น่าจะร่างกันตั้งนานแล้ว เห็นห้อยคอกันเป็นว่าเล่น
ครม.เห็นชอบร่างกฎห้ามนักเรียนยุ่ง ‘บุหรี่-บารากู่ไฟฟ้า’ พร้อมกำหนดบทลงโทษ
ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวง ห้ามนักเรียนเกี่ยวข้อง ‘บุหรี่-บารากู่ไฟฟ้า’ กำหนดเป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษ
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา ซึ่งเกี่ยวกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
เดิมกฎหมายตัวนี้เป็นเรื่องที่ห้ามนักเรียนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เช่น บุหรี่ และยาเสพติดอื่น ๆ แต่ปัจจุบันมีบุหรี่ไฟฟ้า บารากู่ และวัตถุออกฤทธิ์อื่น ๆ ที่เป็นภัยคุกคามเพิ่มเข้ามา ทางกระทรวงศึกษาธิการจึงเสนอของต้องห้ามคือ 1.บุหรี่ไฟฟ้า 2.บารากู่ไฟฟ้า และวัตถุออกฤทธิ์อื่น ๆ ตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
โดยมีบทลงโทษสำหรับนักเรียนที่เข้าไปเกี่ยวข้อง 4 ระดับคือ 1.ว่ากล่าวตักเตือน 2.ทำทัณฑ์บน 3.ตัดคะแนนความประพฤติ และ 4.ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
“รมว.ศึกษาธิการเห็นว่า เราไม่สามารถไปยึดของพวกนี้ได้ ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการ เช่น หากของเหล่านี้ถูกนำเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ จะต้องมีการจับกุมจากหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแล เป็นต้น“ นายคารมระบุ
https://www.prachachat.net/politics/news-1729609
ครม.เห็นชอบร่างกฎห้ามนักเรียนยุ่ง ‘บุหรี่-บารากู่ไฟฟ้า’ พร้อมกำหนดบทลงโทษ
ครม.เห็นชอบร่างกฎห้ามนักเรียนยุ่ง ‘บุหรี่-บารากู่ไฟฟ้า’ พร้อมกำหนดบทลงโทษ
ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวง ห้ามนักเรียนเกี่ยวข้อง ‘บุหรี่-บารากู่ไฟฟ้า’ กำหนดเป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษ
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา ซึ่งเกี่ยวกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
เดิมกฎหมายตัวนี้เป็นเรื่องที่ห้ามนักเรียนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เช่น บุหรี่ และยาเสพติดอื่น ๆ แต่ปัจจุบันมีบุหรี่ไฟฟ้า บารากู่ และวัตถุออกฤทธิ์อื่น ๆ ที่เป็นภัยคุกคามเพิ่มเข้ามา ทางกระทรวงศึกษาธิการจึงเสนอของต้องห้ามคือ 1.บุหรี่ไฟฟ้า 2.บารากู่ไฟฟ้า และวัตถุออกฤทธิ์อื่น ๆ ตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
โดยมีบทลงโทษสำหรับนักเรียนที่เข้าไปเกี่ยวข้อง 4 ระดับคือ 1.ว่ากล่าวตักเตือน 2.ทำทัณฑ์บน 3.ตัดคะแนนความประพฤติ และ 4.ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
“รมว.ศึกษาธิการเห็นว่า เราไม่สามารถไปยึดของพวกนี้ได้ ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการ เช่น หากของเหล่านี้ถูกนำเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ จะต้องมีการจับกุมจากหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแล เป็นต้น“ นายคารมระบุ
https://www.prachachat.net/politics/news-1729609