ยนะคะ เพราะไม่เคยเห็นในห้างเลย) เป็นมอยเจอร์ไรซ์เซอร์เนื้อครีมสีขาว เข้มข้น ขึ้นชื่อเรื่องใช้ได้กับผิวติดสารสเตียรอยด์ เพราะทำให้ผิวแข็งแรงและช่วยฟื้นฟูผิวได้ดี ตัวนี้อยากจะบอกว่า ใครไม่เป็นสิวสเตียรอยด์แต่เป็นสิวธรรมดาๆก็ใช้ได้นะคะ เพราะตอนเราซื้อมาใช้เราก็เป็นสิวผิวแห้งเนี่ยแหละค่ะ ไม่ได้ติดสารอะไร เพราะพอใช้ไปสักพัก สิวที่เคยขึ้นเยอะๆก็ขึ้นน้อยลงจริงๆค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้ เราไม่ชอบกลิ่นเลยค่ะ เหมือนไม่ได้แต่งกลิ่นมาเลย เพราะกลิ่นมันออกจะฉุนๆหน่อย ส่วนตัวนี่ว่าแรงแบบไม่ชอบเลยค่ะ เนื้อครีมสีขาว เข้มข้น หลังทาจะรู้สึกว่าผิวมีน้ำมันเคลือบๆขึ้นมาหน่อย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของครีมตัวนี้ เพราะมีน้ำมันเป็นส่วนผสมมาก ทำให้เราสังเกตเห็นความมันในเนื้อครีมและบนผิวเราได้ง่ายมากค่ะ หลังตื่นนอนขึ้นมาตัวนี้จะไม่เห็นผลทันที แต่ใช้ไปเรื่อยๆผิวจะค่อยๆนุ่มขึ้น สิวเองก็ขึ้นน้อยลงด้วยค่ะ มีส่วนที่เราไม่ชอบนิดหน่อยคือ ความมันของมันค่ะ เพราะตอนแบ่งน้องไปใช้ ด้วยความที่น้องเราหน้ามันก็จะมีสิวอุดตันขึ้นค่ะ ส่วนเราที่หน้ามันน้อยลงหน่อยก็ไม่ได้มีสิวขึ้นแค่รู้สึกเหนียวๆมันๆเวลาทาแค่นั้นเองค่ะ เลยลงความเห็นว่า คนผิวมันมากๆ ตัวนี้ไม่น่าจะเหมาะเท่าไหร่ค่ะ
Eucerin Aquaphor Soothing Balm ราคา 570 บาท ขนาด 110 ml
มอยเจอร์ไรซ์เซอร์แบบปาล์ม สำหรับผิวแห้งมาก เป็นสูตรเคลือบเก็บความชุ่มชื้น ปราศจากน้ำหอมและสารกันเสีย สำหรับกระปุกนี้ เป็นมอยเจอร์ไรซ์เซอร์แบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะส่วนมากจะเคยเห็นในรูปแบบของครีมไม่ก็เนื้อเจลเป็นหลัก แต่เนื้อบาล์มนี่เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกจริงๆค่ะ ตอนซื้อมาก็ค่อนข้างมั่นใจเรื่องความชุ่มชื้นพอควรคิดว่า คงคล้ายๆเวลาเราทาลิปมันลงบนปากแต่คราวนี้ลองย้ายมาเป็นทาบนผิวหน้าแทนค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้ เรารู้สึกเหมือนกำลังใช้พวกลิปมันวาสลีนอะไรเทือกๆนั้นเลยค่ะ เพราะเนื้อมันทั้งข้นทั้งเหนียว ทำให้ตอนที่ทาลงบนผิวเราจะรู้สึกถึงความมันของเนื้อปาล์มและต้องใช้เวลาในการค่อยๆนวดครีมเข้าสู่ผิวค่อนข้างมาก เวลาทาบนหน้าจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ปริมาณเพียงนิดเดียวเท่านั้น (เราใช้เท่าเมล็ดถั่วเขียว) เพราะไม่อย่างนั้น จากที่จะซึมลงผิวจะกลายเป็นเกาะหนึบเป็นมันบนผิวหน้าแทน แต่ทั้งนี้ในความเหนียวข้นของมันก็ทำให้ใช้ทาส่วนอื่นๆของร่างกายอย่างข้อศอก ริมฝีปาก หรือส่วนต่างๆที่ดำด้านให้ชุ่มชื้นและกลับมาเนียนนุ่มเหมือนเดิมได้เช่นกันค่ะ ส่วนหลังตื่นนอนผลที่ได้ก็คือ ผิวหน้าฟูขึ้นและนุ่มชุ่มชื้นขึ้นมาก แต่มีความรู้สึกมันๆเหนียวๆบนใบหน้านิดนึงค่ะ
