ในวงการบันเทิงอินเดียตอนนี้เป็นที่รู้กันว่ากังกาณากับทีปพิกานั้นไม่ค่อยถูกกัน......


ว่ากันว่ากังกาณานั้นโตในวงการนี้มาด้วยฝีมือแต่ก็บวกด้วยสีผิวของเธอที่กังกาณามักจะบอกในการให้สำภาทย์สื่อโทรทัศน์แทบจะทุกครั้งถึงสีผิวแบบ "พาหาดี/อินเดียอารยัน" ซึ่ง ทำให้ เธอ ไม่ จำเป็นต้อง ใช้whitening skin หรือmakeup ผิวเพื่ออัพสีผิวเวลาเข้ากล้องเหมือนดาราหลายคน(ทีปพิกา)

ซึ่ง ได้ เล่นดีๆ แนว เจ้าหญิง ราชินีย้อนยุคเสมอทั้ง บัลจีราว มัสตานี,  ปัทมะวดี,  รามลีลา,  โอมชานตี ฯลฯ ทั้งที่เธอโดนกระแสเสียงกระแนะกระแหนจากบรรดาคนดูพวกที่ไม่ใช่แฟนคลับว่าทีปพิกาผิวดำเกินไป..... แต่เพราะรูปร่างสูงผอมเล็กทันสมัยเข้ากีบโครงหน้าแนวอินเดี้ยนๆแบบอินเตอร์บวกพ่อวรรณะพราหมณ์ที่น่าจะทำให้เธอได้เล่นหนังดีๆตลอดผิดกับกังกาณาที่ไต่เต้ามาด้วยความสามารถและหน้านาของเธอโดยแท้

กังกาณาก้าวเข้ามาในวงการนี้โดยที่ไม่ได้บทดีๆแนวเจ้าหญิงย้อนยุคในทันทีแบบทีปพิกาแต่เพราะโครงหน้าออกฝรั่งและผมออกน้ำตาลทองเธอจึงมักได้เล่นแต่บทแนวสาวทันสมัยแต่งตัวสมัยใหม่ในหนังแนวลึกลับซ่อนเงื่อนโรคจิตมาโดยตลอดจนค่อยๆพัฒนามาได้บทแนวสาวหวานสไตน์คุณหนูในยุคหลังๆ......


จนปัจจุบันนี้เธอมาเปิดตัวอย่างอลังกาลในบทราชินีมณีกรรณิกาแห่งแคว้นชานสี และได้สัญญากับแฟชั่นเสื้อผ้าอินเดียแบรนด์ดังแทนทีปพิกา.....


ว่ากันว่าทั้งทีปพิกาและกังกาณาไม่ถูกกันก็ด้วยเรื่องนี้..... ทีปพิกาอิจฉาและมีปมในสีผิวของกังกาณาที่ทำให้เธอก้าวมาได้ขณะนี้ในขณะที่กังกาณาก็มีปมอิจฉาทีปพิกาที่ผิวดำแต่มีเบื้องหลังbackupที่ดีกว่าที่ทำให้เธอได้เล่นในภาพยนต์ดีๆง่ายกว่าโดยไม่ต้องแสดงฝีมือมากนัก


มาชมความงามกังกาณากันหลังเรื่องมณีกรรณิกาเธอได้ใจคนดูชาวอินเดียไม่น้อยเลยและระดับของเธอตอนนี้ถือว่าเทียบชั้นทีปพิกาแล้ว