เพิ่มค่าปรับ2.5ล้านน.ศ.เเพทย์หนีทุนส่อแท้ง! ครม.ส่งคืนเรื่อง สธ.เฉยไม่ส่งข้อมูลเพิ่ม

เพิ่มค่าปรับ2.5ล้านน.ศ.เเพทย์หนีทุนส่อแท้ง! ครม.ส่งคืนเรื่อง สธ.เฉยไม่ส่งข้อมูลเพิ่ม
วันที่ 5 February 2019 - 14:12 น.

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ รายงานข่าวแจ้งว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เคยเสนอเรื่องการขอเพิ่มค่าปรับนักศึกษาแพทย์ที่ผิดสัญญาการเป็นนักศึกษาวิชาแพทย์ จาก 4 แสนบาท เป็น 2.5 ล้านบาท และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 ให้ที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณา เรื่องการขอทบทวนมติ ครม.เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2516 เรื่องขอเพิ่มค่าปรับนักศึกษาเเพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาเเพทย์กรณีผิดสัญญาเเพทย์ศาสตร์ไปเพื่อประกอบการพิจารณาของ ครม. เมื่อตุลาคม 2561 นั้น ปราฎว่า เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์มีรายงานความคืบหน้าจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับเรื่องการทบทวนมติ ครม.เรื่องขอเพิ่มค่าปรับนักศึกษาเเพทย์หนีทุนว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ปฏิบัติการเเทนนายกรัฐมนตรีขณะนั้นได้พิจารณาเเล้วเห็นว่า ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ขอให้ สธ.เเจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาของ ค.ร.ม.ตั้งเเต่วันที่ 25 ตุลาคม 2561 ระยะเวลาได้ล่วงเลยมานานเเล้ว แต่สธ. ยังไม่ได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด จึงให้ส่งเรื่องนี้คืนสธ. เเละหาก สธ.ยังประสงค์นำเรื่องนี้เสนอต่อ ครม.พิจารณา ขอให้ สธ.ดำเนินการตาม พ.ร.ก.ว่าด้วยการเสนอเรื่องเเละการประชุม ครม. พ.ศ.2548 เเละระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์เเละวิธีการเสนอเรื่องต่อ ครม.พ.ศ.2548 ต่อไป โดยสำนักเลขาธิการ ครม.ได้ส่งเรื่องคืน สธ.เเล้ว

ข่าวแจ้งว่าสำหรับระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์เเละวิธีการเสนอเรื่องต่อ ครม.พ.ศ.2548 ข้อ 17 กำหนดให้เมื่อ เลขาธิการ ครม.ได้รับเรื่องที่ส่งมาเพื่อ เสนอ ครม.เเล้ว หากปรากฎว่าไม่เป็นไปตาม พ.ร.ก.ว่าด้วยการเสนอเรื่องเเละการประชุม ครม. พ.ศ.2548 ให้สำนักเลขาธิการ ครม.เเจ้งหน่วยงานเจ้าของเรื่องเพื่อดำเนินการเเก้ไขให้ถูกต้อง หากไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดให้สำนักเลขาฯส่งเรื่องคืนหน่วยงานเจ้าของเรื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับเรื่องการขอขึ้นค่าปรับ น.ศ.เเพทย์หนีทุนดังกล่าวก่อนหน้านี้ทางสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ส่งร่างสัญญาการเป็นนักศึกษาเพื่อศึกษาวิชแพทยศาสตร์ มาให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณาโดย นายธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด พนักงานอัยการเจ้าของสำนวนในขณะนั้นได้พิจารณาแล้วเห็นว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2516 ที่กำหนดจำนวนค่าปรับชดใช้ทุนของนักศึกษาแพทย์ ผู้ผิดสัญญาการเป็นนักศึกษาเพื่อศึกษาวิชาแพทย์ศาสตร์ จำนวน 400,000 บาท นั้น เป็นจำนวนค่าปรับที่ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ปี 2516 ซึ่งเป็นระยะเวลานานมากแล้วจึงมีความไม่เหมาะสม และจึงได้แจ้งสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่า ควรพิจารณาทบทวนจำนวนค่าปรับชดใช้ทุนของนักศึกษาแพทย์ที่ผิดสัญญาที่กำหนดไว้จำนวน 400,000 บาท โดยควรพิจารณาถึงค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ จำนวนนักศึกษาแพทย์ที่ไม่เข้ารับราชการหรือทำงานตามที่กำหนดไว้ในสัญญาว่ามีมากน้อยเพียงใด สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขจึงได้ขอถอนร่างสัญญาการเป็นนักศึกษาเพื่อศึกษาวิชาแพทยศาสตร์จากการพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อนำมาพิจารณาปรับปรุงแก้ไข และต่อมาเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2561 กระทรวงสาธารณสุขโดยคณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาแพทย์ ซึ่งมีนายเจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุขในขณะนั้น เป็นประธานคณะกรรมการ ได้พิจารณาเห็นชอบและอนุมัติให้กำหนดค่าปรับชดใช้ทุนของนักศึกษาแพทย์ผู้ผิดสัญญาเป็นจำนวน 2.5ล้านบาท

โดยคิดจากอัตราเงินเฟ้อ และค่าปรับคิดจากการลงทุนโครงการ CPIRD/โครงการปกติ ปีละ 3 แสนบาทต่อคนต่อปี จำนวน 6 ปี เท่ากับ 1,800,000 บาท และงบฯ ลงทุนที่สนับสนุนให้กับคณะแพทยศาสตร์อีก 700,000 บาท

ซึ่งในความเป็นจริงแล้วกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทยได้เสนอให้เพิ่มจำนวนค่าปรับชดใช้ทุนของนักศึกษาแพทย์ตามจำนวนค่าใช้จ่ายจริงในการผลิตนักศึกษาแพทย์แต่ละคน คิดเป็นเงินประมาณ 4.5ล้านบาท แต่ สธ.เห็นว่าสูงเกินไป จึงเสนอ ครม. ให้เพิ่มค่าปรับเป็นเพียงแค่ 2.5 ล้านบาทเท่านั้น

https://www.prachachat.net/general/news-286672

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่