Kindness Happy Glow Antioxidant Radiance Moisturizer ราคา 1590 บาท ขนาด 30 ml
มอยเจอร์ไรซ์เซอร์ที่ทำออกมาสำหรับคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย ช่วยฟื้นฟูผิวและทำให้ผิวกลับมาแข็งแรง พร้อมกักเก็บความชุ่มชื้นและหายเป็นสิว ตัวนี้เราซื้อมาจากวัตสันค่ะ เพราะดูแล้วคล้ายๆออโต้ปาล์มเลย คือ เหมาะกับคนเป็นสิวผิวแพ้ง่ายเหมือนๆกัน แต่ของไคนด์เนสจะทำออกมาใช้ง่ายกว่า ด้วยเนื้อครีมคือ ซึมง่าย ไม่ค่อยมันเท่า และมีกลิ่นที่หอมนุ่มนิ่มกว่า มีอย่างเดียวออโต้ปาล์มดีกว่า คือ ราคาค่ะ! ฮ่าๆๆๆ ค่อนข้างต่างกันอยู่เยอะทีเดียว
ความรู้สึกหลังใช้ เนื้อครีมมีสีส้ม เข้มข้น แต่ซึมง่ายกว่าที่คิดค่ะ กลิ่นก็หอมด้วย หลังทาจะรู้สึกว่าผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้น เนื้อครีมไม่มีความมันบนผิวเลยค่ะ พอหลังตื่นนอนผิวก็ยังดีอยู่ คือ นุ่มเหมือนเดิม แต่ความชุ่มชื้นกับความอิ่มฟูสัมผัสไม่ได้เลยค่ะ เหมือนเราทาครีมบำรุงผิวทั่วๆไปแต่ชุ่มชื้นมากกว่า พอใช้ไปสักพัก ผิวก็จะค่อยๆเนียนขึ้นค่ะ รอยแดงเล็กๆก็จางลง คือ ช่วยทั้งเรื่องผิวนุ่มชุ่มชื้นและรอยแดงรอยดำจากสิวด้วยค่ะ แต่สิวสำหรับเราก็สิวยังขึ้นเหมือนเดิมนะคะ คือ ไม่ได้ขึ้นเยอะเพราะว่าแพ้หรืออะไร พอมีสิวบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้สิวหาย เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยทำให้สิวหายขาดสักเท่าไหร่ค่ะ เราเลยลองเอายาสิวมาใช้ร่วมด้วย สรุป ดีกว่าใช้ตัวเดียวค่ะ เพราะผิวก็ยังนุ่มชุ่มชื้นเหมือนเดิม แต่สิวขึ้นน้อยลง แนะนำว่าให้ใช้ร่วมกับยารักษาสิวต่างๆจะดีมากค่ะ
FYNE Skin Barrier Serum-In-Cream ราคา 1,290 บาท ขนาด 50 ml
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ของฟายน์เป็นหนึ่งในตัวหลักของแบรนด์รักษาผิวเพื่อให้ผิวแข็งแรง ฟายน์เป็นแบรนด์คนไทยที่ทำทั้งเจลล้างหน้า ครีมทาหน้าต่างๆออกมา สำหรับผิวแพ้ง่ายออกมาเยอะมากๆ ซึ่งตัวนี้ก็โดดเด่นในเรื่องของการกู้ผิวที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรงเช่นกัน เป็นเนื้อครีมมอยเจอร์ไรซ์เซอร์กึ่งๆเนื้อเซรั่มที่เข้มข้น เลยคาดว่าน่าจะไม่มีความมันที่มากนัก มีส่วนผสมหลักๆหลายตัวที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวพร้อมทั้งลดการอักเสบของผิวจากภายนอกต่างๆ และแน่นอนว่า ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์ น้ำหอม และแต่งสีตามแบบฉบับครีมผิวแพ้ง่ายด้วยค่ะ คือ ค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องของการสร้างผิวให้แข็งแรง แม้ราคาจะสูงไปหน่อยแต่สำหรับเรา ถ้ารักษาสิวได้ก็คือ ดี ดีกว่าไปเสียเงินรักษาสิวเป็นหมื่นๆอีกค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้ เนื้อครีมสีขาวเข้มข้น แต่ไม่มัน เพราะมีตัวยืนหลักของเค้าคือ ส่วนผสมจากน้ำเลยทำให้เนื้อครีมซึมง่าย ไม่หนักหน้าเท่าที่ควร ส่วนกลิ่นเองไม่ได้หอมแต่ก็ไม่ได้ฉุนแต่เนื้อครีมจนเหม็น คือกลิ่นจะออกแนวสะอาดๆ ได้กลิ่นแล้วรู้สึกโอเคกว่าเยอะ หลังทาผิวจะชุ่มชื้นขึ้นระดับหนึ่ง ทาลงผิวแล้วไม่มีความมันทิ้งไว้บนผิวเหมือนอย่างที่คิดไว้ เลยแอบใช้ตอนเช้าบ้างก็ปรากฏว่า ใช้ดีไม่ทำให้หน้ามันเช่นกัน เป็นตัวที่ใช้ได้ทั้งเช้าและเย็นและเหมาะกับคนหน้ามันด้วย ยิ่งใช้ไปนานๆจะรู้สึกเลยว่า ผิวไม่ค่อยแพ้อะไรแล้ว คือ แข็งแรงขึ้น สิวก็ไม่ค่อยได้ขึ้นแล้ว เป็นอีกตัวที่เราว่า ทำเนื้อครีมออกมาดีและผลลัพธ์หลังใช้ก็คุ้มค่ามาก แต่ไม่มีหวังเรื่องผิวขาวแข็งแรงกระจ่างใสนะ เหมือนจะเห็นผลช้าในเรื่องนี้ แม้จะมีส่วนผสมของผิวกระจ่างใสในปริมาณมากก็ตามค่ะ
Joliena plus Moisturizing Placenta Cream ราคา 1,250 บาท ขนาด 50 ml
ครีมรกแกะมอยเจอร์ไรเซอร์ สูตรสำหรับใช้ได้ทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่ายค่ะ เป็นครีมรกแกะตัวแรกที่เราว่า ไม่มันเหมือนครีมรกแกะทั่วๆไป คือ มีความใช้ง่ายกว่าด้วยตัวเนื้อครีมที่เป็นมอยเจอร์ไรซ์เซอร์เลยทำให้ซึมลงผิวง่าย และแทบไม่มีความมันบนผิวเลย มีกลิ่นหอมนุ่มๆด้วยค่ะ เราชอบใช้เพราะ นอกจากจะเป็นครีมที่เติมน้ำให้ผิวได้แล้ว ตัวนี้ยังขึ้นชื่อเรื่อง ผิวเด็ก ผิวเด้งด้วยค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้ เนื้อครีมสัมผัสลื่นมือดีค่ะ ตอนแรกดูจากสายตาคือ เนื้อครีมเข้มข้นมาก กลัวจะซึมยากอยู่เหมือนกัน แต่พอทาลงผิวแล้วกลับซึมลงผิวไวมาก กลิ่นครีมก็หอมดอกไม้ผ่อนคลายเหมือนทาสลีปปิ้งมาส์กอ่อนๆ หลังทาผิวจะรู้สึกนุ่มชุ่มชื้นขึ้นมาก ส่องผิวแล้วก็ไม่พบความมันบนผิวแต่ดูแล้วผิวผ่องๆเหมือนฉ่ำน้ำค่ะ ไม่มีความแสบผิวเลยโดยเฉพาะตรงบริเวณดวงตาคือ เนื้อครีมออ่นโยนมากจริงๆ แล้วพอหลังตื่นนอน ผิวก็อิ่มฟูขึ้นมานิดๆ แต่ก็ยังไม่เสียความชุ่มชื้นเลยค่ะ พอใช้ไปสักพัก สิวหรืออาการแพ้ก็ไม่มีนะคะ ถือว่าผ่าน สังเกตว่าริ้วรอยต่างๆจางลงด้วยค่ะ เอาไปให้น้องที่หน้ามันใช้ก็ยังไม่มีสิวหรือรู้สึกว่าหน้ามันเลยค่ะ ถือว่าใช้ได้ทุกสภาพผิวจริงๆค่ะ
.
.
.
.
.
ก่อนจะจบรีวิวไป (ซึ่งเอาจริงๆก็หมดแล้วล่ะ เล่นชำแหละทุกตัวละเอียดขนาดนี้ ฮ่าๆๆๆ) บอกเลยว่า แต่ละตัวเราพยายามเก็บรายละเอียดของความรู้สึกที่ใช้จริงออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อนำมาบอกต่อคนเป็นสิวให้ได้ใช้กันได้อย่างสบายใจจริงๆค่ะ เพราะตัวเราเข้าใจมากๆ ว่ากว่าจะเจอครีมที่ ทาแล้วสิวไม่ขึ้น ผิวหน้าดีแข็งแรง มันเสียทั้งเงินและความรู้สึกไปเยอะกว่าจะเจอตัวที่ใช่จริงๆแต่อย่างว่าแหละค่ะ มันต้องแก้ให้ตรงจุดซึ่งกว่าเราจะรู้ตัวจริงๆว่า สิวเกิดจากอะไรและต้องใช้อะไร เราก็ใช้เวลาไป 3 ปีเต็มๆเลยค่ะ
สุดท้ายก็หวังว่า รีวิวของเราจะเป็นไกด์ให้กับทุกคนที่อยากหน้าแข็งแรงกันทุกคนนะคะ เน้นว่าแต่ละตัวที่เราใช้มีดีต่างกันไปค่ะ อาจจะมีจุดที่แตกต่างกันนิดหน่อยก็เลือกตัวที่เหมาะสมกับผิวตัวเองแล้วกันนะคะ
[CR] มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับคนทุกสภาพผิว ที่ใช้แล้วผิวนุ่ม หน้าเด็ก ฉ่ำเด้ง ดีเว่อร์!
เราไม่เคยเข้าใจประโยคนี้เลยค่ะ คิดแต่ว่า เป็นสิวก็ต้องใช้ครีมทาสิวซิ ถูกมั้ย?
จนมาเป็นสิวด้วยตัวเองเนี่ยแหละค่ะ เป็นมาตลอดแบบไม่เคยหายสักที เลยได้เข้าใจว่า มอยเจอร์ไรซ์เซอร์
มันสำคัญกับผิวที่เป็นสิวยังไง
ก่อนอื่น เราต้องขอบอกก่อนว่า รีวิวนี้เขียนขึ้นจากความเข้าใจของเราที่เพียรพยายามรักษาสิวมาหมดผ่านมาทั้งยาสิว สกินแคร์แอคเน่ต่างๆแต่ก็ไม่หายสักที จนมาเข้าใจว่า จริงๆแล้ว มันเกิดจากที่ผิวเราแห้งจนเกินไป
แล้วผิวแห้งมันทำให้เกิดสิวยังไง? อธิบายง่ายๆเลยค่ะ ผิวแห้งคือ ผิวเราสูญเสียน้ำ สูญเสียความชุ่มชื้นในผิว เมื่อผิวสูญเสียความชุ่มชื้นก็ทำให้น้ำในผิวที่คอยป้องกันการระคายเคืองหรือปัญหาผิวต่างๆ เสียสมดุล ทำให้ผิวอ่อนแอลง มีรอยรั่วและติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย จนเป็นสิวนั่นเองค่ะ
2.มอยเจอร์ไรซ์เซอร์มักจะอ่อนโยนกับผิว ไม่ค่อยมีส่วนผสมที่ที่ทำให้ผิวแพ้ แห้งแดง
3.ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้มาก และที่สำคัญเดี๋ยวนี้มอยเจอร์ไรซ์เซอร์ยังช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม ไร้ริ้วรอย
ผิวเด้งเด็ก แบบไม่ต้องพึ่งครีมประเภทไวท์เทนนิ่งเลยค่ะ
นั่นแหละค่ะ เราก็เลยจัดรีวิว มอยเจอร์ไรซ์เซอร์ 5 ตัวที่เราใช้มาแล้วและชอบที่สุดเอามารีวิวกัน ส่วนผลจะเป็นยังไง ตัวไหนใช้แล้วจะถูกไทป์เราที่สุดก็กดเลื่อนลงล่างได้เลยค่ะ
ATOPALM Intensive Moisturizing Cream ราคา 330 บาท ขนาด 30 ml
มอยเจอร์ไรซ์เซอร์ตัวแรกที่เราลองใช้ หาซื้อได้จากร้านขายยาทั่วไป(ไม่แน่ใจว่า ตามห้างมีขายมั้ยนะคะ เพราะไม่เคยเห็นในห้างเลย) เป็นมอยเจอร์ไรซ์เซอร์เนื้อครีมสีขาว เข้มข้น ขึ้นชื่อเรื่องใช้ได้กับผิวติดสารสเตียรอยด์ เพราะทำให้ผิวแข็งแรงและช่วยฟื้นฟูผิวได้ดี ตัวนี้อยากจะบอกว่า ใครไม่เป็นสิวสเตียรอยด์แต่เป็นสิวธรรมดาๆก็ใช้ได้นะคะ เพราะตอนเราซื้อมาใช้เราก็เป็นสิวผิวแห้งเนี่ยแหละค่ะ ไม่ได้ติดสารอะไร เพราะพอใช้ไปสักพัก สิวที่เคยขึ้นเยอะๆก็ขึ้นน้อยลงจริงๆค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้ เราไม่ชอบกลิ่นเลยค่ะ เหมือนไม่ได้แต่งกลิ่นมาเลย เพราะกลิ่นมันออกจะฉุนๆหน่อย ส่วนตัวนี่ว่าแรงแบบไม่ชอบเลยค่ะ เนื้อครีมสีขาว เข้มข้น หลังทาจะรู้สึกว่าผิวมีน้ำมันเคลือบๆขึ้นมาหน่อย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของครีมตัวนี้ เพราะมีน้ำมันเป็นส่วนผสมมาก ทำให้เราสังเกตเห็นความมันในเนื้อครีมและบนผิวเราได้ง่ายมากค่ะ หลังตื่นนอนขึ้นมาตัวนี้จะไม่เห็นผลทันที แต่ใช้ไปเรื่อยๆผิวจะค่อยๆนุ่มขึ้น สิวเองก็ขึ้นน้อยลงด้วยค่ะ มีส่วนที่เราไม่ชอบนิดหน่อยคือ ความมันของมันค่ะ เพราะตอนแบ่งน้องไปใช้ ด้วยความที่น้องเราหน้ามันก็จะมีสิวอุดตันขึ้นค่ะ ส่วนเราที่หน้ามันน้อยลงหน่อยก็ไม่ได้มีสิวขึ้นแค่รู้สึกเหนียวๆมันๆเวลาทาแค่นั้นเองค่ะ เลยลงความเห็นว่า คนผิวมันมากๆ ตัวนี้ไม่น่าจะเหมาะเท่าไหร่ค่ะ
Eucerin Aquaphor Soothing Balm ราคา 570 บาท ขนาด 110 ml
มอยเจอร์ไรซ์เซอร์แบบปาล์ม สำหรับผิวแห้งมาก เป็นสูตรเคลือบเก็บความชุ่มชื้น ปราศจากน้ำหอมและสารกันเสีย สำหรับกระปุกนี้ เป็นมอยเจอร์ไรซ์เซอร์แบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะส่วนมากจะเคยเห็นในรูปแบบของครีมไม่ก็เนื้อเจลเป็นหลัก แต่เนื้อบาล์มนี่เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกจริงๆค่ะ ตอนซื้อมาก็ค่อนข้างมั่นใจเรื่องความชุ่มชื้นพอควรคิดว่า คงคล้ายๆเวลาเราทาลิปมันลงบนปากแต่คราวนี้ลองย้ายมาเป็นทาบนผิวหน้าแทนค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้ เรารู้สึกเหมือนกำลังใช้พวกลิปมันวาสลีนอะไรเทือกๆนั้นเลยค่ะ เพราะเนื้อมันทั้งข้นทั้งเหนียว ทำให้ตอนที่ทาลงบนผิวเราจะรู้สึกถึงความมันของเนื้อปาล์มและต้องใช้เวลาในการค่อยๆนวดครีมเข้าสู่ผิวค่อนข้างมาก เวลาทาบนหน้าจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ปริมาณเพียงนิดเดียวเท่านั้น (เราใช้เท่าเมล็ดถั่วเขียว) เพราะไม่อย่างนั้น จากที่จะซึมลงผิวจะกลายเป็นเกาะหนึบเป็นมันบนผิวหน้าแทน แต่ทั้งนี้ในความเหนียวข้นของมันก็ทำให้ใช้ทาส่วนอื่นๆของร่างกายอย่างข้อศอก ริมฝีปาก หรือส่วนต่างๆที่ดำด้านให้ชุ่มชื้นและกลับมาเนียนนุ่มเหมือนเดิมได้เช่นกันค่ะ ส่วนหลังตื่นนอนผลที่ได้ก็คือ ผิวหน้าฟูขึ้นและนุ่มชุ่มชื้นขึ้นมาก แต่มีความรู้สึกมันๆเหนียวๆบนใบหน้านิดนึงค่ะ
Kindness Happy Glow Antioxidant Radiance Moisturizer ราคา 1590 บาท ขนาด 30 ml
มอยเจอร์ไรซ์เซอร์ที่ทำออกมาสำหรับคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย ช่วยฟื้นฟูผิวและทำให้ผิวกลับมาแข็งแรง พร้อมกักเก็บความชุ่มชื้นและหายเป็นสิว ตัวนี้เราซื้อมาจากวัตสันค่ะ เพราะดูแล้วคล้ายๆออโต้ปาล์มเลย คือ เหมาะกับคนเป็นสิวผิวแพ้ง่ายเหมือนๆกัน แต่ของไคนด์เนสจะทำออกมาใช้ง่ายกว่า ด้วยเนื้อครีมคือ ซึมง่าย ไม่ค่อยมันเท่า และมีกลิ่นที่หอมนุ่มนิ่มกว่า มีอย่างเดียวออโต้ปาล์มดีกว่า คือ ราคาค่ะ! ฮ่าๆๆๆ ค่อนข้างต่างกันอยู่เยอะทีเดียว
ความรู้สึกหลังใช้ เนื้อครีมมีสีส้ม เข้มข้น แต่ซึมง่ายกว่าที่คิดค่ะ กลิ่นก็หอมด้วย หลังทาจะรู้สึกว่าผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้น เนื้อครีมไม่มีความมันบนผิวเลยค่ะ พอหลังตื่นนอนผิวก็ยังดีอยู่ คือ นุ่มเหมือนเดิม แต่ความชุ่มชื้นกับความอิ่มฟูสัมผัสไม่ได้เลยค่ะ เหมือนเราทาครีมบำรุงผิวทั่วๆไปแต่ชุ่มชื้นมากกว่า พอใช้ไปสักพัก ผิวก็จะค่อยๆเนียนขึ้นค่ะ รอยแดงเล็กๆก็จางลง คือ ช่วยทั้งเรื่องผิวนุ่มชุ่มชื้นและรอยแดงรอยดำจากสิวด้วยค่ะ แต่สิวสำหรับเราก็สิวยังขึ้นเหมือนเดิมนะคะ คือ ไม่ได้ขึ้นเยอะเพราะว่าแพ้หรืออะไร พอมีสิวบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้สิวหาย เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยทำให้สิวหายขาดสักเท่าไหร่ค่ะ เราเลยลองเอายาสิวมาใช้ร่วมด้วย สรุป ดีกว่าใช้ตัวเดียวค่ะ เพราะผิวก็ยังนุ่มชุ่มชื้นเหมือนเดิม แต่สิวขึ้นน้อยลง แนะนำว่าให้ใช้ร่วมกับยารักษาสิวต่างๆจะดีมากค่ะ
FYNE Skin Barrier Serum-In-Cream ราคา 1,290 บาท ขนาด 50 ml
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ของฟายน์เป็นหนึ่งในตัวหลักของแบรนด์รักษาผิวเพื่อให้ผิวแข็งแรง ฟายน์เป็นแบรนด์คนไทยที่ทำทั้งเจลล้างหน้า ครีมทาหน้าต่างๆออกมา สำหรับผิวแพ้ง่ายออกมาเยอะมากๆ ซึ่งตัวนี้ก็โดดเด่นในเรื่องของการกู้ผิวที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรงเช่นกัน เป็นเนื้อครีมมอยเจอร์ไรซ์เซอร์กึ่งๆเนื้อเซรั่มที่เข้มข้น เลยคาดว่าน่าจะไม่มีความมันที่มากนัก มีส่วนผสมหลักๆหลายตัวที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวพร้อมทั้งลดการอักเสบของผิวจากภายนอกต่างๆ และแน่นอนว่า ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์ น้ำหอม และแต่งสีตามแบบฉบับครีมผิวแพ้ง่ายด้วยค่ะ คือ ค่อนข้างโดดเด่นในเรื่องของการสร้างผิวให้แข็งแรง แม้ราคาจะสูงไปหน่อยแต่สำหรับเรา ถ้ารักษาสิวได้ก็คือ ดี ดีกว่าไปเสียเงินรักษาสิวเป็นหมื่นๆอีกค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้ เนื้อครีมสีขาวเข้มข้น แต่ไม่มัน เพราะมีตัวยืนหลักของเค้าคือ ส่วนผสมจากน้ำเลยทำให้เนื้อครีมซึมง่าย ไม่หนักหน้าเท่าที่ควร ส่วนกลิ่นเองไม่ได้หอมแต่ก็ไม่ได้ฉุนแต่เนื้อครีมจนเหม็น คือกลิ่นจะออกแนวสะอาดๆ ได้กลิ่นแล้วรู้สึกโอเคกว่าเยอะ หลังทาผิวจะชุ่มชื้นขึ้นระดับหนึ่ง ทาลงผิวแล้วไม่มีความมันทิ้งไว้บนผิวเหมือนอย่างที่คิดไว้ เลยแอบใช้ตอนเช้าบ้างก็ปรากฏว่า ใช้ดีไม่ทำให้หน้ามันเช่นกัน เป็นตัวที่ใช้ได้ทั้งเช้าและเย็นและเหมาะกับคนหน้ามันด้วย ยิ่งใช้ไปนานๆจะรู้สึกเลยว่า ผิวไม่ค่อยแพ้อะไรแล้ว คือ แข็งแรงขึ้น สิวก็ไม่ค่อยได้ขึ้นแล้ว เป็นอีกตัวที่เราว่า ทำเนื้อครีมออกมาดีและผลลัพธ์หลังใช้ก็คุ้มค่ามาก แต่ไม่มีหวังเรื่องผิวขาวแข็งแรงกระจ่างใสนะ เหมือนจะเห็นผลช้าในเรื่องนี้ แม้จะมีส่วนผสมของผิวกระจ่างใสในปริมาณมากก็ตามค่ะ
Joliena plus Moisturizing Placenta Cream ราคา 1,250 บาท ขนาด 50 ml
ครีมรกแกะมอยเจอร์ไรเซอร์ สูตรสำหรับใช้ได้ทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่ายค่ะ เป็นครีมรกแกะตัวแรกที่เราว่า ไม่มันเหมือนครีมรกแกะทั่วๆไป คือ มีความใช้ง่ายกว่าด้วยตัวเนื้อครีมที่เป็นมอยเจอร์ไรซ์เซอร์เลยทำให้ซึมลงผิวง่าย และแทบไม่มีความมันบนผิวเลย มีกลิ่นหอมนุ่มๆด้วยค่ะ เราชอบใช้เพราะ นอกจากจะเป็นครีมที่เติมน้ำให้ผิวได้แล้ว ตัวนี้ยังขึ้นชื่อเรื่อง ผิวเด็ก ผิวเด้งด้วยค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้ เนื้อครีมสัมผัสลื่นมือดีค่ะ ตอนแรกดูจากสายตาคือ เนื้อครีมเข้มข้นมาก กลัวจะซึมยากอยู่เหมือนกัน แต่พอทาลงผิวแล้วกลับซึมลงผิวไวมาก กลิ่นครีมก็หอมดอกไม้ผ่อนคลายเหมือนทาสลีปปิ้งมาส์กอ่อนๆ หลังทาผิวจะรู้สึกนุ่มชุ่มชื้นขึ้นมาก ส่องผิวแล้วก็ไม่พบความมันบนผิวแต่ดูแล้วผิวผ่องๆเหมือนฉ่ำน้ำค่ะ ไม่มีความแสบผิวเลยโดยเฉพาะตรงบริเวณดวงตาคือ เนื้อครีมออ่นโยนมากจริงๆ แล้วพอหลังตื่นนอน ผิวก็อิ่มฟูขึ้นมานิดๆ แต่ก็ยังไม่เสียความชุ่มชื้นเลยค่ะ พอใช้ไปสักพัก สิวหรืออาการแพ้ก็ไม่มีนะคะ ถือว่าผ่าน สังเกตว่าริ้วรอยต่างๆจางลงด้วยค่ะ เอาไปให้น้องที่หน้ามันใช้ก็ยังไม่มีสิวหรือรู้สึกว่าหน้ามันเลยค่ะ ถือว่าใช้ได้ทุกสภาพผิวจริงๆค่ะ
.
.
.
.
ก่อนจะจบรีวิวไป (ซึ่งเอาจริงๆก็หมดแล้วล่ะ เล่นชำแหละทุกตัวละเอียดขนาดนี้ ฮ่าๆๆๆ) บอกเลยว่า แต่ละตัวเราพยายามเก็บรายละเอียดของความรู้สึกที่ใช้จริงออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อนำมาบอกต่อคนเป็นสิวให้ได้ใช้กันได้อย่างสบายใจจริงๆค่ะ เพราะตัวเราเข้าใจมากๆ ว่ากว่าจะเจอครีมที่ ทาแล้วสิวไม่ขึ้น ผิวหน้าดีแข็งแรง มันเสียทั้งเงินและความรู้สึกไปเยอะกว่าจะเจอตัวที่ใช่จริงๆแต่อย่างว่าแหละค่ะ มันต้องแก้ให้ตรงจุดซึ่งกว่าเราจะรู้ตัวจริงๆว่า สิวเกิดจากอะไรและต้องใช้อะไร เราก็ใช้เวลาไป 3 ปีเต็มๆเลยค่ะ
สุดท้ายก็หวังว่า รีวิวของเราจะเป็นไกด์ให้กับทุกคนที่อยากหน้าแข็งแรงกันทุกคนนะคะ เน้นว่าแต่ละตัวที่เราใช้มีดีต่างกันไปค่ะ อาจจะมีจุดที่แตกต่างกันนิดหน่อยก็เลือกตัวที่เหมาะสมกับผิวตัวเองแล้วกันนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้